บทวิจารณ์แรกเริ่มจากคนเคยอ่านเมื่อได้ดูภาพยนตร์เรื่อง
Twilight ที่มีเนื้อเรื่องน่าสนใจมากๆ มาแล้ว เอ๋ได้เกิดสงสัยว่าในหนังสือจะน่าสนใจมากมายแค่ไหน? เลยไปหาซื้อหนังสือมาอ่าน แน่นอนว่ามัน
Cool สุดๆ โดยที่
Stephany Mayer นักเขียนที่เป็นเพียงแม่บ้านรักการอ่านธรรมดาๆ คนหนึ่งในอเมริกา สามารถสร้างสรรค์ผลงานที่เรียกได้ว่าเป็น
สุดยอดวรรณกรรมแฟนตาซี-โรแมนติก ที่แสนยอดเยี่ยมของคนทั่วโลก
หนังสือ
Twilight หรือ แรกรัตติกาล เล่มนี้เป็นเล่มแรกที่เริ่มต้นได้อย่างสวยงามจากหนังสือเล่มต่ออีกหลายๆ เล่ม เอ๋อยากจะแนะนำให้ใครก็ตามที่ยังไม่ได้อ่านนั้นควรได้ซื้อหามาอ่านกันสักเล่ม แน่นอนว่ามันเยี่ยมยอดมากๆ
อย่างที่มีหน่วยต่างๆ ได้ยกย่องและให้รางวัลแก่หนังสือของ สเตฟานี เมเยอร์ไว้มากมายทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็น BEST SELLER ของ New York Time สมาคมห้องสมุดแห่งอเมริกันยังยกให้เป็น "หนึ่งในสิบเล่มเยี่ยมสำหรับคนขี้เกียจอ่าน" และอื่นๆ อีกมากมาย
Special Thanksก่อนอื่นต้องขอบคุณ
สำนักพิมพ์ปราดเปรียวที่สรรหาหนังสือดีๆ มาให้อ่านก่อน และขอบคุณคุณ
เจนจิรา เสรีโยธิน ที่ช่วยแปลหนังสือเล่มนี้ แน่นอนสำนวนของคุณเจนจิราออกแนวตลกขบขัน ขณะที่เล่มอื่นๆ ในภาคต่อของ Twilight ของ
คุณอาทิตยานั้นเด่นที่มีความไพเราะสละสลวย ซึ่งทั้งสองคนต่างเป็นนักแปลที่ดีและยอดเยี่ยมสำหรับผู้อ่าน
เกี่ยวกับเนื้อหาเมเยอร์วางพลอตเรื่องได้น่าสนใจตลอดทั้งเรื่อง รวมถึงการทำให้ตัวละครมีชีวิตอยู่จริงบนโลกใบนี้ ตัวละครทุกตัวล้วนสมบูรณ์แบบอย่างมนุษย์และผิดมนุษย์ หรือแม้แต่สถานที่ล้วนแต่ทำให้ผู้อ่านน่าสนใจได้ทั้งนั้น
ในตอนแรกของหนังสือ "แรกพบ" เป็นตอนที่เบลลาตัวเอกของเราได้พบกับ เอ็ดเวิร์ดแวมไพร์ผู้กระหายเลือดของเธอ เป็นอันว่าตอนเริ่มต้นตัวเอกทั้งสองก็ลงเอยด้วยการไม่ชอบขี้หน้ากันเสียแล้ว นี่คือจุดที่น่าสนใจของเรื่องว่าพวกเขาจะหันมาชอบกันได้ยังไง ก็นั่นแหล่ะ เอ็ดเวิร์ดเริ่มต้นโดยหันมาหาเธอทำความรู้จักกันและแน่นอน เขาหลงรักเบลลาเหมือนที่เบลลาเองก็หลงรักเขาโดยไม่รู้ตัว
