ผู้หญิงเราเป็นกันหลายคนนะคะ
โดยเฉพาะเสื้อผ้า เครื่องสำอาง เครื่องประดับต่างๆ
น้อยคนนักที่เราจะเห็นว่ามีน้อยหรือใส่แบบเดิม
ซึ่งเมื่อก่อนยอมรับเลยว่า เป็นคนไม่แต่งตัวเลยแม้แต่นิด
ใส่กางเกงยีนส์ตัวเดียว สลับกับกางเกงขาสั้น
เสื้อแบบเดิมแบบเดียว บางทีซื้อเป็นโหลแต่เปลี่ยนสีเอา
ส่วนเครื่องสำอางเราเป็นคนไม่แต่งเลยล่ะ
เมื่อก่อนทาแป้งฝุ่น ลิปมัน(ไม่มีสี) ก็ออกบ้านได้แล้ว
รองเท้าก็ใส่คู่เดียวพังเมื่อไหร่ค่อยซื้อใหม่
รวมไปถึงกระเป๋าด้วย ส่วนเครื่องประดับ ตุ้มหู กิ๊ฟผม นาฬิกา
ก็ใส่มันยันหัก ยันเสียก่อนถึงจะค่อยมองหาใหม่
การที่ตัวเองเป็นแบบนั้นในเมื่อก่อนเราก็ว่าดีนะ
มันทำให้เก็บเงินได้เยอะไม่ฟุ่มเฟือย
แต่พอโตขึ้น ไปมหาลัย ไปทำงาน เจอสังคม เจอคนอื่น
มันเหมือนกับว่าเราได้เปิดโลกกว้างมากขึ้น
ชีวิตไม่จืดชืด มีความสุขกับการแต่งตัว
ทำให้มีเสน่ห์และที่สำคัญเป็นผู้หญิงมันก็ต้องอย่าหยุดสวย
แต่ในหลายๆ ครั้งเราก็ถามตัวเองตลอดนะว่าที่ซื้อมาใส่หรือซื้อมาใช้
ใช้หมดหรือยัง ใส่ได้กี่ครั้ง ใช้คุ้มแล้วหรือเปล่า ถึงไปซื้อใหม่
เห็นไอ้โน่นน่าลอง เห็นนี่สวยนั่นสวย ก็อยากได้ไปเสียหมด
เราเองก็ไม่ใช่มนุษย์ที่ไม่คิดก่อนซื้อแต่ก็เยอะกว่าคนที่เขาซื้อปกตินะ
ถ้าเอาลำดับความชอบก็น่าจะอยู่ที่ 60% แล้วแต่ของอีก
ที่พูดถึงเรื่องนี้มาก็เพราะว่าเรามีประเด็นนี้จะมาเล่าให้ฟัง
ส่วนตัวเราเป็นมนุษย์ผู้หญิงที่มีเสื้อผ้าอยู่ 4 ตู้ + กระบะใส่ผ้าอีก 2
ซึ่งถึอว่าปกติมั้ย? ไม่รู้ให้เพื่อนๆ คิดเอง 555
เราชอบแต่งตัวมากทั้งที่ตัวเองไม่ได้หุ่นดี แถม
อ้วนมากอีกต่างหาก
แต่ก็ชอบแต่ง มันเป็นความสุขส่วนตัวอะไรแบบนั้น
เราไม่ค่อยแคร์สายตาใคร อยากใส่อะไรก็ใส่เอาที่มันถูกกาลเทศะเป็นพอ
ทีนี้ เมื่อวันศุกร์ เราไปถูกใจเสื้ออยู่ 2 ตัว
เป็นเสื้อยืดใส่สบายๆ ดีไซน์สวย ใส่ได้ตลอกศก
ในใจก็คิดว่า
เฮ้ย จะซื้อดีมั้ยนะ ที่บ้านก็มีเสื้อเยอะแล้ว
หรือจะเลือกไปตัวเดียวก็พอ
ตัดสินใจอยู่นาน กลับเลือกไม่ได้สักตัว
เพราะดีไซน์มันคนละอย่าง ชั่งใจไม่ได้ว่าตัวไหนดีกว่ากัน
สักพักเรารำคาญตัวเองก็เลยเดินออกจากตรงนั้น
และบอกตัวเองว่า
ไม่เอาสักตัวแล้ว
กำลังจะกลับ ตาเจ้ากรรมก็เหลือบไปเห็น
เสื้ออีก 2 ตัว (ตัวใหม่นะ ไม่ใช่ 2 ตัวเมื่อกี้)
ก็กรี้ดในใจแล้วสไลค์ไปเลย ชอบมากอีกเหมือนกัน
และก็เลือกไม่ได้อีกเหมือน 2 ตัวแรก
ทำใจอยู่นาน ติดอยู่ตรงคำที่ว่า
ที่บ้านมีเสื้อเยอะแล้ว นี่แหละ
ทำให้จำใจลาจากเสื้อ 4 ตัวนั้นมาอย่างไม่เต็มใจนัก
1 วันผ่านไป เป็นวันเสาร์ เราดูกังวลเหม่อๆ ยังไงชอบกล
ถามใจตัวเอง
นี่เราคิดถึงไอ้เสื้อที่เราชอบนั้นหรือเนี่ย
เราเป็นโรคอะไรรึเปล่า ถึงขั้นคิดถึงมันจนนอนไม่หลับ
เลยพยายามปรับอารมณ์และคิดต่อว่า
เสื้อเดี๋ยวมันก็มีมาใหม่อีก
ให้ถูกใจตลอดแหละ ไว้ถึงตอนนั้นก็คงตัดสินใจเลือกตัวไหนได้สักตัว
ดู๊ดู เป็นเอามากถึงขนาดนี้ งงกับตัวเองเหมือนกัน
จนวันอาทิตย์ เรามีโอกาสไปโฉบที่นั้นอีก
มีคนยุให้ซื้อไปเหอะมากมาย แต่เราก็พยายามเลี่ยง
เลี่ยงเพราะไม่ใช่กลัวเปลืองเงินอะไรเลย
อยากจะซื้อมันทั้ง 4 ตัวเสียด้วยซ้ำ แต่
คำว่า
เยอะแล้วๆ มันค้ำคอตัวเองอยู่ตลอดเวลา
พอวันจันทร์เราก็ยังอดคิดถึงมันไม่ได้
เราก็เลยมานั่งเขียนไดอารี่ระบายความในใจ
นี่มันเข้าขั้นที่เราอยากได้มันอย่างรุนแรงแล้วหรือเปล่า
อยากรู้ว่าเพื่อนๆ มีวิธีจัดการกับไอ้ความคิดนี้ยังไง
ซื้อเลยเพื่อสนองนีดตัวเองจะได้ไม่มากังวลแบบนี้
หรือไม่ซื้อยังไงก็ห้ามซื้อ ตัดอกตัดใจเพราะที่บ้านมีเยอะแล้ว ฟุ่มเฟือยงั้นงี้
ยังไงช่วยๆ กันแชร์ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ
ตั้งใจว่าไม่เห็นหน้ากัน 3 เดือนยังอยากได้หรือเปล่า ... ถ้าอยากก็กลับไปซื้อ
ความสุขส่วนมากเกิดตอนซื้อ ไม่ค่อยเกิดตอนใส่ค่ะ