คาราวาน&แรลลี่รถยนต์ New Normal เที่ยวอีสานพร้อม ตอนคิดถึงชุมชนท่องเที่ยว#1 ยโสธร-อุบลราชธานี
นายสมชาย ชมภูน้อย ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เปิดเผยว่า ปีนี้คาราวานท่องเที่ยวรถยนต์พิชิต 20 จังหวัดภาคอีสาน(เดิม) ปรับรูปแบบกิจกรรมปีที่ 4 ให้เรียนรู้ประสบการณ์เดินทางท่องเที่ยวเน้นเรื่องสุขภาพอนามัยบนมาตรฐานการเดินทางท่องเที่ยวนำร่อง แบบใหม่ทุกคนต้องได้รับวัคซีนครบโดสและผ่านการตรวจ ATK ทุก 3 วัน เป็นรูปแบบ คาราวาน&แรลลี่รถยนต์ New Normal เที่ยวอีสานพร้อม ตอน คิดถึงชุมชนท่องเที่ยว รวมการเดินทางกันทั้งหมด 11 วัน 10 คืน เดินทางครบ 20 จังหวัดภาคอีสาน โดยมีพันธมิตรผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวจากส่วนกลาง และสมาชิกผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวจาก 20 จังหวัดภาคอีสาน รวมถึงสื่อมวลชนทั้งส่วนกลาง-ส่วนภูมิภาค และ ททท.ทั้ง 8 สำนักงานในภาคอีสาน
นายสมชาย ชมภูน้อย ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ซึ่งการเดินทางครั้งนี้จะทำให้ทุกคนได้มีเวลาและได้รู้จักกันแลกเปลี่ยนแนวคิดกันทั้ง Online และ Onsite ร่วมคิดวางแผนจัดกิจกรรมการตลาดท่องเที่ยวนำร่องสนับสนุนการท่องเที่ยวภาคอีสานในปี 2565 ต่อไป ตามแนวทางแผนการตลาดท่องเที่ยว ททท.ภาคอีสาน เพื่อจับมือเจาะตลาดท่องเที่ยวภาคอีสานร่วมกัน เพราะ ททท. มองว่ากิจกรรมนี้เป็นเรื่อง Networking เป็นการสร้างเครือข่ายร่วมเดินทางสำรวจแหล่งท่องเที่ยวในมุมมองใหม่ครบ 20 จังหวัดภาคอีสาน โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวเปิดใหม่ๆเน้นแหล่งท่องเที่ยววิถีชุมชน สินค้าบริการท่องเที่ยว ตามมาตรฐาน SHA ยกระดับงานบริการในภาคอีสานให้มีมาตราฐานสูงขึ้น คาราวานรถยนต์ครั้งนี้ทำให้เกิดพลังการมีส่วนร่วมในการทำงาน
นายสมชาย ชมภูน้อย ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า และที่สำคัญในทุกคืนก่อนนอน ยังได้พบปะผู้ว่าราชการจังหวัดและพันธมิตรผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดนั้นๆ ผ่านระบบ Online เพิ่มเติมแนวทางแผนการตลาดของทั้ง 8 สำนักงานภาคอีสานในปี 2565 ตอกย้ำแบรนด์ COOL ISAN กับ AMAZING ISAN เปิดโฉมใหม่ เที่ยวอีสาน 3 ธรรม (วัฒนธรรม : ธรรมชาติ : ธรรมะ) กับ อีสานUnseen New Series พร้อมนำเสนอ 20 จุดขายใหม่ปี 2565 รายจังหวัดในภาคอีสาน ซึ่งได้ตกผลึกแล้วว่าภาคอีสานจะมีทิศทางการตลาดอย่างไรบ้าง โดยอาศัยการทยอยเปิดโฉมสินค้าการท่องเที่ยวทุกๆ วันใน Theme การเดินทางคาราวานรถยนต์ในครั้งนี้ ในแต่ละวัน นำเข้าสู่ Theme สินค้าและเส้นทางท่องเที่ยวอีสานในการเดินทางคาราวานรถยนต์ในครั้งนี้ กับแนว ISAN ONLINE การตลาดท่องเที่ยวสมัยใหม่ ทำให้เกิดการทำงานท่องเที่ยวภาคอีสานในอนาคตสู่ เที่ยวอีสาน สะดวก สบาย ปลอดภัย และได้มาตรฐาน ผ่าน Online สื่อสารผ่านพันธมิตรเครือข่ายสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ลดขั้นตอนในการทำงาน และที่สำคัญที่สุด คาราวานปีที่ 4 ได้เปิดตัวออกสตาร์ทจุดขายใหม่กับแนวคิด เที่ยวอีสานหน้าฝนค้นหาความสุข ใน Theme #อีสานเขียวเที่ยวหน้าฝน เที่ยวอีสานวิถีใหม่ สไตล์ New Normal พร้อมรูปแบบการเดินทางในแนว คาราวาน&แรลลี่รถยนต์ New Normal เที่ยวอีสานพร้อม ตอน คิดถึงชุมชนท่องเที่ยว
คาราวาน&แรลลี่รถยนต์ New Normal เที่ยวอีสานพร้อม ตอน คิดถึงชุมชนท่องเที่ยว
จากคาราวานท่องเที่ยวรถยนต์พิชิต 20 จังหวัดภาคอีสาน สู่คาราวาน&แรลลี่รถยนต์ New Normal เที่ยวอีสานพร้อม ตอน คิดถึงชุมชนท่องเที่ยว
ระหว่างวันที่ 30 กันยายน - 10 ตุลาคม 2564 เส้นทาง 20 จังหวัดภาคอีสาน ประกอบด้วย ยโสธร อุบลราชธานี อำนาจเจริญ มุกดาหาร นครพนม สกลนคร บึงกาฬ หนองคาย อุดรธานี หนองบัวลำภู เลย ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ สุรินทร์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ และขอนแก่น
