ททท. ภูมิภาคภาคกลาง ร่วมกับเที่ยวไทย ฯลฯ จัดคาราวานแรลลี่ สีสันแห่งสายน้ำ ตามรอยมรดกแห่งสยาม
(จากภาพขวาไปซ้าย) นายชัยวิทย์ เผื่อนอุดม หัวหน้างานภาคกลาง 1 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
นายพูลผล แพทอง ประธานชมรมสื่อสร้างสรรค์เพื่อการท่องเที่ยว
และนายไพรัชช์ ทุมเสน ผู้อำนวยการ กองตลาดภูมิภาคภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2562 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โดย ภูมิภาค ภาคกลาง
ร่วมปล่อยขบวน คาราวาน แรลลี่ สีสันแห่งสายน้ำ ตามรอยมรดกแห่งสยาม สุพรรณบุรี นครปฐม
วันที่ 7-8 กันยายน 2562 จัดโดย เที่ยวไทย ฯลฯ ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคกลาง
โดยได้รับการสนับสนุนการเดินทางปลอดภัยจาก บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน)
จำนวนรถยนต์เข้าร่วมกิจกรรม 30 คัน
มีนักท่องเที่ยว สื่อมวลชน ผู้ประกอบการและบุคลากรวงการอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
มาร่วมกิจกรรมกว่า 100 คน
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวชุมชน
ในพื้นที่เชื่อมโยงในจังหวัดสุพรรณบุรี นครปฐม ของภูมิภาคภาคกลาง
นายไพรัชช์ ทุมเสน
ผู้อำนวยการ กองตลาดภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
เปิดเผยว่า
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โดย ภูมิภาค ภาคกลาง ได้ร่วมกับพันธมิตร
คือเว็บไซด์ "เที่ยวไทย ฯลฯ" รวมทั้งสมาชิกสมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย
ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการเดิินทางท่องเที่ยวในภาคกลาง
เป็นการเดินทางท่องเที่ยวโดยใช้รถยนต์ขับรถเที่ยวภาคกลางเที่ยวที่ไหนก็สะดวก
ในลักษณะของการรูปแบบของแรลลี่ สีสันแห่งสายน้ำ ตามรอยมรดกแห่งสยาม
นายไพรัชช์ ทุมเสน ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า
นับเป็นการเดินทางท่องเที่ยวโดยใช้รถยนต์ขับรถเที่ยวภาคกลางเที่ยวที่ไหนก็สะดวก
ในลักษณะของการรูปแบบของแรลลี่ สีสันแห่งสายน้ำ ตามรอยมรดกแห่งสยาม
เส้นทาง กรุงเทพมหานคร - สุพรรณบุรี - นครปฐม วันที่ 7-8 กันยายน 2562
เป็นเวลา 2 วัน 1 คืน
มีรถยนต์เข้าร่วมเดินทาง 30 คัน มีผู้ร่วมทริป 80 คน
ในระหว่างเดินทางก็มีการทำกิจกรรมหา RC
และก็จะพาไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอู่ทอง
เป็นการเรียนรู้เรื่องการท่องเที่ยวภายในจังหวัดสุพรรณบุรี
และความเป็นมาของแหล่งอายุธรรมโบราณสมัยทวารวดี
ที่มีความสำคัญและมีและเชื่อมโยงกับดินแดนสุวรรณภูมิอย่างไรแล้วไปไหว้พระใหญ่กัน
และพาไปทำกิจกรรม DNY ทำยาดมโบราณทำยาดมหัวโต
โดยมีความสำคัญของยาดมเป็นตุ๊กตาหัวโต
นั่นก็คือฝาขวดยาดมหัวโตให้ผู้ร่วมกิจกรรม DNY มาวาดรูปหน้าตาตามจินตนาการของเรา
จะเกิดความสุขใจที่ได้มียาดมหัวโตฝีมือของเราเอง
ในส่วนจังหวัดนครปฐม ท่องเที่ยวและมีสิ่งอำนวยความสะดวกไม่ว่าจะเป็นที่พักรีสอร์ท
อยู่ที่ชวาลันรีสอร์ท สวนน้ำขนาดใหญ่ที่เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ
แล้วไปเที่ยวที่ตลาดน้ำลำพญา
ซืึ่งการเดินทางครั้งนี้จะเป็นการท่องเที่ยวอย่างปลอดภัยและเกิดการเรียนรู้ในการท่องเที่ยวภาคกลาง
ก็ขอให้ท่านเดินทางท่องเที่ยวด้วยความปลอดภัยนะครับ
และส่งต่อความสนุกไปยังโซเซี่ยลต่างๆ ได้เห็น
และเป็นแรงกระตุ้นให้เขาตามรอยเดินทางท่องเที่ยวต่อไปครับ
เมื่อเดินทางมาถึงช่วงเช้าก็มาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอู่ทอง จ.สุพรรณบุรี
เหล่าขบวนการแรลลี่ทั้งหลายก็หา RC กันอย่างตั้งอกตั้งใจ
รถคันไหนหาได้แล้วก็วิ่งหาคาราบาวแดง เอ๊ยไม่ใช่เจ้าค่ะ ต่างพากันมาถ่ายภาพคนกับควาย
ก่อนที่จะนำมือถือพร้อมหมายเลขรถมาสะสมคะแนนกันค่ะ
