Different Memories “ foto Hotel : Phuket ”

วันนี้ผมจะพาไปพักผ่อนกันที่โรงแรมที่กำลังเป็นที่กล่าวถึงของใครหลายๆคน และถือเป็นโรงแรมน้องใหม่มาแรงที่น่าจับตามองของจังหวัดภูเก็ตกันฮะ

ขอเกริ่นก่อนว่ารีวิวนี้เป็นสปอนเซอร์รีวิวนะครับ ตัวผมเองเคยถูกเชิญจาก foto Hotel ให้ไปพักผ่อนตั้งแต่เมื่อตอนช่วงที่โรงแรมเปิดใหม่ๆ เคยจะไปก็หลายครั้งแต่ก็คลาดกันตลอดจนเมื่อช่วงกลางเดือนที่แล้วถึงได้มีโอกาสได้ไปพักที่นี่ซะทีหลังจากที่คนนั้นคนนี้ได้ไปพักกันมาเยอะแยะแล้ว ทีนี้ก็คิดตั้งแต่ก่อนจะไปพักแล้วฮะว่า เอ.. รีวิว foto เยอะมากทั้ง CR ทั้ง SR แล้วเราจะทำยังไงให้มันดูแตกต่างไม่ซ้ำซากกับรีวิวผ่านๆมา

ก็นึกขึ้นได้ฮะ ว่าถ้าจะรีวิว foto Hotel จะทำรีวิวให้เป็น B&W หรือ สีขาว-ดำนั่นเอง นั่นจึงเป็นที่มาของรีวิวฉบับนี้ครับ แต่พอได้ภาพมาจริงๆสรุปรักพี่เสียดายน้องมากๆ เพราะภาพบางภาพถ้าเอาไปทำเป็นสีขาว-ดำ มันจะเสียความสวยงามของภาพไปมากจริงๆเพราะฉะนั้นรีวิวนี้ขอเป็นครึ่งๆแล้วกันนะครับ มีทั้งขาว-ดำและสีสันสวยๆไปเลยแล้วกันฮะ

ปล.รีวิวนี้เป็นรีวิวที่ทางโรงแรมจัดเต็มให้มากฮะ เพื่อนๆหลายๆคนที่ได้เห็นภาพจากทาง FB ไปบ้างแล้วต่างก็บ่นปนอิจฉาที่ทางโรงแรมจัดเซอร์ไพรส์ให้บิ๊กบอยแบบเต็มๆมาก ทั้งนี้ทั้งนั้นเวลาติดตามรบกวนใช้วิจารณญาณในการรับชมด้วยนะครับ เพราะบางอย่างที่ทางโรงแรมทำให้อาจจะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย และบางอย่างอาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเมื่อเวลาเราร้องขอจากทางโรงแรมฮะ



โชคดีที่ช่วงที่ผมจะเดินทางไปภูเก็ตอากาศยังไม่ได้แย่เหมือนหลายๆอาทิตย์ที่ผ่านมานี้

ผมและผู้ติดตามที่น่ารักเลือกที่จะออกเดินทางกันในสายๆของวันทำงานวันนึง โชคดีอีกอย่างของผมคือมักจะได้เที่ยวในวันที่คนอื่นต้องทำงาน



ด้วยเพราะเลือกเที่ยวบินของแอร์เอเชียในเที่ยวสายๆของวันธรรมดาก็เลยไม่ได้เสียเวลาต่อคิวเพื่อโหลดกระเป๋าเท่าใดนัก ส่วนการเช็คอินผมก็เลือกที่จะจัดการมาทางอินเตอร์เน็ตก่อนหน้าทุกครั้งอยู่แล้ว



การที่แอร์เอเชียเลือกที่จะกลับมาใช้สนามบินดอนเมืองมันก็มีข้อดีสำหรับคนที่บ้านไม่ไกลสนามบินมากแบบผม ถ้าเป็นสมัยก่อนผมมักต้องรีบเดินบนทางเลื่อนยาวๆของสนามบินสุวรรณภูมิเสมอๆ



วันนี้ได้เจอเครื่องคาราบาวซะด้วย อดไม่ได้ที่จะเดินไปที่ปลายสุดของอาคารเพื่อถ่ายรูปไว้ซะหน่อย ก่อนจะได้เวลาขึ้นบิน 



อากาศในระหว่างการเดินทางวันนั้นเคลียร์มากฮะ การได้นั่งฝั่งขวาของเครื่องในเที่ยวขาไปภูเก็ตนี่ก็ดีไปอย่าง ได้เห็นดามขวานทองไปเกือบจะตลอดทั้งเที่ยวบิน ข้างล่างนี่อยู่ตรงไหนใครทายถูกบ้าง ?



