"ณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา" โพสต์ข้อความสะเทือนใจหลังเกิดเหตุการณ์รถชนนักปั่นจนเสียชีวิต 3 ศพ บอก เมา+ขับ ไม่ต่างอะไรจากฆาตกร ก่อนเกิดดรามาหลังมีคนโยงถึงคดี "แพรวา 9 ศพ" จนเจ้าตัวต้องรีบวอนขอให้แยกแยะ
เป็นอีกหนึ่งนักแสดงที่มีใจรักในการปั่นจักรยานไปตามสถานที่ต่างๆ สำหรับ "ณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา" งานนี้หลังจากที่มีเหตุการณ์รถยนต์ขับพุ่งชนนักปั่นจักรยานเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 ศพ บาดเจ็บอีก 2 รายเป็นข่าวออกมาล่าสุดทางด้านของนักแสดงหนุ่มก็ได้โพสต์ข้อความถึงเรื่องนี้ผ่าน @nutt_devahastin ว่า...
"โดยส่วนตัวแล้วผมรู้สึกสะเทือนใจทุกครั้งที่ได้ทราบข่าวเกี่ยวกับอุบัติเหตุบนถนนที่ทำให้เกิดความสูญเสียทั้งที่เกี่ยวข้องกับคนเดินถนน รวมถึงคนที่ร่วมแบ่งปันใช้ถนนไม่ว่าจะเป็นพาหนะอะไรก็ตาม แต่ในฐานะคนที่เคยใช้พาหนะเกือบทุกประเภท ทั้งรถยนต์ มอเตอร์ไซค์(ซึ่งผมเลิกขี่แล้วเนื่องจากเคยประสบอุบัติเหตุล้มด้วยตัวเอง) รวมถึงจักรยาน จึงทำให้เกิดความเข้าใจถึงความสะดวกปลอดภัย รวมถึงความเสี่ยงที่มากับทุกพาหนะที่มีอยู่บนท้องถนน ในความเป็นจริงเราทุกคนคงต้องยอมรับว่าทุกพาหนะมีความเสี่ยง"
"แต่สิ่งที่ทุกคนที่ร่วมแบ่งปันพื้นที่บนท้องถนนไม่ว่าคุณจะใช้พาหนะอะไรก็ตามต้องมี คือความรับผิดชอบต่อชีวิตตนเองรวมถึงผู้อื่นที่ร่วมแชร์พื้นที่ "สาธารณะ"นี้ด้วย แน่นอนกฏหมายบ้านเราเกี่ยวกับการเมาแล้วขับอาจยังไม่รุนแรงเท่ากับต่างประเทศแต่เราก็ได้เห็นการพัฒนาในความเข้มงวดกวดขันที่เพิ่มขึ้นของผู้รักษากฏหมายรวมถึงกระบวนการยุติธรรมที่มีมากขึ้นทุกครั้งที่เกิดความสูญเสีย ซึ่งก็ถือเป็นเป็นเรื่องดี แต่เราควรถามตัวเองหรือไม่ว่าปัญหานี้ไม่ใช่เรื่องที่เพิ่งเคยเกิดขึ้นครั้งแรก และการแก้ปัญหาของเราเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ (โดยการแก้กฏหมายหรือคาดโทษลงทัณฑ์ผู้กระทำผิดให้มากขึ้น)"
"ในทางกลับกันผมกลับมองว่าเป็นหน้าที่เราทุกคนที่ต้องยอมรับความเป็นจริงว่าเรา "คนไทย" ควรเริ่มกลับมามองตนเองและพิจารณาว่าเราได้ตระหนักถึงปัญหาในการเมาแล้วขับขนาดไหน ผมเชื่อว่าเราเกือบทุกคนเคยดื่มแล้วขับด้วยเหตุผลที่คิดว่าเราขับได้ ไม่เมามาก ไม่อยากจอดรถทิ้งไว้ หรือไม่ไว้ใจบริการขนส่งมวลชนและบริการอื่นๆที่เริ่มมีมากขึ้นในสังคมสำหรับคนที่ดื่มและมีหาหนะส่วนตัว"
"ดังนั้นผมจึงอยากให้เราทุกคนเริ่มสร้าง"ค่านิยม"ใหม่ๆกับตัวเองและคนรอบข้างโดยการ "หยุดขับ" ถ้าคุณคิดจะดื่ม และวางแผนการเดินทางล่วงหน้าก่อนขาดสติ เพราะครั้งที่คุณล้วงกระเป๋าแล้วหยิบกุญแจรถขึ้นมาหลังจากที่คุณดื่มเหล้า(ต่อให้เป็นปริมาณมากหรือน้อยแค่ไหนก็ตาม) คุณก็ไม่ต่างอะไรจากฆาตกรที่รอก่อเหตุ เพียงแต่ไม่รู้ว่า "เหยื่อ" ของคุณจะเป็นใครแค่นั้นเอง..."
