สวัสดีค่ะสาวๆ

ช่วงนี้มีเวลาพักผ่อนน้อยมากๆ ล่าสุดมีคลีนิกความงานแห่งหนึ่งใจกลางทองหล่อ เพิ่งเปิดได้เมื่อไม่นาน

ได้เชิญบุ้งไปทำทรีทเม้นท์เริ่ดอยู่สองตัวค่ะ พูดเลยว่าชอบและติดใจมาก เพราะปกตอแล้วบุ้งเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบไปทำทรีทเม้นท์ตามคลีนิกเสริมความงามเท่าไหร่ เนื่องจากเห็นผลช้า เสียเวลาที่ต้องไปทำเป็นคอร์สๆ ต้องไปทุกๆสัปดาห์ เราก็ไม่มีเวลาว่างขนาดนั้น เลยเลือกที่จะบำรุงผิวด้วยสกินแคร์ซะส่วนใหญ่

ครั้งนี้ตัดสินใจไปลองเพราะว่าตัวทรีทเม้นท์ที่ทางคลีนิกแนะนำมา เป็นตัวใหม่ที่บุ้งค่อนข้างที่จะแปลกตา เนื่องจากหายากตามคลีนิกต่างๆ

ซึ่งสาวๆก็อาจจจะได้เห็นในแฟนเพจหรือไอจีของบุ้งไปกันแล้วว่าบุ้งได้ไปทำมาแล้วสองภึงสามครั้ง แล้วก็ได้ถ่ายรูปมาอวดกัน วันนี้ข้อมุลครบผลลัพที่ได้เป๊ะชัดเจนแล้ว เลยมาเขียนรีวิวให้ดูกันค่ะ

*อยากให้อ่านให้จบนะคะ เพราะว่าทุกบรรทัดที่เขียนไว้คือข้อมูลและความรู้ทั้งหมดเลยค่ะ*

Jewel Clinic

บอกกันเลยแล้วกันค่ะ ว่าบุ้งมาทำตัว

Ready Perfect baby skin และ ฉีด Live cell

โปรแกรมหยุดเวลาให้ผิวดูอ่อนกว่าวัยนั่นเอง

 Jewel Clinic คลีนิกความงามใจกลางทองหล่อ อยู่ที่ทองหล่อซอย 15 เข้าไปสุดซอยจะเจอตึกที่เขียนว่า Oakwood หรือ Marie Guimar ตัวคลีนิกตั้งอยู่ชั้น 2 เดินตรงไปเลี้ยวซ้ายกดลิฟต์ขึ้นไปชั้น2ได้เลยค่ะ

เดินเข้ามาก็จะเจอป้ายคลีนิก Jewel ที่บุ้งถ่ายรูปด้วยด้านบน

 มาถึงห้องทำรีทเม้นท์กันเลย ห้องแรกสวยงามมากเป็นห้องเก้าอี้ไฟฟ้า สำหรับสาวๆที่มาฉีดฟิลเลอร์โบท็อกซ์กับคุณหมอค่ะ

ส่วนห้องที่สองเป็นห้องทำทรีทเม้นท์หน้า มีวิวมุมสวยๆเยอะมาก ชอบจังเลยค่ะ เป็นลีนิกที่เข้ามาแล้วให้ความรู้สึกไม่เหมือนกันคลีนิก ฮ่าๆ เพราะว่าสวยมาก เมือนโรงแรมเลย จะแอยบอกว่ามุมวิวตรงหน้าต่างถ่ายรูปออกมาสวยมาก ฮ่าๆ ชอบตรงนี้ด้วย

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับโปรแกรมที่บุ้งจะทำในวันนี้กันก่อนดีกว่าค่ะ

1. Ready Perfect Baby Skin

โปรแกรม เปิดเซลล์ผิว พร้อมเติมสารอาหาร เข้าสู่เซลล์

ผิว ด้วยเทคโนโลยีเปิดเซลล์ผิวนำเข้าจากเกาหลี[KFDA] Transdermal [withneedle]เข็มหัวติดลบ15องศา

Anti aging ช่วยให้ผิวดูมีออร่า ริ้วรอยเล็กๆดูจางลง

เติม HA ให้ผิว ,วิตามิน 56 ชนิด ,กรดอะมิโน2ชนิด ,แร่ธาติ4ชนิด ,กรดนิวเคลอิก5ชนิด และรีดิวซิ่งเอเนท์ 5 ชนิด

