เมื่อวันที่ 3 กันยายนที่ผ่านมานี้นอกเหนือไปจากการเปิดตัว Galaxy Note 4 และ Galaxy Note Edge ที่เรียกเสียงหือหาไปได้แล้ว ยังมีอีกผลิตภัณฑ์หนึ่งครับที่ได้รับการเปิดตัว และได้รับเสียงหือหาไม่แพ้กัน นั่นก็คือ Gear VR อุปกรณ์สวมศรีษะสำหรับสร้างภาพเสมือนจริงที่ทาง Samsung ผลิตขึ้นเพื่อใช้งานร่วมกันกับ Galaxy Note 4 ครับ โดย Gear VR นี้ทาง Samsung ได้ร่วมมือพัฒนากับบริษัทผู้ผลิต Oculus Rift อย่าง Oculus ครับ การพัฒนา Gear VR นี้เรียกได้ว่าแทบจะเร็วมากเลยทีเดียวเนื่องจากว่า Oculus นั้นได้ทำการเปิดตัว Oculus Rift ไปเมื่องาน CES 2013 ที่ผ่านมา เวลาผ่านไปปีกว่าๆ ทาง Samsung ก็สามารถที่จะพัฒนา Gear VR ขึ้นมาได้สำเร็จครับ

สิ่งที่น่าจะทำให้หลายๆ ท่านแปลกใจก็คือการร่วมงานระหว่าง Samsung กับ Oculus นั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร และเกิดขึ้นเมื่อไร ทาง Techcrunch จึงได้ทำการสัมภาษณ์ CEO ของบริษัท Oculus นาม Brendan Iribe ถึงความเป็นไปทั้งหมดที่เกิดขึ้นทั้งหมดในการร่วมมือพัฒนา Gear VR ของ Oculus กับทาง Samsung ครับ จะเป็นอย่างไรนั้นไปติดตามกันได้เลยครับ

ในตอนเริ่มต้นนั้น Oculus เองก็อยากที่จะคุยกับ Samsung อยู่แล้วครับ โดย Oculus สนใจที่จะนำหน้าจอ AMOLED ที่เป็นเทคโนโลยีของทาง Samsung มาใช้งานกับ Oculus Rift ซึ่งเมื่อ Iribe ได้มีโอกาสเข้าไปคุยกับทาง Samsung แล้ว(ซึ่งการพูดคุยนี้เกิดขึ้นหลังจากงาน CES 2013 ประมาณ 2-3 เดือน) Iribe ได้แจ้งความต้องการของตัวเองไป ทาง Samsung ตอบกลับมาว่า ทาง Samsung เองก็มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะเป็นผู้ผลิตหน้าจอให้กับ Oculus แต่ทาง Samsung มองเห็นโอสากสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ที่มากกว่านั้น โดยทาง Samsung ไม่ได้พูดเปล่าๆ ครับ เพราะได้หยิบเอา Gear VR รุ่นต้นแบบ(ในตอนนั้น) ออกมาให้ Iribe ดูด้วย ทาง Samsung บอกกับ Iribe ว่าทาง Samsung ได้พัฒนา Gear VR มาแล้วสักระยะหนึ่ง ซึ่ง Iribe ก็ถามกลับไปครับว่าเริ่มพัฒนามาตั้งแต่เมื่อไร Samsung เองก็ตอบว่าประมาณ 2-3 เดือนได้(ซึ่งก็เป็นตอนที่หลังจาก Oculus เปิดตัว Oculus Rift ในงาน CES 2013 ไปแล้ว 2-3 เดือนนั่นเองครับ)

การทำงานของทีมงาน Oculus ในตอนแรกนั้นได้มองข้ามในเรื่องของ VR ที่ใช้พลังการประมวลผลจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ไปครับ โดยพวกเขาได้หันมามุ่งเน้นพัฒนาให้ Oculus Rift ใช้พลังการประมวลผลจาก PC Desktop ซึ่งนั่นทำให้ Iribe เกิดความสนใจในตัว Gear VR เป็นอย่างมาก เพราะเข้าต้องการที่จะรู้ว่าพลังของอุปกรณ์เคลื่อนที่นั้นจะสามารถสร้างภาพเสมือนจริงออกมาได้ดีมากขนาดไหน ทาง Oculus จึงได้กลับมาที่แลปพร้อมกับ Gear VR รุ่นต้นแบบที่ทาง Samsung ให้มาครับ Iribe ได้ทำการลองใช้งาน Gear VR รุ่นต้นแบบอยู่พักใหญ่ๆ และเขาก็เกิดไอเดียขึ้นมาครับว่าเซนเซอร์ภายในมือถือนั้นยังไม่สามารถที่จะสร้างภาพเสมือนจริงที่ดีขึ้นมาได้ มันยังไม่เร็วพอ และความถูกต้องของภาพก็ยังไม่มากพอ ฯลฯ ดังนั้นถ้าเอาเซนเซอร์จาก DK1(ต้นแบบของ Oculus Rift) มาเชื่อมต่อผ่านพอร์ท USB ทุกอย่างน่าจะดีขึ้นกว่านี้