โดยได้รับการต้อนรับอำนวยความสะดวกเป็นอย่างดีจาก
นายรัชชัย วัฒนไกร นายกเทศมนตรี เทศบาลตำบลอู่ทอง
กล่าวต้อนรับคณะแรลลี่ความว่า ในนามของของเทศบาลตำบลอู่ทองรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง
ที่ได้รับเกียรติจากท่านทั้งหลายที่มาเยือนพื้นที่ของเรา
และได้มาชมโบราณสถานที่นี่เป็นที่แรกนะครับ
เราเป็นเมืองโบราณมีแหล่งเรียนรู้มากมาย อาทิ รอยพระพุทธบาท
ศาลเจ้าพ่อพระยาจักร ที่เป็นเทวรูปของศาสนาพราหมณ์ ฮินดู
วัดเขาพระศรีสรรเพชญาราม ที่มีพระนอนอันศักดิ์สิทธิ์
จริงๆ น่าจะล่องเรือด้วยนะครับ
เป็นเรือท้องแบนที่นั่งได้ 20 คน
วันที่ 9 กันยายนนี้ท่านรองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรีจะมอบเรือท้องแบนให้เรา
ใช้เวลาแล่นรอบเมืองโบราณประมาณ 20 นาที ในคูเมืองที่ร่วม 100 กว่าปี
เรามีแหล่งเรียนรู้มากมายคิดว่าโอกาสหน้าคงได้ต้อนรับคณะแรลลี่อีกสักครั้งหนึ่ง
จะได้ชมแหล่งท่องเที่ยวหลายๆ ที่ของบ้านเราและเป็นแหล่งที่น่าเรียนรู้มากครับ
และที่สำคัญขณะนี้เทศบาลตำบลอู่ทองของเรานี้เรากำลังรณรงค์เรื่องขยะกันอยู่
เพราะปัญหาขยะเป็นปัญหาที่ทั่วประเทศต้องช่วยกันแล้ว
จึงขอความกรุณาจากทุกท่านเรื่องขยะเรื่องนี้ด้วยช่วยกันดูแลเรื่องการทิ้งขยะ
เราเป็นคนที่ก่อให้เกิดปัญหาขยะเพราะฉะนั้นทุกอย่างต้องจบที่ตัวเรา
ถ้าไม่มีเหตุก็จะไม่มีผลตามมา เราช่วยกันดูแล ช่วยกันทำบ้านเมืองให้สะอาด
ต้องขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้
ในนามของคณะผู้บริหารขอให้ทุกท่านเดินทางโดยสวัสดิภาพ
และขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย
สุพรรณบุรีเรามีหลวงพ่อโตวัดป่าเลไลย์
มีหลวงพ่อสรรวัดพระศรีสรรเพชท่านยังไม่ได้ไปกราบที่วัดเขาพระ
มีศาลเจ้าพ่อพระยาจักร มีดวงวิญญาณของพระนเรศวรมหาราช
ได้โปรดประทานพรให้ท่านทั้งที่นี่และที่บ้าน ขอให้มีความสุขทั้งกายและใจ
กลับไปบ้านประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน
ที่สำคัญมีสุขภาพที่สมบูรณ์และแข็งแรงทุกๆ คน ขอบคุณมากนะครับ
(ภาพจากซ้ายไปขวา) นายพูลผล แพทอง ประธานชมรมสื่อสร้างสรรค์เพื่อการท่องเที่ยว
นายชัยวิทย์ เผื่อนอุดม หัวหน้างานภาคกลาง 1 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
นายรัชชัย วัฒนไกร นายกเทศมนตรี เทศบาลตำบลอู่ทอง
(ภาพขวาสุด)นาย ประยูร อสัมภินพงศ์
ประธานชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนเมืองโบราณทวารวดี อู่ทอง
นายประยูร อสัมภินพงศ์
ประธานชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนเมืองโบราณทวารวดี อู่ทอง
เล่าให้ฟังถึงพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอู่ทอง จ.สุพรรณบุรี
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชและสมเด็จนางเจ้าสิริกิติ์
เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อู่ทอง
เมื่อวันศุกร์ที่ 13 พฤษภาคม 2509 ยังความปลาบปลื้มแก่ประชาชนชาวอู่ทองเป็นอย่างยิ่ง
ซึ่งทั้งสองพระองค์ให้ความสำคัญโดยเฉพาะพิพิธภัณฑ์ทางโบราณคดี
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอู่ทอง ตั้งอยู่ที่ถนนมาลัยแมน ตำบลอู่ทอง อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี 72160
โทรศัพท์/โทรสาร 035-551021
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอู่ทอง ตั้งอยู่ใกล้ที่ว่าการอำเภออู่ทอง
บนถนนมาลัยแมน อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี ห่างจากจังหวัดสุพรรณบุรี ประมาณ 30 กิโลเมตร
การเดินทางใช้เส้นทางหลวงแผ่นดินสุพรรณ - อ.อู่ทอง
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอู่ทอง เปิดทำการ : วันพุธ-วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 9.00 น.-16.00 น.
