สถานที่เกิดเหตุ: Backyard Steak
ที่ตั้ง: ซอยหัวหิน 62 ถนนเพชรเกษม อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
หมายเลขติดต่อ: 032-514-499, 087-346-6664, 084-646-4619
ข้อมูลเพิ่มเติม: //www.backyardsteak.com/
วันที่เกิดเหตุ: วันเสาร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2552 เวลา 18:30 น.
ส่วนลดค่าเสียหาย: คนละ 159 บาท (ไม่รวมเครื่องดื่ม)

ขอแจ้งให้ทราบล่วงหน้าก่อนว่า Blog นี้ไม่ได้เป็นการ review ร้านอาหาร แต่เป็นเพียงการจดบันทึกข้อมูลเพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำ (Memory Diary Blog) ของบีบี้ที่มีต่อร้านอาหารที่เคยไปกินมา ข้อมูลดังกล่าวทั้งหมดจึงเป็นเพียงแค่ความคิดเห็นของบีบี้ที่เกิดขึ้นในวันที่เกิดเหตุเท่านั้น

อารัมภบท
จากการไปเที่ยวหัวหินเมื่อเดือนที่แล้ว (เดือนสิงหาคม โดยดูรายละเอียดได้จาก Blog เรื่อง หัวหินครั้งแรกของปี : ตอนที่ 1 บ้านพักอันแสนสุข) ด้วยสายตาอันว่องไวต่ออาหารของบีบี้ทำให้เหลือบไปเห็นป้ายอันใหญ่ที่เขียนว่า "บุฟเฟต์ 159 บาท" และสิ่งนี้เองที่กระตุ้นต่อมความอยากของบีบี้ แต่เนื่องจากบรรดาคุณเพื่อนๆ (รวมทั้งบีบี้) ได้ซื้อของกินจากโต้รุ่งมาซะเต็มรถ (เกินไป) แผนการกินบุฟเฟต์จึงเป็นอันล้มไป

หลังจากนั้น บีบี้จึงเกิด idea แปลกๆ ขึ้นมา นั่นคือ เที่ยวกินดะ ณ หัวหิน (กำลังจะเขียนลง Blog ในเร็ววันนี้) ซึ่งร้านนี้ก็เป็นหนึ่งในเป้าหมายของบีบี้ที่จะตามไปกินด้วย

ช่วงบ่ายๆ ของวันนี้มีเมฆมากซึ่งดูเหมือนว่าฝนกำลังจะตก และแล้วก็เป็นจริงอย่างที่คิด พอบ่าย 3 โมงกว่าๆ ฝนก็ตกหนักและดูท่าว่าจะตกนานด้วย ซึ่งกว่าฝนจะหยุดก็ปาไป 5 โมงเย็นกว่าๆ แต่ก็ยังออกจากที่พักไม่ได้เพราะน้ำที่ท่วมขังเนื่องจากฝน กว่าจะได้เริ่มเดินทางก็ 6 โมงเย็นเลยไปหน่อย ซึ่งเมื่อเดินไปถึงก็ราวๆ 6 โมงครึ่ง แต่คนก็ยังไม่มากนัก

เมื่อไปถึงที่ร้าน บีบี้ขอสำรวจอาหารก่อนที่จะเลือกที่นั่ง ซึ่งอาหารหลักๆ จะเป็นสเต็กกับสลัดบาร์ และขนมหวาน (น้ำแข็งใส) ส่วนอาหารอื่นๆ เหมือนเป็นอาหารประกอบในบุฟเฟต์ (บางรูปบีบี้ถ่ายไม่ชัดเพราะแสงไม่พอและบีบี้เลือกที่จะไม่เปิดแฟลช)

หลังจากนั้นบีบี้ก็หาที่นั่งโดยเลือกที่นั่งด้านนอกเพื่อให้ได้บรรยากาศของสวนหลังบ้าน (เหมือนชื่อของร้าน - ไม่กลัวเลยว่าฝนจะตกอีกรอบหรือปล่าว)

และสิ่งแรกที่บีบี้เลือกตัก (เสมอนั้น) นั่นคือสลัดผัก

จากนั้นก็ต้องเป็นสเต็ก ซึ่งบีบี้เลือกสเต็กไก่ราดซอสพริกไทยก่อนเป็นอันดับแรก (ไม่ได้ตกแต่งจานสเต็กด้วยผักสลัดเพราะบีบี้ได้ตักสลัดแยกไว้อีกจานแล้ว)

