Live Love Laugh Learn Bake Shop^^

Group Blog
 
All blogs
 
2nd Day in Tokyo

วันนี้ตั้งใจจะตื่นแต่เช้า
Plan ตอนแรกคือ Tsukiji fish market แล้วก็ไป Ghibli Museum 
น้องเราอยากไปพิพิธภัณฑ์จิบลิ นี่มาก ต้องจองตั๋วผ่าน lawson
แต่ปรากฏว่า เมื่อวานเราไปจองตั๋วแล้วเต็มทุกวัน ทุกรอบ เลย 
พนักงาน lawson น่ารักมากกก นางพยายามจองให้สุดฤทธิ์ 
ที่สำคัญ คือ นางพูดภาษาญี่ปุ่นเราพูดภาษาอังกฤษ 
5555+++ นึกแล้วขำ ว่าคุยกันเข้าใจได้ยังไง...
ตอนแรกบอก จิบลิ แล้วนางดูงง ๆ น้องเราเลยบอก โตโตโร่ นางเก็ทเลย

นางน่ารัก เราบอกว่าไม่เป็นไร แต่นางก็ยังพยายามอยู่หน้าตู้ 
จนเราจ่ายตังค์ซื้อของเสร็จ จนออกจากร้าน นางก็ซอรี่อีก 5555
........................................

จากที่ตั้งใจจะตื่นเช้า เลยกลายเป็น 8 โมง ถึงตลาด 9 โมง แระ
เดินดูของสด เพลินดี 



แต่ราคาค่อนข้างสูง (วันหลังเราไปอีกตลาดนึงที่เกียวโต ถูกกว่า)
เจอเมนไทโกะอีกแล้ววว ... ยังจำรสชาติเมื่อวานได้ 
อยากกินนะ มันดูน่ากันมว๊ากกกกก...แต่ขอทำใจอีกวันล่ะกัน



หิว....ซื้อไข่ม้วนมากินก่อนเลย 120 yen
เจ็บใจตรงที่ เดินไปอีกนิด 100 yen เอง
แต่อร่อยดีนะ



ยังไม่อิ่ม เจอร้านหอยย่าง ตัวใหญ่มากกกกก
โดนหอยเซลล์มา 1 ตัว 700 yen แพงมากกก แต่ยอม...
วันหลังเจอที่อื่นถูกกว่านี้  น้ำตาจะไหล



หอยอร่อยมากกกกก  หวานนนนนนที่สุด  อยากจิกินอีกสัก 10 ตัวว
...........
ยังไม่อิ่ม  ถ้าเดินกินแบบนี้หมดตัวแน่  เลยลองเดินหาร้านซูชิ
แต่น้องสาวเราไม่กินของดิบ เลยต้องหาร้านที่มันมีของสุกด้วย

ร้านนี้มีขายเพรียงด้วยยยย  เรียนมา 4 ปี ไม่เคยรู้เลยว่ามันกินได้เนี่ยยย
เมื่อเช้าฝนตกด้วย ตอนออกจากโรงแรม เลยได้ร่มมาคันนึงจากเซเว่น ห้าร้อยกว่าเยน



เดินไปเดินมา หน้าตามันเหมือนกันหมดทุกร้านเลยยยย
ราคาก็พอ ๆ กัน เลยเลือกไปร้านนึง จำชื่อร้านไม่ได้
ราคาแพงเอาเรื่องอยู่ แต่ไหน ๆ ก็ไหน ...นี่คือ Tsukiji นะเห้ยยย ไม่กินข้าวหน้าปลาดิบได้ไง
นั่งหน้าเคาเตอร์ กะว่าเชฟต้องทำโชว์ 
แต่ข้าวมาจากในครัวจ้าาาาาา....อันนี้เหมือนที่เตรียมของสดเฉยๆ 

ของน้อง เป็นแบบข้าวหน้าซูชิที่กริลมานิดหน่อย 1,720 yen (ไม่ได้ถ่ายรูป)
ของเรา ตามรูป 1,920 yen 