หรือ Stemcell Growth factor เทคโนโลยีย้อน

วัยผิว ด้วยการกระตุ้นเซลล์ผิวเกิดใหม่ ช่วยให้ผิวกระชับขึ้น

ครั้งละ 4,900 บาท คอร์ส 5 ครั้ง 22,000 บาท

2. ฉีด Live Cell Extract

• ช่วยชะลอวัย

• ทำให้ระบบอวัยทำงานเป็นปรกติเหมือนตอนยังเป็นวัยรุ่น

• ช่วยเสริมสร้างกระดูก และช่วยลดการเสี่ยงจากการเป็นโรคกระดูกพรุน

• ทำให้ผลิตเม็ดเลือดได้มากขึ้น จึงทำให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้ดี

• จึงทำให้แผล และการอักเสบของร่างกายหายเร็วขึ้น

• ทำให้สมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิ์ภาพมากขนึ้

• ส่งผลให้ความจำดีขึ้น

• กระตุ้นการสร้างGrowth hormone ซึ่งจะทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น ผิวหนังเต่งตึง และทำให้ดูเยาว์วัยยิ่งขึ้น

• ทำให้ระบบฮอร์โมนทำงานปรกติ และทำให้เกิดภาวะวัยทองได้ช้าลง

• ช่วยให้ระบบสืบพันธุ์ทำงานได้ดีขึ้น

• ทำให้ผิวกลับมาเป็นเด็กอีกครั้ง

สารสกัดนี้ถูกพัฒนาตั้งแต่ปี1931ถูกใช้ในบุคคลที่มีชื่อเสียงมากมาย

จนเป็นสูตรปรับปรุงที่ดีที่สุดในปัจจุบัน : Prime minister Of UK

Winston Churchill , Marilyn Monroe , Charlie Chaplin

ราคาสอบถามเพิ่มเติมที่คลีนิก

เอาเป็นว่าบุ้งจะสรุปให้สาวๆได้เข้าใจกันง่ายๆด้วยภาพประกอบตอนบุ้งไปทำจริงๆเลยแล้วกันนะคะ

เริ่มด้วยการทำทรีทเม้นท์ Ready Perfect Baby Skin ค่ะ

วันนั้นแต่งหน้าไปพอดีเลยให้คลีนหน้าแค่ช่วงผิวค่ะ เว้นคิ้วแล้วก็ตาไว้ เผื่อเป็นการเซฟตัวเองถ่ายรูปออกมาจะได้ไม่โทรมเกินไปฮ่าๆ

ผิวสดก่อนทำ หลังคลีนด้วยคลีนซิ่งออยและคลีนซิ่งน้ำ ที่เห็นว่าผิวยังดูดีอยู่เพราะว่ามีเครื่องหน้า ตา ปาก คิ้ว ประกอบอยู่ด้วยนะฮะ

เริ่มด้วยการแปะยาชาทิ้งไว้ทั่วหน้ากันก่อนเลยค่ะ เพราะทรีทเม้นท์มีการเปิดผิวด้วยการสแตมป์ผิวด้วยเข็มรูเล็กๆ

หัวเข็มที่จะใช้เปิดผิว เป็นหัวเข็มใหม่

ตอนแรกกลัวว่าผิวจะเป็นตาราง แต่ไม่เลยค่ะ ถ้าสังเกตุดีๆ จะเห็นว่า หัวเข็มเล็กมาก แทบจะโผล่ออกมาไม่เห็นเลย เค้าจะใช้เข็มตัวนี้ในการสแตมป์ผิว เผื่อเป็นการเปิดผิว จะช่วยให้เวลาลงวิตมินหรืออาหารผิวลงไปได้ง่ายขึ้นค่ะ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่เข้ามาฆ่าการเลเซอร์เลยก็ว่าได้ เพราะว่าถือได้ว่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของสาวๆ ที่ไม่ชอบการเลเซอร์ แต่อยากหน้าใส บุ้งคนนึงเลยที่ไม่ชอบการเลเซอ ร์เอามากๆ เพราะว่าดูแลยาก เวลาทำผิวบางลงมากค่ะ แต่ตัวนี้จะเป็นการผลักอาหารผิวเพื่อทำให้ผิวใสเหมือนกันค่ะ

