space
space
space
<<
มกราคม 2560
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
space
space
9 มกราคม 2560
space
space
space

ระบบปฏิบัติการ windows




Smileyระบบปฏิบัติการ WindowsSmiley


Windows คืออะไรSmiley
  Windows คือ ระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ระบบหนึ่ง (operating system) สร้างขึ้นโดยบริษัทไมโครซอฟต์ เนื่องจากความยากในการใช้งานดอสทำให้บริษัท ไมโครซอฟต์ได้มีการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่เรียกว่า Windows ที่มีลักษณะเป็น GUI (Graphic-User Interface) ที่นำรูปแบบของสัญลักษณ์ภาพกราฟิกเข้ามาแทนการป้อนคำสั่งทีละบรรทัด ซึ่ง ใกล้เคียงกับแมคอินทอชโอเอส เพื่อให้การใช้งานดอสทำได้ง่ายขึ้น แต่วินโดวส์จะยังไม่ใช่ระบบปฏิบัติการจริง ๆ เนื่องจากมันจะทำงานอยู่ภายใต้การควบคุมของดอสอีกที กล่าวคือจะต้องมีการติดตั้งดอสก่อนที่จะติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows และผู้ใช้จะสามารถเรียกใช้คำสั่งต่าง ๆ ที่มีอยู่ในดอสได้โดยผ่านทางWindows   ซึ่ง Windows จะง่ายต่อการใช้งานมากกว่าดอส 
     ระบบปฏิบัติการ windows ใช้หลักการแบ่งงานเป็นส่วน เรียกว่า หน้าต่างงาน (windows) ที่แสดงผลลัพธ์แต่ละโปรแกรม มีการผลิตและจำหน่ายหลายรุ่น เช่น .....

ระบบปฏิบัติการวินโดวส์95 :::: Smiley
ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 95 พัฒนาโดยบริษัทไมโครซอฟต์ และวางจำหน่ายในช่วงปลายปี 1995 เป็นซอฟต์แวร ์ที่ใช้กับเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ทั่ว ๆ ไป ที่มีคุณลักษณะฮาร์ดแวร ์และหน่วยความจำ สูงกว่าระบบปฏิบัติการดอส ต้องใช้ซีพียูที่มีความเร็ว ในการประมวลผลด้วย ตัวโปรแกรมต้องใช้พื้นที่ฮาร์ดดิสก์ประมาณ 40 MB มีรูปแบบการติดต่อกับผู้ใช้ (User Interface) เป็นภาพกราฟิก ทำให้ง่าย และสะดวกต่อการใช้งานยิ่งขึ้น (Friendly User Interface)
          วินโดวส์ 95 ติดต่อกับผู้ใช้โดยใช้ภาพกราฟิก การใช้งานควบคุมโปรแกรม โดยใช้เมาส์เป็นส่วนใหญ่ ผู้ใช้ไม่ต้องจำคำสั่ง สะดวกต่อการใช้งานมาก นอกจากนั้นยังมี DOS Prompt ให้สามารถใช้คำสั่ง ที่จำเป็นของดอสในวินโดวส์ 95 ได้อีกด้วย ความสามารถของวินโดวส์ 95 คือเตรียมโปรแกรม สำหรับการควบคุม การเชื่อมต่ออุปกรณ์ภายนอก ไว้จำนวนมาก สามารถตรวจสอบอุปกรณ์ ที่นำมาเชื่อมต่อใหม่ได้อย่างอัตโนมัติ ทำให้ผู้ใช้สะดวกอย่างมาก ในการติดตั้งอุปกรณ์ใหม่ เข้ากับคอมพิวเตอร์ การทำงานในลักษณะนี้เรียกว่า Pnp (Plug and Play) นอกจากนี้ยังมีความสามารถ จัดการในการเชื่อมต่อเป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ แบบจุดต่อจุด (Peer-to-Peer) เพื่อใช้ทรัพยากรของระบบเครือข่ายร่วมกัน

ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 98 :::: Smiley
วินโดวส์ 98 เป็นระบบปฏิบัติการ ที่มีความสามารถสูง พัฒนาต่อเนื่องมาจาก วินโดวส์ 95 สามารถทำงานแบบหลายงาน (Multi-Tasking OS) มีผู้ใช้ในระบบเพียงคนเดียว แบบ Single- User OS ได้ อีกทั้งยังสามารถ นำไปใช้กับไมโครคอมพิวเตอร์ได้ทั่วไป เรียกว่าเป็นแบบ Generic Operating System การทำงานของวินโดวส์ 98 ติดต่อกับผู้ใช้แบบ Graphic User Interface (GUI) เช่นเดียวกับวินโดวส์ 95 แต่ปรับรูปแบบให้ดูสวยงาม อัตโนมัติยิ่งขึ้น มีความสามารถ ในการเชื่อมต่อ กับระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ได้สะดวกยิ่งขึ้น มีโปรแกรมที่เป็นเครื่องมือ สำหรับการสืบค้นข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต มาพร้อมคือโปรแกรม Internet Explore
          ข้อด้อยของโปรแกรม ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 98 คือ ต้องการทรัพยากรของระบบ ได้แก่ หน่วยประมวลผล หน่วยความจำ ฮาร์ดดิสก์ อุปกรณ์มัลติมีเดียสูง คอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพต่ำ ไม่สามารถติดตั้งวินโดวส์ 98 ได้ แต่มีข้อดีคือ ผู้ใช้สามารถใช้งานได้อย่างสะดวก มากกว่าวินโดวส์ 95 มีซอฟต์แวร์ประยุกต์ต่าง ๆ สนับสนุนทำงานบนระบบวินโดวส์ 98 เป็นจำนวนมาก รองรับการใช้งาน ด้านอินเทอร์เน็ตได้เป็นอย่างดี























ระบบปฏิบัติการ Windows ME :::: Smiley
Windows ME (Windows Millennium Edition) เป็นระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาจาก ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 95และ98 ซึ่งออกแบบมาให้เหมาะสม กับผู้ใช้ตามบ้าน เป็นระบบปฏิบัติการที่ทันสมัย ฉลาด และเข้าใจผู้ใช้ มากกว่าวินโดวส์ 95 และวินโดวส์ 98 หน้าตาของ Windows ME จะมีรูปลักษณ์เหมือนวินโดวส์ 98 มาก แต่มันมีคุณลักษณะพิเศษ ที่เหนือกว่าเดิมมาก เช่นสามารถสร้างระบบเครือข่าย ภายในบ้านได้ นอกจากนี้ยังมีความสามารถ ด้านอินเทอร์เน็ต และมัลติมีเดีย มากกว่าวินโดวส์ 98 อีกด้วย

