Group Blog
 
All blogs
 
ทางสายกลางของความรัก





ผมเชื่อว่า ทุกท่านที่อ่านบล็อคนี้ รู้จักความรักดี
ผมเชื่อว่า ทุกท่านที่อ่านมาถึงตรงนี้ รู้จักคำว่า "ทางสายกลาง" ดีด้วยเช่นกัน

แต่ก็อย่างที่เขาว่ากันว่า..บางที การรู้จักกับเข้าใจ
มันอาจจะอยู่ห่างกันคนละฟากของแม่น้ำ

เหมือนเรารู้จักคนๆนึงมาหลายปีดีดัก ไม่ได้แปลว่าจะเข้าใจคนๆนั้นเสมอไป
การรู้จักใครคนนึง อาจวัดได้ด้วยเวลา
แต่ความเข้าใจนี่ วัดด้วยเวลาไม่ได้ครับ

ผมเคยนึกเสมอว่าผมรู้จักความรักดี
เพราะผ่านมันมาแล้วหลายรูปแบบ หลายครั้ง

แต่มองย้อนไปแล้ว ผมค้นพบว่า ผมแทบไม่เคยเข้าใจมันเลย
เพราะที่จริงแล้ว ความรักมันเป็นนามธรรมที่ไม่มีรูปแบบตายตัว
จับต้องไม่ได้ ไม่มีรูปพรรณสัณฐาน

การเข้าใจด้วยวิธีคิดเอา ว่ามันเป็นอย่างนั้นอย่างนี้
ก็เหมือนเราเอาอากาศไปอัดใส่ลูกโป่ง แล้วก็บอกว่า ..
..นี่ไง อากาศมันมีรูปร่างอย่างนี้ไง สีนี้ไง

ตลกดีนะครับ .. มีอะไรตั้งหลายอย่างที่พอเรียนรู้มากขึ้นๆ
เรากลับพบว่า การเรียนรู้ที่ยิ่งใหญ่มากในชีวิตของเรา
ก็คือการที่เรารู้ว่า ที่ผ่านมาเราแทบไม่รู้อะไรเลยนั่นแหละ

สมัยเรียนวิปัสสนากับอาจารย์ผมใหม่ๆ
ท่านสอนบ่อยๆ ในเรื่องทางสายกลาง
ท่านบอกว่า อย่ามัวเสียเวลาไปค้นหาว่า ตรงไหนคือ "กลาง"

แต่ให้รู้ทันตรงที่มันไม่กลางไว้บ่อยๆนั่นแหละ
แล้วจิตมันจะเกิดปัญญาเดินไปบนทางสายกลางเอง

ผมแอบเอามันมาประยุกต์กับความรักได้อย่างนี้ครับ

ถ้าทางสายกลางในการปฏิบัติ คือความพอดี ไม่สุดโต่ง
คือหนทางของปัญญา และสันติสุข

ทางสายกลางของความรัก ก็น่าจะเป็นความรักที่พอดี ไม่สุดโต่ง
คือหนทางการใช้ชีวิตร่วมกันด้วยสติ อย่างเป็นสุข และร่มเย็น

แค่นี้ก็ฟังดูเก๋ก๋าฮาเฮอาเดบายอร์แล้ว
อย่าไปหวังถึงขนาดว่ามันจะไม่มีทุกข์เลยนะ
ยังไงๆ ที่ใดมีรัก ที่นั่นก็ยังมีทุกข์อยู่วันยังค่ำ

เพียงแต่มันมีทุกข์น้อยลง
และบางเบากว่าความรักที่สุดขอบ ซ้ายบ้าง ขวาบ้าง เยอะแหละ

ถ้าทางสายกลางในการเจริญวิปัสสนา
ไม่ใช่สิ่งที่พึงค้นหาด้วยการคิดเอาฉันใด
ทางสายกลางของความรัก
ก็เป็นสิ่งที่ไม่พึงเกิดได้ด้วยวิธีคิดเอาฉันนั้น

ในเมื่อคิดเอาไม่ได้ ก็คอยสังเกต
ตามรู้ตามดูการทำงานของจิตตัวเองเวลามีความรัก
ดูตั้งแต่มันเริ่มพอใจ เริ่มชอบ เริ่มคิดถึง เริ่มรัก และจบลงในแต่ละขณะ