และขอคั่นรายการสเต็กด้วยสปาเก็ตตี้ซอสหมูสับที่กินพร้อมกับไส้กรอกและมันฝรั่งผัดเนย บีบี้ชอบตรงที่ซอสหมูซึ่งอร่อยมาก (อาจเป็นเพราะใส่มันหมูสับลงไปในซอส จึงทำให้เนื้อหมูสับนุ่ม)

แล้วก็ถึงคราวของสเต็กปลาทอดที่กินพร้อมกับสลัดผักและมันฝรั่งทอด บีบี้ชอบจานนี้มากโดยเฉพาะเนื้อปลาที่ทั้งกรอบนอกและนุ่มใน

หลังจากนั้นบีบี้ก็เดินไปตักสเต็กต่อ แต่ว่าเหลือบไปเห็นหม้อซุปตั้งอยู่ เลยนึกขึ้นได้ว่า เราเองยังไม่ได้ชิมซุปเลย บีบี้จึงตักซุปครีมเห็ดและโรยหน้าด้วยขนมปังกรอบ บีบี้รู้สึกว่าซุปไม่ข้นและไม่ค่อยหอมเท่าไร (คือว่าบีบี้ชอบซุปครีมเห็ดแบบ Sizzler มากกว่า)

และแล้วก็ถึงคราวของสเต็กหมูซึ่งราดด้วยซอสพริกไทย

คั่นรายการด้วยมากิซูชิซึ่งอยู่ใกล้ๆ ที่นั่งของบีบี้ ซูชิปั้นได้ไม่แตกเลยทำให้ดูน่ากิน ข้าวซูชิไม่มากเกินไปและไม่แข็งเกินไปด้วย แต่บีบี้ก็ชิมแค่อย่างละชิ้นเพราะไม่ได้ตั้งใจจะมากินซูชิที่นี่

จานถัดไปเป็นอาหารไทยซึ่งมีเพียงไม่กี่รายการ ได้แก่ ข้าวผัดผงกะหรี่ทะเลที่ไม่ค่อยมีกลิ่นผงกะหรี่แต่ก็ไม่มันเหมือนข้าวหมกไก่ ยำรวมมิตร (ที่บีบี้ไม่ค่อยชอบกินอยู่แล้ว) และส้มตำไทย (จานนี้เป็นจานโปรดมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว) บีบี้ชอบตรงที่อาหารทะเลที่นี่ไม่ใส่หอย (ซึ่งบางเวลาบีบี้ไม่ก็อยากกินหอย เดาอารมณ์ตัวเองยาก)

สำหรับอาหารทอด นอกจากจะมีปลาทอดแล้ว ยังมีซาโมซาไก่ (บีบี้เคยทำซาโมซากินในวันแน่มาก่อนแล้วที่ Blog ซาโมซ่า) และปีกไก่ทอด (อร่อยมาก แบบว่ากินตอนที่ยังร้อนๆ แบบกรอบนอกนุ่มใน ทั้งๆ ที่คลุกแป้งไม่หนาเลย) สำหรับอาหารทอด บีบี้ไม่นับรวมมันฝรั่งทอดเพราะถือว่าเป็นอาหารเครืองเคียงไว้กินกับปลาทอดหรือไส้กรอก

และสเต็กจานสุดท้ายก็เป็นสเต็กเนื้อราดด้วยซอสเห็ดผสมซอสพริกไทย ซึ่งดูๆ แล้วเหมือนจะเป็นเนื้อทุบเพราะพื้นผิวของชิ้นเนื้อดูไม่ค่อยเรียบ (เลยเป็นสาเหตุให้เนื้อนุ่มด้วยมั้ง)

จากนั้นบีบี้ก็กลับไปกินอาหารจานโปรด นั่นคือส้มตำไทยกับปลาทอด ที่ปลาทอดกรอบมากๆ เพราะเพิ่งนำมาวาง (น่าเสียดายที่ไม่ได้ตักปีกไก่มากินแกล้มด้วย ไม่เช่นนั้นคงจะแซบกว่านี้)

บีบี้ยุติของคาวด้วยน้ำแข็งใสที่มีเครื่องหลากหลายมาก (เหมือนกับที่ตั้งขายในตลาดโต้รุ่งเลย) บีบี้เลยขอสองถ้วยแบบที่เป็นน้ำเชื่อมและแบบน้ำแดงราดนม (แบบหลังบีบี้ลืมถ่ายรูปเก็บไว้ซึ่งบีบี้ใส่แปะก้วยและลูกชิดเยอะมาก)ส่วนคุณแดดดี้เน้นแต่แปะก้วยกับขนุนฉีกราดน้ำเชื่อม (คุ้มมากๆ เมื่อเทียบกับไปกินที่ตลาดโต้รุ่ง)