ระบบปฏิบัติการ Windows 2000 :::: Smiley
Windows 2000 เป็นระบบปฏิบัติการ ที่เกิดขึ้นมาเพื่อตอบสนอง ระบบเครือข่าย และเป็น OS ที่สร้างขึ้นมาเป็น GUI ตั้งแต่ต้น ดังนั้นการนำ Application เดิม ๆ ที่เคยใช้กับระบบปฏิบัติการดอส หรือโปรแกรม ที่สั่งงานฮาร์ดแวร์โดยตรง มาใช้บนระบบปฏิบัติการ วินโดวส์2000 อาจไม่ยอมทำงานให้ แต่การทำงานระบบ Multi-Tasking และ Multi-User ใช้งานได้ดีกว่าตระกูล วินโดวส์ 95 และ 98 โดยทำการควบคุม ขบวนการทำงาน ของแต่ละโปรแกรมได้ดีขึ้น

ระบบปฏิบัติการ Windows XP :::: Smiley
WindowsXP เป็นระบบปฏิบัติการ ที่เริ่มวางตลาดในปี ค.ศ. 2001 โดยตั้งชื่อ ให้รับกับการเปลี่ยนแปลงล่าสุดว่า Microsoft Windows XP โดยคำว่า XP ย่อมาจาก experience แปลว่ามีประสบการณ์ โดยทางบริษัทผู้สร้าง กล่าวว่าการตั้งชื่อเช่นนี้ มีเหตุผลมาจากที่ต้องการสื่อให้เห็นถึงการ ได้รับประสบการณ์ใหม่ ๆ จากการใช้ Windows XP ทุก ๆ ประมาณ 2 ปี บริษัทไมโครซอฟต์ผู้ผลิตโปรแกรมวินโดวส์ จะวางตลาดวินโดวส์รุ่นใหม่ ๆ โดยได้ใส่เทคโนโลยีที่ทันสมัย และเปลี่ยนแปลง สิ่งที่เป็นข้อด้อยของวินโดวส์รุ่นเก่า เพราะฉะนั้น ผู้ที่ต้องการเทคโนโลยีใหม่ ๆ Windows XP มีจุดเด่นและความสามารถมากมาย ไม่ว่าจะเป็นระบบใช้งานที่ดูสวยงาม และง่ายกว่าวินโดวส์รุ่นเก่า ๆ มีระบบช่วยเหลือในการปรับแต่งมากมาย เช่นระบบติดตั้งฮาร์ดแวร์ ติดตั้งเครือข่าย และสร้างผู้ใช้ในเครือข่าย การสร้างแฟกซ์ด้วยคอมพิวเตอร์ นอกจากนี้ยังมีโปรแกรมรุ่นใหม่ แถมมาให้หลายโปรแกรม เช่นโปรแกรมดูหนังฟังเพลง (Windows Media Player 8)และโปรแกรมท่องโลกอินเทอร์เน็ต (Internet Explorer 6) เหมาะสำหรับนักคอมพิวเตอร์มือใหม่ และผู้ใช้งานทั่วไปอย่างยิ่ง
             Windows XP มีให้เลือกใช้สองรุ่นคือ Windows XP Home Edition ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ใช้งานตามบ้าน ที่ไม่เชื่อมต่อกับเครือข่าย และอีกรุ่นคือ Windows Xp Professional Edition ซึ่งเหมาะกับผู้ใช้งานในองค์กร ตั้งแต่ขนาดเล็กถึงขนาดใหญ่ เนื่องจากสามารถเชื่อมต่อกับระบบเครือข่ายได้ดี คนที่ใช้วินโดวส์เวอร์ชั่น XP จะต้องใช้เครื่องที่มีทรัพยากรมาก เช่น ซีพียู เพนเทียม 300 MHz ขึ้นไป แรมไม่ต่ำกว่า 128 MB ฮาร์ดดิสก์เหลือกพื้นที่ว่างมากกว่า 1.5 GB เป็นต้น

ระบบปฏิบัติการ Microsoft Windows Vista :::Smiley
เป็นโปรแกรมระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ล่าสุดจากไมโครซอฟท์ ที่พัฒนาต่อมาจาก Microsoft Windows XP และ Microsoft Windows Server 2003 ที่ได้รับการปรับปรุงและพัฒนาให้มีความล้ำสมัย ทั้งรูปร่างหน้าตา (Interface) และฟังก์ชั่นการใช้งานต่างๆ นอกจากที่ Vista จะมีความพิเศษในเรื่องฟังก์ชั่นต่างๆ แล้ว ไมโครซอฟท์ได้ปรับปรุงเรื่องความปลอดภัยและเน็ตเวิร์คให้สามารถทำงานได้มี ประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ปัจจุบันได้วางจำหน่ายให้กับองค์กรธุรกิจวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2549 และวางจำหน่ายให้กับผู้ใช้ทั่วไปวันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2550 ไมโครซอฟท์ประกาศใช้ชื่อ Microsoft Windows Vista อย่างเป็นทางการแก่สื่อมวลชนในวันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2548 แทนที่ชื่อรหัส ลองฮอร์น (Longhorn) โดยคำว่า วิสตา ในภาษาอังกฤษ หมายถึงมุมมอง หรือทิวทัศน์

ระบบปฏิบัติการ Windows 7 ::::Smiley

Windows 7 คือ ระบบปฏิบัติการตัวใหม่ล่าสุดจากไมโครซอฟท์ มีกำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 22 ตุลาคม  2009 หลังจากที่วางจำหน่าย Windows Vista ซึ่งทำยอดขายได้สูงมาก (แต่ผลตอบรับไม่ค่อยน่าพอใจ) ในช่วง 2 – 3 ปี ที่ผ่านมา โดย Windows 7 นี้นับได้เป็นระบบปฏิบัติการรุ่นที่ 7 ของไมโครซอฟท์ นับตั้งแต่ Windows 1.0 เป็นต้นมา


ระบบปฏิบัติการ Windows 8


Windows ทีครองตลาดในเมืองไทยในตอนนี้มีอยู่สองรุ่นคือ xp และ 7เมื่อ Windows 8 เข้ามาหลายคนจึงเกิดความสงสัยว่าควรเปลี่ยนดีหรือไม่?เปลี่ยนไปแล้วจะได้อะไรเพิ่ม? หรือจะใช้ Windows ตัวเก่าดี แล้วข้อดี-ข้อเสียของ Windows 8 มีอะไรบ้าง?

ข้อดี

- การบูต Windows 8 ด้วย HDD แบบ SSD ใช้เวลาบูตเครื่อง 7 วินาทีเร็วกว่า Windows 7 ที่บูต 17 วิ เกือบ 10 วินาที!!

