มติชน สุดฯ ฉบับวันที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2550

ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส 2007 : รวมมิตรผู้สมัครรายย่อย (2)


     ในช่วงนี้ ระหว่างติดตามศึกหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส เพื่อเก็บสถานการณ์ในสนามแข่งขันมารายงานต่อท่านผู้อ่าน ฉันรู้สึกเหมือนเป็นครูโรงเรียนอนุบาลที่ได้รับมอบหมายหน้าที่ต้อนรับและพาผู้มาเยี่ยมไปทำความรู้จักโรงเรียน ตอนกำลังมีงานแข่งขันกีฬาสีประจำปี

     ขณะที่ฉันหยิบโพยเตรียมแนะนำผู้เข้าแข่งขันรายต่อไป ในสนามแข่งขัน เด็กๆ ใส่เสื้อหลากสีสันเริ่มขว้างปาข้าวของ สาดโคลนข่มกันชุลมุน ปะทะคารมใส่กันฉอดๆ โดยประเด็นหลักที่ถกเถียงกันอยู่ตอนนี้ คือ เอกลักษณ์ของชาติฝรั่งเศส

     “ฉันว่าไม่เห็นแปลกที่คนเราจะภาคภูมิใจในเพลงชาติ และประดับธงชาติฝรั่งเศสตามบ้านในวันชาติเหมือนที่ประเทศอื่นๆ เขาทำกัน” แม่หนูเซโกแลน โรยัล จากสีชมพู พรรคสังคมนิยม (FS) ประกาศ

     “เรื่องเอกลักษณ์ของชาติน่ะ ผมพูดขึ้นมาก่อนนะ ถ้าจะมาเลียนแบบความคิดเรื่องนี้ กรุณาอย่าทำเกินเลย ถึงขนาดให้ประดับธงทุกบ้าน มันมากไป” หนูน้อยนิโกลาส์ ซาร์โกซี จากพรรคฝ่ายขวา (UMP) ในเสื้อสีฟ้ากล่าวเหยียดๆ เมื่อเดือนก่อน เขาเพิ่งลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีมหาดไทย เพื่ออุทิศเวลาให้กับการหาเสียงเลือกตั้งอย่างเต็มที่

     “ลา มาร์เซยแยส เพลงชาติฝรั่งเศสน่ะควรจะเปลี่ยนเนื้อได้แล้ว เพลงปลุกใจทหารบ้าเลือดแบบนั้นมันไม่เหมาะกับยุคนี้อีกต่อไป ถ้าผมเป็นประธานาธิบดี จะเปิดให้มีการแข่งขันแต่งเพลงชาติใหม่ เน้นเรื่องสันติภาพเป็นหลัก แล้วเรื่องธงน่ะ ควรจะประดับธงสันติภาพที่เราใช้ในการประท้วงต่างๆ มากกว่า” เด็กชายโจเซ โบเว จากสีน้ำตาล นักต่อต้านกระแสโลกาภิวัฒน์ตะโกนลั่น

     “ผมรู้สึกลำบากใจมากที่เห็นผู้สมัครจากพรรคฝ่ายซ้ายพยายามหาเสียง ด้วยการบอกว่าชาติฝรั่งเศสของเรามีความคลอนแคลนเรื่องเอกลักษณ์ของชาติ ผมขอย้ำว่า สาธารณรัฐสร้างชาติ ไม่ใช่ชาติที่สร้างสาธารณรัฐ” เด็กชายฟรองซัวส์ ไบรู จากพรรคสายกลาง (UDF) สีเทากล่าวขรึมๆ

     (เอ่อ ช่วยขยายความประโยคหลังให้ฟังหน่อยสิคะหนู ครูไม่เข้าใจ)


     “เพลงชาติและธงชาติฝรั่งเศสเป็นสัญลักษณ์ที่ประชาชนเป็นเจ้าของ ไม่ควรนำมาเป็นหัวข้อถกเถียงกันเหมือนกับเป็นเศษฟองน้ำ” มารี-จอร์จ บุฟเฟต์ส่ายหน้า เธอเป็นหัวหน้าสีแดง ตัวแทนจากพรรคคอมมิวนิสต์ฝรั่งเศส (PCF)

     “ครูฮะ ครูฮะ พวกเขาขโมยไอเดียของผมไป เห็นมั้ยล่ะว่าผมคิดถูกมาตั้งนานแล้ว ผมพูดเรื่องชาติฝรั่งเศสมาตลอด เลือกตั้งครั้งนี้ ผมได้เสียงเพิ่มขึ้นอีกเพียบแน่” เด็กชายฌอง-มารี เลอ เปน จากพรรคชาตินิยมขวาจัด (FN) หัวหน้าสีน้ำเงิน เบียดร่างใหญ่อวบอ้วนฝ่าฝูงชน ยิ้มร่าออกมาด้านหน้า