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)โดย ภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ภาคอีสาน) จีงได้จัดกิจกรรมคาราวานรถยนต์ส่งเสริมการตลาดท่องเที่ยว ครั้งที่ 4 ภายใต้ชื่องาน คาราวาน&แรลลี่รถยนต์ New Normal เที่ยวอีสานพร้อม ตอน คิดถึงชุมชนท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน ถึง 10 ตุลาคม 2564 เพื่อเป็นกิจกรรมช่วย เยียวยา ฟื้นฟู และสร้างความเชื่อมั่นในมาตราการมาตราฐานใหม่ หลังจากสถานการณ์ผ่อนคลาย COVID-19 (รอบที่ 3) พร้อมเตรียมตัวสร้างความพร้อมในการเปิดเมืองต้อนรับนักท่องเที่ยว 120 วันตามนโบายรัฐบาล สู่ 20 จังหวัดภาคอีสาน พร้อมเปิดเกมส์การตลาดท่องเที่ยวเชิงรุก มิติใหม่ส่งเสริมการขาย การเจรจาธุรกิจท่องเที่ยว Online และ Onsite ในรูปแบบคาราวานและแรลลี่รถยนต์ แบบเที่ยววิถีใหม่ให้ปลอดภัยจาก COVID-19 พร้อมเชื่อมโยงเครือข่ายสร้างความสัมพันธ์การตลาดการท่องเที่ยวภาคอีสาน นำไปสู่แหล่งท่องเที่ยวชุมชน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากสร้างความเชื่อมั่นความเข้มแข็งและยั่งยืน กับการท่องเที่ยวทั้งเมืองหลักและเมืองรองในภาคอีสานต่อไป โดยมีพันธมิตรการท่องเที่ยว ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวจากส่วนกลางและ 20 จังหวัดภาคอีสาน รวมทั้งสื่อมวลชน ร่วมคณะคาราวานฯเดินทาง Onsite ประมาณ 100 ท่าน และ Online ประมาณไม่ต่ำกว่า 1,000 ท่าน
เข้าสู่โรงแรมที่พักในเวลา 18.00 น. คืนแรกพักกันที่โรงแรม
โรงแรมอยู่ติดกับแม่น้ำมูล ติดกับสะพานแสนสุข-ยโสธร
โรงแรมเจพี เอมเมอรัลด์ (JP Emerald Hotel) ตั้งอยู่ที่เลขที่ 36 ถนนประปา ต.ในเมือง อ.เมือง, จังหวัดยโสธร โทร. : 045 714 455
ซึ่งโรงแรมเจพี.เอ็มเมอรัลด์ ยโสธร ได้จัดให้พนักงานเข้ารับการอบรมหลักสูตรผู้ประกอบการในงานสุขาภิบาลอาหาร โดยผ่านการอบรมหลักสูตรเรียบร้อยค่ะ มั่นใจในความสะอาด สะดวก และปลอดภัย
น้องมะปรางค์สาวงามแห่ง ททท.สำนักงานนครราชสีมา คงสงสัยว่าทำไมทริปนี้อุ้มจะมีภาพน้องมะปรางค์เยอะหน่อย เพราะเพิ่งมาออกทริปกับ ททท.ภูมิภาคภาคอีสานเป็นครั้งแรกไม่รู้จักใครเลยค่ะ นอกจากน้องมะปรางค์ เพราะเคยออกทริปกับ ททท.โคราชมาก่อนก็เลยจะรู้สึกคุ้นเคยน่ะค่ะ
zoom ไปพร้อมกินข้าวเย็นไปด้วยค่ะ มีการกล่าวค้อนรับคณะ "คาราวาน&แรลลี่รถยนต์ New Normal เที่ยวอีสานพร้อม ตอน คิดถึงชุมชนท่องเที่ยว จากท่านผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร และรองผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เป็นการตอกย้ำถึงความพร้อมที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยว "เที่ยวอีสานพร้อม" เรียกว่าเป็นการเตรียมเปิดโฉมใหม่ เที่ยวอีสาน 3 ธรรม ปลายฝนต้นหนาวที่จะถึงนี้อย่าง "พร้อม" เลยค่ะ ที่พร้อมทั้ง (วัฒนธรรม : ธรรมชาติ : ธรรมะ) กับแหล่งท่องเที่ยวใหม่ 20 จังหวัดภาคอีสาน กับ คาราวาน&แรลลี่รถยนต์ New Normal เที่ยวอีสานพร้อม ตอน คิดถึงชุมชนท่องเที่ยว
เข้าสู่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 จะมีพิธีเปิด คาราวาน&แรลลี่รถยนต์ New Normal เที่ยวอีสานพร้อม ปี 2564 ตอนคิดถึงชุมชนท่องเที่ยว พิชิต 20 จังหวัดภาคอีสาน โดย นายชลธี ยังตรง ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร และนายสมชาย ชมภูน้อย ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร่วมกันเป็นประธานพิธีปล่อยขบวนคาราวาน&แรลลี่รถยนต์ New Normal กันค่ะ
ซึ่งคาราวาน&แรลลี่รถยนต์ New Normal เที่ยวอีสานพร้อม ตอน คิดถึงชุมชนท่องเที่ยว กำหนดการเดินทางวันแรกในศุกร์ที่ 1 ตุลาคม 2564 เส้นทาง ยโสธร - อุบลราชธานี - อำนาจเจริญ ใน Theme 3-4-5 โขงชีมูล (3 วัฒนธรรมห้ามพลาดที่ยโสธร : 4 แสงเรืองรองที่อุบลราชธานี : 5 อำนาจวาสนาความเจริญรุ่งเรืองที่อำนาจเจริญ)
พิพิธภัณฑ์พญาคันคาก หรือ พิพิธภัณฑ์คางคก แลนด์มาร์คแห่งใหม่ที่โดดเด่นแปลกตาของจังหวัดยโสธร ตั้งอยู่ริมอ่างเก็บน้ำลำทวน อำเภอเมือง บริเวณสวนสาธารณะพญาแถน จังหวัดยโสธร เป็นพิพิธภัณฑ์ที่สอดแทรกตำนานเรื่องเล่าพื้นเมืองของชาวอีสาน เกี่ยวกับตำนาน พญาคางคกและประเพณีบุญบั้งไฟอันโด่งดัง ตัวอาคารถูกออกแบบให้เป็นรูปคางคกขนาดยักษ์เป็นอาคารสูง 5 ชั้น หรือประมาณ 19 เมตร มีพื้นที่ประมาณ 835 ตารางเมตร และนิทรรศการภายในจะบอกเรื่องเกี่ยวกับที่มาของบั้งไฟ โดยจัดฉายเป็นภาพยนตร์ 4 มิติ และนิทรรศการเกี่ยวกับคางคกชนิดต่างๆ ที่พบได้ในเมืองไทย ที่มีอยู่กว่า 20 ชนิด และมีการรวบรวมของดีทางด้านเกษตรกรรมของเมืองยโสธรไว้ภายในพิพิธภัณฑ์