ขั้นตอนการลงเข็มสแตมป์ให้ทั่วผิว ตรงนี้ไม่เจ็บนะคะ เพราะว่าแปะยาชาไปแล้ว จะมีเจ็บนิด ก็ตรงช่วงขอบหน้าบริเวณกระดูกเท่านั้นเอง รูปที่เห็นนี้สแตมป์จะทั่วหน้าแล้วนะคะ ผิวบุ้งมีแดงเล็กน้อย ถือว่าไม่มาก มีเป็นรอยตารางเล็กๆ แค่ช่วงหน้าผาก

ตัวสแตมป์นี้ถือว่าเป็นการเปิดผิวช่วยให้อาหารผิวซึมลงบนผิวได้ง่ายและมากขึ้นค่ะ

 เมื่อสแตมป์ผิวทั่วหน้าแล้ว ก็จะเริ่มลงอาหารผิว

ตัวอาหารผิวนี้มีให้เลือกสองแบบค่ะ

1.ตัววิตามิน56ชนิด เติมHAให้กับผิว ตามที่บุ้งเขียนไว้ด้านบน ตัวนี้จะช่วยเรื่องความกระจ่างใสและผิวดูเนียนนุ่ม

2. Stemcell Growth factor สารที่ช่วยในเรื่อของริ้วรอย ช่วยให้ริ้วรอยเล็กๆดูจางลง เป็นเสมือนการเติมฟิลเลอร์ให้ผิวชั้นนอก

บุ้งเลือกแบบที่ 1 ค่ะ ช่วยให้ผิวใสเนียนนุ่ม

วิธีการผลักอาหารผิวด้วยเทคโนโลยี Transdermal หัวติดลบ15องศา

ตามรูปภาพเลยค่ะ เค้าจะใส่อาหารผิว 1cc ทั่วใบหน้า แล้วใช้หัวเข็มติดลบ 15 องศา (จริงๆไม่ใช่เข็มนะคะ แต่ชื่อเรียกว่าหัวเข็ม) นวดวนให้อาการผิวซึมลงบนผิว นวดจนกว่าจะหนืด ที่ใช้หัวติดลบ 15 องศาตัวนี้เพื่อเป็นการปิดรูขุมขนไปด้วยค่ะ

ความรู้สึกก็จะเย็นๆ ชาๆ จากยาชาที่เหลืออยู่ค่ะ ตอนนี้ผ่อนคลายมาก เหมือนเข้าคอร์สนวดหน้าเลย

หลังจากทำตัวนี้แล้วไม่แนะนำให้ล้างหน้าหรือแต่งหน้านะคะ เพราะว่าเค้าต้องการให้ตัวอาหารผิวซึมลงบนผิวชั้นบนให้ได้มากที่สุด เว้นช่วงเวลาสักประมาณ4ชั่วโมงก่อนแต่งหน้าก็ได้ค่ะ

อันนี้เป็นผิวหลังจากทำทรีทเม้นท์ค่ะ ผิวดูสดชื่นมาก มีรอยแดงเล็กน้อย แต่แปปเดียวก็หายค่ะ

สรุปการทำงานของทรีทเม้นท์นี้ค่ะ

1.เทคโนโลยีใช้เข็มขนาดเล็กเปิดเซลล์ผิว เพื่อให้สารบำรุงเข้าไปเลี้ยงเซลล์ได้อย่างเต็มที่ และผลลัพธ์จากการใช้เข็ม จะช่วยให้ผิวเกิดการผลัดเซลล์ ผิวจึงขาวกระจ่างใสขึ้น จุดด่างดำจึงลดลง ผิวเนียนเรียบขึ้น

2. เทคโนโลยีความต่างของประจุขั้วบวกและลบ ช่วยส่งสารบำรุงเข้าไปใต้ชั้นผิว เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และ ไฮยาลูโรนิค แอซิด ทำให้ผิวนิ่มชุ่มชื้น ริ้วรอยลดลง

3.เทคโนโลยีความเย็นติดลบ15องศา จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ผิวหน้าจึงเต่งตึง ไม่หย่อนคล้อย และยกกระชับ