      ทุกคนหันหน้าทุ่มเถียงกันฟังไม่ได้ศัพท์ ฉันถอยหลังกรูดออกมาตั้งหลัก แล้วก็ต้องสะดุ้งโหยง เมื่อเจอเด็กหกคนยืนตั้งแถวหน้ากระดาน ร้องตะโกนเป็นเสียงเดียวกันว่า คุณครูยังไม่ได้แนะนำตัวผม/หนูเลย ไม่ยอม ไม่เสมอภาค ไม่เท่าเทียมกัน ประท้วง อย่างนี้ต้องประท้วง!!

     (โอ้ ฝรั่งเศส ประเทศแห่งการประท้วง ประท้วงกันตั้งแต่อนุบาลเชียวหรือ)

     ก่อนเรื่องราวจะบานปลายใหญ่โต ฉันเรียกตัวเด็กหญิงเสื้อสีเขียวออกมาแนะนำตัวเป็นคนแรก

     “สวัสดีค่ะ หนูชื่อโดมินิก โวยเนต์ (Dominique Voynet) จากพรรคแวร์ต์ส์ (Verts) ค่ะ”

     จากชื่อพรรคที่แปลกันตรงๆ ว่า “เขียว” คงจะบอกถึงหลักการของพรรคการเมืองเล็กๆ พรรคนี้ได้อย่างชัดเจนชนิดไม่ต้องอธิบายอะไรกันมาก

     โดมินิก โวยเนต์ สถานภาพโสดลูกสอง เกิดเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน ค.ศ. 1958 ที่เมืองมงต์เบลิอาร์ด์ จังหวัดดูบ์ส์ ทางตะวันออกของฝรั่งเศส จบการศึกษาด้านวิสัญญีแพทย์ ปัจจุบันเป็นสมาชิกวุฒิสภา และเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งพรรคแวร์ต์ส์ในปี ค.ศ. 1984 โดยก่อนหน้านั้น เธอเข้าสู่วงการอนุรักษ์ธรรมชาติจากการต่อต้านโรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ในช่วงปี 70


     โวยเนต์ เคยลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี ค.ศ. 1995 และในปี ค.ศ. 1997 ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เข้าร่วมรัฐบาลผสมฝ่ายซ้าย ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงสิ่งแวดล้อมคนแรกของฝรั่งเศส

     การเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งนี้ สโลแกนที่เธอใช้ คือ “โลกเปลี่ยน มาร่วมกับพรรคเขียวเปลี่ยนโลก”

     ผู้เข้าแข่งขันคนต่อไปใส่เสื้อสีแดงเลือดหมูที่เปรอะเปื้อนเหงื่อไคลจากการทำงานเป็นหย่อมๆ เธอคนนี้มาจากพรรคพลังแรงงาน (Lutte ouvrière - LO) เจ้าของสโลแกน “ยังอยู่กับคนทำงานเสมอ” เธอชื่อ อาร์แลตต์ ลากิเยร์ (Arlette Laguiller)

     เห็นชื่อพรรคและสโลแกนการเลือกตั้งแล้ว คงไม่ต้องบรรยายมากความว่าเธอต่อสู้ต้านใครและเพื่อใคร

     อาร์แลตต์ ลากิเยร์ เกิดเมื่อวันที่ 18 มีนาคม ค.ศ. 1940 ที่กรุงปารีส ในครอบครัวกรรมกร จบการศึกษาเทียบเท่ามัธยมปลาย เริ่มทำงานเป็นพนักงานพิมพ์ดีดในธนาคารเครดิต์ ลิยงเนส์ ตั้งแต่อายุ 16 ปี และเริ่มเข้าเป็นตัวตั้งตัวตีมีบทบาทสำคัญในสหภาพแรงงานตั้งแต่อายุ 20 ปี เธอทำงานอยู่ที่เดิมไม่เคยเปลี่ยนเป็นเวลา 40 ปี ก่อนจะเกษียณอายุเมื่อปี ค.ศ. 2000

     อาร์แลตต์เป็นผู้สมัครหญิงคนแรกของการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสในปี ค.ศ. 1974 และสมัครรับเลือกตั้งเรื่อยมาอีก 4 สมัย การเลือกตั้งในปี ค.ศ. 2007 นี้ จึงเป็นการลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งที่ 6 และมีข่าวแว่วๆ ว่าจะเป็นครั้งสุดท้ายของเธอ


