ปี 2558 แมลงทอดกรอบไฮโซ "ปณิธาน ตงศิริ" ผู้บริหารบริษัท สไมล์บูลมาร์เก็ตติ้ง จำกัด เจ้าของผลิตภัณฑ์แมลงทอดกรอบแบรนด์ไฮโซ ผู้จำหน่ายหนอนดักแด้ทอดกรอบ และแมลงสะดิ้งทอดกรอบ เตรียมขยายโรงงานมาตรฐาน GMP แห่งใหม่ ที่ลงทุนไปกว่า 15 ล้านบาท จะแล้วเสร็จในเดือนมีนาคมนี้ ประกาศแล้วว่า จะทำยอดขายให้ได้ 100 ล้านบาทในสิ้นปี โดยสิ่งที่ควบคู่กันก็คือ การทำการตลาดออนไลน์ บนเฟซบุ๊ก และ youtube ที่เขาว่าอยากให้ได้ฮาเท่านั้น

ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ สัมภาษณ์แนวคิดการตลาดออนไลน์ของ แมลงทอดกรอบไฮโซ รายนี้นำเสนอ

- เฟซบุ๊กเปิดขึ้นมาเมื่อไหร่ แนวทางในการทำการตลาดผ่านทางเฟซบุ๊กอย่างไร

เพจเปิดมาตั้งแต่กลางปี 2556 ครับ เปิดก่อนผลิตสินค้ารุ่นแรกที่เป็นกระป๋องเลย ผมเอาตัวอย่างงานออกแบบสินค้าไปวางแล้วลองแชร์ เพื่อขอความคิดเห็นจากเพื่อน ๆ และคนใกล้ตัวก่อน ว่าทิศทางที่จะทำออกมาควรเป็นแนวไหน

ในสองไตรมาสแรกของปีนี้ เราเน้นการประชาสัมพันธ์ การสร้างการรับรู้ของตัวสินค้าไปด้วยครับ (รวมกันประมาน 70% ของการสื่อสารทั้งหมด) เนื่องจากเราต้องการรวบรวมและแจกแจงชุดข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าให้เป็นระเบียบที่สุด ก่อนจะเลือกชุดข้อมูลมาทำการโปรโมตและสื่อสารซ้ำ เหตุผลของกลยุทธ์ตรงนี้ คือสินค้ามีความแปลกใหม่มาก บวกกับผู้บริโภคมีการรับรู้เดิมเกี่ยวกับแมลงทอดในระดับนึงอยู่แล้ว ซึ่งหลายอย่างไม่เป็นความจริง ข้อความที่เราต้องการสื่อสารค่อนข้างมีความซับซ้อน เราจึงทำการสื่อสารไปด้วยและเรียนรู้ทัศนคติของผู้บริโภคไปด้วยก่อนจะคิดแคมเปญหรือการสื่อสารอื่น ๆ ต่อมาครับ

ผลของการสื่อสารที่ชัดที่สุดคือวีดีโอคลิป "ทำไมเราถึงควรรับประทานแมลง?" //www.facebook.com/video.php?v=245357875647357&video_source=pages_finch_thumbnail_video ซึ่งทำทิ้งไว้เล่น ๆ แต่วันดีคืนดีมีคนเอามาแชร์และถกเถียงกัน ทำให้เราได้รับการรับรู้และข้อมูลอีกมากจากโพสเพียงโพสเดียวครับ

- เรื่องการโฆษณาผ่านเฟซบุ๊ก เราทำหรือไม่

เราจะทำเฉพาะโพสเกี่ยวกับการเปิดตัวสินค้ารสชาติใหม่และอีเวนต์ เช่น ออกบูทเท่านั้นครับ เพราะเราไม่อยากเป็นโฆษณาที่เกะกะรกตาคนอื่น

สำหรับเฟซบุ๊กของตัวแทนจำหน่ายที่เปิดกันขึ้นมานั้น เราให้ตัวแทนทำเฟซบุ๊กของตัวเองได้ครับ เพราะทุกยอดสั่งซื้อสั่งจากที่เดียวกันหมด เป็นระบบการขายที่สะดวก แต่ได้ผลสุด ๆ เพราะแบ่งพื้นที่กันชัดเจนเลย

- แคแร็กเตอร์ การ์ตูนหนอนดักแด้ ที่ใช้ในการประชาสัมพันธ์ได้ผลหรือไม่

เรื่องแคแร็กเตอร์นั้นเราต้องการออกแบบขึ้นมาให้เป็นแม่สื่อสำหรับคนที่กลัวรูปลักษณ์เดิมของแมลงครับเพราะถ้าใช้ภาพถ่ายแบบเดิม ข้อความดีแค่ไหน มีประโยชน์เท่าไหร่ คนที่กลัวก็จะไม่อ่านครับ หลังจากออกแบบมาแล้วเราก็ใช้งานเขาหนักเลย เอะอะอะไรก็ให้การ์ตูนเล่า จนในที่สุดก็กลายมาเป็นธีมของแบรนด์ และเรามีแผนจะผลักแคแร็กเตอร์เหล่านี้ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น มีเรื่องราวมากขึ้นด้วยครับ