ต่อมาเราจะมาต่อด้วยการฉีด Live Cell Extract เข้าผิวกันดีกว่า อันนี้บอกก่อนว่าเป็นซิกเนเจอร์ของ Jewel Clinic เลยก็ว่าได้ เพราะตัวที่บุ้งลองและหลายๆคนลองแล้วชอบมาก เห็นผลไวและชัดเจนค่ะ

ตัว Live cell คุณหมอต้องเป็นคนฉีดให้นะคะ เพราะคุณหมอต้องเช็คสภาพผิวหน้าของเราก่อนว่าควรจะฮีดเข้าส่วนใหญ่ดี ใบหน้าของเราส่วนไหนมีปัญหามาก ก็เน้นส่วนนั้นค่ะ

เริ่มคุยกันก่อนว่า Live cell จริงๆแล้วคืออะไร ที่บุ้งเขียนไว้ด้านบนผลที่ได้นางน่าทึ่งเกินไปไหม เพราะอะไรถึงเริ่ดขนาดนั้น

Live Cell 

ในบ้านเรา การบำบัดด้วยเซลล์ ยังถือเป็นของใหม่มาก แต่สำหรับประเทศแถบยุโรป โดยเฉพาะสวิตเซอร์แลนด์ และเยอรมนี การฟื้นฟูผิวพรรณขั้นล้ำลึก ด้วยการฉีดไลฟ์ เซลล์ เป็นที่นิยมมาแล้ว หลายทศวรรษ ศาสตร์การแพทย์ แขนงนี้คิดค้นขึ้นตั้งแต่ เมื่อ 80 ปีก่อน และมี ผู้เข้ารับการบำบัดเซลล์ทั่วโลก เป็นจำนวนหลายล้านคน หนึ่งในแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยีความงามชนิดนี้ ได้แก่ “นพ. เบิร์คฮาร์ด แอชฮอฟฟ์” ผู้อำนวย การแพทย์แห่งสถาบันวิลล่า เมดิก้า เมืองอีเดนโคเบน ประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นโรงพยาบาลทางเลือก ที่มีชื่อเสียงที่สุดในยุโรปและอเมริกา คุณหมออธิบายถึงหลักการทำงานของไลฟ์ เซลล์ เธอราปี ว่า เป็นการฉีดเซลล์ของอวัยวะส่วนที่ต้องการจะฟื้นฟูเข้าไปในร่างกาย เพื่อให้ทำปฏิกิริยา และกระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่ของอวัยวะนั้นๆอย่างที่วิลล่า เมดิก้า จะใช้เซลล์จากตัวอ่อนของแกะ ซึ่งได้จากฟาร์มระบบปิด ที่ เลี้ยงไว้เพื่อการบำบัดรักษาโดยเฉพาะ เช่น ถ้าต้องการซ่อมแซมภาวะบกพร่องของผิวหนัง ก็ดึงเซลล์ แกะที่มีคุณสมบัติในการฟื้นฟูสภาพผิว หนังมาใช้ฉีดเข้าที่ใบหน้า เพื่อให้ผิวพรรณดูสดใสและเปล่งปลั่งขึ้นสาเหตุที่ต้องเป็นเซลล์แกะ เพราะเป็นเซลล์ที่บริสุทธิ์ มีแอนติเจนน้อยมาก และสามารถนำมาแยกสารพันธุกรรมโปรตีน รวมถึงสารเคมีได้ ทำให้รู้ว่าเซลล์ที่ได้มามีประสิทธิภาพในการซ่อมแซมอวัยวะส่วนใดได้ดีที่สุด

ที่มา //thaiorientalbeauty.com/innovation/live-cell-therapy/

ตัวที่บุ้งจะฉีดในรูปเป็น Live cell ที่สกัดมาจาก Placenta ค่ะ

พลาเซนต้า (Placenta) คือ รกของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เป็นส่วนที่เชื่อมต่อจากสะดือ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการสร้างเซลล์ของสิ่งมีชีวิตเพื่อเลี้ยงดูตัวอ่อนให้เจริญเติบโต และยังมีหน้าที่สร้างภูมิคุ้มกันให้กับตัวอ่อนด้วย