ปิด : วันจันทร์-วันอังคาร
ค่าเข้าชมค่าธรรมเนียมเข้าชมชาวไทย 30 บาท ชาวต่างชาติ 150 บาท
หมายเหตุ ยกเว้นค่าธรรมเนียม นักเรียน นักศึกษาในเครื่องแบบ
พระภิกษุ สามเณร และนักบวชในศาสนาต่างๆ และผู้สูงอายุ เกิน 60 ปี
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอู่ทอง ตั้งอยู่ภายในโบราณอู่ทอง อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี
เมืองอู่ทองปัจจุบันอยู่ที่อำเภออู่ทอง เป็นเมืองเก่า
มีชื่อปรากฏในพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาว่า พระเจ้าอู่ทองทรงอพยพผู้คนหนีโรคห่า
จากเมืองอู่ทองเมื่อปี พ.ศ.1890 ไปสร้างเมืองหลวงใหม่คือกรุงศรีอยุธยา
ต่อมาได้มีการขุดค้นหาหลักฐานที่เมืองอู่ทอง
แล้วลงความเห็นว่าเมืองนี้เป็นเมืองเก่าก่อนกรุงศรีอยุธยาและร้างไปนานนับร้อยปี
ก่อนที่พระเจ้าอู่ทองจะสร้างกรุงศรีอยุธยา
จึงเชื่อกันว่าพระเจ้าอู่ทองน่าจะไม่ได้หนีโรคห่าดังที่กล่าวไว้
ปริศนาของเมืองโบราณอู่ทอง ที่ยังต้องค้นหาคำตอบ
อันเป็นที่มาของ โครงการ "อู่ทอง อู่อารยธรรมโบราณ" ที่ควรค่าแก่การเรียนรู้
นิทรรศการถาวรอาคารจัดแสดงที่ 1
เป็นจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับเมืองโบราณอู่ทองและวัฒนธรรมทวารวดี
ที่แสดงถึงพัฒนาการของเมืองโบราณอู่ทอง ตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ กระทั่งพัฒนาเข้าสู่สังคมประวัติศาสตร์สมัยทวารวดี
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอู่ทอง เป็นพิพิธภัณฑ์ด้านประวัติศาสตร์ โบราณคดี และประวัติศาสตร์ศิลปะ
จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นเก็บรักษาและจัดแสดงโบราณวัตถุที่ได้จากโบราณคดีที่เมืองโบราณอู่ทอง
ซึ่งเชื่อว่ามีความสัมพันธ์กับดินแดน "สุวรรณภูมิ" ศูนย์กลางการค้าของโลกเมื่อประมาณ 2,500 ปีมาแล้ว
และยังเป็นจุดที่พระพุทธศาสนาเข้ามาประดิษฐานเป็นแห่งแรกในประเทศไทย
อาคารจัดแสดงหมายเลข 1
จัดแสดงนิทรรศการถาวรเกี่ยวกับเมืองโบราณอู่ทองและวัฒนธรรมทวารวดี ประกอบด้วย
บรรพชนคนอู่ทอง จัดแสดงถึงพัฒนาการของเมืองโบราณอู่ทองตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์
ประมาณ 3,000 ปีที่ผ่านมา
กระทั่งเข้าสู่วัฒนธรรมทวารวดี ซึ่งเป็นวัฒนธรรมยุคแรกสุดสมัยระวัติศาสตร์ของประเทศไทย
โดยปรากฏหลักฐานทางโบราณคดีแสดงให้เห็นว่าเมืองโบราณอู่ทองเป็นศูนย์กลางสำคัญแห่งแรกของวัฒนธรรม
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอู่ทอง
นับเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงหลักฐานในยุคสมัยทวารวดีที่สมบูรณ์ที่สุดในประเทศไทย
มีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ยาวนานมากมายที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง
เพราะว่าเมืองโบราณอู่ทองถือเป็นแหล่งอารยธรรมอันเก่าแก่
ที่ยังหลงเหลือร่องรอย โบราณวัตถุ สิ่งล้ำค่าต่างๆ ไว้ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา
ห้อง บรรพชนคนอู่ทอง ยังจัดแสดงโบราณวัตถุชิ้นสำคัญ
เช่น แผ่นดินเผาภาพพระภิกษุอุ้มบาตร
ซึ่งเป็นโบราณวัตถุเกี่ยวกับศาสนาพุทธที่เก่าแก่ที่สุดที่พบในประเทศไทย
จารึกแผ่นทองแดง เหรียญกษาปณ์โรมัน และเงินตราโบราณ
ที่เห็นถึงความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างดินแดนตะวันตกกับภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้
ในอดีตพระพุทธรูปสำริด เครื่องประดับทองคำ ลูกปัดแบบต่าง ๆ
ห้องจัดแสดง "อู่ทองศรีทวารวดี" จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับเมืองโบราณอู่ทอง
ในฐานะเมืองสำคัญของวัฒนธรรมทวารวดีในประเทศไทย
เป็นศูนย์กลางการค้าและศูนย์กลางแห่งพระพุทธศาสนายุคแรกสุด
ลูกปัดทองคำสมัยทวารวดี ลูกปัดที่ทำจากหินแก้ว
อาคารจัดแสดงหมายเลข 2
จัดแสดงนิทรรศการถาวรเกี่ยวกับดินแดนสุวรรณภูมิ
พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ของเมืองโบราณอู่ทอง เส้นทางการค้าทางทะเล
และเมืองโบราณอู่ทองในฐานะศูนย์กลางของศาสนาพุทธ
โดยแบ่งการจัดแสดงออกเป็นส่วนต่างๆ ดังนี้
ส่วนที่ 1 เรื่อง พัฒนาการทางประวัติศาสตร์บนพื้นแผ่นดินสุวรรณภูมิ
ส่วนที่ 2 เรื่อง สุวรรณภูมิการค้าของโลกยุคโบราณ
ส่วนที่ 3 เรื่อง อู่ทองศูนย์กลางแห่งพระพุทธศาสนา
ที่สำคัญตอนนี้พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอู่ทอง เปิดให้เข้าชมฟรี
เข้าฟรีมาตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2561 ถึงวันที่ 1 ธันวาคม 2562
เวลา 09.00-16.00 น.