อุทยานสวรรค์วิมานพญาแถน หรือ มหายุทธแดนอีสาน เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของจังหวัดยโสธร ตั้งอยู่ริมฝั่งลำน้ำทวนฝั่งขวา ถนนมงคลบูรพา ตำบลในเมือง อำเภอเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและเชิงนิเวศ และใช้เป็นแหล่งเรียนรู้และพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง โดยจังหวัดยโสธรได้นำเอาแนวคิดทั้งด้านการตลาดและนโยบายด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีไทยให้มีศักยภาพในการแข่งขัน จึงได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเกี่ยวกับวัฒนธรรมและประเพณีของชาวอีสาน ซึ่งการก่อสร้างวิมานพญาแถนได้เชื่อมโยงกับงานประเพณีที่สำคัญของจังหวัดยโสธร กล่าวคือ ประเพณีบุญบั้งไฟซึ่งเป็นประเพณีขอฝนให้ตกตามฤดูกาลเพื่อให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ เพื่อให้เกษตรกรได้มีน้ำเพื่อทำการเกษตรกรรม
จังหวัดยโสธรเป็นจังหวัดที่มีประเพณีการปฏิบัติสืบเนื่องกันมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะประเพณีที่เกี่ยวข้องกับศาสนา ความเชื่อ และวิถีชีวิตของชาวยโสธร ซึ่งมีความเชื่อว่าโลกนั้นประกอบด้วย โลกมนุษย์ โลกเทวดา และโลกบาดาล โดยโลกมนุษย์อยู่ภายใต้อิทธิพลของโลกเทวดาซึ่งขาวอีสานเรียกเทวดาว่าพญาแถน ซึ่งพญาแถนมีอิทธิพลต่อ ฝน ฟ้า ลม หากมนุษย์ทำให้พญาแถนโปรดปรานหรือพอใจ ก็จะบันดาลให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล จึงเกิดพิธีการบูชาพญาแถนโดยการใช้บั้งไฟ เพื่อแสดงการเคารพและเป็นการขอฝนจากพญาแถน อันเป็นที่มาของประเพณีบุญบั้งไฟจังหวัดยโสธรอันโด่งดัง จากตำนานเรื่องเล่าอันถือว่ามีความสำคัญต่อจังหวัดยโสธรดังกล่าวข้างต้น จังหวัดยโสธรจึงจัดสร้าง วิมานพญาแถน ขึ้นบริเวณลำทวนเพื่อใช้เป็นสถานที่ที่แสดงถึงวัฒนธรรมประเพณีของจังหวัด ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้ที่สำคัญของจังหวัด ซึ่งภายในวิมานพญาแถนนั้นประกอบไปด้วยสิ่งก่อสร้างที่สะท้อนถึงตำนานบุญบั้งไฟของยโสธร จึงจัดสร้าง วิมานพญาแถน ขึ้นบริเวณลำทวนเพื่อใช้เป็นสถานที่ที่แสดงถึงวัฒนธรรมประเพณีของจังหวัด
ผอ.สมชาย ชมภูน้อย ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะ Live สดเล่าเรื่องเล่ากิจกรรมในแต่ละวันแต่ละสถานที่ในเวลา 08.00 น. เสมอค่ะ อย่าลืมหลังเคารพธงชาติเวลา 08.00 น.ติดตามได้ที่เฟชบุ๊ค สมชาย ชมภูน้อย ท่านจะไม่ out จะรู้ลึกรู้จริงในทุกเรื่องราวของภาคอีสานค่ะ
(จากภาพซ้ายไปขวา) 2. นายชลธี ยังตรง, ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร 3.นายสมชาย ชมภูน้อย ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 4.นายธงชัย แสนทวีสุข ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานอุบลราชธานี
นายธงชัย แสนทวีสุข ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานอุบลราชธานี เปิดเผยว่า ตามที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้จัดกิจกรรมส่งเสริม การท่องเที่ยวรูปแบบคาราวานรถยนต์ท่องเที่ยว โดยนำผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวและสื่อมวลชนจากกรุงเทพฯ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวม 120 คน เดินทางสำรวจเส้นทาง ท่องเที่ยวในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระหว่างวันที่ 1-10 ตุลาคม 2564 เพื่อเผยแพร่และประชาสัมพันธ์เส้นทางการท่องเที่ยวและรับทราบทิศทางส่งเสริมการท่องเที่ยวของแต่ละจังหวัด โดยเปิดกิจกรรมที่วิมานพญาแถน อ.เมืองยโสธร จ.ยโสธร เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2564 สำหรับ เส้นทางคาราวานรถยนต์ส่งเสริมการตลาดท่องเที่ยวพิชิต 20 จังหวัด ตอนคิดถึง ชุมชนท่องเที่ยว โดย ททท.สำนักงานอุบลราชธานี มีพื้นที่รับผิดชอบก็คือ จั งหวัดอุบลราชธานี, ยโสธร,อำนาจเจริญ และจังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งในวันนี้วันที่ 1 ตุลาคม 2564 เปิดกิจกรรมที่วิมานพญาแถน อ.เมืองยโสธร ขากนั้นไปรับประทานอาหารเที่ยงที่ห้องประชุม ณ เขื่อนสิรินธร กฟผ. แล้วพาไปแวะสักการะที่วัดสิรินธรวนารามภูพร้าว อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี และวัดอำนาจ พระเจ้าใหญ่ลือชัย อ.ลืออำนาจ จ.อำนาจเจริญ นักท่องเที่ยวยังสามารถติดตามข่าวสารทางการท่องเที่ยวจาก ททท. สำนักงานอุบลราชธานี ได้ที่ Facebook Official page : ททท.สำนักงานอุบลราชธานี Tat Ubon Ratchathani