ในพลาเซนต้า ประกอบไปด้วยกรดอะมิโนที่มีประโยชน์หลายชนิดมาก และ placenta ยังมี stem cell stimulating factor ซึ่งจะช่วยกระตุ้น stem cell ในร่างกายที่อยู่ในภาวะพัก ให้กลับมามี activity เหมือนกับการเปิดสวิทซ์ ให้ stem cell เริ่มการทำงาน ในการซ่อมแซมร่างกาย และพบว่า placenta peptide สามารถกระตุ้น stem cell ได้เพิ่มมากขึ้นกว่าปกติถึง 8 เท่า ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายผลัดเซลล์เก่าที่เสื่อมสภาพแล้วออกไป แล้วสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมาแทนที่ อันจะมีผลต่อเนื่องไปยังการทำงานต่างๆ ของร่างกาย และก่อให้เกิดประโยชน์ตามมาอย่างมากมาย

ที่มา //thaiplacenta.com/%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%B2-placenta-%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3/

ก่อนฉีดคุณหมอไม่อยากให้เกิดการเสียเวลาเราเลยไม่ต้องแปะยาชาค่ะ ใช้น้ำแข็งโปะเอา

วันนี้คุณหมอเลือกฉีดตรงหน้าผากสามจุด แก้มข้างละสองจุด และคางหนึ่งจุด

เห็นเข็มจิ้มแล้วเสียวเลย อยากจะเซ็นเซอร์ ฮ่าๆ ความรู้สึกตอนแรกคิดว่าจิ๊บๆ เพราะเคยฉีดฟิลเลอร์มาแล้ว 

ตอนฉีดเจ็บตอบเข็มลง แต่ได้ความรู้สึกว่าไม่ลึกมาก แต่พอยาเข้าไปในผิวแล้วจะรู้สึกแสบๆซ่าๆ เรียกว่าเจ็บนั่นเอง แต่ยอมรับว่าตัวเองเก่ง ไม่ดิ้น ไม่ร้องเลยค่ะ แต่เจ็บจริงๆ

จุดที่ฉีดบนหน้าผากสามจุดเริ่มปูดออกมาแล้ว ลักษณะการปูนเหมือนหัวโนเดินชนอะไรสักอย่าง เป็นก้อนเลย

ตอนออกจากคลีนิกไปตอนแรกก็มีอายเล็กน้อย เพราะเราขึ้นรถไฟฟ้า ฮ่าๆ คนเห็นต้องนึกว่าฉันหกล้มหัวฟ้าดพื้นแน่ๆ แต่หลังจากฉีดก็ไม่มีอาการเจ็บเลยนะคะ คราวนี้ก็รอให้ตัว live cell กระจายทั่วใบหน้า

กลับมาบ้านใช้เวลาประมาณสองสามชั่วโมงผิวก็ยุบลงเป็นปกติแล้วค่ะ

รูปเป็นผิวหลังจากทำทรีทเม้นท์และฉีด live cell ประมาณสามชั่วโมงค่ะ

แล้วนี่คือสภาพผิวสามวันหลังจากทำตัว Ready Perfect Baby Skin และ Live Cell Extract ที่สาม

ที่บุ้งเก็บภาพตอนวันที่สามก็เพราะว่าสองวันหลังจากไปคลีนิกมา ป่วยหนักมากค่ะ

แต่นี่คือผิวตอนที่กำลังป่วยยังไม่หายดี แต่ผิวนี่ดูไม่โทรมมาก คือดี เพราะบุ้งไม่ได้ทาสกินแคร์อะไรเลยมาสองวัน ผิวยังดีอยู่ถือว่าเริ่ดมาก

อยากซูมให้เห็นผิวจริง บุ้งใช้นิ้วลองกดให้ผิวบุ๋มจะได้มีริ้วๆให้เห็นบ้าง แต่ตามภาพเลยค่ะ ผิวตึงสะท้องแสงเหมือนกระเบื้อง คือเนียนมากกกกกก หลงรักผิวตัวเองมากค่ะ เลยคิดว่าผลที่ได้เรื่องริ้วรอยและความเรียบเนียนของผิวน่าจะมาจาก ตัว live cell ส่วนความกระจ่างใสและความสม่ำเสมอของสีผิวน่าจะมาจากตัวทรีทเม้นท์

