เล่มที่อ่านและผ่านตา : มิถุนายน 2558
นี่เราเริ่มมาเป็นมนุษย์เงินเดือนในบริษัทใหม่ได้ 1 เดือนกว่าๆ แล้วหรือเนี่ย วันเวลาช่างผ่านไปไวเหลือเกิน ...งานเพิ่งเริ่มต้น ไม่มีอะไรรัดตัวมากนัก ทำแบบสบายๆ มีเวลาให้ค่อยๆ คิด ค่อยๆ วางแผน ซึ่งเวลาของการทำงาน ไม่มีผลต่อการอ่านหนังสือแต่อย่างใด เรายังคง "เช่าอ่าน" เช่นเดิม ทั้งๆ ที่ตั้งใจว่าจะลดการเช่าลงแล้วก็ตาม แต่ทำไงได้ ในเมื่อร้านเช่ามีหนังสือหลายหลายกว่าเรื่องที่มีที่บ้าน แล้วก็เป็นแนวที่แค่ just read ไม่ได้คิดจะซื้อเก็บเป็นสมบัติของตัวเอง หรือไม่ก็ ทดลองอ่านดูก่อน ถ้าชอบ ก็ค่อยไปซื้อมาไว้ใน collection
ส่วนภารกิจพิชิตกองดองของเรา ยังคงเดินหน้าไปได้เรื่อยๆ แต่ก็ไม่ใช่หนังสือที่ดองไว้นานเลย
5 เล่มนี้จำนวนนี้ เพิ่งสั่งซื่อมาจากกลุ่มผู้ขายหนังสือมือสองในเฟซบุ๊คด้วยซ้ำ
ที่ลดการซื้อลงได้จริงๆ ก็คือพวกนิตยสาร พยายามตัดใจจากพวกปกดาราลงไปบ้าง ซื้อเฉพาะที่อ่านกันประจำในบ้าน ประเภทแนวเพื่อสุขภาพกาย สุขภาพจิตเท่านั้นเอง
สำหรับ Human Ride ของเครือ ADay ออกปีละ 4 เล่ม เราจัดไว้ในกลุ่มหนังสือท่องเที่ยว มากกว่าจะเป็นหนังสือสำหรับแวดวงคนปั่นจักรยาน เพราะคนทำตั้งใจทำเป็นเมืองๆ ไป อ่านเล่มนึง ก็เหมือนได้เที่ยว ได้พบคนที่เมืองนั้นๆ
มาถึงการซื้อหนังสือบ้าง เดี๋ยวนี้ เข้าร้านหนังสือก็เพื่อไปพลิกดูคำโปรยหลังปก จับรูปเล่มจริงๆ แต่ไม่ได้ซื้อหนังสืออกไหม่ทันทีทันใดแล้ว เรารอมาซื้อหาผ่านคนขายหนังสือทางออนไลน์แทน ประเด็นสำคัญในการเลือกซื้อ คือ ราคาขาย เมื่อดูสภาพหนังสือ (ผ่านภาพถ่าย) เราก็ประเมินราคาในใจตัวเอง ดูราคาที่คนขายตั้งไว้ รวมค่าส่ง ว่าลดลงจากราคาปก มากน้อยแค่ไหน โอเค รับได้ ก็ค่อยสัง่จอง โอนเงิน รอรับหนังสือ มันช่างสะดวก ง่ายดาย ...ก็เลยทำให้ยอดการซื้อหนังสือของเราไม่ลดลง
หนังสือบางเรื่อง หาจากร้านหนังสือมือสองไม่มีซะที พอมาเจอเอาในกลุ่มขาย เราก็เลยจัดมาซะ สมใจ... บางเรื่องได้มาจากวิธีการประมูล อันนี้ทำให้เราซื้อตามราคาที่กำหนดว่าจะจ่ายได้ ถ้าไม่มีใครให้ราคาสูงเกินเรา เราก็ได้เป็นเจ้าของ เท่านั้นเอง ง่ายๆ สบายๆ