จากนั้นก็ตามมาด้วยของหวานในตู้แช่ ซึ่งมีบราวนี่หน้าช็อคโกแลตแข็งกับเยลลี่รวมรสต่างๆ สำหรับบราวนี่ที่บีบี้ชอบเป็นการส่วนตัวแล้วนั้นถูกตกแต่งด้วยซอสส้มด้านบน ทำให้หอมกลิ่นส้มและรสชาติอมเปรี้ยวนิดหน่อย (เลยกินไปแค่ 3 ชิ้นเอง) สำหรับเยลลี่นั้น รสชาติไม่หวานแต่เหนียวและหยุ่นๆ ดี (คุณแดดดี้ก็ชอบอีกเช่นกัน)

สุดท้ายและท้ายสุด (ที่ปกติไม่ค่อยได้กิน) สิ่งสุดท้ายที่ได้ลิ้มลอง นั่นคือผลไม้ เมื่อมาถึงประจวบทั้งทีจะพลาดกินสับปะรดไปได้อย่างไร เห็นเนื้อออกขาวๆ อย่างนี้ จริงๆแล้วไม่ค่อยเปรี้ยวเลย ทั้งยังกรอบแต่ก็ไม่ฉ่ำ

สำหรับมื้อที่แสนอร่อยและอิ่มท้องได้ในราคาเบาๆ เพียง 348 บาท (ค่าบุฟเฟต์ 318 บาทและค่าน้ำ+น้ำแข็ง 30 บาท) เฉลี่ยคนละ 174 บาทเท่านั้นเอง

อาหารที่พลาด
1. ซุปต้มยำไก่และซุปข้าวโพด เนื่องจากบีบี้ชิมซุปครีมเห็ดแล้วไม่ค่อยชอบ ทำให้บีบี้ไม่อยากตักซุปแบบอื่นๆ มากินเพราะเกรงว่าจะไม่อร่อย แต่ครั้งหน้าจะขอลองเปลี่ยนเป็นแบบอื่นบ้าง เผื่ออาจจะได้เห็นความอร่อยที่ถูกมองข้าม (หรือความไม่อร่อยที่สมควรถูกละเลย)
2. ซอสเผ็ดแบบไทย ซึ่งบีบี้มัวแต่คิดว่าจะกินกับสเต็กอะไรเลยพลาดซอสนี้ไป

รู้ไว้นะว่า ...
1. คุณภาพโดยรวมและปริมาณอาหารคุ้มเกินกว่าราคาที่จ่ายไปเสียอีก (ไม่รู้ว่าถ้ามีคนกินเยอะๆ ร้านจะกำไรบ้างมั้ย) คิดอยากจะให้มีในกรุงเทพมั่งจัง
2. ประทับใจการบริการของบริกรที่ยิ้มแย้มเสมอ เคลียร์โต๊ะให้ตลอด และไม่ค่อยเปลี่ยนสีหน้าแม้ว่าจะถูกคุณแดดดี้ใช้ให้ไปตักนั่นตักนี่ หรือแม้แต่ถูกใช้ให้หั่นสเต็กให้ (เพราะบีบี้ไปเดินตักอาหารที่อื่นอยู่)
3. บรรยากาศในร้านจัดได้ร่มรื่นเหมือนสวนหลังบ้านจริงๆ ทั้งๆ ที่ไม้ประดับในร้านส่วนใหญ่เป็นไม้ประดิษฐ์ (อาจเป็นเพราะบีบี้ไปตอนเย็นหรือปล่าว)
4. เมื่อเทียบกับราคาอาหารของร้านแนะนำในหัวหิน เช่น ร้านโกทิหรือร้านไก่ทอดโกศล-ครัวกรรณิการ์ แล้วร้านนี้บีบี้ให้เป็นอันดับ 1 เลย (ความเห็นของบีบี้เอง โดยเฉพาะร้านโกทิซึ่งไปกินมาครั้งหลังนั้น ไม่ประทับอย่างรุนแรง) แม้แต่ร้านอาหารในแบบใกล้เคียงกันอย่าง Sizzler ยังสู้ไม่ได้
5. มาหัวหินครั้งต่อไปคงไม่พลาดร้านนี้แน่นอน

บีบี้

Create Date : 23 กันยายน 2552
Last Update : 23 กันยายน 2552 0:20:04 น.		4 comments
Counter : 4246 Pageviews.
Share Tweet

บีบี้