- Live Tile อัพเดทอัตโนมัติในส่วนของ Live Tile ที่เทียบได้กับ Desktop ของ Windows 7ผู้ใช้สามารถปรับแต่งให้เรื่องที่เราต้องการอัพเดทมาอยู่ในหน้านี้ได้ไม่ว่าจะเป็นกล่องจดหมายจาก Email,ราคาหุ้น,สภาพอากาศข้อความทวีต,Facebook,รูปถ่ายในเครื่อง,สกายไดรฟ์ ฯลฯช่วยให้ผู้ใช้สามารถเห็นการอัพเดททุกอย่างได้ในหน้าจอเดียวเข้าถึงโปรแกรมต่างๆง่ายขึ้นด้วย Live Tileปกติการที่ผู้ใช้จะกลับมาหน้า Desktop ใน Windows 7 หรือ XPหากไม่มีไอคอน Desktop ก็ต้องไล่ย่อหน้าจอที่ใช้งานอยู่ให้หมดเพื่อที่จะกลับมาเลือกโปรแกรมที่ต้องการในหน้า Desktopบางคนอาจจะใช้ปุ่ม Home แล้วเลื่อนเม้าส์มาคลิกโปรแกรมที่ต้องการแทนในWindows8 เพียงแค่กดปุ่ม Homeก็สามารถกลับไปที่หน้าจอ Live Tile เพื่อเลือกโปรแกรมต่างๆได้ทันทียิ่งถ้าเป็นหน้าจอสัมผัสด้วยแล้วการเลือกโปรแกรมจะยิ่งง่ายขึ้นไปอีกด้วยการเอานิ้วจิ้มเพื่อเลือกได้อย่างรวดเร็ว

-Internet Explorer 10 สวยงามและไม่ช้าเหมือนเคยภาพลักษณ์ของ IE ที่คุ้นตาคนทั่วโลกคือเบราเซอร์ที่ช้า ดูโบราณ และไม่มีใครอยากใช้แต่ IE 10 มาพร้อมกับภาพลักษณ์ที่ดูทันสมัยและความเร็วก็ไม่ได้แย่ไปกว่าเบราเซอร์ตัวอื่นๆในตลาดเลยทีเดียวกินแรมน้อยลงWindows 7 ใช้แรมไป 1013 MB ส่วน Windows 8 ใช้ไป 981 MB
Windows 8 จึงเฉือนชนะไปเล็กน้อยที่ประมาณ 32 MBทำงานร่วมกับอุปกรณ์อื่นๆที่เป็น Windows 8 เหมือนกันได้สะดวก
การซิงค์ข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ต่างๆที่ใช้ Windows 8 ไม่ว่าจะเป็นSmart Phone,PC,Note Book,Tablet,Xbox  โดยผู้ใช้เอง
สามารถทำได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น ไม่ต้องมีการแปลงไฟล์ให้วุ่นวายเช่น ไฟล์เอกสารอย่างเวิร์ดที่ผู้ใช้สามารถดูและแก้ไขได้เสมอไม่ว่าจะใช้อุปกรณ์อะไรอยู่ก็ตามอีกทั้งนักพัฒนาแอพเองก็สามารถทำแอพได้อย่างคุ้มค่าเพราะเขียนออกมาแค่ครั้งเดียวแต่สามารถรันได้หมดทุกอุปกรณ์ทำให้ประหยัดทั้งเงินและเวลาในการเขียนแอพลงไปมากจึงเป็นสิ่งที่ดึงดูดนักพัฒนาแอพให้เขียนแอพมาลง Windows Store กันมากขึ้น

-ปรับปรุง Task ManagerTask Manager ที่ใช้เพื่อดูการทำงานของ Windowsและใช้แก้ปัญหาโปรแกรมค้างต่างๆได้รับการปรับปรุงให้ดูดีขึ้นอีกทั้งยังใช้งานได้หลากหลายกว่าเดิมโปรแกรมและเกมใดๆที่สามารถรันบน Windows7 ได้ก็สามารถรันบน Windows 8 ได้การอัพเดทครั้งนี้หลายคนกลัวว่าเกมหรือโปรแกรมที่เคยใช้งานจะใช้ไม่ได้แต่ผู้ใช้ไม่ต้องเป็นกังวลในจุดนี้ขอเพียงเราสามารถรันโปรแกรมใดๆบน Windows7 ได้การรันบน Windows8 ก็สามารถทำได้ไม่มีปัญหาเช่นกัน

ข้อเสีย

-การใช้เมาส์บนหน้าจอ Live Tile เป็นเรื่องยากผู้ใช้ที่เคยชินกับการใช้งาน Windows 7 ที่ต้องใช้เมาส์เป็นประจำ
อาจจะหงุดหงิดกับการเลื่อนเมาส์เพื่อเลือกไอคอมบนหน้าจอ Live Tileได้
เพราะ Windows 8 ออกแบบมาให้เหมาะกับการ Touch มากกว่าใช้เมาส์วิธีแก้คือให้ใช้คีย์บอร์ดลูกศรแทนหากไม่ใช่หน้าจอทัชสกรีนจากการทดสอบดูพบว่าความเร็วในการเข้าถึงโปรแกรมที่ต้องการด้วยปุ่มลูกศรทำเวลาได้น้อยกว่าการทัชอยู่ไม่มากเท่าใดเว้นเสียแต่ว่าโปรแกรมที่ต้องการจะอยู่หน้าลึกๆที่ปุ่มลูกศรจะหาโปรแกรมได้ยากกว่าการทัชพอสมควรต้องใช้เวลาในการเรียนรู้เยอะมาก Windows 8 มีปุ่มคีย์ลัดจำนวนมากที่ทำให้ผู้ใช้ใช้งานได้ง่ายขึ้นข้อเสียคือหากไม่รู้หรือจำไม่ได้  Windows 8 จะเป็น OS ที่น่าหงุดหงิดสุดๆเช่น การเปิดแถบ Charm ด้านขวามือที่ต้องเลื่อนเมาส์หรือทัชไปที่มุมขวาบนถ้าเมาส์ไม่แม่นจริงบางครั้งแถบ Charm ก็ไม่โผล่มาทำให้การใช้เมาส์ลำบากกว่าการทัชเยอะคีย์ลัดจึงเข้ามามีบทบาทในจุดนี้เมื่อผู้ใช้กดปุ่ม Window+C แถบ Charm ก็จะโผล่มาทันทีซึ่งคีย์ลัดนี่แหละที่ทำให้ PC สามารถใช้ Windows8ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพไม่แพ้แทบเล็ตหรีอ Hybrid เลยแต่ก็เพราะคีย์ลัดมีเป็นจำนวนมาก ทำให้การใช้งาน Windows 8 ยุ่งยากขึ้นเยอะเพราะคีย์ลัดสำคัญๆมีเป็นสิบคีย์และผู้ใช้ก็ควรจะจำให้ได้ด้วย เช่น

-แอพยังมีน้อยแอพใน Windows Store มีเพียงแค่ 9,000 กว่าแอพต่างกับ App Store ที่มีมากถึง 700,000 แอพ
ซึ่งกว่าที่ Window Store จะมีแอพรองรับมากขนาดนั้นคงต้องใช้เวลาอีกพักใหญ่เลยอยากใช้งานเต็มประสิทธิภาพ ยังไงก็ต้อง Touch Screenถึงแม้การใช้คีย์ลัดจะทำได้แต่สุดท้ายแล้วการทัชย่อมมีสะดวกและเร็วกว่าอยู่ดีWindows 8 สร้างมาเพื่อTablet ที่มีคีย์บอร์ดเป็นหลักหากจอที่ใช้ไม่ได้เป็น Touch Screen แล้วWindows 7 อาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่าในตอนนี้แต่ในอนาคตที่แอพมีเยอะขึ้น Windows 8 ก็ยังน่าสนใจกว่าอยู่ดี