นี่คือ...ข้าวหน้าปลาดิบ ที่เราพะอืดพะอมกิน มากก บอกไม่ถูก
คนอื่นอาจจะอร่อยก็ได้นะ แต่เราแบบ ... สยึมกึ๋ย มากก
อาจจะเพราะ เราไม่ได้ปลาดิบเลิฟเว่อร์ คือกินได้ ที่เมืองไทยเรากินได้ แต่ไม่ได้เยอะมาก
แต่อันนี้คือดิบมาทั้งจาน เราอาจจะประมาณตัวเองผิดไปด้วยแหละ 
กินไปสักพัก เราเริ่มรู้สึกว่ามันคาว คาวมาก กินขิงช่วย วาซาบิช่วย ก็พอไปได้
จริง ๆ แล้วเรากินเกือบหมดชามเลยนะ ซดน้ำซุปปูช่วย ซุปมิโสะนี่อร่อยมากก มาก มาก
จนมาถึงกุ้ง..นี่ไม่ไหวแระ คาวสุดเลย รองลงมานี่อีปูฝอย ๆ นั่น คาวมาก นึกว่าจะหวานๆ ซะอีก
พยายามกลั้นใจกิน..กลัวเชฟเสียใจ  เสือกมานั่งหน้าเคาเตอร์อีก

น้องเราเหลือเยอะกว่าาา 5555+++ 
คือ แค่กริลล์มาด้านนอกเฉย ๆ ข้างในยังดิบอยู่
แต่ ณ จุดนั้น เราก็ยังช่วยตัวเองไม่หมดเลยยย 5555

สรุปว่าเป็นมื้อที่แพงที่สุด และไม่มีความสุขที่สุดเลยย ในทริปนี้
...................................

จากนั้นเราก็ไป ต่อที่ Nature and Science National Museum ค่ะ
เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เราอยากไป จะไปหา ฮาจิโกะ

เด็กๆ เยอะมาก มีตั้งแต่อนุบาล ถึงมัธยม ส่วนใหญ่โรงเรียนพามา



ตัวพิพิธภัณฑ์จะแบ่งเป็น 3 ชั้น แล้วมีห้องแยกซ้าย-ขวา
เดินดูได้เรื่อย ๆ ถ้าไม่เมื่อยซะก่อน

รูปนี้เป็นความหลากหลายของปูชนิดนี้ (ถ้าเราเข้าใจไม่ผิดนะ)



รูปซ้ายนี่ประมาณว่าโชว์ให้ดู ว่า ในกอปะการัง 1 ก้อน นี่เจอสัตว์อะไรบ้าง
รูปขวานี่เป็นอีกห้องนึง เกี่ยวกับวิวัฒนาการของมนุษย์



สองรูปนี้ อธิบายเป็นแผนภาพให้ดูว่าปลาทองกับดอกไม้อันนี้ มันมิวเตชั่นไปยังไงบ้าง
โดยสิ่งมีชีวิตทั้งสองนี้เริ่มจาก wildlife แล้วมันเกิด mutation ไปเรื่อย ๆ
จนหน้าตามันต่างจากบรรพบุรุษไปมากก



เจอแล้ววว!!!! ฮาจิโกะ อยู่ใกล้ ๆ กับปลาทอง
ฮาจิโกะ นี่เป็นหมารูปปั้นที่อยู่ตรงแยกชิบุย่า 
ตัวตัวจริง ๆ นางอยู่ที่นี่ โดน สต๊าฟ ไว้ตรงนี้ จร้าาา 
เป็นหมาสายเลือดญี่ปุ่น หน้าตาน่ารักเชียว

ส่วนรูปขวานี่คือโครงกระดูกของตัวอะไรซักอย่าง จำไม่ได้
ที่ลอยอยู่คือของปลอมทำขึ้นมาเต็มตัว
กระดูกจริงคือที่อยู่ข้างล่าง น่าจะเป็นตัวที่ค้นพบที่ญี่ปุ่นมั๊ง (ไม่ได้อ่านรายละเอียด)



ต้นไม้ต้นนี้ใหญ่มาก ๆ มีการสอนนับอายุจากวงปี
ส่วนรูปขวา เป็นเห็ดปลวกกก....ดีอ่ะ นี่เราก็ไม่เคยเห็นแบบนี้