พร้อมรับโปสการ์ด "พระคเณศ" เทพแห่งศิลปวิทยา เป็นที่ระลึกฟรีด้วยนะคะ
ผู้ใหญ่ใจดี การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาค ภาคกลาง
ถ่ายภาพหมู่กันก่อนเนาะเป็นการเช็คอินไปในตัวค่ะ
นอกจากนี้มีส่วนจัดแสดงที่ลานกลางแจ้งด้านนอก
เป็นอาคารที่สร้างเป็นเรือนลาวโซ่งซึ่งถือเป็นรูปแบบบ้านอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะชาวไทยทรงดำ
ชนชาติพันธุ์สำคัญชาติพันธุ์หนึ่งที่อาศัยอยู่ในอำเภออู่ทองไทยทรงดำหรือ ลาวโซ่ง
เป็นกลุ่มคนเชื้อสายไท มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศลาวและเวียดนาม
เนื่องจากในสมัยธนบุรีและสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น
กองทัพไทยได้ยกไปนครเวียงจันทร์และเมืองต่างๆในอาณาจักรล้านช้าง (ประเทศลาว)
และได้กวาดตอนผู้คนครอบครัวชาวลาวต่างๆ มาจำนวนมาก
รวมทั้งชาวลาวโซ่งมายังอาณาจักรสยาม (ประเทศไทย)
ชาวลาวโซ่งที่เข้ามาในครั้งนั้นได้ตั้งบ้านเรือนอาศัยอยู่ในเขตจังหวัดเพชรบุรี
ต่อมาได้ย้ายถิ่นฐานที่อยู่ไปทำมาหากินในจังหวัดอื่นๆ รวมทั้งที่จังหวัดสุพรรณบุรีด้วย
ปัจจุบันชุมชนชาวไทยทรงดำในจังหวัดสุพรรณบุรี
จะอาศัยอยู่ในเขตอำเภออู่ทอง อำเภอเมือง อำเภอสองพี่น้อง และอำเภอบางปลาม้า
ขบวนแรลลี่ออกจากพิพิธภัณธ์สถานแห่งชาติอู่ทอง
ขบวนแรลลี่มุ่งสู่พระใหญ่ที่หน้าผาหินแกะสลัก พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ
พลวงพ่ออู่ทอง เพื่อหา RC ต่อไปค่ะ
พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ หรือเรียกกันสั้นๆ ว่าหลวงพ่ออู่ทอง
ณ พุทธมณฑลประจำจังหวัดสุพรรณบุรี เขาทำเทียม อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี
นับเป็นพุทธมณฑลประจำจังหวัดสุพรรณบุรี เขาทำเทียม และภูผามังกรบิน
เป็นเขตโบราณสถานเมืองอู่ทอง อ.อู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี
และยังเป็นเขตพื้นที่ที่กรมศิลปากรยืนยันว่า
ที่นี่เป็นจุดเริ่มต้นของการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในดินแดนสุวรรณภูมิ
ที่แห่งนี้มีหลักฐานทางโบราณคดีที่มีข้อพิสูจน์ว่า
พระเจ้าอโศกมหาราชแห่งอินเดียได้ส่งพระธรรมทูตออกเผยแผ่พระพุทธศาสนา 9 สาย
และสายที่ 8 ส่งทรงพระโสณะและพระอุตตรเถระ
ได้เข้ามาดินแดนสุวรรณภูมิเมื่อต้นพุทธศตวรรษที่ 3
ซึ่งปรากฏร่องรอยพระพุทธศาสนาในอู่ทอง
เพราะพระเจ้าอโศกยังสร้างวัดวาอารามไว้มากมาย
อาทิ วัดปุษยคีรีสังฆาราม ในแคว้นกลิงคะ ฯลฯ
ประจวบกับมีจารึก ปุษยคีรี ตามหลักฐานจารึกศิลา "ปุษยคีรี"
และ "ธรรมจักรบนยอดเสาอโศก" ณ บริเวณภูเขาใกล้กับวัดเขาทำเทียม
ไม่ไกลจากที่สลักพระ
จึงมีข้อสันนิษฐานว่าชื่อจารึกมาจากพระธรรมทูตทั้งสอง
ได้นำชื่อบ้านนามเมืองของท่านมาสลักไว้ก็อาจเป็นได้
การก่อสร้างพุทธมณฑลประจำจังหวัดสุพรรณบุรี
เพื่อใช้เป็นอุทยานทางพระพุทธศาสนา
และให้เป็นศูนย์กลางของพระพุทธศาสนาประจำจังหวัดสุพรรณบุรี
การออกแบบพระพุทธรูปที่จะใช้แกะสลักบนหน้าผาของเขาทำเทียม