นายชลธี ยังตรง ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร กล่าวว่า เรียนผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยไทย ภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานอุบลราชธานี ท่านผู้ประกอบการท่องเที่ยวจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แขกผู้มีเกียรติและสื่อมวลชนทุกท่าน ในนามของจังหวัดยโสธรรู้สึกยินดีและรู้สึกเป้นเกียรติเป้นอย่างยิ่งที่วันนี้ได้มีโอกาสพบกับทุกท่าน ได้มามีส่วนของการปล่อยแถวขบวน "คาราวาน&แรลลี่รถยนต์ ส่งเสริมการตลาดท่องเที่ยว พิชิต 20 จังหวัดภาคอีสาน ตอน "คิดถึงชุมชนท่องเที่ยว" ซึ่งเมื่อวานได้คุยกันทาง zoom แปบหนึ่ง เป็น New Normal
ก่อนอื่นผมขอขอบคุณทุกท่านนะครับ โดยเฉพาะทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ได้เลือกจังหวัดยโสธรเป็นจังหวัดในการเปิดตัวเริ่มขบวนแรลลี่รถยนต์ไปยังจังหวัดต่างๆ เข้าพักโรงแรมและมีการเลือกซื้อของต่างๆ ในช่วงนี้ "วิมาณพญาแถน และอาคารพิพิธภัณฑ์" ยังไม่เปิดเต็มตัวสมบูรณ์เพราะเป็นช่วงโควิดปิดอยู่ หาดสถานการณ์เบาบางลงไปคาดว่าประมาณปลายเดือนตุลาคมหรือก่อนปีใหม่คงได้เปิดให้เข้าชม จังหวัดยโสธรเรามีทั้งเรื่องของเมืองเกษตรอินทรีย์ เมืองวิถีอีสาน ข้าวหอมมะลิ ผลิตภัณฑ์แตงโมอินทรีย์ ปลาส้มอินทรีย์ ลอดช่องอร่อย อาหารเรามีหลายอย่างที่เด็ดนั่นก็คือ "ลาบยโส" ที่มีต้นตำรับอยู่ที่จังหวัดยโสธร และผลไม้เราก็มีและยังมีสินค้า OTOP อีกด้วย
ในด้านวัฒนธรรมเราก็มีหลากหลายเรื่องด้วยกัน งานบั้งไฟ, งานประเพณีมาลัยข้าวตอก งานประเพณีไฟตูมกา, แห่ไฟโมงเมง ฯลฯ วัฒนธรรมประเพณียโสธรเรามีทุกเดือน "ฮีตสิบสองคองสิบสี่" ก็เป็นประเพณีอีสาน
สำหรับการจัด "คาราวาน&แรลลี่รถยนต์ฯ แบบนี้ทำให้ได้รับประโยชน์จะทำให้พี่น้องได้เรียนรู้ จริงๆ ผมอย่ากเดินทางร่วมขบวนไปด้วยเหมือนกันเพราะแต่ละดปรแกรมน่าสนใจเป็นอย่างมาก ไปทีเดียวได้ 20 จังหวัด เจาะไฮไลต์ของแต่ละที่ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าสนใจมากซึ่งไม่ใช่เรื่องที่จะจัดกันได้ง่ายๆ ต้องขอขอบคุณการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยที่ช่วยในการจัดในส่วนนี้ ยโสธรแต่เดิมเป็นเพียงเมืองผ่านเป็นเมืองรอง บางคนอาจจะผ่านไปเลย แต่อย่างไรก็ตามผ่านมาจังหวัดยโสธรก็อยากให้แวะเพราะเรามีสิ่งที่น่าสนใจมิใช่น้อยเช่นเดียวกัน ขอขอบคุณทุกท่านและขอให้ทุกท่านเดินทางปลอดภัยและมีความสุขในการเดินทางทุกท่านนะครับ
ขบวนคาราวาน&แรลลี่รถยนต์ New Normal เที่ยวอีสานพร้อม ตอน คิดถึงชุมชนท่องเที่ยว มุ่งสู่วัดภูพร้าว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี
เมื่อถึงวัดภูพร้าวแล้วทุกคนจะต้องมาผ่านจุดคัดกรองตรงนี้ก่อนค่ะ
นายสมชาย ชมภูน้อย ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เปิดเผยว่า ทริปคาราวาน&แรลลี่รถยนต์ New Normal เที่ยวอีสานพร้อม ตอน คิดถึงชุมชนท่องเที่ยว ในครั้งนี้ เป็นการปรับรูปแบบเพื่อให้เข้าสถานการณ์อยู่ในสภาวะของโควิด-19 ก็เลยปรับรูปแบบของการจัดกิจกรรม "คาราวานพิชิต 20 จังหวัดภาคอีสาน" เป็น "คาราวาน&แรลลี่รถยนต์ New Normal เที่ยวอีสานพร้อม" ซึ่งจะเป็นรูปแบบของการปรับรูปแบบการเดินทางที่เป็นคาราวานมาเป็นแรลลี่ คือต่างคนต่างเดินทาง มาเจอกันตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ แล้วให้เขาไปเช็คอิน ซึ่งเป็นการรักษาระยะห่าง เรียกว่าเดินทางแบบ New Normal นั่นก็คือ ผู้คนที่่ร่วมเดินทางได้ฉีดวัคซีนครบ 2 โดสเรียบร้อยแล้ว แต่เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจ นั่นก็คือ มีการตรวจ ATK ทุก 3 วัน ทริปคาราวานฯ เราเดินทาง 10 วัน เราตรวจ 3 ครั้ง เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับบรรดาแขกที่เราจะไปเจอ อย่างน้อยคนที่ร่วมเดินทางจะเกิดความมั่นใจ และเป็นแนวทางสำหรับผู้ประกอบการที่เดินทางร่วมกับเราใน 20 จังหวัดภาคอีสาน และในส่วนของส่วนกลางทั้งสื่อมวลชนจะได้เห็นเป็น Model นำร่อง สำหรับการใช้การก้าวผ่านของคาราวานนี้เป็นรูปแบบของการใช้มาตรการมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข SHA Safety & Health Administration (SHA) การเดินทางในการรักษาระยะห่าง โดยมีการใช้เรื่องของ Online และ Onsite มาผสมผสานกัน เราเดินทางเป็นไปตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข การร่วมกลุมกันเราใช้เรื่องของเทคโนโลยีเข้ามา นั่นคือ การใช้ zoom เข้ามา การเสริฟอาหารปรับเปลี่ยนเป็นลักษณะของ New Normal วิถีใหม่ให้กับบรรดาผุ้ประกอบการได้เห็น