อันนี้แสดงสิ่งมีชีวิตในมหาสมุทรตามความลึก ดีอ่ะ
เราว่างานพิพิธภัณฑ์เมืองไทยควรมาดูงานนะ เค้าจัดโชว์ดีอ่ะ ความรู้ล้วนๆ 
เมื่อไหร่ประเทศไทยจะมี พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติ กะเค้ามั่ง

ตรงทางออกก็จะเจอ สัตว์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกขนาดเท่าตัวจริง รออยู่
(จริงๆ นี่เห็นตั้งแต่ตอนเดินเข้าแระ)



ออกมาจากพิพิธภัณฑ์ ก็เดินเล่นรอบ ๆ และก็คิดว่าจะไปไหนต่อดี
แต่ ณ จุดนั้น คือเมื่อยมาก
ช่วงนี้ดอกไฮเดรนเยียกำลังบานนน สวยยมากกก
น้ำนี่อร่อยมาก รสชาติยาคูลท์ แต่ซ่า ๆ  กินไปกินมา รสชาติเหมือคาลพิส ขวดเก๋มากๆ 



น้องสาวอยากไปพิพิธภัณฑ์ ART อะไรซักอย่าง แต่ค่าเข้าแพงมากกก
เลยยอมแพ้  สองคนนี้สามพันกว่าเยน แพงกว่าพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติสองเท่า
รูปซ้ายเป็นด้านหน้าของพิพิธภัณฑ์ แต่ทางเข้าต้องลงไปชั้นข้างล่างอีกหนึ่งชั้น
ส่วนรูปขวาเป็นที่ฝากร่ม...คือดีอ่ะ  ไม่ต้องถือ ไม่หายด้วย ไม่ต้องหยิบผิดคันด้วย
ส่วนใหญ่เค้าจะใช้อยู่ 3 สี ใส ดำ ขาว แล้วก็หน้าตาจะเหมือนกันหมด
เหมือนบริษัทร่มมีแห่งเดียวในญี่ปุ่น เพราะงั้นถ้าเราเสียบไว้เหมือนตามประตูห้างงี้
เราว่าหยิบสลับกันแน่นอน


สรุปก็ไม่ได้ไปพิพิธภัณฑ์ อื่น เลย เพราะ หมดพลัง  เมื่อย มากกกกกก นี่แค่สองวันแรก!
กะว่าตอนเย็นจะไปฮากิบาระ  เลยกลับโรงแรม ไปชาร์ตพลังขาก่อนสักชั่วโมง

ร้านเค้กนี่อยู่ใกล้โรงแรมเลย  เล็งมาตั้งแต่เมื่อวาน  น่ากินมากกกกก
จัดมาชิ้นนึง อร่อยมากกกกกกกก



ตอนเย็นไป Akihabara ตั้งใจว่าจะไปซื้อนาฬิกา
เดินหาห้างอยู่นานมากก วนไปมา ที่แท้ก็อยู่อีกฝั่งนึงของสถานีรถไฟ

มีแต่ตึกสูงๆ เป็นร้านค้าที่มีหลายๆ ชั้น อยู่ในตึก 



โมเดลตุ๊กตานี้ก็อยากได้นะ แต่ถ้าเริ่มซื้อแล้วก็ต้องซื้ออย่างอื่นตามมาอีกเยอะ 
เราก็ไม่ได้โอตาคุขนาดนั้น  ดูเฉยๆ ก็อิ่มแระ



พอได้นาฬิกา ก็กลับเลยยย เมื่อยยยยยขา
แวะกิน ร้านหยอดเหรียญ กดผิดด้วย อยากได้โซบะราเมงแบบร้อนๆ อ่ะ
ได้แบบเย็นมาซะงั้น  ไม่หร่อยเลยยย



เสร็จแล้วก็กลับโรงแรมไปนอน...พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าา

จะไป Kawaguchiko



Create Date : 06 กรกฎาคม 2558
Last Update : 9 กรกฎาคม 2558 11:01:59 น. 1 comments
Counter : 646 Pageviews.

 
อาหารน่าทานมากค่ะ


โดย: mariabamboo วันที่: 7 กรกฎาคม 2558 เวลา:11:44:12 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

หมึกหน้ามึน
Location :
ภูเก็ต Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ให้ทิปเจ้าของ Blog [?]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add หมึกหน้ามึน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.