นั่งแอร์เอเชียเที่ยวนี้ดีจัง ได้รื้อฟื้นวิชาภูมิศาสตร์ด้วย

ตรงนี้ล่ะฮะที่ไหน ?



และเมื่อใกล้เวลาที่เครื่องจะแตะพื้นรันเวย์สนามบินภูเก็ต ภาพคุ้นเคยก็ปรากฎอีกครั้ง



เมื่อรับกระเป๋าเสร็จก็ได้เวลาเดินทางไปที่ foto Hotel กันฮะ วันนี้ผมขอให้รถของโรงแรมมารับด้วย (จริงๆโรงแรมมีบริการรถรับส่งนะครับ แต่ผมไม่แน่ใจเรื่องราคาเหมือนกัน แต่ก็ไม่น่าแพงมาก)



มาทำความรู้จักรวมถึงสถานที่ตั้งของ foto Hotel กันซักเล็กน้อยดีกว่าฮะ

หลายๆคนคงรู้จักและเคยแวะไปถ่ายรูปที่จุดชมวิว 3 อ่าวกันมาบ้างแล้ว 



ต่อไปนี้ถ้าเราไปถ่ายรูปที่จุดนี้อีก เราจะเห็นอาคารหลังนึงโดดเด่นและติดเข้ามาในเฟรมภาพถ่ายของเราด้วยฮะ



เมื่อซูมเข้าไปใกล้อีกนิดก็จะเห็นว่าอาคารที่เราเห็นอยู่นั้นก็คือ foto Hotel นั่นเองครับ



เข้าไปที่ตัวโรงแรมกันดีกว่า



ตัวอาคารต้อนรับไม่ได้ใหญ่โตมากฮะ ตอนแรกที่เห็นในหลายๆรีวิวคิดว่าต้องใหญ่พอสมควร 



ล็อบบี้ของที่นี่เรียกชื่อว่า Memorie Hall ฮะ



เข้ามาข้างในก็เจอภาพคุ้นเคยเหมือนเคยมาแล้วเลยล่ะ



แน่นอนว่าทุกๆคนที่มาถึงที่นี่จะต้องตรงเข้ามาหาเจ้าของบ้านก่อนแน่นอน



ไหนๆก็ไหนๆ ขอสวมรอยเป็นพี่หมี foto พาแนะนำโรงแรมไปเลยแล้วกันนะครับ

foto Hotel ตั้งอยู่บนเนินเขาหันหน้าออกไปทางอ่าวกะตะน้อย โรงแรมแห่งนี้สร้างขึ้นมาจากความคิดของกลุ่มสถาปนิกหลายคนที่ได้แรงบันดาลใจที่จะสร้างโรงแรมสำหรับคนที่รักการถ่ายภาพ เพราะฉะนั้นชื่อของส่วนต่างๆในพื้นที่โรงแรมทั้งหมดจะมีความเชื่อมโยงกับศัพท์ทางการถ่ายภาพ รวมไปถึงสีสรรค์ของตัวอาคารจะเป็นสีเทา ซึ่งศัพท์ทางการถ่ายภาพเรียกว่าสีเทากลางหรือสีเทา 18% ซึ่งเป็นสีที่ใกล้เคียงกับสีที่ตาเราเห็นที่สุด ทางการถ่ายภาพก็จะถือว่าสีเทากลางเป็นสีที่เราใช้วัดแสงได้ตรงที่สุดครับ เอาเป็นว่าไม่ต้องไปสนใจลึกซึ้งมากดีกว่า

สรุปเลยก็คือ สีเทาที่เห็นเป็นสีพื้นของตัวโรงแรมคือสีที่เราจะถ่ายรูปได้สวยที่สุด สรุปแบบนี้จะดีกว่า 5555



ที่นี้ก็ไปเช็คอินกันดีกว่าฮะ





หน้าที่ในการเช็คอินก็ปล่อยให้คุณผู้หญิงเค้าทำไป เก๋ๆหน่อยตรงที่เอกสารการเข้าพักของที่นี่ใช้ iPad ในการกรอกข้อมูลและเซ็นต์ชื่อครับ



ส่วนหนุ่มๆแบบเราก็นั่งรอสบายๆ เบื่อๆหน่อยก็มี iMac จอใหญ่ๆให้เล่นเน็ตฟรีอยู่ด้านหลัง



เหลือบไปเห็นว่าที่นี่ใช้กล้องเก่าๆในการตกแต่งด้วย เดินเข้าไปดูใกล้ๆก็ถึงรู้ว่าเป็นกล้องเก่าจริงทุกตัว 