เป็นแนวทางสำหรับที่จะก้าวผ่านสำหรับการท่องเที่ยวต่อไปโดยเฉพาะภาคอีสานเอง เรามีแผนที่จะเปิดตัวเปิดเมือง จึงทำเป็นโครงการคาราวานครั้งนี้เป็น "เที่ยวอีสานพร้อม" เพื่อรอเวลา 120 วันตามนโยบายของรัฐบาลที่จะเปิดเมืองต่อไป ซึ่งการเจาะการเดินทางนั้นเราใช้เวลาการเดินทางจำนวน 10 วัน วันแรกเราก็ได้รับการต้อนรับจากท่านพ่อเมืองของจังหวัดยโสธรมากล่าวต้อนรับผ่านห้อง zoom คณะเรานั้นอยู่แต่ละห้องอยู่แต่ละโรงแรมกระจายการเดินทาง มีการนำเสนอ Chef อาหารถิ่นขึ้นมา อาหารนั้นจะถูกนำส่งไปที่ห้องเป็นการปรับรูปแบบ ก็ไม่ได้น้อยของความ surprise หรือว่าเป็นอีกมิติหนึ่งแนวหนึ่งที่มีความเข้มข้นแต่ใช้เรื่องของการใส่ใจลงรายละเอียดมากขึ้นครับ
วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว ตั้งอยู่ในอำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี ใกล้กับด่านพรมแดนช่องเม็ก ภายในวัดมีอุโบสถที่มีความวิจิตรงดงามด้วยรูปแบบงานสถาปัตยกรรมที่มีต้นแบบมาจากวัดเชียงทองของ สปป.ลาว ด้านหลังอุโบสถมีประติมากรรมนูนต่ำภาพต้นกัลปพฤกษ์ที่เรืองแสงได้ เมื่อได้รับพลังงานจากแสงอาทิตย์ เพราะสร้างด้วยกระเบื้องเคลือบสารฟลูออเรสเซนต์ จะเห็นการเรืองแสงได้ชัดเจนในช่วงตอนเย็น
ประวัติวัดสิรินธรวรารามภูพร้าว หรือที่ชาวบ้านนิยมเรียกกันสั้นๆ ว่า วัดภูพร้าว เดิมพื้นที่แห่งนี้เป็นป่ามีความอุดมสมบูรณ์ แต่เนื่องจากเป็นหน้าผาสูงไม่มีแหล่งน้ำจึงไม่มีชาวบ้านอาศัยอยู่ ครั้นเมื่อ "พระอาจารย์บุญมาก ฐิติปัญโญ" เดินทางจากลาวมาเผยแผ่ธรรมะทางฝั่งไทย มาพักปักกลดที่ภูพร้าว ในปี พ.ศ.2495-2498 ท่านได้ขอบิณฑบาตพื้นที่แห่งนี้สร้างเป็นวัดขึ้น อีกทั้งพื้นที่วัดนี้อยู่ใกล้กับจุดผ่านแดนช่องเม็ก ชายแดนแบ่งเขตไทย-ลาว เพื่อเป็นสถานที่บำเพ็ญบุญระหว่างพี่น้องชาวไทย-ลาว เนื้อที่สร้างวัดประมาณ 500 ไร่ และให้ชื่อว่า วัดภูพร้าว
อุโบสถวัดสิรินธรารามภูพร้าว ตัวอุโบสถมีต้นแบบมาจากวัดเชียงทอง ประเทศ สปป.ลาว แต่มีความกว้างมากกว่า 1 เท่า และความยาวมากกว่า 2 เท่า เสาแต่ละต้นเขียนภาพลงลวดลายด้วยมือ โดยรอบนอกเป็นลายดอกบัวและสัตว์ทั้งหลายตามคติบัว 4 เหล่า ทางเข้าเป็นต้นสาละ เขยิบเข้ามาเป็นต้นมะขามป้อม ต้นสมอ และด้านในสุดเป็นต้นโพธิ์
ส่วนพระประธานมีผู้นำมาถวายวัด ดั้งเดิมเป็นองค์พระพุทธชินราช แต่ช่างคณากรได้ออกแบบใหม่โดยถอดรัศมีและพระเกตุมาลาออก แล้วแกะสลักไม้เป็นต้นโพธิ์ไปวางอยู่ด้านหลังพระประธาน ด้านหลังพระอุโบสถ มีภาพประติมากรรมเรืองแสงต้นกัลปพฤกษ์ ฝีมือการออกแบบของ ช่างคณากร ปริญญาปุณโณ โดยการติดโมเสกที่ผสมสารเรืองแสงที่เรียกว่า ฟอสเฟอร์ สารเรืองแสงนี้จะทำให้ต้นกัลปพฤกษ์ปรากฏสีเขียวเรืองแสงเมื่อยามกลางคืน คุณสมบัติของสารฟลูออเรสเซนต์จะรับแสงพระอาทิตย์ในตอนกลางวัน แล้วจะฉายแสงคายพลังงานออกมาออกมาในตอนกลางคืน
นายธงชัย แสนทวีสุข ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานอุบลราชธานี เล่าให้อุ้มฟังว่้า สำหรับเมือง 3 วัฒนธรรมก็คือ จังหวัดยโสธร ส่วน 4 แสง ก็คืออยู่ที่จังหวัดอุบลราชธานี ประกอบด้วยแสงแรกแห่งอรุณ อยู่ที่ "ผาชะนะได" ตำบลนาโพธิ์กลาง อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี แสงที่สองก็คือแสงจันทร์หรือว่าแสงธรรม เนื่องจากจังหวัดอุบลราชธานีมีเกจิบูรพาจารย์ คือหลวงปุ่มั่น หลวงปู่เสาร์ หลวงปู่ชา เป็นคนอุบลราชธานี ส่วนแสงจันทร์ ก็คือที่นี่ "วัดภูพร้าว" เป็นวัดที่เรืองแสงในช่วงตอนกลางคืนซึ่งกระทบกับแสงจันทร์ จึงเกิดเป็น Unseen Thailand ส่วนแสงที่สามก็คือ "แสงเทียน" เพราะจังหวัดอุบลราชธานีเป็นเมืองแห่งต้นเทียนที่ใหญ่ที่สุดในโลก จัดให้มีขึ้นในช่วงวันเข้าพรรษา ส่วนแสงที่ 4 ก็คือ โซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดพลังน้ำที่เขื่อนสิรินธร อำเภอสิรินธรจังหวัดอุบลราชธานีที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่เราไปกินข้าวเที่ยง ที่เราไม่ได้ไปชมเนื่องจากทางเขื่อนสิรินธรเตรียมต้อนรับเสด็จฯ เพราะฉะนั้นเขาก็เลยไม่อนุญาตให้เข้าชม นี่คือ 4 แสงที่จังหวัดอุบลราชธานี
