Group Blog
มิถุนายน 2558

 
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
All Blog
เพลง The Weight of Living Part I ของ Bastille นกอัลบาทรอส และ บทกวีของกะลาสีชรา ตอนที่ 2

(ต่อจากเอนทรี่นี้นะคะ x)

อิทธิพลจากบทกลอนเรื่องนี้ของเคเลอริดจ์ทำให้กะลาสีเรือทั้งหลายเชื่อว่านกอัลบาทรอสนั่นคือวิญญาณของผู้ที่สูญสิ้นชีวิตไปในท้องทะเลทั้งหลายและถือเป็นโชคร้ายหรือจะนำมาซึ่งหายนะหากมีคนฆ่านกอัลบาทรอส นอกจากนี้การที่มีนกอัลบาทรอสแขวนคอยังเป็นสัญลักษณ์แทนภาระอันหนักอึ้งอีกด้วย เฉกเช่นเดียวกับโทษที่กะลาสีเรือเฒ่าได้รับจากการยิงมัน

ซึ่งความหมายที่สืบต่อมานี่เองคือสิ่งที่บาสตีลใช้เขียนในเนื้อเพลงของตนโดยเปรียบเทียบภาระอันหนักเหนี่ยงของการมีชีวิตเข้ากับภาระของกะลาสีเรือเฒ่าที่มีนกอัลบาทรอสห้อยอยู่ที่คอ แต่กระนั้นก็น่าสนใจที่เนื้อหาของบาสตีลก็ยังพูดถึงการยิงนกอัลบาทรอสลงมาซึ่งเป็นสิ่งที่ผิดบาปตั้งแต่แรก แต่กระนั้นการกระทำของกะลาสีเฒ่าก็สามารถเข้าใจได้ว่าเป็นธรรมดาของมนุษย์ ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่า บาปทั้งหลายนั้นเป็นการกระทำที่ปกติธรรมดาของมนุษย์ปุถุชน เนื่องด้วยทุกคนนั้นก็ต่างเป็นสีเทา ไม่มีใครเป็นสีขาว-ดำ ดังนั้นจึงไม่ควรจมปลักอยู่กับบาป ความผิดหรือความโศกเศร้าใจ แต่ควรจะปล่อยวางมันไว้และก้าวเดินต่อไป


“Weight Of Living, Pt. I”
There’s an albatross around your neck, ซากนกอัลบาทรอสแขวนอยู่รอบคอเธอ
All the things you’ve said, ทุกอย่างที่เธอพูด
And the things you’ve done, ทุกอย่างที่เธอทำ
Can you carry it with no regrets, เธอจะแบกรับมันโดยไม่รู้สึกเสียใจได้ไหม
Can you stand the person you’ve become, เธอรับคนที่เธอกลายมาเป็นได้ไหม
Ooh there’s a light ยังมีแสงส่องทาง
Oooh there’s a light สุดปลายนั้น ยังมีแสงอยู่
Your Albatross, let it go, let it go, ซากนกอัลบาทรอสของเธอ ปล่อยมันไป ปล่อยมันไปเสีย
Your albatross shoot it down, shoot it down อัลบาทรอสตัวนั้น ยิงมัน ยิงมันลงมา
When you just can’t shake ยามที่เธอมิอาจสลัด
The heavy weight of living น้ำหนักของการมีชีวิตที่หนักอึ้งนี้
Stepping forward out into the day ยาหน้าออกไปใช้ชีวิตต่อ
Shrugging off the dust and memory ปัดฝุ่นผงและความทรงจำทั้งหลายเสีย
Though it’s soaring still above your head แม้ว่าในหัวนั้น ทุกอย่างยังคงร้าวราน
It is out of sight and none shall see แต่เรื่องก็จบไปแล้ว มิมีใครได้เห็นอีก
Oooh there’s a light ข้างหน้านั้น ยังมีแสง
Oooh there’s a light ยังคงมีแสงส่องทาง
Your albatross, let it go, let it go, ซากนกอัลบาทรอสของเธอ ปล่อยมันไป ปล่อยมันไปเสีย
Your albatross shoot it down, shoot it down อัลบาทรอสตัวนั้น ยิงมัน ยิงมันลงมา
When you just can’t shake ยามที่เธอมิอาจสลัด
The heavy weight of living ภาระอันหนักอึ้งของการมีชีวิตอยู่
When you just can’t seem to shake ยามที่เธอมิอาจสลัด
The weight of living น้ำหนักของการมีชีวิตที่หนักอึ้งนี้
It’s the sun in your eyes, in your eyes แสงอาทิตย์ส่องทำน้ำตาคลอหรือ
Your albatross, let it go, let it go, ซากนกอัลบาทรอสของเธอ ปล่อยมันไป ปล่อยมันไปเสีย
Your albatross shoot it down, shoot it down อัลบาทรอสตัวนั้น ยิงมัน ยิงมันลงมา
When you just can’t shake ยามที่เธอมิอาจสลัด
The heavy weight of living น้ำหนักของการมีชีวิตที่หนักอึ้งนี้
When you just can’t seem to shake ยามที่เธอมิอาจสลัด
The weight of living ภาระอันหนักอึ้งของการมีชีวิตอยู่
The weight of living ภาระอันหนักอึ้งของการมีชีวิตอยู่



Create Date : 01 มิถุนายน 2558
Last Update : 2 มิถุนายน 2558 11:34:53 น.
Counter : 1024 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

What I want I cannot have
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]