- ใน youtube ช่วยเล่าถึงที่มาที่ไปของโฆษณาโดยใช้น้องเจน นักพากษ์ เป็นพรีเซ็นเตอร์ ด้วยว่าได้ผลหรือไม่ ต้องการนำเสนออะไร ใช้งบประมาณไปมากไหม

เรื่องนี้เริ่มจากตัวแทนจำหน่ายในบริเวณที่น้องเขาอยู่เห็นว่าน้องเขามาซื้อทานผมทราบเรื่องก็เลยติดต่อไปให้น้องเขาทำคลิปให้โดยไม่กำหนดอะไรให้เลยครับ ใช้เงินลงทุนน้อยมาก และเราก็ไม่ได้หวังผลอะไรมากกว่าสร้างการรับรู้ในกลุ่มฐานของแฟน ๆ น้องเขาบวกกับของที่น้องเจนคิดและถ่ายทำทุกอย่างเองผลก็เลยเกินคุ้มครับ

- อินสตาแกรมล่ะ เห็นเปิดด้วย ตั้งใจว่าจะทำอะไรหรือเปล่า (เพราะเห็นมีอินสตาแกรม แต่เหงา ๆ)

เราไม่มองข้ามครับ ig ครับ แต่เบื้องต้นใน ig เราจะรวมโพสจากเฟซบุ๊กมาแปะไว้เท่านั้นครับ เนื่องจากช่องทางการสื่อสารไม่ค่อยยืดหยุ่น แต่ในอนาคตเราจะมีทีมดูแล ig โดยเฉพาะครับ เพราะกำลังซื้อเยอะมาก

- ปีนี้เราจะทำการตลาดออนไลน์ไปในแนวทางไหนอีก จะทุ่มเงินลงไปหรือไม่

เราจะใช้ Online เป็นหลักนำไปก่อนแบบนี้ครับ จนช่องทางจัดจำหน่ายเรามากพอ แต่เราก็ใช้การสื่อสารการตลาดแบบเดิมทั้ง Above และ Below the line ควบคู่ไปด้วย โดยงบเราจะแบ่งเป็นสองส่วน คือ 1.ตามความต้องการของแต่ละผู้จัดจำหน่ายเห็นสมควร และ 2.งบการสื่อสารการตลาดแบบทดลอง

เราให้ความสำคัญกับ "ความสนุก" ในการสื่อสารมาก ตอนนี้อาจจะยังไม่เห็นภาพ เพราะเราเพิ่งรับทีมการตลาดเข้ามา และกำลังรวบรวมไอเดียและการนำเสนอใหม่ ๆ อยู่น่าจะมีอะไรสนุก ๆ ให้ได้เห็นเร็ว ๆ นี้ครับ

- การไปออกงานที่เวียดนามล่ะ ผลเป็นอย่างไร ?

นอกจากเวียดนามแล้ว เราไปปารีสมาแล้วด้วยนะครับ ทั้งสองงานเป็นการเข้าร่วมโครงการดี ๆ กับทางรัฐและองค์กรอิสระเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์กับผู้ประกอบการในธุรกิจเดียวกันและศึกษาตลาดไปในตัวครับส่วนเรื่องผลตอบรับ ส่วนมากจะเป็นคอนเน็กชั่นและความรู้ใหม่ ๆ ครับ ที่เหลือจะเป็นลูกค้ามุ่งหวังที่สนใจในสินค้าเราจริง ๆ ทั้งการนำเข้าและ OEM ซึ่งตอนนี้เป็นความลับครับ

- ตั้งเป้ายอดขายปลายปีไว้อย่างไรคะ

ช่วงนี้เราชะลองาน เพราะเรากำลังจะย้ายโรงงานใหม่ครับ กำลังการผลิตเยอะขึ้น เทคโนโลยีล้ำหน้าขึ้น แปลว่านับจริง ๆ เราจะเริ่มทำงานกันเต็มกำลังการผลิตเดือนพฤษภาคม 2558 ซึ่งก็เกือบกลางปีแล้ว แต่เป้าที่คิดไว้ต้องมีร้อยล้าน! ถ้าทำไม่ได้เราก็จะพยายามต่อไปในปีหน้าครับ คำนวณจากขนาดตลาดและการนำเข้าแมลงกินได้ทั้งหลาย ตลาดนั้นใหญ่พอที่จะทำได้แน่นอนครับ

Create Date : 04 กุมภาพันธ์ 2558
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2558 8:14:43 น.		0 comments
Counter : 2409 Pageviews.
Share Tweet