สำหรับจังหวัดอำนาจเจริญ ก็คือเมือง 5 อำนาจ ท่านใดที่ได้มาเที่ยวจังหวัดอำนาจเจริญจะมีอำนาจวาสนา บารมี และมีคความเจริญรุ่งเรือง โดยที่ต้องมากราบไหว้สักการะบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็น วัดอำนาจ, พุทธอุทยาน, วัดสี่แยกอำนาจ, วัดภูพนมดี, พระเหลาที่อำเภอพนา จังหวัดอำนาจเจริญ 5 วัดต่างๆ เหล่านี้ท่านใดที่เข้าไปกราบไหว้สักการะขอพรแล้วท่านจะมีอำนาจมีวาสนามีบารมี มีความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ทั้ง 3-4-5 นี้ ทาง ททท.สำนักงานอุบลราชธานี เราจะร่วมกับผุ้ประกอบการท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ มาร่วมกันเผยแพร่ประชาสัมพันธ์เพื่อที่จะขายแพคเกตในพื้นที่ 3 จังหวัดนี้ เอาอุบลเที่ยวอำนาจ-เอาอำนาจเที่ยวยโสธร-เอายโสมาอุบล ซึ่งในห้วงโควิดเราไม่สามารถที่จะขับเคลื่อนต่างภูมิภาคได้ก็เอาในพื้นที่เที่ยวในพื้นที่ก่อน ถ้าเกิดรัฐบาลได้เปิดเมืองเมื่อไหร่แล้ว เราก็พร้อมตามนโยบายของจังหวัดนั้นๆ ซึ่งนโยบายของจังหวัดอำนาจเจริญ ดังนั้น ในรูปแบบแผนที่เราจะแถลงในเย็นวันนี้เราก็เลยจัดไม่ใช่ New Normal ล่ะ จักแบบเจอกันเห็นๆ ตัวเป็นๆ มีการรับประทานอาหารมีการเจรจาระหว่างผู้ประกอบการ และท่านผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญท่านให้เกียรติมาพบปะด้วย ผมได้เชิญศิลปินแห่งชาติของจังหวัดอำนาจเจริญมาขับกล่อมบรรเลงเพลงให้ท่านได้ฟังกัน ในลักษณะหมอลำพื้นบ้าน
เรื่องของวัฒนธรรมจะเป็นเรื่องของ "ฮีด 12 คอง 14" เพราะว่าทางจังหวัดในภาคอีสานจะเน้นไปที่ "ฮีด12" เพราะเรามีเดือนอ้ายเดือนยี่เดือนสี่เดือนห้า อย่างเช่นยโสธรเป็นเรื่องุบุญปั้งไฟซึ่งบรรจุอยู่น "ฮีต12" อยู่แล้ว "บุญเข้าพรรษาที่อุบลราชธานี" และ "บุญกุลานที่อำนาจเจริญ" ก็บรรจุเข้ามา
และนับเป็นโอกาสที่ดีมากนะครับ ที่มี "คาราวาน&แรลลี่รถยนต์ New Normal เที่ยวอีสานพร้อม ตอน คิดถึงชุมชนท่องเที่ยว เพราะว่าผู้ประกอบการที่มาเป็นผู้ประกอบการจาก 20 จังหวัดจากภาคอีสานแล้วส่วนใหญ่มาจากกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ที่จะนำลูกค้าเดินทางเข้ามาที่อีสานตอนล่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สามจังหวัดในพื้นที่ของผมนี้นะครับ ทุกคนคาดหวังว่าจะมาดูสักครั้งในนงานประเพณีที่ยิ่งใหญ่ ในเมื่อเขามาพบมาเห็นสินค้าแล้วทางยโสธรเองทางจังหวััดอื่นๆ ก็จะมีการแลกเปลี่ยนสินค้า มีการแลกเปลี่ยนเส้นทางท่องเที่ยว สามารถที่จะจัดแพคเกตเชื่อมโยงไปมาหาสู่กันแลกกัน ผมคิดว่าถ้าเป้นแบบนี้แล้วถ้าหลังสถานการณ์โควิดหายสถานการณ์ดีขึ้นจะดีขึ้นแน่นอน เราก็จะได้แลกเปลี่ยนกัน อุบลฯ ไปเที่ยวเมืองเลย เลยมาทางยโสฯ แล้วยโสฯไปโคราชอะไรอย่างนี้ เที่ยวในอีสานเพราะว่าเราคาดหวังว่า ณ ตอนนี้ขอให้ภูมิภาคอีสานเที่ยวอีสานให้หมด เนื่องจากประชากรเรามีเกือบ 30 ล้านคน ผมคิดว่า "คาราวาน&แรลลี่รถยนต์ New Normal ตอนคิดถึงชุมชนท่องเที่ยว" น่าจะเป็นตัวขับเคลื่อนที่ดีที่สุด นอกจากนั้นค่อบขบายไปทางภาคใต้ ทางภาคเหนือ ภาคตะวันออก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นกับคมนาคม ผมคิดว่าในอนาคตข้างหน้าการคมนาคมจะสะดวกน่าจะมีความพร้อม อุบลฯ พร้อมเต็มที่ เพราะว่าเรามีสินค้าที่ขายได้ทั้งปี ทั้งวัฒนธรรม ทั้งธรรมชาติ วิถีชีวิตความเป็นอยู่ งานประเพณี พร้อมครับ
จากนั้นขบวนคาราวาน&แรลลี่รถยนต์ New Normal เที่ยวอีสานพร้อม ตอน คิดถึงชุมชนท่องเที่ยว ว่าแล้วก็มาหา 5 อำนาจกันต่อค่ะ ที่วัดอำนาจ บ้านอำนาจ ตำบลอำนาจ อำเภอลืออำนาจ จังหวัดอำนาจเจริญ..ครบ 5อำนาจจริงๆ ขอคารวะการครีเอทจังหวัดอำนาจเจริญจริงๆ สุดยอด ต้องมาเยือนให้ได้นะคะ
วัดอำนาจ อยู่ห่างจากจังหวัดอำนาจเจริญ ประมาณ 21 กิโลเมตร มาทางทิศใต้ ถนนสายหลักชยางกรูอำนาจ-อุบลราชธานี วัดอำนาจเป็นวัดที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยมีหลวงพ่อพระครูบัณฑิตกับจหมื่นชาโนชิต เป็นผู้นำในการก่อสร้างครั้งแรก มีเจ้าอาวาสผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนไปแล้ว 16 รูป เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน คือ พระครูสิริศีลวัตร อายุ 57 ปี ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองเจ้าคณะจังหวัดอำนาจเจริญ ฝ่ายมหานิกาย ดูแลพระสงฆ์ 15 รูป สามเณร 10 รูป ไม่มีแม่ชี มรรคนายก 2 คน
วัดอำนาจ หรือ วัดพระเจ้าใหญ่ลือชัย อีกหนึ่งวัดสวยต้องห้ามพลาดของจังหวัดอำนาจเจริญ กับอุโบสถสีขาวทองที่รายล้อมด้วยรูปปั้นพญานาคสีเขียวทอง วิจิตรงดงามมาก