ไปสืบมาแล้วได้ความว่า กล้องทั้งหมดมาจากการสะสมและหลายๆตัวก็ได้มาจากการประมูลหรือซื้อผ่านทางออนไลน์ หลายตัวยังใช้งานได้ดี และทุกๆตัวต่างมีประวัติกันมาทั้งหมด ผมคาดเดาจากสายตาคิดว่าทั้งโรงแรมน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 100 ตัวแน่ๆฮะ คิดเล่นๆว่าแค่ค่ากล้องที่กวาดซื้อมาก็ไม่น่าจะถูกๆแล้ว

มาถึงโรงแรมก็เกือบๆบ่ายฮะ ก่อนที่จะเข้าห้องพักก็ขึ้นมาที่ชั้นบนสุดของอาคารต้อนรับกันก่อน ด้านบนจะเป็นห้องอาหารซึ่งเป็นห้องเดียวของทางโรงแรมชื่อว่า " Tiffin Mama " ฮะ นี่คงเป็นชื่อเดียวของโรงแรมที่ผมรู้สึกว่ามันไม่เกี่ยวข้องกับการถ่ายภาพ แต่มาทานอาหารบนนี้แล้วจะรู้สึกเหมือนเราทานอาหารของแม่ อาหารปิ่นโตฝีมือแม่ฮะ (ขอเปลี่ยนเป็นสีสันหน่อย)







การตกแต่งเก๋ๆของห้องอาหาร

มาชิมอาหารกันดีกว่า หินโซมากก็จัดชุดใหญ่มาหน่อยแล้วกัน

เบาๆจานแรกด้วย มันฝรั่งทอด



ตามมาด้วย คลับแซนวิชแฮมชีส



อาหารไทยพื้นบ้านหน่อยแบบ เบือทอดกุ้ง



จานรวมเป็น ยำส้มโอกุ้งสด



จานหลักเป็น ข้าวไข่ม้วน + หมูฮ้อง + น้ำซุปหยำ อาหารพื้นเมือง



ข้าวแกงเขียวหวานไก่



และสุดท้ายเป็น โอวัลตินภูเขาไฟ



อิ่มอาหารท้องแล้วก็มาต่อกันด้วยอาหารตา ข้างๆของห้องอาหารจะมีสระว่ายน้ำอยู่ด้วยครับ

รูปแรกสำหรับสาวๆและเพศทางเลือกอื่นๆ Smiley



ภาพที่สองสำหรับหนุ่มๆกลัดมันทั้งหลายฮะ 



อิ่มทั้งท้องและสายตาแล้วก็ได้เวลาลงไปที่ห้องพักกันก่อนฮะ ลงไปก็เจอกับเซอร์ไพรส์แรกของทริปเลยฮะ

เมื่อเข้าไปถึงห้องพักก็เจอกับภาพแบบนี้อยู่ตรงหน้าครับ ทางโรงแรมบอกว่าจัดเป็นเตียงฮันนิมูนไว้ให้ครับ 



บนเตียงมีการตกแต่งไว้เล็กๆน้อยๆ แอบแปลกใจที่มีรูปคู่ของผมกับภรรยารวมอยู่ในนั้นหลายรูปมาก



ผมสอบถามในภายหลังทราบว่านี่เป็นการจัดเตียงแบบฮันนิมูนฮะ หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่าโรงแรมนี้มีสไตล์ลิสประจำโรงแรมด้วยครับ การมีสไตล์ลิสทำให้ foto Hotel มีอะไรเก๋ๆกว่าโรงแรมอื่นๆเยอะฮะ เตียงแบบฮันนิมูนก็ไม่ใช่ว่ามีแค่ผ้าเช็ดตัวทำเป็นหงส์จูบกัน หรือแค่มีการ์ดใบเดียววางไว้ให้ลูกค้าครับ ผมถามว่าแล้วกรณีคล้ายๆของผมเนี่ยถ้าโรงแรมจะจัดให้ลูกค้ามีค่าใช้จ่ายมั๊ย ทางโรงแรมบอกว่าแล้วแต่เคสไปฮะ ถ้าแค่ลูกค้าอยากเซอร์ไพรส์คนที่มาด้วยก็รีเควสโดยตรงกับทางโรงแรมก่อนที่จะมาพักได้ ถ้าแค่มีรูปวางจัดนิดหน่อยแบบผมก็ไม่มีค่าใช้จ่าย ถ้าลูกค้าอยากได้แบบมีลูกโป่งเต็มห้อง หรืออะไรที่มันดูอลังการหน่อยแน่นอนว่าต้องมีค่าใช้จ่ายซึ่งต้องคุยสรุปกับทางโรงแรมก่อนฮะ

แบบของผมพอดีที่ผมและแฟนไม่รู้มาก่อนเลยว่าจะมีการจัดแบบนี้ให้เพราะอย่างที่บอกว่าผมถูกเชิญมานานมากพอสมควรและรู้จัก GM และ PR ของทางโรงแรมมานานมากพอสมควรเค้าเลยไปเอารูปเราจากใน FB มาเซอร์ไพรส์ได้ฮะ