ฟีเจอร์ที่น่าสนใจบน Windows 8.1

Windows 8.1?นำเสนอการพัฒนาที่ยกระดับการปรับแต่งการใช้งานให้เหมาะสมกับผู้ใช้งาน การปรับปรุงในแง่ฟังก์ชั่นการทำงาน และนวัตกรรมใหม่ๆ ดังนี้

-มีความเป็นส่วนตัวสูง?โดยหน้าจอเริ่มต้น (Start Screen)?ได้รับการปรับปรุงและสามารถปรับให้เหมาะสมตามใจผู้ใช้งานได้ ประกอบด้วยตาราง (Tiles)?บนหน้าจอที่มีหลากหลายขนาด?แบ็คกราวด์ดีไซน์และสีสันที่มีให้เลือกหลากหลายมากขึ้น ทำให้หน้าต่างดีไวซ์ของผู้ใช้ ?วินโดวส์ 8.1?มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และมีความเป็นส่วนตัว นอกจากนี้ผู้ใช้งานยังสามารถเลือกวิธีในการเริ่มต้นใช้วินโดวส์ได้ โดยตั้งค่าเริ่มต้นใช้งานที่?Start Screen?หรือ เริ่มต้นที่หน้าจอเดสก์ท็อป วินโดวส์ อย่างที่คุ้นเคย

-คุ้นเคยยิ่ขี้น และง่ายต่อการใช้งาน?Windows 8.1?ได้นำปุ่มเริ่มต้นการใช้งาน?(Start button)?ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของวินโดวส์ที่ทุกคนคุ้นเคยกลับมาสำหรับการเริ่มใช้งาน ส่วนฟังก์ชั่น?All Apps?View?ช่วยให้ผู้ใช้เห็นแอพพลิเคชั่นทั้งหมดในครั้งเดียวเพื่อให้เข้าถึงได้ง่ายมากขึ้น และระบบคลิ๊กเพื่อสั่งการ (Clicks and Cues)?แบบใหม่??รวมทั้งแอพพลิเคชั่นให้ความช่วยเหลือและคำแนะนำ (Help and Tips app)?ที่ช่วยให้คุณใช้งานได้อย่างรวดเร็ว

-พัฒนาการค้นหา ผ่านระบบบิง สมาร์ท เสิร์ช (Bing Smart Search)?ใหม่ ?วินโดวส์ 8.1?มอบวิธีการค้นหาที่ง่ายที่สุดในเครื่องคอมพิวเตอร์หรือบนเว็บ โดยแสดงผลของการค้นหาแบบภาพรวมที่ทั้งสวยงามและง่ายดาย เพียงแค่สัมผัสหรือพิมพ์จากหน้าจอเริ่มต้น และ?Smart Search?จะค้นหาสิ่งที่ผู้ใช้ต้องการเอง ไม่ว่าจะเป็นเอกสารบนพีซี อัลบั้มรูปภาพบนคลาวด์ แอพพลิเคชั่นโปรด หรือเว็บไซต์?

-ความหลากหลายของแอพพลิเคชั่นและบริการต่างๆ ตั้งแต่เริ่มต้น?Windows 8.1?เป็นประสบการณ์นอกกรอบที่สมบูรณ์แบบที่สุด โดยการมอบแอพและบริการต่างๆ ที่หลากหลายตั้งแต่หน้าจอเริ่มต้น ทำให้ทุกคนสามารถทำสิ่งต่างๆ ที่ชอบบน ?วินโดวส์ 8.1?ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย อาทิ

  • การใช้วิดีโอแชทกับคนที่คุณรักผ่านทาง?Skype
  • การใช้งานอีเมลที่แสนง่ายดายด้วยแอพ?Mail
  • การชมภาพยนตร์และวิดีโอทีวีบน?XBox Video
  • การเขียนโครงการด้วย?Office
  • การค้นหาสูตรอาหารใหม่ๆ ด้วยแอพ?Bing Food and?Drink?หรือ
  • การฟังดนตรีฟรีแบบสตรีมมิ่งผ่าน?Xbox Music

นอกจากนี้?Windows 8.1?ยังมาพร้อมกับเว็บบราวเซอร์?Internet Explorer 11 (IE11)?ใหม่ ที่ใช้งานได้อย่างรวดเร็วและไหลลื่น??และเป็นบราวเซอร์เดียวที่ตั้งต้นออกแบบมาเพื่ออุปกรณ์ระบบสัมผัสIE11?รองรับการทำงานบนระบบสัมผัสอย่างเต็มประสิทธิภาพ เพิ่มความเร็วในการใช้งาน และเชื่อมต่อประวัติการเข้าชมเว็บไซด์?(browsing history),?รายการโปรด (favorites)?และระบบการตั้งค่า?(Setting)?ผ่านดีไวซ์?Windows 8.1?ที่คุณใช้ทั้งหมด??และ ?วินโดวส์ 8.1?ยังเป็นระบบปฏิบัติการระบบแรกและระบบเดียวที่รองรับการพิมพ์แบบ?3D?โดยจะมีระบบรองรับแบบ?plug-and-playสำหรับเครื่องพิมพ์?3D?ทำให้แอพพลิเคชั่นต่างๆ พิมพ์งาน?3D?ได้อย่างไร้ที่ติ และสามารถอ่านไฟล์รูปแบบ?3D

-Windows 8.1?เหมาะสำหรับการทำงานหลายๆ อย่างในเวลาพร้อมกันและการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน?รวมถึงการแสดงผลและใช้งานได้สูงสุดถึง?4?แอพพลิเคชั่น ในเวลาเดียวกัน สามารถปรับขนาดหน้าต่างของแต่ละแอพพลิเคชั่นบนหน้าจอได้ ความสามารถสำหรับแอพพลิเคชั่นหนึ่งที่จะในการเปิดอีกแอพพลิเคชั่นหนึ่ง และการรองรับหน้าจอหลายๆ จอทำให้ผู้ใช้เห็นเดสก์ท็อป หรือแอพต่างๆ บน วินโดวส์ สโตร์ จากหน้าจอใดหน้าจอหนึ่งหรือทั้งหมดได้บน??วินโดวส์ 8.1

-การทำงานได้ครบวงจรบนคลาวด์ด้วย?SkyDrive?ทำให้ผู้ใช้ ?วินโดวส์ 8.1?สามารถทำงานได้จากทุกที่ สะดวกกว่าแต่ก่อน สามารถเข้าถึงไฟล์ได้เสมอไม่ว่าจะผ่านดีไวซ์หรือสถานที่ใดก็ตาม ด้วย?SkyDrive Smart Files?ผู้ใช้สามารถสร้าง แก้ไข เก็บรักษา และแชร์ไฟล์ ที่ใดก็ได้ เมื่อใดก็ได้ บนอุปกรณ์ใดก็ตามที่กำลังใช้งานอยู่