ความเชื่อและศรัทธา: เนื่องจากบริเวณที่ตั้งวัดอำนาจ ป็นชุมชนโบราณ เป็นที่จั้งศาลเจ้าปู่และเป็นที่ตั้งเมืองอำนาจเจริญมาก่อน จึงมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับความศักดิ์สิทธิ์และปาฏิหาริย์มากมาย เช่น "ผีจ้างหมอลำ" และคนโบราณเล่าลือกันว่า ใครที่ได้มากราบไหว้ขอพรจากพระเจ้าใหญ่ลือชัย หรือพระฤทธิ์ลือชัยแล้ว จะได้รับความสำเร็จ เจริญรุ่งเรือง ได้รับชัยชนะจากศัตรูหมู่มารทั้งปวง มีอำนาจบารมีเป็นที่ยำเกรง ชีวิตผ่านพ้นปัญหาอุปสรรคนานาประการได้อย่างน่าอัศจรรย์
เรียกว่า "หากเป็นสายมู สายพญานาค" ต้องห้ามพลาดมาสักการะที่วัดอำนาจแล้วจะมีอำนาจที่ยิ่งใหญ่
จากนั้น ผอ.สมชาย ชมภูน้อย ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย
พระเจ้าใหญ่ลือชัย พระพุทธรูปปางมารวิชัย ก่อด้วยอิฐถือปูน ลงรักปิดทองศิลปะล้านช้าง ประดิษฐานอยู่ภายในอุโบสถวัดอำนาจ บ้านอำนาจ ตำบลอำนาจ อำเภอลืออำนาจ จังหวัดอำนาจเจริญ เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่อายุ 700 ปี และเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ คู่บ้านคู่เมืองลืออำนาจ ที่สำคัญสังเกตที่ด้านขวาองค์พระประดิษฐาน "มณฑปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พระพุทธเจ้า" ทุกวันจะมีพุทธศาสนิกชนเดินทางไปกราบนมัสการขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตค่ะ
พระเจ้าใหญ่ลือชัย หรือ พระฤทธิ์ลือชัย พระประธานในอุโบสถวัดอำนาจ อำเภอลืออำนาจ ก่อด้วยอิฐ ถือปูน ปิดทอง เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะล้านช้าง สร้างเมื่อประมาณ พ.ศ. 2398 2404 ด้วยบริเวณวัดอำนาจ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐาน พระเจ้าใหญ่ลือชัย นั้นมีลักษณะเป็นชุมชนเก่าแก่ และเป็นที่ตั้งเมืองอำนาจเจริญมาก่อนจึงมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับความศักดิ์สิทธิ์และ ปาฏิหาริย์ของพระเจ้าใหญ่ลือชัยมากมาย จากผู้คนที่มากราบไหว้บูชาแล้วประสบความเจริญรุ่งเรือง มีชื่อเสียงเลื่องลือ มีเรื่องเล่าว่า การก่อสร้างพระเจ้าใหญ่ลือชัย มีความเกี่ยวข้องกับพระเหลาเทพนิมิต อำเภอพนา และพระโรจน์ อำเภอม่วงสามสิบ จังหวัดอุบลราชธานี
การแสดงต้อนรับจากชาวบ้านอำนาจ ตำบลอำนาจ อำเภอลืออำนาจ จังหวัดอำนาจเจริญ ณ วัดอำนาจ กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า
ชาวบ้านทำข้าวต้มมัด-ข้าวเหนียวสังฆยา มาเลี้ยงต้อนรับกินกับกาแฟร้อนๆ ลงตัวเหมือนกันค่ะ
จากนั้นนายธงชัย แสนทวีสุข ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานอุบลราชธานี กล่าวรายงานและกล่าวต้อนรับ นายสมชาย ชมภูน้อย ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และขบวนคาราวาน&แรลลี่รถยนต์ New Normal เที่ยวอีสานพร้อม ตอน คิดถึงชุมชนท่องเที่ยว
จากนั้นเจ้าอาวาสวัดอำนาจ-ผอ.ททท.สำนักงานอุบลราชธานี พาผอ.สมชาย ชมภูน้อยและคณะ นำเยี่ยมชมถ้ำสิรินาคา ถ้ำพญานาคค่ะ
อีสานเขียว อีสาน Cool อีสานแซ่บนัว อีสานพร้อมเสริฟจริงๆ ค่ะ
อุ้มชอบภาพมุมค่ะ สวยฝุดฝุด อีสาน COOL
สวยๆ แบบนี้อยู่ภายในวัดอำนาจ บ้านอำนาจ ตำบลอำนาจ อำเภอลืออำนาจ จังหวัดอำนาจเจริญ
พระครูสิริศีลวัตร อายุ 57 ปี เจ้าอาวาสวัดอำนาจ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองเจ้าคณะจังหวัดอำนาจเจริญ เจ้าอาวาสวัดอำนาจ บ้านอำนาจ ตำบลอำนาจ อำเภอลืออำนาจ จังหวัดอำนาจเจริญ
นอกจากได้มาสักการะครบ 5 อำนาจแล้ว ยังได้มาเยี่ยมชมถ้ำที่สวยและเสมือนเป็นสถานท่องเที่ยวเสร็จสรรพเลยค่ะ
นายสมชาย ชมภูน้อย ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นำขบวน คาราวาน&แรลลี่รถยนต์ New Normal เที่ยวอีสานพร้อม ตอน คิดถึงชุมชนท่องเที่ยว พามากราบพญานาคราชภายใน "ถ้ำสิรินาคา" ที่วัดอำนาจ บ้านอำนาจ ตำบลอำนาจ อำเภอลืออำนาจ จังหวัดอำนาจเจริญ
นายธงชัย แสนทวีสุข ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานอุบลราชธานี
คืนนี้เรานอนกันที่จังหวัดอำนาจเจริญที่โรงแรมฝ้ายขิต (ไม่มีลิฟท์) นึกถึงสภาพหอบกระเป๋า 3 ใบขึ้นบันไดไปชั้น 4 ดีค่ะเป็นการออกกำลังกายก่อนกินข้าว
โรงแรมฝ้ายขิด (Faikid Hotel) ตั้งอยู่เลขที่ 449 หมู่ 12 ซอยสำราญราษฏร์ ถนนอรุณประเสริฐ ตำบลบุ่ง อำเภอเมืองอำนาจเจริญ จังหวัดอำนาจเจริญ โทร.: 045 511 222
CUT มาที่บรรยากาศงานกินเลี้ยง เป็นการแถลงแผนงาน ททท.สำนักงานอุบลราชธานี
ข้าวเกรียบอร่อยมาก อุ้มเดินลงไปตักมา 5-6 รอบทั้ชั้นล่าง
อร่อยจนอยากจะหอบทั้งกระด้งขึ้นมาไว้ข้างบนค่ะ ข้าวเกรียบอร่อย Cool จริงจริง
ขอหวานนปิดท้ายด้วยขนมเทียนและขนม.....