จบจากการเซอร์ไพรส์เก๋ๆของทางโรงแรมแล้วก็มาดูส่วนของห้องพักกันบ้างฮะ

ห้องพักของ foto Hotel มี 2 แบบครับ คือ Ocean Hall เป็นห้องที่มองเห็นวิวทะเล แบบที่ผมพาชมอยู่นี่ครับ



ห้องมีขนาดใหญ่พอสมควรแปลนห้องออกแบบมาได้ดีทีเดียวฮะ ห้องออกแบบเป็น 2 ระดับ ที่สำคัญคือเตียงที่นี่ใหญ่ถึง 7 ฟุตและนุ่มมากชนิดดูวิญญาณได้เลยครับ



ด้านหลังเตียงออกแบบเป็นโต๊ะทำงานได้ เก้าอี้ไม่ต้องเพราะใช้นั่งห้อยขาเอาจากพื้นที่ต่างระดับนั่นเอง



ทุกห้องจะได้ผลไม้ต้อนรับเป็นแอ๊ปเปิ้ล 2 ลูกฮะ

มี iPod Dock ไว้ให้เสียบฟังเพลงทุกห้องฮะถ้ามี iPhone หรือ iPod มาก็เสียบฟังได้เลย ผมใช้เสียบฟังเพลงมากกว่าเปิดทีวีอีกครับ



ด้านหลังของโต๊ะทำงานไปมี Day Bed ไว้ให้อีกหนึ่งหลังฮะ ถือเป็นการจัดสรรค์พื้นที่ได้ดีทีเดียว



เหนื่อยนักก็พักนอนดูทีวี 



มุมมินิบาร์



เป็น Complimentary ทั้งหมดครับ ที่ถูกใจที่สุดคงจะเป็น ยาคูลท์ กับ ปีโป้ ที่มีมาให้ นอกจากนั้นยังมีน้ำเปล่าและโค้กกระป๋องด้วยฮะ



มาดูด้านนอกกันบ้างฮะ ที่ระเบียงห้องจะมี Day Bed ไว้ให้อีกหนึ่งตัว 



และยังมีอ่างอาบน้ำไว้ให้นอนแช่ชมวิวได้อีกด้วยฮะ 



วิวด้านหน้าของแต่ละห้องก็จะเห็นวิวทะเลของอ่าวกะตะน้อยคล้ายๆแบบนี้ฮะ



ปล.ส่วนที่เห็นด้านล่างที่เป็นพื้นที่กว้างๆ ภาพจริงจะเป็นสนามหญ้าเทียมสีเขียวบนดาดฟ้าของอาคารอีกหลังที่อยู่ไล่เรียงลงไปครับ ซึ่งส่วนนั้นจะเป็นพื้นที่ของห้อง Ocean Hall อีกแบบนึงที่ไม่สามารถมองเห็นทะเลจากริมระเบียงแต่จะมีทางเดินออกไปบนดาดฟ้าที่เห็นซึ่งเป็นพื้นที่ร่วมกัน 4 ห้องในชั้นเดียวกันครับ และห้องแบบนั้นจะไม่มีอ่างอาบน้ำที่ริมระเบียงแต่จะมีให้ในห้องน้ำ และไม่มี Day Bed ในห้องให้ครับ

ส่วนห้องแบบ Ozone Hall จะมี 2 แปลนห้องเช่นเดียวกันเหมือนกันกับ Ocean Hall เลยฮะ แต่หน้าห้องจะเป็นวิวต้นไม้ ห้องอยู่อาคารทางด้านล่างของโรงแรมครับ

ในห้องยังมีส่วนของห้องน้ำอีกนะฮะ 



หน้าห้องน้ำจะแยกส่วนของอ่างล้างหน้าออกมาด้านนอก

แฮ่~~ แปรงฟันกันก่อนมั๊ยฮะ

อุ๊ย!! เห็นหมดเลย 



อาบน้ำกันมั๊ยฮ๊าฟฟฟฟฟ



ห้องพักของ foto Hotel มีทั้งหมด 79 ห้องครับ เป็นห้องแบบ Ocean Hall 29 ห้อง และ Ozone Hall 50 ห้องครับ



ทีนี้เดี๋ยวจะพาขึ้นไปดูสระว่ายน้ำด้านบนซึ่งถือเป็นไฮไลท์ของ foto Hotel อีกครั้งฮะ

ระหว่างทางเดินจาก ห้องพักก่อนจะถึง Memorie Hall จะมีรูปภาพเก่าๆของเมืองภูเก็ตตกแต่งอยู่ด้วยฮะ