สิ่งที่เรียนรู้จากตรงนี้ ทำให้ผมค้นพบว่า
หนทางสายกลางของความรัก ไม่มีอะไรพิสดารมากไปกว่า
ความรักและความปรารถนาดีเท่านั้นแหละ

ถ้าคุณกำลังรู้สึกว่า คุณรักใครสักคนด้วยความอยากเป็นเจ้าของเขา
ถึงจะแสดงความปรารถนาดี แต่ก็โกรธเคืองเมื่อเขาไม่ยอมรับ
เคียดแค้น เมื่อเขาไปรักคนอื่น ฟูมฟายเมื่อเขาไม่รักตอบ

อันนั้นแปลว่า คุณกำลังสุดโต่งไปข้างหนึ่งอยู่ ไม่ใช่ทางสายกลาง

หรือถ้าคุณรักใครสักคนที่ไม่ควรรัก ด้วยความไม่หวังอะไร
แต่ก็ให้ร้ายเบียดเบียนตัวเอง ทำให้ชีวิตตัวเองตกต่ำลง
เป็นทุกข์หนักบักโกรก โศกซ้ำจำทน

อันนั้นแปลว่า คุณกำลังสุดโต่งไปอีกข้างนึงอยู่ ไม่ใช่ทางสายกลางอีก

ถ้าคุณเดินบนทางสายกลางของความรัก คุณจะรู้ว่า..
ความรักที่พอดี คือความสมดุลย์ระหว่างการรักตัวเอง กับผู้อื่น

ทางสายกลางของความรัก
อยู่บนพื้นฐานของการปรารถนาดีต่อตนเอง และผู้อื่น

ถ้าคุณเดินบนทางสายกลางของความรัก คุณจะรู้ว่า..
ควรรักคนที่ควรรัก ไม่เสียใจกับคนที่ไม่ควรเสียใจ

จริงอยู่ ความเสียใจห้ามไม่ได้
แต่ถ้ายอมรับว่า เสียใจเป็นเรื่องธรรมชาติ
ไม่ซ้ำเติมตัวเอง ยอมรับมันอย่างเข้าใจ
ไม่ดิ้นรนจะหายเสียใจ เพียงแต่รับรู้ และยอมรับไป
มันจะเบาลงๆ และจางหายไปในที่สุด

ถ้าคุณเดินบนทางสายกลางของความรัก คุณจะรู้ว่า..
ถ้าปรารถนาดีกับคนอื่นแล้วเขาไม่พร้อมจะรับ เขาไม่ยินดีจะรับ
ก็อย่าไปพยายามยัดเยียดให้เขาให้ลำบากใจ
เก็บความปรารถนาดีนั้นไว้ในใจดีกว่า

ความปรารถนาดีมันจะมีค่า ก็เมื่อคนที่เราให้ เขาอยากได้รับนะครับ

ถ้าคุณเดินบนทางสายกลางของความรัก คุณจะรู้ว่า..
สิ่งที่ดีที่สุดของความรัก คือการได้เห็นคนที่เรารักมีความสุข มีชีวิตที่ดี
เพราะความสุขของเรา ก็คือการได้เห็นเขามีความสุข

เขาจะเดินจูงมือใคร จะเลือกไปกับใคร จะรักใคร
มันคือชีวิตเขา เขามีสิทธิเลือกได้

ก็เหมือนกับที่เราเลือกได้ว่า
เราจะมีชีวิตต่อไปอย่างไรให้ทุกข์น้อยที่สุดเท่าที่จำเป็น
หรืออาจจะไม่ทุกข์เลย ถ้าสติปัญญามันถูกเตรียมพร้อมไว้ดีพอ

ถ้าวันนึง ความสุขของเขา
มันจะหมายถึงการเลือกทางเดินชีวิตใหม่ ที่ไม่มีเรา..

มันจะเป็นบทพิสูจน์ที่สำคัญเลยนะ..ว่า
ตกลงที่เราพูดปาวๆว่า เรารักเขาๆ น่ะ
แท้ที่จริง.. เรารักตัวเองมากกว่า หรือรักเขามากกว่า

จำเพลงๆนึงได้ไหมครับ ที่เขาร้องว่า
"ไม่รักฉัน มันก็เรื่องของเธอ จะรักเธอมันก็เรื่องของฉัน"

เข้าใจได้แค่นี้ก็สุขหลายแล้วนะคุณนะ







Create Date : 19 พฤศจิกายน 2550
Last Update : 15 เมษายน 2551 17:57:14 น. 56 comments
Counter : 7414 Pageviews.