โดยจะให้เป็นพระพุทธรูปที่มีลอยนูน เพื่อให้เป็นพุทธลักษณะที่สวยงาม
พระใหญ่ เป็นพระพุทธรูปปางโปรดพุทธมารดา
ในอิริยาบถประทับนั่งขัดสมาธิ พระหัตถ์ซ้ายวางหงายบนพระเพลา (ตัก)
บางแบบวางบนพระชานุ (เข่า) พระหัตถ์ขวายกขึ้นเสมอพระอุระ (อก)
จีบนิ้วพระหัตถ์ บางแบบงอนิ้วพระหัตถ์
หลังจากที่พระพุทธเจ้าแสดงยมกปาฏิหาริย์แล้ว
ได้เสด็จขึ้นไปจำพรรษาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เป็นเวลา 3 เดือน
เพื่อแสดงพระธรรมเทศนาโปรดพุทธมารดาซึ่งไปบังเกิดเป็นสันดุสิตเทพบุตร
ณ สวรรค์ชั้นดุสิต เพื่อตอบแทนพระคุณ
ท้าวสักกเทวราชมีความปีติยินดีจึงรีบป่าวประกาศแก่เทวดาทั้งหลายให้มาฟังพระธรรมเทศนา
ในที่สุดพุทธมารดาได้ดวงตาเห็นธรรม บรรลุเป็นพระโสดาบันในที่สุด
นับเป็นความอลังการงานสร้างหนึ่งเดียวในไทยของพระพุทธรูปแกะสลักบนหน้าผาขนาดใหญ่
ปางโปรดพุทธมารดานามว่า "พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ" หรือหลวงพ่ออู่ทอง
ที่มาเยือนจังหวัดสุพรรณบุรีต้องห้ามพลาดนะออเจ้า
CUT มาในช่วงบ่ายของวันที่ 7 กันยายน 2562 เลยนะคะ
เป็นการทำกิจกรรม DNY เป็นการเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นของเมืองอู่ทอง
ด้วยการลงมือทำยาดม-ยาหม่องตุ๊กตาหัวโตที่บ้านป้าต้อย
นับเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์เมืองโบราณอู่ทองที่ต้องมาทำด้วยตัวของคุณเอง
เรียกว่าเป็นกิจกรรมการทำยาดมยาหม่องสมุนไพตุ๊กตาหัวโตที่มีมีป้าต้อย
มาสอนการทำยาดมตั้งแต่ขั้นตอนแรก
นั่นก็คือ การทำความรู้จักกับสมุนไพรทั้ง 9 ชนิดก่อนที่นำมาทำยาดม
จากนั้นไปจนถึงขั้นตอนสุดท้าย
ก็คือ การผลิตฝาปิดบรรจุภัณฑ์ยาดมและยาหม่องด้วยดินปั้นเป็นรูปหัวตุ๊กตา
ซึ่งประดับเครื่องตกแต่งสมัยทวาราวดีซึ่งขุดพบในเมืองอู่ทอง
เรียกว่ามางานแรลลี่นอกจากได้ความมันส์กับแรลลี่แล้ว
ยังได้ความรู้เกี่ยวกับวัตถุดิบ + ความสร้างสรรค์ของคุณแต่งแต้มลงไปอีกด้วย
เป็นงาน handmade เเต่ละชิ้นจะวาดเเตกต่างกันไปเท่ากับเป็นชิ้นเดียวในโลก
ยาดม-ยาหม่องตุ๊กตาหัวโตของป้าต้อยได้รางวัล Creative Tourism Thailand ปี 2560 ด้วยค่ะ
เริ่มเเรกป้าต้อย ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนต้นแจงพัฒนา
จะเเนะนำตัวพร้อมกับเล่าเรื่องเกี่ยวกับเมืองโบราณอู่ทอง
ตลอดทั้งที่จะมาเป็นยาดม ยาหม่อง สมุนไพร
ครอบครัวของป้าต้อยเดิมทำธุรกิจเกี่ยวกับการฉายหนังกลางแปลง
เเละที่หันเหมาทำยาดม-ยาหม่องนี้ได้
ก็เพราะคุณย่าเป็นคนชอบทำกิจกรรมหลายอย่างไว้ใช้ในครัวเรือน
ทั้งทำกะปิ น้ำปลา รวมถึงยาหม่องด้วย
ป้าต้อยก็ได้รับการถ่ายทอดตรงมาจากคุณย่า
ประกอบกับมีการนำครูมาสอนทำยาดมให้กับชาวบ้านจึงได้เริ่มฝึกทำ
พัฒนาสูตรเเละรูปแบบมาจนเป็นยาดมยาหม่องสมุนไพรในปัจจุบัน
โต๊ะแรก สับสมุลเเว้งเเละตำลูกจันทร์ ป้าต้อยสาธิตวิธีสับสมุลเเว้งให้ดู
พร้อมเล่าสรรพคุณว่าแก้อ่อนเพลีย ปวดศรีษะ
ส่วนลูกจันทร์ แก้คลื่นไส้อาเจียน บำรุงหัวใจ
โต๊ะที่สอง ปอกมะกรูด