ในหนังสือ เบลลาค่อยๆ รับรู้ว่าเอ็ดเวิร์ดและพวกพี่น้องของเขามีอะไรแปลกๆ ไม่เหมือนมนุษย์ธรรมดาทั่วไป แถมครอบครัวคัลเลนของเขาก็น่าสนใจไม่น้อย เธอกับเอ็ดเวิร์ดเรียนวิชาชีวะฯ ด้วยกัน ทั้งสองค่อยๆ สนิทกันขึ้นเมื่อเอ็ดเวิร์ดรุกเข้ามาตีสนิทกับเธอและร่วมทานอาหารกลางวันกับเธอทั้งที่เขาไม่แตะต้อง นี่เป็นฉากที่ในภาพยนตร์ไม่มี รวมถึงตอนที่ในชั่วโมงเรียนชีวะมีการเจาะหากรุ๊ปเลือด นั่นเป็นตอนที่น่าตื่นเต้นที่ไมค์กับเอ็ดเวิร์ดพยายามแย่งตัวเบลลา
จุดสำคัญของเรื่องคือ เบลลาต้องพบว่าเอ็ดเวิร์ดเป็นแวมไพร์ และเธอหลงรักเขา ขณะที่เขากระหายเลือดของเธอแทบเป็นบ้า ส่วนเรื่องย่อยๆ นั้น เธอเป็นเพื่อนกับเจสสิกาไม่ได้ และแม้แต่ไมค์ที่ชื่นชอบเธอยังไม่ยอมเลิกยุ่งกับเธอแม้ว่าเธอจะคบกับเอ็ดเวิร์ดแล้วก็ตาม รวมไปถึงเลือดของเธอที่ทำให้แวมไพร์ตัวอื่นๆ กระหายแทบบ้า และเธอรักเมืองฟอร์กแห่งนี้
น่าเสียดายที่ในภาพยนตร์ไม่มีฉากน่าสนใจหลายๆ ฉาก จึงต้องหาหนังสือมาอ่านเอาเอง เพื่ออรรถรสที่แท้จริงจากเมเยอร์
สิ่งที่ชอบเป็นบ้าในภาคนี้แน่นอนว่าต้องเป็นเอ็ดเวิร์ด คัลเลน แวมไพร์ผู้สมบูรณ์แบบ และเบลลา ขณะเดียวกันชาร์ลีพ่อของเบลลาถือเป็นผู้ที่มีความรักกับลูกแบบเขินอาย อึดอัดที่จะเปิดเผย
ที่ขาดไม่ได้เห็นจะเป็นรถของครอบครัวคัลเลน แบบว่าพวกเขามีรถดีๆ ขับมากมายหลายคัน เมเยอร์ค่อนข้างภูมิใจในเรื่องนี้ไม่น้อยที่ทำให้ครอบครัวแวมไพร์ครอบครัวนี้มีรถที่เจ๋งๆ ไว้ขับ แม้แต่ผู้อ่านเองยังอิจฉาในความร่ำรวยครบถ้วนของพวกเขา
ส่งท้ายหลังจากที่ได้อ่านเล่มนี้แล้ว อยากให้หาเล่มสอง New Moon หรือ นวจันทรา มาอ่านโดยทันใด เพราะเล่มสองนี้น่าสนใจยิ่งกว่าเล่มแรกด้วยซ้ำ และเป็นเล่มที่เจคอบ แบล็ก ออกมามีบทบาทที่ทำให้พวกคุณอดชื่นชอบเขาน้อยลงไม่ได้ โดยเฉพาะถ้าได้อ่านภาค ECLIPSE หรือ คราสยุมพร คุณจะชื่นชอบเขามากขึ้นจนอาจถึงขั้นเริ่มไม่ชอบเอ็ดเวิร์ดได้
ส่วนในเล่มสุดท้ายที่มีอยู่ในไทยตอนนี้ Breaking Dawn หรือ รุ่งอรุโณทัย คุณจะได้อ่านเรื่องของเจคอบ แบล็ก แบบเต็มๆ ก่อนที่จะได้อ่านเล่มที่ 5 ในแบบฉบับของเอ็ดเวิร์ด คัลเลน