-วินโดวส์ สโตร์ ที่ออกแบบใหม่อย่างสวยงาม?ดีไซน์ใหม่ของ วินโดวส์ สโตร์ บน ?วินโดวส์ 8.1?ได้ปรับปรุงวิธีการแสดงแอพพลิเคชั่นเด่นๆ ทำให้คุณเข้าถึงแอพพลิเคชั่นที่ต้องการได้ง่ายขึ้น การจัดวางหน้าจอและจัดหมวดหมู่แอพพลิเคชั่นแบบใหม่ เช่น หมวด??New & Rising??ช่วยให้ง่ายขึ้นในการติดตามแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ ที่กำลังฮอตที่สุด,?ระบบการแนะนำแอพพลิเคชั่นที่ปรับให้เหมาะสมกับผู้ใช้งาน ?วินโดวส์ 8.1?โดยใช้ระบบการแนะนำที่ล้ำสมัยของ?Bing?และระบบที่เกี่ยวข้อง ในการช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นหาแอพพลิเคชั่นโปรดใหม่ๆ,?นอกจากนี้ แอพพลิเคชั่นต่างๆ จะได้รับการอัพเดตโดยอัตโนมัติในWindows?8.1?ดังนั้นผู้ใช้จะมีแอพพลิเคชั่นเวอร์ชั่นใหม่ที่สุดและดีที่สุดเสมอ จากนักพัฒนาที่มีชื่อเสียง รวมทั้งมีแอพพลิเคชั่นอย่างเป็นทางการจากFacebook, National Geography?และ?Thai Dictionary?ซึ่งจะนำแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ มาอัพเดทบนวินโดวส์ สโตร์ อย่างต่อเนื่อง

โดยไฮไลท์ของ Windows 10 ก็คือ การออกแบบที่ใช้งานง่ายและปลอดภัยต่อภาคธุรกิจมากยิ่งขึ้น เช่นปรับปรุงในส่วนของ User experience , เพิ่มเติมในส่วนของระบบรักษาความปลอดภัยให้ดียิ่งขึ้น และเพิ่มความสามารถในการจัดการได้ง่ายขึ้นจากตัวผู้ใช้เอง พร้อมกันนั้นยังมีการกลับมาของปุ่ม Start Menu นอกจากนี้แอปที่อยู่ในหน้า Metro , รวมไปถึงแอปต่างๆใน Windows Store ก็จะสามารถเปิดใช้งานเป็นหน้าต่างแบบปกติที่ย่อขยายได้แล้วทำให้ไม่ต้องเสียพื้นที่เต็มหน้าจออีกต่อไป

windows 10 logo 600

เช่นกันระบบ Task View ที่เปรียบเสมือนกับการพรีวิวแต่ละโปรแกรมที่เปิดใช้งานด้วย Windows 10 ที่คล้ายๆ กับการกด Alt+Tab ครับ ให้คุณเข้าถึงงานต่างๆที่เปิดค้างไว้อยู่ได้ แต่จะเหนือกว่าด้วย Snap enhancements ที่ให้คุณแบ่งหน้าจอใช้งานMultiple Desktop ได้สูงสุด 4 จอพร้อมกันให้เพื่อนทำงานไปด้วย เล่นเกมไปด้วย เล่นเว็บไปด้วยพร้อมๆกันได้ด้วยโดยไม่เหลือเนื้อที่ส่วนเกิน ส่วนผู้ที่ต้องใช้งานระบบสัมผัสเป็นหลักก็ไม่ต้องเป็นห่วงครับเพราะ Windows 10 ยังคงได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับการทำงานด้วยระบบสัมผัสเช่นเดียวกับ Windows 8 ครับ นอกเหนือจากนี้ Windows 10 จะเป็นระบบปฏิบัติที่ออกแบบมาให้รองรับหลายแพลตฟอร์มพร้อมรองรับกับอุปกรณ์ทุกประเภท ตั้งแต่เครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กๆ ไปจนถึงเครื่อง Xbox One กันเลยละครับ และระบุว่าทั้งหมดจะมี Store ร่วมกัน สำหรับทุกอุปกรณ์ และแอพพลิเคชันทุกตัวที่สร้างบน Windows 10 จะสามารถทำงานร่วมกันได้ด้วย

Windows 10 Nine things you need to know 01 600

สรุปในภาพรวมฟีเจอร์และส่วนที่พัฒนาเพิ่มขึ้นมานั้นประกอบไปด้วย

  • หน้าตาโดยรวมของ Windows 10 จะคล้ายกับ Windows 8.1
  • ปุ่ม Start ของ Windows 10 จะเปิด Start Menu ในหน้าเดสก์ท็อปได้แล้ว แต่หน้าตาเหมือนกับบน Windows 7 ที่เพิ่ม Start Screen หรือหน้า Metro เข้ามา และสามารถค้นหาได้ทันที
  • สามารถปิดเครื่อง หรือรีสตาร์ตได้จาก Start Menu เช่นกัน
  • Live Tiles บน Start Menu สามารถปรับขนาดได้เหมือนกับบน Start Screen
  • แอพแบบเดิม (Windows 7 ลงมา) สามารถเปิดอยู่บนหน้าเดียวกันกับแอพแบบใหม่ และสามารถใช้ฟีเจอร์ Snap View ได้ในหน้าเดียวกันได้ด้วย
  • หน้ารวมแอพที่ทำงานอยู่ (task manager) ถูกเพิ่มเข้ามาพร้อมชื่อใหม่ Task View ซึ่งจะเป็นปุ่มใหม่อยู่บน Taskbar
  • Task View จะแสดงแอพที่เปิดไว้ตรงกลางหน้าจอในสถานะล่าสุด พร้อมฟีเจอร์ใหม่ Snap Assist UI สำหรับเลือกแอพที่รันอยู่ใน Task View มาจัดตำแหน่งแบบ Snap View
  • Charm bar ยังอยู่ที่เดิม บริเวณขอบขวา เพื่อให้ผู้ใช้หน้าจอสัมผัสยังคงเรียกเมนูหลักได้สะดวก และสามารถเรียก Task View ได้ด้วยการปาดนิ้วไปทางซ้าย
  • หน้า Start Screen ใหม่ แบ่งเป็นสองส่วน ซีกขวาเป็นเหมือนเดิม แต่ซีกซ้ายจะโชว์แอพแบบทัมป์เนลเข้ามาด้วย
  • ลูกค้าองค์กรจะปรับแต่ง Store เองได้
  • Windows 10 ได้ปรับปรุงแอพพื้นฐานที่มาด้วยกันให้ใช้งานได้สะดวกขึ้นอีกด้วย ตั้งแต่แอพอย่าง Command Prompt สามารถใช้ Ctrl+V เพื่อ paste ได้แล้ว
  • Windows 10 จะสามารถรันบนอุปกรณ์ที่หลากหลายได้ตั้งแค่เครื่องคอมฯขนาเล็กไปจนถึง Xbox
  • อุปกรณ์ที่รัน Windows 10 จะมีตั้งแต่จอ 4 นิ้วไปจนถึงจอ 80 นิ้ว รวมถึงอุปกรณ์ที่ไม่มีหน้าจอด้วย
  • ระบบอินพุทข้อมูลหลากหลายขึ้น ทั้งการสัมผัสด้วยนิ้ว ปากกา คีย์บอร์ด เมาส์ จอยเกม ท่าทางร่างกาย (Gesture) และอุปกรณ์หลายๆตัวสามารถสลับอินพุทได้หลายแบบ
  • ไมโครซอฟท์จะไม่ใช้ UI เดียวกันกับอุปกรณ์ทุกประเภท แต่จะปรับแต่งประสบการณ์ใช้งานให้เหมาะสมตามแต่ละอุปกรณ์ เช่นคอมฯอาจจะเป็นหน้า Desktop แต่ Mobile อาจจะเป็นหน้า Metro แทน โดย Windows 10 อาจจะมัรุ่นย่อยบนอุปกรณ์ต่างๆ ออกมาด้วยแต่ใช้พื้นฐานในแบบเดียวกันเพื่อประสบการณ์ใช้งานที่ไม่แตกต่างกัน
  • ระบบปฏิบัติการ Windows 10 รุ่นย่อยทุกตัวจะใช้แพลตฟอร์มการพัฒนาแอพพลิเคชั่นเดียวกัน (one platform) และใช้ Store เดียวกันทั้งหมด (one store) เพื่อให้นักพัฒนาทำงานได้ง่ายขึ้น
  • ช่วงแรกนี้ ไมโครซอฟท์จะโชว์พรีวิว Windows 10 สำหรับเดสก์ท็อปและโน้ตบุ๊กก่อน และเน้นฟีเจอร์ด้าน enterprise ก่อน จากนั้นจะตามมาด้วยฟีเจอร์ฝั่งคอนซูเมอร์ช่วงต้นปี 2015 และประกาศรายละเอียดจริงจังในงาน Build (ราวเดือนเมษายน 2015)
  • Windows 10 จะออกรุ่นจริงในปี 2015 ในฝั่งของเดสท็อปและขยายตัวไปยังอุปกรณ์แบบใหม่ๆ ในภายหลัง
    ด้วยเหตุผลว่า Windows รุ่นใหม่จะเป็นก้าวใหม่ของไมโครซอฟท์ เลยไม่อยากตั้งชื่อนับเลขตามขั้นปกติ (incremental) จึงตัดสินใจตั้งเลขข้ามเป็น Windows 10 ให้เห็นความแตกต่าง