ที่ Memorie Hall จะมี Gift shop และ โต๊ะแนะนำทัวร์ให้บริการแก่แขกที่เข้าพักอยู่ 





ข้างลิฟท์ที่จะขึ้นไปที่ห้องอาหาร ยังมี Kodak printer เครื่องปริ้นท์ภาพอัตโนมัติตั้งอยู่ เราสามารถเอาการ์ดของกล้องถ่ายรูปชนิดใดก็ได้ในโลกมาเสียบที่เครื่องแล้วทำตามขั้นตอนที่เครื่องบอก เครื่องจะมีออเดอร์ออกมาให้เราไปจ่ายเงินที่พนักงานและก็เอาสลิปมาปริ้นท์ภาพที่เราสั่งอัดได้ ราคาไม่แพงฮะเหมือนเราสั่งอัดตามร้านทั่วไปเนี่ยล่ะครับ 



ปล.ที่ชั้น 2 ของอาคารนี้จะเป็นห้องประชุมด้วยนะครับ

ขึ้นมาด้านบนของสระว่ายน้ำข้างๆห้องอาหาร สระนี้เรียกชื่อว่า Silhouette Pool & Playground ฮะ

ช่วงเย็นๆถ้าอากาศดีๆและเป็นใจ บนนี้สามารถชมหระอาทิตย์ตกได้สวยไม่แพ้แหลมพรหมเทพนะครับ



มุมนี้ถือว่าเสี่ยงตายพอสมควรฮะ เห็นเพื่อนๆหลายๆคนถ่ายภาพมาก็อยากได้ภาพบ้าง สรุปว่ามันต้องปีนบันไดของช่างขึ้นมา กว่าจะขึ้นมาได้ขาสั่นเอาเรื่องอยู่ฮะ 5555 



แต่ภาพที่ได้มาก็ถือว่าคุ้มค่ากับความเสี่ยงที่ปีนขึ้นไปฮะ อันนี้กรณีพิเศษจริงๆนะครับถึงขึ้นไปได้

ช่วงเย็นๆคนขึ้นมาเล่นน้ำกันเต็มสระเลยฮะ ทั้งคนไทยทั้งต่างชาติ ผมว่าคงเพราะบรรยากาศดีมากด้วยล่ะ







กลางคืนจะมีไฟในสระด้วยนะครับ ที่เห็นก็จะมี 2 สีคือสีน้ำเงินกับสีแดง

ได้เวลาอาหารเย็นกันแล้วครับ ก็ทานที่ Tiffin Mama เช่นเดิมครับ





ช่วงที่ไปเป็นวันที่เริ่มใช้ iPad เป็นเมนูในการสั่งอาหารพอดีครับ 



มาดูอาหารค่ำกันบ้าง ทานเบาๆฮะเพราะเมื่อกลางวันจัดเต็มกันมาก

เริ่มจากจานกลางเป็น ส้มตำ ไก่ย่าง



จานหลักเป็น ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์กับปูนิ่มทอดเสิร์ฟพร้อมข้าวสวย



อีกจานเป็นผัดซีอิ้วกุ้งฮะ



ทานกับน้ำสับปะรดปั่น อร่อยชื่นใจ



คำๆลมเย็นๆบรรยากาศดีทีเดียวฮะ





ตัดภาพอย่างรวดเร็วมาถึงตอนเช้าวันรุ่งขึ้นเลยฮะ จริงๆตั้งใจไว้ทั้ง 2 คืนที่นอนว่าจะตื่นแต่เช้าออกไปถ่ายภาพทไวไลท์ของโรงแรม แต่ทั้งสองคืนที่นอนที่นี่ไม่ตื่นเลยฮะ ตั้งปลุกแล้วก็ปิดนอนต่อ เตียงดูดวิญญาณจริงๆ

เช้ามาอากาศสดใสอีกแล้ววว 



ขึ้นมาทานอาหารเช้ากันฮะ สิ่งนึงที่ชอบมากสุดๆของที่นี่คือเวลาทานอาหารเช้าเนี่ยล่ะครับ อาหารเช้าของ foto เสิร์ฟถึงบ่ายโมงตรงนะฮะ ฟังไม่ผิดจริงๆไม่เชื่อย้อนกลับไปอ่านใหม่ 555 ไม่ต้องรีบตื่นมากินแต่เช้าถูกใจสุดๆ



อาหารเช้าที่นี่จะเปลี่ยนเมนูทุกวันครับ 3 วันถึงจะวนกลับมาที เมนูจะเป็นแบบ a la cart ให้เลือก 3 อย่าง