"ทุกครั้งที่ผมได้ยินคำว่า "ขอโทษนะ เราไม่ได้ตั้งใจ" ผมมักจะตอบกลับไปเสมอในเชิงหยิกแกมหยอกว่า "ไม่เป็นไร คราวหน้าก็ขอให้ตั้งใจนะ จะได้ไม่เกิดขึ้นอีก" ขอแสดงความเสียใจกับทุกชีวิตและครอบครัวที่สูญเสียคนรักไปครับ หวังว่าพวกเราจะได้ตื่นจากการหลอกตัวเองแล้วเริ่มจริงจังกับเรื่องนี้ซะที เริ่มต้นจากตัวคุณและคนรอบข้าง เพราะการสร้าง "จิตสำนึก" ให้เด็กรุ่นใหม่จะไร้ค่าหากผู้ใหญ่อย่างเรายังทำไม่ได้และใช้คำพูดมักง่ายว่า "ไม่เป็นไร"
ทั้งนี้หลังจากที่เจ้าตัวได้โพสต์ข้อความดังกล่าวไปก็ได้มีคนที่ติดตามอินสตาแกรมของนักแสดงหนุ่มเข้ามาแสดงความเห็นด้วยมากมาย
อย่างไรก็ตามก็ได้มีบางส่วนที่โยงเรื่องที่นักแสดงหนุ่มโพสต์ไปยังคดีอุบัติเหตุรถตู้โดยสารที่ถูกรถยนต์ซึ่งขับโดยหญิงสาวนามสกุลเดียวกับเจ้าตัวชนจนมีผู้เสียชีวิตถึง 9 ศพ ซึ่งก็ทำให้มีคนเข้ามาแสดงความเห็นกันมากมายกระทั่งหนุ่ม "ณัฏฐ์" เองต้องออกมาชี้แจงว่าหากใครที่ติดตามคดีนี้อยู่ก็จะรู้ว่าคดียังไม่จบและคงจะแยกแยะได้ว่าอีกฝ่ายเป็นน้องคนละแม่ที่ไม่ได้เติบโตมาด้วยกัน ซึ่งตนก็เชื่อมั่นในกระบวนการความยุติธรรมและคิดว่าท้ายที่สุดใครที่สูญเสียก็ได้รับการชดใช้ รวมถึงคนผิดจะโดนลงโทษ ซึ่งตนก็หวังว่าสังคมจะเลิกประณามในสิ่งที่ตนไม่ได้เกี่ยวข้องสักที
สำหรับคดีที่มีการโยงเข้ามานั้นเกิดขึ้นในคืนวันที่ 27 ธ.ค.ปี 2553 หลัง "น.ส.แพรวา" (นามสมมุติ) วัย 17 ปีได้ขับรถยนต์พุ่งชนกับรถตู้โดยสารที่วิ่งระหว่างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตกระเด็นตกจากทางด่วน รวม 9 ศพ โดยในชั้นต้นศาลได้พิพากษาจำคุกจำเลย 2 ปี แต่ให้รอลงอาญา 3 ปี และห้ามขับรถอีกจนกว่าอายุ 25 ปี บำเพ็ญประโยชน์ 48 ชั่วโมง ส่วนความผิดฐานใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ ให้ยกฟ้อง
จากนั้นวันที่ 22 เมษายน 2557 ศาลอุทรณ์ได้มีคำพิพากษาแก้โทษจากจำคุก 2 ปี รอลงอาญา 3 ปี ให้เพิ่มจำคุก 2 ปีรอลงอาญา 4 ปี/บำเพ็ญประโยชน์ 48 ชั่วโมงต่อปีเป็นเวลารวม 4 ปี ส่วนโทษอื่นให้คงตามศาลชั้นต้น
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 63 คน [