Windows 10 Nine things you need to know 03 600

4 เรื่องน่าสนใจใน Windows 10 เวอร์ชั่นล่าสุด
Windows 10 กลายเป็นชื่้อของระบบปฏิบัติการรุ่นล่าสุดของทาง Microsoft โดยที่ทางภายในของไมโครซอฟท์เลือกใช้เป็นชื่อของการระบบก่อนมีการเปลี่ยนแปลง โดยข้ามเลข Windows 9 เพื่อก้าวสู่การพัฒนาใหม่ในไม่ช้านี้ ซึ่ง Windows 10 นี้ มาพร้อมกับการอัพเดต Start Menu, Notification Center และรองรับระบบ Virtual Desktop อีกด้วย แต่ก่อนหน้านี้มีข่าวลืมว่าจะมีการถอดเอา Charm Bar ออกจากระบบปฏิบัติการใหม่นี้ แต่ล่าสุดยังคงมีการพบฟีเจอร์ดังกล่าวอยู่บนระบบนี้อยู่เช่นเดิมด้วยเช่นกัน นอกจสกนี้ยังมีเรื่องราวของ Windows 10 อีกหลายเรื่องที่น่าสนใจ ลองมาดูกันดีกว่า ว่ายังมีสิ่งใดที่เกี่ยวของกับ Windows 10 นี้ ที่น่าติดตามกัน

Windows_8.1_start_screen_alt_610x385

การเปิดตัวของ Windows 10
การเปิดตัวอย่างไม่เป็นทางการจากไมโครซอฟท์ Windows 10 เป็นข่าวออกมาเมื่อวันที่ 15 เมษายน 2015 โดยที่ Windows 10 นั้น เป็นการพัฒนาจากความสำเร็จของ Windows 8 ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ซึ่งมีโอกาสเป็นไปได้สูงว่า Windows 10 นี้ จะมีการเปิดตัวใน 3 ระดับ เช่นเดียวกับ Windows 8

  • สเตปแรกจะเป็น Windows 10 Enterprise Technical Preview ซึ่งเป็นเวอร์ชั่น Beta สำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์และนักทดสอบ ซึ่งเวอร์ชั่นดังกล่าวนี้ มีการเปิดตัวเมื่อช่วงประมาณ 1 ตุลาคม 2014
  • สเตปสองที่มีความคล้ายคลึงกันก็คือ Windows 10 Consumer Preview หรือที่เราคุ้นกันใน Windows 10 RC (Release Candidate) ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นที่เข้าใจกันดีว่าเป็นแบบ จำกัดเวลาในการใช้งาน ซึ่งไมโครซอฟท์เปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปได้ทดลองใช้งานกันในวงกว้าง เพื่อผลตอยรับจากการใช้งานและกระแสจากผู้ใช้นั่นเอง
  • สเตปที่สาม ซึ่งอาจเป็นขั้นตอนสุดท้ายของ Windows 10 ซึ่งเป็น Final Copy ก็จะถูกนำส่งกลับไปยังไมโครซอฟท์และบรรดาผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ในรูปแบบของ Windows 10 RTM โดยเวอร์ชั่นนี้ จะเป็น Windows 10 ที่มีความพร้อมสมบูรณ์ คาดว่าจะอยู่ในช่วง เมษายน 2015
    โดยที่ Windows 10 นี้จะจะกลายเป็น ระบบปฏิบัติการล่าสุดของไมโครซอฟท์ ที่มีขนาดเล็กและได้รับการปรับปรุง รวมถึงการอัพเดตที่ดีที่สุดสำหรับการใช้งานในอนาคต

windows10-start menu3

Windows 10 มีกี่เวอร์ชั่น
มีข่าวลือว่าจะมีการเปิดตัวออกมาใน 3 เวอร์ชั่นด้วยกันคือ

  • Windows 10 (for inexpensive tablets; possibly called Windows 10 RT)
  • Windows 10 (for traditional PCs)
  • Windows 10 Enterprise
  • ด้วยความที่ไม่ชัดเจนในเรื่องดังกล่าว ไมโครซอฟท์ยังไม่มีการแบ่งออกมาให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรม ไม่ว่าจะเป็น Pro หรือ Standard หรือจะเป็นอื่นใด ซึ่งคงอาจจะดูผลตอบรับจากทางผู้ใช้ ที่ส่วนใหญ่เห็นว่าไม่ควรออกมาแบบที่เป็นตัวเลือกมากมายเกินไป ส่งผลต่อการตัดสินใจได้ยาก แต่สิ่งที่เห็นได้ง่ายที่สุดก็คือ ยังคงวางเวอร์ชั่นของ 32-bit และ 64-bit ไว้เช่นเดิม