มาถึงอำนาจเจริญ ราชินีหมอลำก็คือคุณแม่อังคณา คูณไชย อุ้มร้องเพลงได้นะคะ เรียกว่าปิดท้ายทริปที่ยโสธร อุบลราชธานี และจังหวัดอำนาจเจริญอย่างมีความสุข เราพาท่านเที่ยวสามจังหวัดในวันเดียวและ BLOG เดียว BLOG หน้าจะพาไปที่จังหวัดมุกดาหาร นครพนม และสกลนครค่ะ
ขอขอบคุณ นายสมชาย ชมภูน้อย ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเลย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานบุรีรัมย์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสุรินทร์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานอุดรธานี การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานขอนแก่น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครราชสีมา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานอุบลราชธานี BG : โอน่าจอมซ่าส์ / กล่องเขียนคอมเม้นท์ : คุณ lozocat ของแต่ง BLOG : ป้ามด-ดอกหญ้าเมืองเลย-ชมพร-ญามี่-เนยสีฟ้า เพลง : เชิญเที่ยวอีสาน / เอกพล มนต์ตระการ
Create Date : 11 ตุลาคม 2564 |
Last Update : 20 ตุลาคม 2564 16:42:29 น. |
|
46 comments
|
Counter : 1799 Pageviews. |
|
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณคนผ่านทางมาเจอ, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณสองแผ่นดิน, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณKavanich96, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณเริงฤดีนะ, คุณTui Laksi, คุณทูน่าค่ะ, คุณกะว่าก๋า, คุณThe Kop Civil, คุณเนินน้ำ, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณnewyorknurse, คุณkae+aoe, คุณSertPhoto, คุณเจ้าหญิงไอดิน, คุณเจ้าการะเกด, คุณNoppamas Bee, คุณLittleMissLuna, คุณmultiple, คุณtoor36, คุณทนายอ้วน, คุณชีริว, คุณบาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน, คุณดอยสะเก็ด, คุณhaiku, คุณlovereason, คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณInsignia_Museum, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณเซียน_กีตาร์, คุณpeaceplay, คุณ**mp5** |
โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) วันที่: 11 ตุลาคม 2564 เวลา:15:38:22 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 11 ตุลาคม 2564 เวลา:17:08:23 น. |
|
|
|
โดย: Lee Jay วันที่: 11 ตุลาคม 2564 เวลา:22:19:12 น. |
|
|
|
โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 11 ตุลาคม 2564 เวลา:23:21:34 น. |
|
|
|
โดย: Kavanich96 วันที่: 12 ตุลาคม 2564 เวลา:4:52:16 น. |
|
|
|
โดย: Tui Laksi วันที่: 12 ตุลาคม 2564 เวลา:7:52:51 น. |
|
|
|
โดย: ทูน่าค่ะ วันที่: 12 ตุลาคม 2564 เวลา:13:20:02 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 ตุลาคม 2564 เวลา:14:12:15 น. |
|
|
|
โดย: เนินน้ำ วันที่: 12 ตุลาคม 2564 เวลา:15:19:08 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 13 ตุลาคม 2564 เวลา:6:38:33 น. |
|
|
|
โดย: SertPhoto วันที่: 13 ตุลาคม 2564 เวลา:18:21:04 น. |
|
|
|
โดย: นกสีเทา วันที่: 13 ตุลาคม 2564 เวลา:19:46:47 น. |
|
|
|
โดย: เจ้าการะเกด วันที่: 13 ตุลาคม 2564 เวลา:20:21:01 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 13 ตุลาคม 2564 เวลา:22:03:35 น. |
|
|
|
โดย: multiple วันที่: 14 ตุลาคม 2564 เวลา:4:41:47 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 14 ตุลาคม 2564 เวลา:6:00:29 น. |
|
|
|
โดย: kae+aoe วันที่: 14 ตุลาคม 2564 เวลา:8:28:41 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 14 ตุลาคม 2564 เวลา:20:10:15 น. |
|
|
|
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 14 ตุลาคม 2564 เวลา:20:29:07 น. |
|
|
|
โดย: ชีริว วันที่: 14 ตุลาคม 2564 เวลา:22:15:14 น. |
|
|
|
โดย: ดอยสะเก็ด วันที่: 15 ตุลาคม 2564 เวลา:12:48:40 น. |
|
|
|
โดย: lovereason วันที่: 16 ตุลาคม 2564 เวลา:19:35:11 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 ตุลาคม 2564 เวลา:21:51:41 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 ตุลาคม 2564 เวลา:6:22:44 น. |
|
|
|
โดย: blog pu วันที่: 17 ตุลาคม 2564 เวลา:11:16:59 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 ตุลาคม 2564 เวลา:14:14:06 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 17 ตุลาคม 2564 เวลา:17:01:41 น. |
|
|
|
โดย: lovereason วันที่: 17 ตุลาคม 2564 เวลา:23:12:23 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 18 ตุลาคม 2564 เวลา:6:16:22 น. |
|
|
|
โดย: peaceplay วันที่: 18 ตุลาคม 2564 เวลา:10:25:50 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 18 ตุลาคม 2564 เวลา:15:05:19 น. |
|
|
|
โดย: **mp5** วันที่: 18 ตุลาคม 2564 เวลา:16:38:37 น. |
|
|
|
|
|
ดีจัง..เริ่มมีกิจกรรมดีดีล่ะ