ตามรอยเจ้าอนุวงศ์ คลี่ปมประวัติศาสตร์ไทย-ลาว
หลังจากที่ได้อ่านผลงานสารคดี เรื่อง จากวังจันทร์สู่เวียงแหง ตามรอยนเรศวรมหาราช นอกกรอบประวัติศาสตร์ชาตินิยม ผลงานของ สุเจน กรรพฤทธิ์ เมื่อปี 2 ปีที่แล้ว เราก็ได้เห็นผลงานเล่มใหม่ในปีเดียวกัน แต่ก็มัวแต่รอเวลา จะซื้อราคาพิเศษ จนกระทั่งไปร่วมอบรมการเขียนสารคดีที่สำนักพิมพ์นานมีจัดขึ้น และวิทยากรแนะนำหนังสือสารคดี 20 เล่มที่ควรอ่าน หนึ่งในนั้น ก็คือ
ตามรอยเจ้าอนุวงศ์ คลี่ปมประวัติศาสตร์ไทย-ลาว : สุเจน กรรพฤทธิ์
สำนักพิมพ์สารคดี พิมพ์ครั้งแรก : กุมภาพันธ์ 2555 จำนวน 200 หน้า / ราคา 230 บาท ซื้อเมื่อ : 23 กรกฎาคม 2557 อ่านจบ : 3 สิงหาคม 2557
::โปรยปกหลัง::
จุดเด่นของหนังสือเล่มนี้ คือ เป็นทั้ง "ประวัติศาสตร์" และเป็นทั้งประวัติศาสตร์นิพนธ์" (history-hisrotiography) คือเป็นทั้ง "เรื่องราวที่ได้เกิดขึ้นแล้ว" และเป็นทั้ง "เรื่องราว" ที่ถูกนำมา "ผลิตซ้ำ / เขียนใหม่-ตีความใหม่-ให้มีความหมายใหม่ ...หากเราจะเชื่อว่า "ประวัติศาสตร์" นั้นมีใน "หลายด้าน" ในกรณีนี้ พระเจ้าอนุวงศ์ก็ทรงเป็นทั้ง "วีรบุรุษ" ผู้พยายามกอบกู้ "เอกราช" ของลาว ...และเป็นทั้ง "กบฎ" ต่อราชสำนักสยาม ...การเปรียบเทียบ "ความเหมือน" ของการเป็น "องค์ประกัน" (hostage) ของเจ้าอนุวงศ์แห่งอาณาจักรล้านช้างร่มขาวเวียงจันทน์ กับของพระนเรศวรแห่งอาณาจักรพระนครศรีอยุธยา กับ "ความต่าง" ของจุดจบ ที่ในกรณีของเจ้าอนุวงศ์เป็น "โศกนาฎกรรม" หรือ tragedy อันโหดร้ายทารุณ ในขณะที่ของ พระนเรศวรเป็น "สุขนาฎกรรม" เป็น happy ending นั้น ทำให้งานเขียนชิ้นนี้ของสุเจนโดดเด่นมีเสน่ห์อย่างหาที่สุดมิได้ - ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ นักประวัติศาสตร์
หนังสือ ตามรอยเจ้าอนุวงศ์ คลี่ปมประวัติศาสตร์ไทย-ลาว มีบทบาทสำคัญยิ่ง ในการทำความรู้จักตัวเรา รู้จักเพื่อนบ้าน หรืออย่างน้อยที่สุด คือ รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา อันเป็นคุณสมบัติพื้นฐานของความสัมพันธ์ฉันเพือนมนุษย์ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ ความสัมพันธ์ฉันเพื่อนบานที่สนิทชิดเชื้อ ดั่งญาติมิตรเฉกเช่นลาว - ธีรภาพ โลหิตกุล นักเขียนสารคดี
ประเด็นความน่าสนใจของสารคดีเล่มนี้คือ ผู้เขียนมองเห็นความเหมือนและความต่าง ของชีวิตพระนเรศวรแห่งอาณาจักรอยุธยากับเจ้าอนุวงศ์แห่งอาณาจักรล้านช้าง พระองค์หนึ่ง เป็นองค์ประกันในราชสำนักพม่า อีกพระองค์หนึ่ง เป็นองค์ประกันในราชสำนักสยาม พระองค์หนึ่ง ต่อสู้เพื่อปลดอยุธยาออกจากพระราชอำนาจของหงสาวดี พระองค์หนึ่ง ต่อสู้เพื่อปลดเวียงจันทน์ออกจากพระราชอำนาจของสยาม พระองค์หนึ่ง ชนะ กลายเป็นวีรบุรุษของชาวเมืองอยุธยา แต่พระองค์ก็คือ กบฎของเมืองหงสาวดี พระองค์หนึ่ง แพ้พ่าย กลายเป็นกบฎต่อกรุงเทพฯ แต่พระองค์ก็คือ วีรบุรุษของชาวเมืองเวียงจันทร์