โดยเอาเเต่ผิวนำมาหั่นฝอย เเละหั่นเปลือกส้มโอเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมขนาดเล็ก
ป้าต้อยเล่าต่อว่าต้องนำมะกรูดเเละเปลือกส้มโอที่หั่นเเล้วไปตากแห้ง
เพื่อให้น้ำระเหยออกจากผิวจะได้ไม่เป็นเชื้อรา
จากนั้นนำไปอบต่อกว่าจะออกมาเป็นยาดมหอมๆ นี่ขั้นเยอะจังเนาะ
โต๊ะที่สามประกอบร่างยาดม โดยนำสมุนไพร 9 ชนิดใส่ลงในขวด โดยเริ่มจากใส่เเบบเเห้ง 6 ชนิดก่อน
เเละตามด้วยเเบบน้ำที่เกิดจากการผสมพิมเสน เมนทอล การบูน
จนกลายเป็นน้ำมันหอมระเหยสามารถเรียกยาดมเเบนี้ว่ายาดมนพเก้าได้ด้วยค่ะ
ป้าต้อยทำป้ายติดไว้ให้ว่าเเต่ละชนิดต้องใส่จำนวนเท่าไหร่
แล้วก็มาถึงช่วงเวลารอคอย(เธอมาแสนนาน) ก็คือการเเต่งหน้าหัวตุ๊กตา
ป้าต้อยปั้นตัวหัวมาให้คุณๆ ใช้วิชาศิลปะเเต่งเเต้มใบหน้าเเละศีรษะได้เลยค่ะ
สีที่ใช้เป็นสีอคิลิค ป้าต้อยจะสอนเทคนิคในการทำตา
เเละวิธีการการใช้อุปกรณ์ในการวาดส่วนต่างๆ
อร๊ายยยยย น่ารัก พิมพ์ดีไม่มีติด้วยฝีมือตัวเองสุดๆ เลยค่ะ
เมื่อลองเปิดฝายาดมออกจะรู้สึกหอมชื่นใจ
ป้าต้อยบอกว่าไว้เป็นปีก็ยังหอมค่ะ สุดยอด
จากนั้นก็ถ่ายภาพเป็นที่ระลึก
สนใจก็สอบถามได้ที่ชุมชน โทร.ใครสนใจทำยาดมหัวโตป้าต้อยที่เบอร์ 08-1 763-9230
จากนั้นขึ้นรถตู้อุ้มก็หลับสนิทตื่นมาอีกทีรถตู้พามาถึงโรงแรมชวาลันรีสอร์ท อ.ดอนตูม จ.นครปฐมล่ะค่ะ
อุ้มนอนห้อง P12 เตียงคู่ ทริปนี้รูมเมดเป็นน้องบีน่ะค่ะ
จากนั้นพักผ่อนตามชอบใจ นัดหมายกันในเวลา 18.45 น.
อาหาร 4 อย่าง นี้อร่อยมากเลยค่ะออเจ้า
ว่าแล้วงานปาร์ตี้ยามเย็นเริ่มแล้วนะคะ
พลบค่ำดื่มด่ำกับงานราตรี สีสันแห่งสายน้ำ ณ ชวาลันรีสอร์ท ดอนตูม จ.นครปฐม
จากนั้นเป็นการแจกรางวัลเรียกน้ำย่อยก่อนเพื่อน
เป็นการมอบรางวัลให้ผู้ที่แต่งชุดแบบไทยไทยมาในคืนนี้เข้าตากรรมการ
นายพูลผล แพทอง ประธานชมรมสื่อสร้างสรรค์เพื่อการท่องเที่ยว
เป็นผู้มอบรางวัลแต่งกายด้วยผ้าไทยสวยงามดีเด่นค่ะ
เรียกว่าสวยๆ หล่อๆ ด้วยผ้าไทยกันทั้งงานค่ะ
จากนั้นนาย สุรศักดิ์ หุบชะบา
รองผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำนักงานราชบุรี
กล่าวเปิดงานว่า
ต้องขอขอบคุณชมรมสื่อสร้างสรรค์เพื่อการท่องเที่ยว
ที่ร่วมกับททท.ภูมิภาค ภาคกลาง จัดสรรความสุขให้กับพวกเรานะครับ
ในนามของททท.สำนักงานราชบุรี ก็ขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่การท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดนครปฐม
และงานแรลลี่ สีสันแห่งสายน้ำ ตามรอยมรดกแห่งสยาม สุพรรณบุรี นครปฐม
จำนวนรถที่เข้าร่วมในวันนี้ไม่ต่ำกว่า 30 คัน ผู้ที่เดินทางมาท่องเที่ยวก็ร่วมๆ 100 คนนะครับ
ผมรู้สึกอบอุ่นและรู้สึกและรู้สึกขอบคุณที่ทุกท่านให้ความสำคัญและเลือกที่จะมาพักผ่อน
ในพื้นที่ของจังหวัดนครปฐม
จังหวัดนครปฐมยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่ารักๆ อีกมากมาย
ซึ่งคนส่วนใหย่ก็ไม่ค่อยทราบรายละเอียดมากนักรวมทั้งที่พักต่างๆ
ส่วนใหญ่จะท่องเที่ยวและไปพักในพื้นที่ถนนเพชรเกษมที่เป็นเส้นทางหลัก
ต้องขอขบคุณทุกๆ ท่านจริงๆ ที่ยังรัก ททท.