     ผู้สมัครคนต่อไปเป็นผู้สมัครที่อายุน้อยที่สุดในบรรดาผู้เข้าแข่งขันทั้งหลาย เขาใส่เสื้อสีแดงแจ๋จัดจ้าน เป็นสีแดงเข้มข้นที่สุดในบรรดาสีแดงทั้งหลาย เขาชื่อ โอลิวิเยร์ เบอซองเซอโนต์ (Olivier Besancenot) จากพรรคสันนิบาตคอมมิวนิสต์ปฏิวัติ (Ligue Communiste révolutionnaire - LCR)

     ถึงพรรคคอมมิวนิสต์ฝรั่งเศสจะส่งนางมารี-จอร์จ บุฟเฟต์ เป็นตัวแทนพรรคลงสมัครรับเลือกตั้งในครั้งนี้แล้ว แต่นายโอลิวิเยร์ เบอซองเซอโนต์ ก็ไม่แยแส เขาเรียกพลพรรคนักปฏิวัติฝ่ายซ้ายให้มาสนับสนุนการลงสมัครของตนอย่างไม่ยอมสยบง่ายๆ เรียกได้ว่าเป็นนักปฏิวัติในหมู่นักปฏิวัติ

     โอลิวิเยร์ เบอซองเซอโนต์ เกิดเมื่อวันที่ 18 เมษายน ค.ศ. 1974 เคยลงสมัครเข้ารับการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งที่แล้ว เมื่อปี ค.ศ. 2002 ขณะมีอายุเพียง 28 ปี เขาเข้าร่วมขบวนการเคลื่อนไหวทางการเมืองครั้งแรกเมื่ออายุ 14 ปี ในกลุ่มต่อต้านการเหยียดสีผิว (SOS Racisme) ต่อด้วยสันนิบาตเยาวชนคอมมิวนิสต์ปฏิวัติ

     ด้วยสโลแกน “ชีวิตของเรามีค่ากว่าผลกำไรของพวกเขา” โอลิวิเยร์ต่อต้านลัทธิทุนนิยมสมัยใหม่และผลกำไรที่เข้ากระเป๋านักการเมืองผู้ทรงอิทธิพลกับพ่อค้านักธุรกิจ ไม่เคยตกถึงประชาชนตาดำๆ เขาให้คำจำกัดความตัวเองว่าเป็น “คอมมิวนิสต์ต้านกระแสโลกาภิวัตน์ และใช้รอยยิ้มกับท่าทางสบายๆ เป็นอาวุธฟาดฟันฝ่ายขวาสุดโต่ง

     ปัจจุบัน เขามีอาชีพบุรุษไปรษณีย์ประจำเมืองเนยยี ซึ่งตั้งอยู่ในเขตชานเมืองปารีสทิศตะวันตก อันเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในย่านที่อยู่อาศัยของคนมีเงินในฝรั่งเศส

     ยังเหลืออีกสามคน แต่พื้นที่ไม่พอ (อีก) แล้ว

     ขอยกยอดไปครั้งหน้านะคะ






Create Date : 20 เมษายน 2550
Last Update : 20 เมษายน 2550 18:39:08 น. 0 comments
Counter : 1040 Pageviews.

Mutation
Location :
somewhere in Hong Kong SAR

[Profile ทั้งหมด]

ให้ทิปเจ้าของ Blog [?]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




ฉั น คื อ ใ ค ร

     สาวพฤษภชาวแกลงแห่งเมืองระยอง ลอยละล่องเรื่อยไปจนปาเข้าสามสิบ กว่าจะได้พบอาชีพที่ต้องจริตจนคิดตั้งตัวเป็นนักแปลรับจ้างเร่ร่อนไร้สังกัด ปัจจุบันเปิดสำนักพิมพ์เล็กๆ ชื่อ "กำมะหยี่"

     จุดหมายในชีวิต หลังจากผันผ่านคืนวันมาหลายปีดีดัก ขอพักไม่หวังทำอะไรใหญ่โต ขอเพียงมีชีวิตสุขสงบ ได้ทำสิ่งที่ดีๆ ทำตามหน้าที่ของตนในทุกด้านอย่างดีที่สุด แค่นั้นพอ

      ฉันมีหวานใจ- สามี - สุดที่รักแสนดีชาวฝรั่งเศส แถมเรือพ่วงสองลำเล็กๆ ตอนนี้มาใช้ชีวิตกันอยู่ที่ฮ่องกง



Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Mutation's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.