Windows 10 กับความต้องการเบื้องต้นของระบบ
หลายคนที่กำลังจะเลือกเครื่องใหม่ ก็มักจะสนใจในวินโดวส์ตัวใหม่อย่าง Windows 10 นี้ด้วย แม้เวลานี้ไม่มีการแจ้งถึงความต้องการของระบบในการทำงานบน Windows 10 แต่ก็ยังคงใช้พื้นฐานของ Windows 8 มาใช้ได้เช่นกัน

  • CPU: 1 GHz with NX, PAE, and SSE2 support (CMPXCHG16b, PrefetchW, and LAHF/SAHF support for 64-bit versions)
  • RAM: 1 GB เป็นอย่างน้อย (2 GB สำหรับเวอร์ชั่น 64-bit)
  • Hard Drive: พื้นที่ว่างอย่างน้อย 16 GB (20 GB สำหรับในเวอร์ชั่น 64-bit )
  • Graphics: A GPU that supports at least DirectX 9 with a WDDM driver
    ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ก็จะดูเหมือนว่าความต้องการพื้นที่บนฮาร์ดดิสก์นั้น ก็ไม่ต่างไปจากกันมากนัก ระหว่าง Windows 10 และ Windows 8

windows10-recycle-bin

สิ่งที่คุณควรรู้สำหรับระบบปฏิบัติการ Windows รุ่นถัดไปอย่าง Windows 10
หากจะว่าไปแล้ว Windows 8 นั้นถือได้ว่าเป็นระบบปฏิบัติการที่ไม่ประสบความสำเร็จระบบปฏิบัติการหนึ่งของทาง Microsoft ครับ ถึงแม้ว่าระบบจะเสถียรแต่ทว่าการใช้งานต่างๆ ที่ Microsoft ยัดเยียดมาให้ผู้ใช้นั้นต่างก็ไม่ได้รับความนิยม ทำให้ผู้ใช้โดยส่วนมากยังยึดอยู่กับระบบปฏิบัติการรุ่นเก่าอย่าง Windows 7(หรือแม้กระทั่ง Windows XP ที่ Microsoft หยุดให้การสนับสนุนอัพเดทความปลอดภัยไปแล้ว) เวลาผ่านไปไม่นานมาก Microsoft ได้พยายามที่จะเรียกความเชื่อมมั่นกลับคืนมาจากผู้ใช้งานครับ โดยเมื่อวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมานี้ Microsoft พึ่งได้ทำการเปิดตัวระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่อย่าง Windows 10 ไป วันนี้ทีมงานมีข้อมูลที่ท่านควรรู้เกี่ยวกับ Windows 10 ที่พึ่งเปิดตัวไปมาให้ทุกท่านได้รับทราบกัน

Microsoft คาดไว้ว่าจะสามารถปล่อยระบบปฏิบัติการ Windows 10 เวอร์ชันสมบูรณ์(สำหรับผู้ใช้ในทุกระดับ) ออกมาได้ในช่วงปี 2015 ที่จะถึงนี้ครับ โดยกำหนดการนั้นน่าจะเป็นหลังจากงาน Build developer conference ที่ทาง Microsoft จะจัดขึ้นในช่วงเดือนเมษายน 2015 ทั้งนี้ค่าใช้จ่ายสำหรับระบบปฏิบัติการ Windows 10 เวอร์ชันสมบูรณ์นั้นยังไม่มีข่าวหลุดออกมาแต่อย่างใดครับว่าจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเท่าไรในการอัพเกรด

ถือว่าเป็นเรื่องแปลกพอสมควรครับที่ Microsoft ข้ามเลขระบบปฏิบัติการ Windows 9 ไป(ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีข่าวหนาหูว่าระบบปฏิบัติการรุ่นถัดไปคือรุ่น 9) แต่คาดว่าทาง Microsoft ต้องการที่จะให้ระบบปฏิบัติการ Windows 10 เป็นระบบปฏิบัติการตัวสุดท้ายที่มีความสมบูรณ์มากที่สุด ดังนั้น Microsoft จึงได้ข้ามตัวเลข 9 ไปเป็นเลข 10 เลย(คาดการณ์ว่าชื่อระบบปฏิบัติการ Windows 10 นี้ Microsoft อาจจะใช้ไปตลอดแต่ว่าจะออกอัพเดทให้กับระบบปฏิบัติการ Windows 10 นี้ต่อไปเรื่อยๆ แทนครับ

Menu-Start- Windows-10 (3)

Windows 10 ไม่ใช่ระบบปฏิบัติการสำหรับ PC Desktop เพียงอย่างเดียวครับ Windows 10 สามารถที่จะใช้งานได้บนอุปกรณ์อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น smartphone หรือ tablet โดยระบบปฏิบัติการ Windows 10 นั้นฉลาดมากพอที่จะรู้ว่าระบบถูกติดตั้งอยู่ในอุปกรณ์ชนิดใดแล้วก็จะทำการปรับการใช้งานให้เหมาะสมกับอุปกรณ์นั้นๆ ครับ

แอปพลิเคชันต่างๆ บนระบบปฏิบัติการ Windows 8 นั้นน่าจะสามารถตามมาใช้งานได้กับ Windows 10 ครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทาง Microsoft ก็ไม่ได้ให้รายละเอียดในเรื่องนี้มากสักเท่าไรนัก ผู้ใช้ทุกคนที่ซื้อแอปพลิเคชันบน Windows 8 ไปแล้วก็ย่อมต้องการที่จะให้แอปพลิเคชันนั้นสามารถรันบน Windows 10 ได้เช่นเดียวกัน ซึ่งตรงนี้ต้องขึ้นอยู่กับบรรดาผู้พัฒนาแล้วครับว่าจะอัพเดทแอปพลิเคชันของตัวเองให้เหมาะสมกับการใช้งานบน Windows 10 แล้วเปิดให้ผู้ใช้สามารถอัพเดทไปใช้แอปพลลิเคชันรุ่นใหม่ได้ฟรีๆ หรือไม่

การรันแอปพลิเคชันแบบ Modern ที่ใช้งานรูปแบบเต็มหน้าจอบน Windows 8(หรือ Metro style) นั้นจะยังคงตามมาใน Windows 10 ด้วยเช่นเดียวกันครับ แต่ทว่าในครั้งนี้ผู้ใช้สามารถที่จะทำการเลือกได้ว่าต้องการใช้งานแอปพลิเคชันนั้นแบบเต็มหน้าจอหรือว่าจะเลือกใช้งานในรูปแบบ Windows Mode ตัวอย่างของปัญหาเรื่องนี้ก็คือในกรณีที่คุณใช้อุปกรณ์ที่เป็นรูปแบบ 2-in-1 นั้น(เช่น Surface Pro 3) เมื่อคุณเชื่อมต่อเครื่องกับ keyboard dock คุณจะได้เห็นการทำงานในรูปแบบของหน้าจอ Desktop ปกติ แต่เมื่อคุณไม่ได้เชื่อมต่อเครื่องกับ keyboard dock คุณก็จะเห็นการทำงานที่อยู่ในรูปแบบของ Modern หรือรูปแบบการใช้งานที่เหมาะสมกับการสัมผัสนั่นเอง

windows-10 600

ตอนนี้ยังถือว่าเร็วไปที่จะบอกได้ว่าบรรดานักพัฒนาที่เคยพัฒนาแอปพลิเคชันแบบ Modern นั้นจะปรับตัวอย่างไรกับการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นดูเหมือนว่า Microsoft ก็จะได้แสดงวิธีการแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ไว้ด้วยการแสดงให้เห็นถึงการรันแอปพลิเคชันแบบ Modern ในรูปแบบของ Windows Mode ครับ คงต้องรอดูกันต่อไปครับว่า Microsoft จะทำให้แอปพลิเคชันแบบ Modern สามารถใช้งานในรูปแบบ Windows Mode ทั้งหมดได้หรือไม่

ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ไม่ชอบ(หรืออาจจะถึงขั้นเกลียด) หน้าจอ Start Screen ของ Windows 8 แล้วหล่ะก็ ตอนนี้คุณสบายใจได้แล้วครับเนื่องจากใน Windows 10 ได้ตัดตรงส่วนของ Start Screen ทิ้งไปเป็นที่เรียบร้อย และก็ต้อนรับการกลับมาของ Start Menu ที่ได้รับการอัพเกรดให้สามารถใช้งานได้ดีกว่าเดิม โดยปุ่ม Start Menu จะยังคงอยู่ที่มุมด้านซ้ายของหน้าจอ(เช่นเดียวกับ Windows เวอร์ชันเก่าๆ) เมื่อคุณคลิ๊กไปที่ปุ่ม Start Menu นี้คุณก็จะได้พบกับ Start Menu ที่มาพร้อมกับ Live Tiles ที่คุณสามารถทำการปรับแต่งได้ เรียกได้ว่าในครั้งนี้ Microsoft ได้รับจุดด้อย แต่นำเอาจุดเด่นที่ดีๆ ของระบบ Live Tiles มารวมเข้ากับ Start Menu ได้เป็นอย่างดีครับ(รูปภาพด้านบน)

เรื่องของการจัดการหน้าจอ Desktop นั้นถือได้ว่า Microsoft ทำการบ้านมาเป็นอย่างดีครับ โดยใน Windows 10 นั้นได้มีฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่ใช้ในการจัดเรียงหน้าจอ(เรียงแอปพลิเคชัน) แบบด้านต่อด้าน หรือจะแบ่งแอปพลิเคชันออกเป็น 4 ส่วนบนหน้าจอ(รัน 4 แอปพลิเคชันบนหน้าจอ) ก็สามารถที่จะทำได้เช่นเดียวกัน(ตามรูปด้านล่าง) ที่เด็ดมากไปกว่านั้นก็คือฟีเจอร์อย่าง multiple desktops ที่ให้คุณสามารถที่จะเปิดโปรแกรมในแต่ละหน้าจอแล้วสลับหน้าจอนั้นทำงานไปมาได้(เหมือนกับฟีเจอร์ multiple desktop ของ Linux) งานนี้คุณสามารถที่จะแอบเจ้านายเล่น Facebook ได้โดยไม่ต้องคอยกังวลว่าจะต้องคอยปิดหน้าต่างอีกต่อไปครับ เพราะเพียงคุณสลับหน้าจอคุณก็จะได้เจอกับแอปพลิเคชันหรือหน้าต่างโปรแกรมที่คุณเปิดใช้ไว้อยู่

Windows 10-preview-5

เรื่องคอมพิวเตอร์ที่สามารถรันระบบปฏิบัติการ Windows 10 ได้นั้นในตอนนี้ถือว่าเร็วไปที่จะพูดถึงเรื่องนี้ครับ แต่จากในอดีตเราได้รู้กันมาว่าระบบปฏิบัติการ Windows 8.1 นั้นเป็นการมาถึงความต้องการในการประมวลผลที่ระดับ 64-bit ซึ่งนั่นทำให้ Windows 8.1 ไม่สามารถใช้งานร่วมกันกับหน่วยประมวลผลรุ่นเก่าๆ ได้ แต่ทว่าถ้าเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ไม่ได้เก่ามากนัก Windows 8.1 กลับสามารถใช้งานได้เป็นอย่างดี ดังนั้นเราพอที่จะคาดเดาได้ครับว่าถ้าคุณพึ่งซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์มาใหม่(ในช่วงระยะเวลาไม่เกิน 2 ปี) หรือว่ามีแฟนการที่จะซื้อคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ในอนาคต เครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณน่าจะสามารถใช้งานระบบปฏิบัติการ Windows 10 ได้อย่างไม่มีปัญหา

Windows 10 Technical Preview กับความรู้สึกหลังจากที่ดาวน์โหลดมาใช้งาน
หลังจากที่ได้มีการเปิดตัว Windows 10 ไปแล้วพร้อมกับระบุฟีเจอร์ใหม่ๆ ของทาง Windows 10 ออกมานั้น ไม่ถึง 24 ชั่วโมงต่อมา Windows 10 Technical Preview ก็ได้ทำการเปิดให้ดาวน์โหลดมาลองใช้งานกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ (ติดตามข่าวเก่า 9 สิ่งที่คุณควรรู้สำหรับระบบปฏิบัติการ Windows รุ่นถัดไปอย่าง Windows 10) โดยท่านใดสนใจสามารถที่จะเข้าไปดาวน์โหลดมาทดลองใช้งานได้ที่ Windows 10 special insiders program ได้เลยครับ ทั้งนี้ต้องระบุไว้ก่อนนิดนึงครับว่า Windows 10 Technical Preview นี้นั้นยังไม่ใช่ Windows 10 รุ่นที่พร้อมสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปได้ทำการโหลดมาใช้งานกันทั่วไป ดังนั้นคุณต้องมั่นใจส่วนหนึ่งก่อนว่าคุณมีความรู้เรื่องคอมพิวเตอร์มากพอที่จะจัดการกับปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้

โดยส่วนตัวแล้วผมเองได้ทำการทดสอบลง Windows 10 Technical Preview มาใช้งานแล้วครับ โดยได้ทดสอบการลง Windows 10 ทั้ง 2 วิธี คือการอัพเดทจาก Windows 8.1 และ clean install การใช้งาน Windows 10 Technical Preview สร้างความประทับใจได้มากพอควรครับ โดยหากเทียบกับ Windows 8.1 แล้วรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่า Windows 10 Technical Preview นั้นสามารถที่จะบูทระบบและรันโปรแกรมต่างๆ ได้เร็วกว่า Windows 8.1 การใช้งาน แอปพลิเคชันในแบบ Modern บนหน้าจอ Desktop ได้นั้นทำให้สามารถทำงานได้สะดวกกว่าเดิมมากครับ ไม่ต้องสลับหน้าจอไปมาแล้ว




Create Date : 09 มกราคม 2560
Last Update : 9 มกราคม 2560 11:10:47 น. 0 comments
Counter : 1183 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
space

สมาชิกหมายเลข 3556057
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






space
space
[Add สมาชิกหมายเลข 3556057's blog to your web]
space
space
space
space
space