นอกจากนี้ก็ยังมีพวกขนมปัง ผลไม้ ซีเรียลให้เลือกอีกพอสมควรฮะ 





อาหารเช้าก็จะมีหลายอย่าง แต่ละอย่างก็จะเสิร์ฟมากับอาหารพื้นเมืองด้วยฮะ

จานแรกเป็นข้าวผัดกุ้ง ทานกับอูแช (สลัดผักของภูเก็ต) บะกุ๊ดเต๋ และปลาหมึกผัดซอสมะขาม 



จานที่ 2 เป็น ABF เสิร์ฟกับอูแช 



จานที่ 3 เป็นอาหารพื้นเมืองเลยฮะ ขนมจีน แกงปู 



นอกจากนี้ยังมีพวกผักสลัด นมสด และอีกหลายๆอย่างให้เลือกครับ 











นอกจากนี้ยังมีบาร์เครื่องดื่มที่ชื่อ Great Shot Bar ให้บริการอีกด้วย



มาชมบรรยากาศภายนอกของ Silhouette Pool & Playground กันดีกว่าฮะ







รอบๆมี Day Bed ตั้งไว้ให้นั่งชิลๆชมวิวอ่าวกะตะน้อย อากาศดีมากจริงๆฮะ 



แดดแบบนี้ต่างชาติชอบฮะ แต่คนไทยหลบแดด





สระว่ายน้ำตัวสระและพื้นเป็นหินอ่อนเวลาโดนแดดนี่น่ากระโดดลงไปจริงๆฮะ สีสวยมาก









น่าเล่นมั๊ยฮะ ชมภาพในบรรยากาศดีๆกันจุใจไปเลยยยย







ช่วงเย็นๆตรงนี้จะเต็มไปด้วยลูกค้ามานั่งชมพระอาทิตย์ตกดิน จิบเครื่องดื่ม พูดคุยกันสนุกสนานฮะ 



วิวอ่าวกะตะน้อย ดูสีน้ำสิฮะ ยอมรับเลยว่าไม่เห็นน้ำทะเลภูเก็ตสีนี้มานานมากแล้ว



สาวคนนี้ไม่กลัวแดดเลยฮะ ว่ายเล่นคนเดียวสนุกเลย



เดี๋ยวนั่ง Shuttle service ของโรงแรมลงไปเที่ยวอ่าวกะตะกันดีกว่าฮะ foto จะมีบริการรถไป-กลับหาดกะตะฟรีวันละ 3 เที่ยวนะครับ



ที่กะตะคนเยอะมากฮะ ทั้งไทย จีน ฝรั่ง เต็มหาดไปหมด ที่นี่ดูครื้นเครงเชียวครับมีกิจกรรมทางน้ำให้ทำสารพัดเลย





คนเล่นน้ำและนอนอาบแดดก็เยอะมากเหมือนกัน





กิจกรรมทางน้ำ เจ็ทสกี



เซิร์ฟบอร์ด



เรือลากร่ม



ถ้าอยากมาหาอาหารกลางวันทาน หรือเย็นๆอยากมาเดินชมบรรยากาศแสงสีแถวๆนี้ก็ลองเช็คเวลาของ Shuttle service ดูครับ

กลับมาที่โรงแรมฮะ มีนัดให้คุณภรรยาลงมาทำสปา สปาที่นี่ใช้ผลิตภัณฑ์ของ JURLIQUE ฮะ เป็นผลิตภัณฑ์ที่คุณภรรยาใช้อยู่พอดี แบบนี้ก็ถูกโฉลกกัน ก็ปล่อยให้เค้าทำไปห้องนึง เราก็ไปถ่ายภาพอีกห้องนึง



สปาที่นี่ชื่อว่า Bokeh Spa โบเก้ก็คือชื่อเรียกฉากหลังเบลอๆละลายๆอย่างที่พวกเราเข้าใจกันนี่ล่ะครับ 







สปาจะอยู่ด้านล่างสุดของโรงแรมฮะ ซึ่งตอนนี้ถ้าจะลงมาใช้บริการสปาหรือจะลงมาที่ห้องพักของตึกล่างๆต้องใช้บริการของรถบั๊กกี้ฮะ แต่ต่อไปจะมีลิฟท์รางให้บริการ ซึ่งตอนนี้กำลังก่อสร้างอยู่ครับ

อีกหนึ่งเซอร์ไพรส์ที่ทาง foto Hotel จัดให้มาแล้วฮะ

ทางโรงแรมแจ้งว่าเย็นวันนั้นจะมี Private Dinner ให้อีกหนึ่งมื้อครับ เมื่อถึงเวลา เราก็ขึ้นไปที่โต๊ะอาหารที่ถูกเตรียมไว้



โต๊ะอาหารถูกเตรียมไว้ตรงพื้นที่ส่วนตัวอีกฝั่งของห้องอาหาร Tiffin Mama ฮะ เป็นมุมที่สามารถมองเห็นพระอาทิตย์ตกสวยๆเช่นกัน