ความเป็นไปได้จากอุปกรณ์เคลื่อนที่ถือเป็นสิ่งที่ช่วยโน้มน้าวให้ John Carmack มาร่วมงานกับทางบริษัทครับ โดย Iribe ได้โชว์ต้นแบบของ Gear VR ให้กับ Carmack ดู ซึ่ง Carmack มีความตื่นเต้นกับสิ่งที่ได้เห็นเป็นอย่างมาก Carmack ได้พูดกับ Iribe ว่าศักยภาพที่แท้จริงของโลกเสมือนจริงและสิ่งที่เขา(Carmack) ต้องการอยู่ที่นี้ ดังนั้นเขาจึงขออยู่ร่วมงานกับ Oculus เพื่อที่จะทำให้สิ่งนี้เป็นจริงขึ้นมา และในอีกไม่กี่ปีโลกเสมือนจริงจะต้องก้าวเข้าสู่อุปกรณ์เคลื่อนที่อย่างแน่นอน

Iribe บอกว่าสิ่งที่ดีที่สุดที่เขาได้ Carmack มาร่วมงานนั้นก็คือ Carmack มีไอเดียที่น่าอัศจรรย์ใจเป็นอย่างยิ่งและไอเดียต่างๆ เหล่านั้นก็สามารถที่จะนำมาใช้งานได้จริง(บางไอเดียพวกเขาเองก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะสามารถนำมาใช้งานจริงๆ ได้) และทีมงานที่ร่วมพัฒนา Gear VR ทุกคนนั้นก็ตอบสนองกับไอเดียต่างๆ เหล่านั้นได้อย่างดีเยี่ยม ในท้ายที่สุด Carmack และทีมงานก็สามารถสร้าง Gear VR ขึ้นมาได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ครับ ไม่ว่าจะเป็นฮาร์ดแวร์หรือซอฟต์แวร์

ในครั้งแรกที่พวกเขาได้ดูเดโมจากทาง Samsung พวกเขารู้สึกเหมือนกับว่ากำลังดูเดโมจากอุปกรณ์ VR เคลื่อนที่อื่นๆ อย่างเช่น Google Cardboard หรือ FOV2GO (ดังคลิปด้านบน) เขาบอกว่าเดโมเหล่านี้ยังไม่ดีมากพอที่จะทำให้เห็นถึงพลังที่แท้จริงในการแสดงภาพเสมือนจริงออกมาได้จากอุปกรณ์ที่พวกเขาสร้างขึ้น เดโมเหล่านี้ยังให้ประสบการณ์ภาพเสมือนจริงที่ไม่ดีมากนัก ผู้ใช้บางคนอาจจะอยากเอาอุปกรณ์ออกหลังจากดูเดโมไปได้สักพักก็เป็นได้ แต่หลังจากที่ร่วมงานกันแล้วทาง Oculus กับ Samsung ก็สามารถสร้างเดโมที่ให้ประสบการณ์ภาพเสมือนจริงที่ดีกว่า อย่างที่ไม่เคยมีมาได้ครับ

Iribe กล่าวว่าโปรเจคร่วมงานกับทาง Samsung นี้มีมาก่อนที่ Facebook จะทำการเข้าซื้อ Oculus และการเข้าซื้อ Oculus ของ Facebook นี้ก็ไม่ได้มีผลกระทบใดๆ กับโปรเจคที่ทาง Oculus ทำอยู่ ซึ่งนั่นถือเป็นสิ่งที่ดีมากสิ่งหนึ่ง ทั้งนี้การได้กล้าวเข้าสู่โลกของอุปกรณ์เคลื่อนที่ของทาง Oculus ในครั้งนี้ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีครับ เพราะทุกวันนี้เทคโนโลยีของอุปกรณ์เคลื่อนที่กำลังพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ การได้ร่วมงานกับ Samsung นั้นทำให้ Oculus มีศักยภาพในตัวเพิ่มขึ้นมาก และเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น ในตอนท้าย Iribe กล่าวว่า เขาเชื่อว่าอีกไม่นานนี้อุปกรณ์เคลื่อนที่คงสามารถสร้างโลกเสมือนจริงได้ดังเช่นที่ Gear VR สามารถทำได้อย่างแน่นอนครับ

ที่มา : techcrunch , //notebookspec.com