(ตอนที่ 14) หลังจากที่เราเก็บกระเป๋า เข้าห้องน้ำกันเรียบร้อยแล้ว ลุงพุงพลุ้ยบอกเราว่าเราสามารถมาเช็คอินได้ตอนบ่ายโมง แล้วส่งกุญแจให้ แกบอกว่า 1 ดอกสำหรับไขประตูด้านหน้า อีกดอกไว้ไขประตูเข้าห้อง เราบอกลุงว่าเราจะเช็คเอาท์ตั้งแต่เช้าจะให้คืนกุญแจตรงไหน ลุงบอกว่าให้เอากุญแจวางไว้บนโต๊ะทานอาหารตรงหน้าห้อง เราจ่ายเงินค่าห้องพักให้ลุง 144 euro ก่อนที่ลุงจะเดินไปหยิบผ้าปูที่นอนเพื่อมาปูให้เรา

Mini Hotel Abraka เป็นโรงแรมเล็กๆ ที่อยู่บนชั้น 2 ของร้านขายของที่ระลึก อันที่จริงแล้วโรงแรมที่นี่ส่วนใหญ่ด้านล่างไม่เป็นร้านขายของก็เป็นร้านอาหาร

ห้องพักของเรากว้างขวางใหญ่โตเหมาะกับคน 6 คนมาก มี 2 ห้องนอนในห้องเดียว มีห้องน้ำ 1 ห้อง เมื่อเปิดประตูเข้าไปจะเป็นห้องนอนหัองแรก มีโซฟาขนาด 3 ที่นั่งอยู่ทางซ้ายมือ ถัดไปเป็นทีวีตู้ขนาด 22 นิ้ว ทางขวามือเป็นห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำและสบู่ไว้บริการ ตรงข้ามทีวีเป็นเตียงนอนขนาดคิงส์ไซส์ปูผ้าปูที่นอนและวางหมอนกับผ้าห่มไว้เรียบร้อย เดินผ่านทีวีไปทางด้านซ้ายมือเป็นประตูเปิดเข้าไปยังห้องนอนอีก 1 ห้อง ตรงกลางห้องมีเตียงขนาดคิงส์ไซส์วางอยู่ มุมด้านซ้ายและทางขวาริมหน้าต่างมีเตียงเสริมขนาด 3 ฟุตตั้งอยู่ ซึ่งลุงกำลังจะปูผ้าปูที่นอนให้เรา

เราวางกระเป๋าไว้ในห้องแล้วพากันเดินมาที่จตุรัสใจกลางเมือง กลางจตุรัสเป็นลานกว้างๆ แวดล้อมไปด้วยตึกสีพาสเทล เช่นสีเหลือง ส้ม ม่วง ครีม ขณะที่เพื่อนๆ โพสต์ท่าถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนาน เราก็เข้าไปที่ Tourlist Information ซึ่งอยู่ในบริเวณนั้น วันนี้เราวางแผนว่าเราจะไปเที่ยวปราสาท Cesky Krumlov เราจึงซื้อ Cesky Krumlov Card ราคาคนละ 200 CZK นอกจากเข้าปราสาทแล้ว ยังเข้า Museum ได้อีกด้วย

ออกจาก Tourist Information เราเดินไปทางขวาเพื่อไปที่สะพานที่เราเข้าเมืองมา ระหวางทางที่เดินไปเราพบจุดชมวิวที่อยู่ด้านข้างของ Reginal Museum In Cesky Krumlov มองไปฝั่งตรงข้ามนอกจากจะเห็นปราสาทแล้ว ยังเห็นเมืองอีกมุมหนึ่งซึ่งมีแม่น้ำไหลผ่าน

เราเดินมาเพื่อจะไปชม Reginal Museum In Cesky Krumlov แต่ประตูปิด เราเลยเดินกลับออกมาเพื่อตรงไปที่สะพานซึ่งอยู่ถัดไป เราแวะถ่ายรูปกันบนสะพานสักครู่ก่อนจะชวนกันเดินลงไปริมน้ำ

เราเห็นทางลงไปริมน้ำเป็นบันไดที่อยู่ถัดไปไม่ไกลจากสะพาน ริมน้ำร่มรื่นมีต้นไม้ต้นใหญ่ซึ่งแน่นอนในเวลานี้มีใบสีเหลืองอยู่เต็มต้น ฝั่งตรงข้ามเป็นสวน มีหญ้าเขียวชอุ่มและต้นไม้ดูแล้วเพลินตา มองตามโค้งน้ำไปมีบ้านเรืองริมน้ำสลับกับต้นไม้ ดูไปก็เหมือนฉากในหนัง บรรยากาศเหมาะมากสำหรับคู่รักที่มาฮันนีมูน หรือถ่ายรูป Pre-wedding แสงแดดพยายามส่งผ่านต้นไม้ลงเห็นเป็นลำแสงสวยงามแปลกตาดี

ท้องร้องอีกแล้วเราชวนกันไปทานข้าวแถวปราสาท เราตั้งใจว่าเย็นนี้เราจะไปกินข้าวที่ร้าน Papa's Living Restaurant ตามที่มีคนแนะนำไว้ เดินกลับมาทางจตุรัสแล้วเลี้ยวขวาตรงซอยเล็กๆฝั่ง Tourlist Information เดินตรงไปเรื่อยๆ ตลอดทางมีทั้งร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร เรามาหยุดถ่ายรูปแล้วทันใดนั้นสายตาก็เห็นร้านอาหารร้านหนึ่งที่มีรูปอาหารวางโชว์ไว้หน้าร้าน ที่สะดุดตาพวกเราคือ "ขาหมูทอด" ด้วยความหิวเราเลยพุ่งเข้าไปในร้านทันที

เข้าไปในร้านมีลูกค้านั่งอยู่ 2 โต๊ะ เรานั่งโต๊ะทางซ้ายมือ พนักงานหนุ่มหน้าตาดีออกมาต้อนรับพร้อมกับเอาเมนูมาให้ เราสั่งอาหารหลายจาน หมู เห็ด เป็ด ไก่ มาครบ และที่ขาดไม่ได้คือ "ขาหมูทอด"

อิ่ม อร่อย จ่ายเงินเรียบร้อย เราเดินตรงไปยังปราสาท

เดินออกจากร้านไปทางขวา ที่บริเวณสะพานก็พบกับนักท่องเที่ยวจำนวนหนึ่ง บ้างก็เดินสวนทางออกมา บ้างก็กำลังถ่ายรูป เราวานให้สาวเกาหลีคนหนึ่งถ่ายรูปหมู่ให้เรา นางบอกมุมพร้อมกับจัดระเบียบการยืนให้เราด้วย ถ่ายรูปเสร็จเพื่อนคนหนึ่งขอบคุณนางเป็นภาษาเกาหลี "คัมซามีดะ" นางหัวเราก๊าก

ก่อนจะถึงทางขึ้นปราสาทมีร้านขายของที่ระลึกหลายร้าน เราเดินเลี้ยวซ้ายขึ้นบันไดแล้วเดินขึ้นเนินไปเรื่อยๆ ทางเข้าปราสาทอยู่ตรงหน้าเรานี่เอง (ตอนหน้าไปชมปราสาทกัน)

Create Date : 12 พฤศจิกายน 2558
Last Update : 12 พฤศจิกายน 2558 9:01:34 น.		1 comments
Counter : 560 Pageviews.
Share Tweet