สิ่งที่ทำให้ผมปลื้มใจกับอาหารมื้อนี้มากที่สุดคงเป็นธีมของโต๊ะดินเนอร์ที่ถูกจัดให้เป็นธีมสลัดบาร์ ให้สมกับชื่อ login biGbOySalaDbAr ของผม



คนที่ดูกรี๊ดกร๊าดมากกว่าผมอีกคงเป็นศรีภรรยาของผมที่กรี๊ดตั้งแต่ในห้องนอนของเมื่อวานแล้วฮะ

ก่อนที่พวกเราจะเข้าไปนั่งที่โต๊ะที่ถูกจัดไว้ มีลูกค้าท่านอื่นๆแวะเวียนมาถ่ายภาพ อัพเฟสกันยกใหญ่ ดูหลายๆคนจะปลื้มแทนเรากับอาหารมื้อนี้มากๆฮะ บรรยากาศช่วงเย็นวันนี้ก็เป็นใจอีกเช่นเดิม พระอาทิตย์ตกสวยๆให้เราได้เห็นเป็นวันที่สองที่เราใช้เวลาอยู่ที่นี่









หลังจากนั้นก็ขอเป็นเวลาส่วนตัวฮะ ไม่ต้องหยิบกล้องมาถ่าย ไม่ต้องสนใจสิ่งรอบข้าง คืนนั้นเป็นอีกคืนที่อาหารอร่อยที่สุดครับ

ปล.ผมถามมาเผื่อคนที่อยากได้ ดินเนอร์แบบส่วนตัวแบบนี้ซึ่งแน่นอนว่ามีค่าใช้จ่ายครับ ทาง foto สามารถจัดให้ได้ตามที่ลูกค้ารีเควสอีกเช่นกัน หน้าที่นี่เป็นของสไตล์ลิสฮะ ลูกค้าเพียงแค่แจ้งความประสงค์ว่าอยากได้ดินเนอร์แบบไหน อยากได้อะไรเป็นพิเศษ อยากขอแฟนแต่งงาน อยากเซอร์ไพรส์วันเกิด ครบรอบแต่งงานหรืออะไรก็แล้วแต่ เพียงคุยกับทางโรงแรมแล้วโรงแรมจะจัดให้ครับ

เช้าวันต่อมา เจอฤทธิ์เตียงดูดวิญญาณพาให้ไม่ตื่นอีกแล้ว มาที่นี่อิ่มอืดมากๆฮะ เลยตัดสินใจไม่ทานอาหารเช้ากัน แล้วจะตื่นมาทานอาหารกลางวันก่อนจะเช็คเอ้าท์กันเลยทีเดียว





บรรยากาศดีเป็นวันที่สามติดต่อกันฮะ โดยเฉพาะวิวนี้



อาหารมื้อนี้เป็นมื้อสุดท้ายก่อนที่จะกลับแล้วฮะ

จานแรกเป็น ซุปผักเหมียง อาหารพื้นเมืองของภูเก็ตครับ



จานที่สองชื่อว่า ซีซ่าอันดามัน ฮะ



จานหลักเป็น สปาเก็ตตี้ซอสต้มยำกุ้ง



อีกจานเป็น ผัดไทยปูม้า



ตบท้ายด้วยเครื่องดื่มที่เป็น Signature ของ foto Hotel นั่นก็คือ Unisex เป็นน้ำผึ้งผสมมะนาวและโซดาครับ อีกแก้วพลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง ยาคูลท์ปีโป้ ชื่อก็บอกอยู่แล้ว เอามาปั่นรวมกันยิ่งอร่อยฮะ 



นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งส่วนที่อยากแนะนำฮะ สำหรับลูกค้าที่ต้องเช็คอินออกตามเวลา แต่ว่าอาจจะต้องรอไฟล์ทบินหรือรอเวลารถมารับ ที่ foto มีห้องที่ชื่อว่า Process Room เป็นห้องที่เอาไว้ให้ลูกค้าที่ว่ามาเข้ามาพักได้ครับ





ถือว่าใส่ใจในรายละเอียดทุกๆอย่างจริงๆ นอกจากนี้ข้างๆกันยังมีห้องออกกำลังกายที่ชื่อว่า Speed Gym มีเครื่องออกกำลังกายให้เล่นหลายเครื่องเหมือนกันครับ

สุดท้าย ต้องขอขอบคุณอีกหนึ่งกิจกรรมที่ถูกใจที่ foto มอบให้คู่ของผมนั่นคือ รูปถ่ายที่ทาง foto ถ่ายให้ ทางโรงแรมมีแพ็คเกจถ่ายรูปไว้ให้บริการสำหรับคนที่อยากมีรูปถ่ายในมุมต่างๆของโรงแรม อย่างคู่ผมไปที่ไหนๆแทบจะไม่มีรูปคู่เลยฮะ แต่ที่นี่ทำให้ผมมีรูปคู่เอาไว้เป็นความทรงจำดีๆอีกด้วย