แล้วนี่คือรูปตอนป่วยที่ถ่ายเก็บไว้ค่ะ 

ซ้ายคือหลังจากออกจากคลีนิก ขวาคือวันที่สองตอนที่ป่วยนั่นเอง

และทุกสิบวันบุ้งจะต้องไปทำตัวทรีทเม้นท์ผลักอาหารผิวให้ครบคอร์ส5ครั้ง

แล้วรูปนี้คือหน้าสดหลังไปทำเป็นครั้งที่สองค่ะ กริ๊งเลย อิอิ

สรุปผลที่ได้ และความคิดเห็นส่วนตัว

เริ่มจากตัว Ready Perfect Baby Skin ตัวสแตมป์ผิวที่ผลักอาหารผิวเข้าสู่ผิว ตัวนี้ถือว่าเป็นเทคโนโลยีที่บุ้งชอบเลยค่ะ เพราะถือว่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการทำผิวใส ที่นอกเหนือจากการทำเลเซอร์ อย่างที่บุ้งบอกเลยว่าบุ้งไม่ชอบการทำเลเซอร์เพราะว่า ดูแลรักษาผิวยาก ผิวบาง ลอกง่ายมาก แต่เลเซอร์ก็ยังคงมีความจำเป็นสำหรับสาวๆที่เป็นกระ ฝ้าอยู่นะคะ แต่ด้วยตัวบุ้งแล้วอายุยังไม่มาก ผิวยังไม่ร่วงโรย ต้องการแค่ผิวใส ผิวเนียน ผิวไม่โทรมคล้ำเท่านั้นเอง ตัวนี้ก็ถือว่าตอบโจทย์สำหรับสาวๆทุกสภาพผิวและทุกวัยเลยค่ะ

ตัวนี้ไม่ได้ช่วยเรื่องสิวนะคะ อย่างแนะนำว่าให้สาวๆรักษาสิวอักเสบให้หายก่อนแล้วค่อยมาทำ แค่จะเป็นการช่วยป้องกันการเกิดสิว เพราะจะช่วยกระชับรูขุมขนด้วย นอกจากจะทำให้ผิวใส ดูไบร์ทขึ้นแล้ว ตัวนี้บุ้งจะรู้สึกว่าเป็นดูสดชื่นขึ้น และช่วยให้แต่งหน้าง่ายขึ้นด้วยค่ะ

ส่วนตัว Live Cell Extract ตัวนี้เรียกว่าเป็นซิกเนเจอร์ของคลีนิกเพราะฉะนั้นแล้วพูดเลยว่าเริ่ดมาก ตอนแรกดูรีวิวจากต่างประเทศผู้ที่คิดค้นตัวนี้ เค้าฉีดตัวนี้เข้าผิวและตามร่างกายด้วย คืออึ้งมาก ตอนแรกเดาไว้ว่าประมาณ 50 ตกใจมากพอเรารู้อายุจริง นางอายุ 70 ปีแล้ว แล้วก็ได้มาลองเองจริงๆ ผิวเนียนม๊ากกกกกกกก เนียนแบบผิวกระเบื้อง กระเบื้องเคลือบตามที่หลายๆคนเคยพูดไว้ คือได้สัมผัสแล้ว ฮ่าๆ ซึ่งจะเห็นได้ชัดเจนที่สุดเลยก็คือ ตอนที่เราแต่งหน้า (รูปด้านบน) ผิวเนียนรองพื้นเนียนกลืนกับผิวเลย ทาแล้วรู้เลยว่า การที่จะแต่งหน้าสวยได้ พื้นผิวของหน้าเราต้องดีก่อน แต่ก่อนผิวบุ้งเนียนจริงค่ะ แต่ไม่เคยเรียบเท่าตอนนี้มาก่อนเลย ไม่มีผดเม็ดเล็กให้เห็นเลย และเวลายิ้มทำไม่มีริ้วเล็กให้เห็นเลยเช่นกัน นี่อยากจะไปฉีดซ้ำมาก แต่ว่าตัวนี้ราคาสูงมาก ยอมรับเลย แต่ผลที่ได้สมราคาค่ะ แนะนำมากๆสำหรับสาวๆที่อายุ 30 อัพ อยากให้ลองค่ะ

ควรศึกษาหาข้อมูลผลิตภัณฑ์และคลีนิกที่จะเข้ารับบริการเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจที่จะเข้าไปใช้บริการค่ะ

สำหรับวันนี้บุ้งต้องขอลาไปก่อนนะคะ

ขอบคุณที่ติดตามกันค่า

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

Jewel Clinic (ตึก Oakwoods ซ.ทองหล่อ 15)

https://www.facebook.com/JewelClinic