และเข้าร่วมกิจกรรมทุกครั้งที่ ททท.คัดเลือกสรรเพื่อมอบความสุขให้นะครับ
ขอบคุณจริงๆ ที่ยังรักกัน
และททท. จะยังคงสรรหาความสุขในรูปแบบต่างๆ มามอบให้ทุกท่านอย่างสม่ำเสมอ
และหวังว่าเราจะได้พบกันอยู่เรื่อยๆ นะครับ
และค่ำคืนนี้ขอให้ทุกท่านมีความสุข และอิ่มหนำสำราญกับอาหารมื้อค่ำ
พร้อมทั้งเสียงเพลงดนตรี รวมถึงศิลปินชื่อดังคุณเท่ห์ อุเทน พรหมมินทร์นะครับ
ผลการแข่งขัน คาราวาน แรลลี่ สีสันแห่งสายน้ำ ตามรอยมรดกแห่งสยาม
ผู้ชนะการแข่งขันแรลลี่ฯ ขึ้นมารับรางวัลจากนายสุรศักดิ์ หุบชะบา รองผอ. ททท.สำนักงานราชบุรี
จากนั้นนายชัยวิทย์ เผื่อนอุดม หัวหน้างานภาคกลาง 1 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
ขึ้นมามอบรางวัลสมนาคุณจากการจับสลากรายชื่อผู้เข้าร่วมการแข่งขัน
เรียกว่างานนี้ ททท.ภูมิภาค ภาคกลางผู้ใหญ่ใจดี แจกเพียบเลยค่ะ
นายเชาวรัตน์ รัตนะ กรรมการผู้จัดการ ชวารัล รีสอร์ท
ขึ้นมากล่าวขอบคุณในฐานะที่เป็นเจ้าของสถานที่
ชวารัลรีสอร์ท เริ่มตั้งแต่ชื่อของรีสอร์ท หมายถึง แสงสว่างความรุ่งเรืองน่ะครับ
ที่หมายถึงความรุ่งเรืองในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมที่พัก หรือธุรกิจต่างๆ
รูปแบบของรีสอร์ทวางไว้ในกลุ่มของครอบครัว
เป็นการเข้ามาพักผ่อนแบบเรียบๆ ง่ายๆ โดยอิงธรรมชาติเป็นหลัก
แต่ในธรรมชาตินี้แฝงด้วยความสะดวกสบายในเรื่องของห้องพักและร้านอาหาร
สำหรับเรื่องห้องพักเป็นการจัดวางรูปแบบได้อย่างลงตัวดีพอสมควร
เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
นอกเหนือจากนี้จะมี 2 สระว่ายน้ำ มีกิจกรรมนวดแผนไทย มีห้องคาราโอเกะ
มีกิจกรรมทางน้ำโดยไม่ต้องห่วงอุบัติเหตุเพราะเราเน้นเรื่องความปลอดภัยเป็นอย่างยิ่ง
จากนั้นดื่มดำ่กับเพลงวัยรุ่นยุคของเรามินิคอนเสิร์ตไทยเท่กับเท่ห์ อุเทน พรหมมินทร์
เรียกว่าสนุกสนานถ้วนหน้ากันร่วม 2 ชั่วโมงเต็ม
เป็นอีกทริปหนึ่งที่ประทับใจของคุณนายอุ้มสีค่ะออเจ้า
จากความประทับใจของฉันรถแรลลี่หมายเลข 08
ในการไปแรลลี่วันที่ 7 กันยายน 2562
การเดินทางของเราเกิดขึ้นในเวลา 5:00 น พร้อมกับเสียงนาฬิกาปลุก
เช้าวันนี้เราต้องไป ณ จุดสตาร์ทแรลลี่ สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานใหญ่
เมื่อเราไปถึงเราได้พบกับน้องประชาสัมพันธ์ให้เราเลือกตามเบอร์ที่เราอยากได้
เราจึงเลือกเบอร์ 08 พร้อมรับเสื้อสีฟ้า สีสันแห่งสายน้ำ แค่คิดก็สนุกแล้ว
ประธานในพิธีเริ่มปล่อยรถออกจากจุดสตาร์ท หลังจากที่เราเบิ่ลรถออกมา ไม่นานนัก
รถทุกคันมุ่งหน้าสู่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติอู่ทอง
ไม่นานนักรถ Number 15 ได้แซงขวาเราไป เราขับไล่ไปติดๆๆ
ไม่นานนักเราก็ได้มาถึงพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติอู่ทอง
ที่นั่น..มีบ้านหลังน้อยในสไตล์บ้านไทยทรงดำ หรือว่าเราเรียกกันว่าลาวโซ่ง
เป็นบ้านยกพื้น หลังคามุงจาก 2 ชั้น
ข้างในมีการจำลองการใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย มีเตาฟืนเล็กๆอยู่หลังบ้านใต้ถุนยกสูง
เลี้ยงสุนัขและหมูไว้ด้านล่างของใต้ถุน หลังจากที่เราขับรถ ใ
นช่วงสายมีรถทยอยกันเข้ามาอีกหลายคัน
เราเริ่มรวมตัวหา RC ที่ทางทททจัดไว้ให้