ผู้เขียนดำเนินเรื่องจากประเด็นข้อสงสัยเกี่ยวกับ "ย่าโม" และ "วีรกรรมทุ่งสัมฤทธิ์" และศึกษาจากหลักฐานชั้นต้นและชั้นรอง ที่เป็นทั้งเอกสารพงศาวดารทั้งไทย-ลาว เอกสารบันทึกการเดินทางของชาวตะวันตก ณ ช่วงเวลานั้น รวมทั้งการพูดคุยกับบุคคลต่างๆ ไปจนถึงการลงพื้นที่ ตามเส้นทางเดินทัพ เส้นทางลี้ภัย จนถึง ณ จุดที่เจ้าอนุวงศ์สิ้นพระชนม์
การดำเนินเรื่องและการยกข้อมูลอ้างอิงมาเรียบเรียง พร้อมทั้งเสนอความเห็นมุมมองของผู้เขียน ทำให้คนอ่าน อ่านตามและคิดตามอย่างติดพัน จนเราอ่านจบได้ในวันเดียว อาจเป็นเพราะความอยากรู้อยากเห็นในเรื่องราวของประวัติศาสตร์เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เราจึงไม่เบื่อที่จะอ่าน และตั้งข้อสังเกตตามไปด้วย
อ่านจบ ก็ต้องคิดทบทวนดูอีกทีว่า การนำประวัติศาสตร์มาบอกเล่าสั่งสอนต่อ ในเชิง "ชาตินิยม" ดังที่ปรากฎในแบบเรียนไทยหลายรุ่นนั้น ถูกต้องแล้วหรือ ในเมื่อไทย ลาว พม่า เขมร เวียดนาม มาเลเซีย กำลังจะเปิดตัวเป็นกลุ่ม ASEAN ที่แข็งแกร่ง เพื่อยืนอยู่ในเวทีโลก ร่วมกับ EU และกลุ่มประเทศอื่นๆ ได้อย่างมั่นคง
ไม่ผิด หากจะบอกว่า ไทยเป็นเอกราชจากการรุกรานของอำนาจจักรวรรดิ์ตะวันตก แต่ออกจะผิด หากจะบอกว่า "ไทย" เคยเป็นประเทศราชของ "พม่า" ทั้งๆ ที่ ณ ช่วงเวลานั้น ยังไม่มี "ประเทศ" มีเพียง "เมือง" ที่มีกษัตริย์ปกครองแว่นแค้วน การทำสงครามตั้งแต่อยุธยามาจนถึงราวรัชกาลที่ 3 นั้น เป็นสงครามระหว่างกษัตริย์ต่อกษัตริย์ ระหว่างเมืองต่อเมือง หรืออาณาจักรต่ออาณาจักร ที่ยังไม่มี "เส้นพรมแดน" มาขีดให้ชัด จนกระทั่งอังกฤษและฝรั่งเศส ล่วงล้ำเข้ามายังดินแดนสุวรรณภูมินั่นแหละ จึงเกิดเป็น "รัฐชาติ" และเมื่อลัทธิคอมมิวนิสต์เข้มและแผ่ขยายอิทธิพลเข้ามาเรื่องๆ จึงต้องใช้ "ชาตินิยม" มาชี้นำ เพื่อให้เกิด "สำนึกรักชาติ" ขึ้นมาในกลุ่มชนชาวไทย
ดังนั้น เมื่ออ่านหนังสือบอกเล่าประวัติศาสตร์ใดๆ ก็ตาม เรามักจะวางตัวอยู่ตรงกลาง เก็บเนื้อหาและความเห็นของผู้เขียน มาประมวลผลใหม่อีกครั้ง
พึ่งระลึกรู้อยู่เสมอว่า ประวัติศาสตร์เขียนโดยผู้ชนะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประวัติศาสตร์ชาตินิยม และหลายครั้ง ประวัติศาสตร์เขียนขึ้นมาเพื่อตอบสนอง "การเมือง"
รายการสารคดี ASEAN STORY DOCUMENTARY
รายการศิลปสโมสร ตอน เข้าใจลาวผ่านประวัติศาสตร์ เจ้าอนุวงศ์
ข่าวศิลปวัฒนธรรม ThaiPBS
Create Date : 03 สิงหาคม 2557 |
Last Update : 3 สิงหาคม 2557 22:50:41 น. |
|
10 comments
|
Counter : 4769 Pageviews. |
|
|
|