ก้อยังคงอยู่ที่เมือง Vangsnes ค่ะ เราถือโอกาส พักผ่อนไปในตัว หลังจากเดินทางมาได้อาทิตย์กว่าๆแล้ว  วันนี้เลย สบายๆ ออกจากที่พักสายๆ ไปชมโบสถ์ไม้ที่ ได้ชื่อว่าเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในนอร์เวย์ คาดว่าก่อสร้างใน คศ.1130-1140 ตั้งอยู่ที่เมือง    Vik ห่างจากที่เราพักไปสิบกว่ากิโลเมตรเอง 

  แต่ก่อนจะชมโบสถ์ จะพาไปชม โรงงานผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานน้ำ ที่มีอายุ เกือบร้อยปี จะว่าไปจะมีนักท่องเที่ยวสักกี่คน ที่สนใจเรื่องนี้อย่างจริงจัง แต่ทำไงได้ วิศวรกร แก่ๆ คนนี้ ชื่นชอบทุกอย่างที่เกี่ยวกับระบบไฟฟ้า และเครื่องจักรกล ขอให้ได้เห็นสัมผัส และดมกลิ่น ฮ่าๆๆ 

ถนนแคบค่ะ ขับไปก้อจะมีจุดให้จอดหากเจอรถสวนกัน  

แต่กว่าจะหา แต่ละอย่างเจอ เราก้อตั้งใจ ขับรถหลงทาง ขึ้นไปบนเขา แต่ก้อไปได้ชมวิวสวยๆยาวเช้า กันพอหอมปากหอมคอ 

หลงทางกันจนหนำใจแวะถามชาวบ้านชาวช่องไปเรื่อยเปื่อย ฮ่าๆ บางคนพูดอังกฤษไม่ค่อยจะได้ แค่เยสๆ โนๆ ก้ออุตส่าห์ ช่วยบอกทาง ประทับใจมากๆ แล้วก้อมาถึง ตรงนี้ ด้วยความอยากรู้อยากเห็น ไอ้ช่องโหว่ๆ นี่ มันคืออะไร เดินเข้าไปใกล้ๆ  ความรู้สึกเหมือน อยู่ในหนังผจญภัย ฮ่าๆ แต่พอไปใกล้ๆ ได้ยินเสียงน้ำไหล และมองเข้าไปมันมืดมากๆ ทันใดได้ยินเสียง ปรืดๆ ปราดๆ ดังเป็นชุด ลมแทบใจ  เสียงตดชายใหญ่นั่นเอง ฮ่าๆๆๆ ฮ่วย เรียกสติกลับมาพอดี ไม่ต้องบอก ก้อวิ่งแน่บเลย

แกเดินเข้าไปข้างในหาเจ้าหน้าที่ไม่เจอ  ก้อยังอุตส่าห์ ปีนขึ้นไปถามคนที่กำลังทำงานข้างบน ยอมใจเขาจริงๆ เวลาอยากรู้ ก้อต้องรู้ให้ได้ 

ปล่อยให้ เขาคุยกันเรื่องวิชาการไปร้อยแปด เราสองคนแม่ลูก ลงไปวิ่งเล่นกันข้างล่าง

และแล้วก้อ มาถึง โบสถ์ไม้เก่าแก่ที่สุดในนอร์เวย์ ตอนแรก แปลกใจมากที่อ่านในใบเข้าชมว่าเป็นโบถส์เก่าแก่ ที่สุด เพราะตอนหาข้อมูล เรื่องโบสถ์ ไม้ ในนอร์เวย์มีเก่าๆและสวยๆอยู่หลายแห่งและบางที่ก้อระบุว่าเก่าแก่ที่สุดก้อเลยงง ว่าตกลง อันไหนกันแน่ที่ใช่  รายละเอียดเข้าไปอ่านได้ที่นี่เลยจ้า

ทุกจุดทุกรายละเอียดเขาอนุรักษ์ได้ดีมากๆ สภาพยังดีอยู่เลย เราเดินกันแทบจะหยุดหายใจ เพราะกลัวเสียงจะทำลายบรรยากาศ

หลังจากใช้เวลา ชมโบสถ์เก่าแห่งนี้กันจนหนำใจ ขณะกำลังจะกลับ ก้อเจอกับกรุ๊ปทัวร์ กลุ่มใหญ่ ภาษาที่พูดคุ้นมาก  อ้อ ดัตช์ นั่นเอง ทักทายกันไป แล้วทันใดนั้นก้อได้ยินเสียงไกด์ ตะโกนว่า กลับมาก่อน เราจะดูแค่ข้างนอกกันนะ เพราะถ้าจะเข้าไปชมต้องเสียเงินซื้อบัตร เท่านั้นแหละ ก้อเดินกลับกันออกมาข้างนอกกันเลย เรากับชายใหญ่ มองตากันยิ้มๆ นี่แหละน้า ที่เขาว่า คนดัตช์น่ะ ขี้เหนียวไม่มีใครเกิน ฮ่าๆๆ  

  ข้างนอกรอบๆเป็นที่ฝังศพของคนตระกูลเก่าแก่ของเมืองนี้ และยังคงใช้เป็นสุสานประจำตระกูลจนปัจจุบัน เพราะยังเห็นหลุมที่ใหม่ที่สุด ก้อต้นปีนี้เอง  เดินผ่านแล้วก้อใจหายนะ เกิดแก่เจ็บตาย ไม่มีใครหนีพ้น  จริงๆ ทำวันนี้ให้ดีที่สุด 

บลอคหน้า จะพาไปขึ้นรถไฟเที่ยวที่เมือง ฟลามกันจ้า