อีกประเภทที่เราซื้อผ่านออนไลน์ก็คือ หนังสือที่เก่ามากๆ หาไม่ได้ตามร้านหนังสือมือสองที่เราเข้าประจำ แต่อาจจะหาได้จากร้านหนังสือเก่า ราคาบางเล่มอ่านดูจะสูงเกินสภาพหนังสือ ทำไงได้ มันเป็นเหมือนของสะสมอ่ะ ราคาขึ้นกับความพึงพอใจ อย่างเรื่อง "ทางรัก" อ่านจบไปนานแล้ว เคยให้เพื่อนยืมไป แล้วเขาวางลืมบนรถไฟ หายไป 1 เล่ม เจ้าตัวก็ซื้อมาคืนให้ทั้งชุดนะ แต่มันก็ไม่ใช่แบบเดิมไง พอมาเจอหน้าปกรุ่นเดิม ...ก็เลยต้องรีบซื้อมา ออกโทรมไปหน่อย แต่เป็นหนังสือเพื่อเก็บ ไม่เป็นไร
หนังสือเก่าในสภาพที่ยังหยิบอ่านได้ และอยากอ่าน ...ก็ซื้อ ส่วน 2 เล่มด้านล่าง ก็เป็นหนังสือจากแผงหนังสือในซอย เจ้าประจำที่เรามักหยุดไปรื้อๆ ค้นๆ เผื่อได้ และครั้งนี้ก็ได้จริงๆ ได้หนังสือที่ยังขาดชุด กับนิยายมาอ่านเล่น ราคาไม่กี่สิบบาท
และอีกเล่มที่อุดหนุนมา เป็นหนังสือทำมือของเพื่อน blog - กะว่าก๋า
เราชอบงานเขียนและภาพถ่ายของคุณก๋านะ พอเห็นว่าลองนำมาพิมพ์เอง เราก็เลยจัดมาด้วย นอกจากอ่านและดูภาพ อย่างที่ชอบแล้ว ก็จะได้ดูเป็นตัวอย่างของการจัดทำหนังสือบ้าง ก็เป็นอีกสิ่งที่อยากทำ ..คือพิมพ์หนังสือของตัวเองบ้าง
สำหรับเดือนนี้ ได้หนังสือมาอ่านแบบไม่เสียเงินหลายเล่มอยู่นะ ขุดแรก 6 เล่ม ควรจะได้รับตั้งแต่เดือนเมษายน แต่ไม่รู้กระบวนการส่งไปตกหล่นตรงไหน เราก็เลยเพิ่งไปรับของรางวัล มูลค่าราคาปก 2 พันกว่าบาทนี้มา
เป็นรางวัลจากการร่วมกิจกรรม Like & Share และตอบคำถาม กับเพจ "ร้านนายอินทร์" ตอนดูภาพที่โพสต์ให้ร่วมสนุก เราไม่คิดว่ารางวัลจะเป็นหนังสือออกใหม่นะ แต่ทั้งหมดนี้เป็นหนังสืออกเมื่อช่วงต้นปีนี้ทั้งหมดเลย
ปิดท้ายด้วยหนังสือที่รับจากการไปร่วมกิจกรรม "บางกอกสัญจร" เรื่องราวเกี่ยวกับเทศกาลกินเจ ส่วนอีกเล่ม คนขายหนังสือออนไลน์จัดมาให้เป็นของแถม ...อ่านดูแล้ว ตรงดีนะ
เป็นอันว่า จบรายงานของเดือนมิถุนายน จะอ่านจะซื้อกี่เล่ม ก็นับเอาจากในภาพนะ
| Create Date : 30 มิถุนายน 2558 |
| Last Update : 11 กรกฎาคม 2558 8:43:59 น. |
|
4 comments
|
| Counter : 1485 Pageviews. |
|
 |
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [
รักไร้ใจ น่าอ่าน