บทสรุป ..

foto Hotel เป็นโรงแรมที่เก๋จริงๆในสายตาของผม สำหรับคนที่รักในการถ่ายภาพที่นี่ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี ในโรงแรมมีมุมถ่ายรูปให้เลือกหลายมุมมาก โรงแรมเข้าใจที่จะเลือกตั้งมัสคอตขึ้นมาเป็นตุ๊กตาหมี เพราะเมื่อพูดถึง foto Hotel ใครๆก็คิดถึงพี่หมี foto กันทุกคน ราคาของที่พักถือว่าไม่แพงเกินไปสำหรับที่พักในระดับนี้ ที่ตั้งของโรงแรมถือเป็นอีกหนึ่งจุดแข็งที่น่าสนใจ เพราะเราสามารถชมพระอาทิตย์ตกได้สวยงามจริงๆในวันที่ฟ้าเป็นใจ ห้องพักทั้ง 2 แบบออกแบบได้ดีพื้นที่ใช้สอยเหมาะสม สระว่ายน้ำถือเป็นไฮไลท์สำคัญของโรงแรมเลยฮะ ขึ้นไปเห็นทีไรก็อยากที่จะลงสระซะทุกที โรงแรมมีการจัดพูลปาร์ตี้อยู่เรื่อยๆฮะถ้าอยากไปในช่วงนั้นๆต้องลองเช็คเวลาการจัดด้วย ที่สำคัญอีกอย่าง โรงแรมนี้มีสไตล์ลิสครับ ถ้าคุณอยากจะทำอะไรให้คนที่คุณไปด้วยประทับใจ อย่าลืมที่จะติดต่อโดยตรงกับทางพวกเค้า พวกเค้าพร้อมที่จะทำให้คุณประทับใจเหมือนอย่างที่ผมได้รับมาแล้วฮะ

พูดมาทั้งหมดไม่ใช่ว่าผมจะไม่พูดถึงข้อด้อยของโรงแรมนะครับ ต้องยอมรับอยู่หลายอย่างว่าโรงแรมยังตอบโจทย์ได้ไม่ครบทุกอย่าง เรื่องแรกคงเป็นที่จอดรถที่ผมรู้สึกว่ามันยังมีน้อยไป โรงแรมนี้ไม่ค่อยเหมาะนักที่จะขับรถมาพักเองครับ ส่วนอีกเรื่องที่ต้องพูดถึงเลยคืออาหารที่ยังดูมีเมนูให้เลือกน้อยเกินไป และอาหารบางอย่างยังไม่ค่อยถูกปากมากนัก (หรือเพราะเราทานอาหารพื้นเมืองไม่เป็น) แต่ล่าสุดเห็นว่าทางโรงแรมกำลังมีการปรับปรุงและปรับเปลี่ยนเมนูอาหารกันอยู่โดยให้ เชฟพล ตัณฑเสถียร มาเป็นคนออกแบบให้อยู่ครับเราน่าจะได้พบเมนูใหม่ของโรงแรมในเร็วๆวันนี้ อีกเรื่องที่ยังรอการปรับปรุงอยู่คือความสะดวกสบายในการเข้าห้องพัก ตอนนี้อาจะยังต้องรอคิวบ้างในการรับส่งทางรถบักกี้ แต่อีกไม่นานเมื่อลิฟท์รางเสร็จปัญหานี้คงหมดไป

ขอบคุณสำหรับการต้อนรับที่ดีเยี่ยม ขอบคุณ foto Hotel ขอบคุณ GM ขอบคุณ PR & PA ที่น่ารัก ขอบคุณสไตล์ลิสของโรงแรมสำหรับไอเดียเก๋ๆที่มอบให้ ขอบคุณน้องช่างภาพสำหรับรูปคู่ในความทรงจำ ขอบคุณพนักงานทุกๆคน ขอบคุณผู้ชมที่ติดตามรีวิวนี้


ฝากติดตามแฟนเพจผมได้ที่ https://www.facebook.com/travelholicbigboy นะครับ



Create Date : 26 สิงหาคม 2557
Last Update : 27 สิงหาคม 2557 0:53:47 น. 1 comments
Counter : 3466 Pageviews.

 
thx u crab


โดย: Kavanich96 วันที่: 27 สิงหาคม 2557 เวลา:4:54:04 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

biGbOySalaDbAr
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 23 คน [?]




Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2557
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
26 สิงหาคม 2557
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add biGbOySalaDbAr's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.