ก่อนที่จะพาเรานำชมส่วนของพิพิธภัณฑ์เราได้ความรู้มากมาย
แบ่งโบราณสถานมากมายวัตถุโบราณมากมาย
พวกเราสนุกกันมาก หลังจากที่เราฟังบรรยายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอู่ทองเสร็จเรียบร้อย
แล้วเราออกเดินทางไปวัด เขาทำเทียม ไม่ใช่เขาหำเทียมนะครับ
ที่วัดเขาทำเทียม เขาได้แกะสลักพระพุทธรูป ปางสมาธิ สูงใหญ่ สวยงาม
เราสนุกกับการหา RC อีกครั้ง
ก่อนที่จะขับรถแบบคาราวานไปรับประทานอาหารเที่ยงพร้อมทำยาหม่องหัวโต
ก่อนที่จะพากันขับรถแบบคาราวาน มุ่งหน้าสู่รีสอร์ทชวาลันรีสอร์ท
เป็นรีสอร์ทที่มีบึงน้ำขนาดใหญ่ มีปลาคราฟสวยงามจำนวนมากน่าประทับใจและหลงไหลเป็นอย่างยิ่ง
ในช่วง Dinner ของเย็นวันนั้นบรรยากาศที่จัดเป็นแบบกลางแจ้ง
อาหารที่จัดมากมาย อร่อยน่าประทับใจรสชาติหลากหลาย
และในค่ำคืนหนังเองได้พบกับพี่เท่ห์ อุเทน พรหมมินทร์
มาขับกล่อมบรรเลงบทเพลง
ถ้าให้บรรยากาศสนุกสนานยิ่งนักก่อนที่เราจะขอตัวลาเข้าไปพักผ่อนในคืนนี้
ขอขอบคุณ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคกลาง ที่ชวนอุ้มมาทริปนี้
เป็นสีสันแห่งสายน้ำที่มีความสุขและอบอุ่นที่ได้ตามรอยมรดกแห่งสยาม
เมืองไทยเที่ยวใกล้ที่ไหนก็สนุก Amazingไทยเท่ ขอบคุณนะคะ
ขอขอบคุณ
เพลง : รวมเพลงฮิตเท่ห์ อุเทน พรหมมินทร์
BG : ลักกี้ / กล่องเขียนคอมเม้นท์ : lozocat / Banner : oranuch_sri
ของแต่ง BLOG : ป้ามด + ดอกหญ้าเมืองเลย + ชมพร + ญามี่ + เนยสีฟ้า
| Create Date : 09 กันยายน 2562 |
| Last Update : 14 กันยายน 2562 12:29:52 น. |
|
18 comments
|
| Counter : 3245 Pageviews. |
 |
|
|
| ผู้โหวตบล็อกนี้... |
| คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณJinnyTent, คุณสองแผ่นดิน, คุณhaiku, คุณKavanich96, คุณนกสีเทา, คุณกะว่าก๋า, คุณเริงฤดีนะ, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณmultiple, คุณkae+aoe, คุณInsignia_Museum, คุณThe Kop Civil, คุณวลีลักษณา, คุณหอมกร, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณญามี่, คุณnewyorknurse |
โดย: JinnyTent   วันที่: 9 กันยายน 2562 เวลา:21:26:47 น. |
|
|
|
โดย: สองแผ่นดิน  วันที่: 9 กันยายน 2562 เวลา:22:30:37 น. |
|
|
|
โดย: Kavanich96  วันที่: 10 กันยายน 2562 เวลา:3:03:06 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า  วันที่: 10 กันยายน 2562 เวลา:10:10:38 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ  วันที่: 10 กันยายน 2562 เวลา:10:22:24 น. |
|
|
|
| โดย: multiple วันที่: 10 กันยายน 2562 เวลา:10:51:19 น. |
|
|
|
โดย: kae+aoe  วันที่: 10 กันยายน 2562 เวลา:11:51:16 น. |
|
|
|
โดย: วลีลักษณา  วันที่: 10 กันยายน 2562 เวลา:19:47:23 น. |
|
|
|
| โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 กันยายน 2562 เวลา:6:22:33 น. |
|
|
|
| โดย: kae+aoe วันที่: 11 กันยายน 2562 เวลา:8:25:22 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร  วันที่: 11 กันยายน 2562 เวลา:8:37:14 น. |
|
|
|
| โดย: sawkitty วันที่: 11 กันยายน 2562 เวลา:12:07:50 น. |
|
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 118 คน [
แพ้ชนะก็ขำๆกันไปครับ ^^