 
ความปรารถนาดีมันจะมีค่า ก็เมื่อคนที่เราให้ เขาอยากได้รับนะครับ .. ค่ะ

สิ่งที่ดีที่สุดของความรัก คือการได้เห็นคนที่เรารักมีความสุข มีชีวิตที่ดี.. ค่ะ

แต่ยากจังค่ะ


โดย: still IP: 58.8.184.100 วันที่: 19 พฤศจิกายน 2550 เวลา:23:20:41 น.  

 


จริงด้วย
เข้าใจกันไม่ขึ้นกะเวลา
แค่เปิดใจ จริงใจ ก็เห็นทะลุถึงจิตใจ
เปิดกันเร็วแค่ไหน ก็เข้าใจกันเร็วเท่านั้นเอง




โดย: ดาวทะเล วันที่: 19 พฤศจิกายน 2550 เวลา:23:22:10 น.  

 
ชอบประโยคนี้จังเลยค่ะและเห็นด้วยอย่างยิ่ง

"เหมือนเรารู้จักคนๆนึงมาหลายปีดีดัก ไม่ได้แปลว่าจะเข้าใจคนๆนั้นเสมอไป"

ขอบคุณที่ไปเยี่ยมนะคะ


โดย: สาวน้อยกะปุ๊กลุ๊ก IP: 125.25.107.66 วันที่: 19 พฤศจิกายน 2550 เวลา:23:45:16 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณเอ็ด
เพราะความรักมักตามมาด้วยความคาดหวังละมังคะ เมื่อไม่เป็นไปตามนั้น ความทุกข์จึงตามมา ถึงแม้ว่าอาจจะได้เดินอยู่บนเส้นทางเดียวกันแล้วก็ตาม หากเป็นธรรมดาของมนุษย์ที่จะมีความคาดหวังขึ้นใหม่ขึ้นมาอยู่เสมอ

ความรัก...ความคาดหวัง...สุดท้ายก็ความทุกข์

แต่ในโลกนี้ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบอยู่แล้ว และยังมีส่วนประกอบอื่น ๆ... เหตุผลอีกมากมาย ถ้าคิดได้ว่า

"ไม่รักฉัน มันก็เรื่องของเธอ จะรักเธอมันก็เรื่องของฉัน"

ถึงไม่สุขแต่ก็คิดว่าจะทำให้ทุกข์น้อยลงนั่นแหล่ะค่ะ


โดย: Arin IP: 124.120.204.192 วันที่: 20 พฤศจิกายน 2550 เวลา:8:41:11 น.  

 
ได้ฟังเพลงนี้ตอนเช้าก่อนทำงานมันสดชื่นดีจริงๆ....อากาดูอากาเด๊

ทางสายกลางความรัก เข้าใจง่ายแต่เข้าถึงยากนะครับ บางครั้งการที่เราปรารถนาดีกับเค้า แต่สุดท้ายเค้าก็ไม่ได้คิดในสิ่งที่เราปรารถนาดี มันก็ทำให้เราเจ็บช้ำ อันนี้ก็สุดโต่งไปแบบไม่รู้ตัวเหมือนกัน

อ่านะ ไม่รักชั้นมันก็เรื่องของเธอไม่รักเธอมันก็เรื่องของชั้น.....ต้องต่อด้วยประโยคว่า มีอารายอ๊ะป่าว ด้วยใช่ป่ะ อิอิอิ

ปล.ขอบคุณมากๆครับสำหรับคำแนะนำเรื่องเพลง George Winston นี่ผมไม่เคยฟังแฮะ เคยได้ยินแต่ชื่อคุ้นๆ


โดย: Tony Koon IP: 58.10.36.187 วันที่: 20 พฤศจิกายน 2550 เวลา:9:07:06 น.  

 
เรื่องทางสายกลางนี่ก็รับรู้ทุกอย่าง
ในแต่ทางปฏิบัติ และการทำความเข้าใจนั้นยากนักค่ะ
เวลาเรารักใครสักคน มันเป็นการยากที่จะห้ามใจตัวเอง เรื่องของจิตใจ บังคับใครไม่ได้ก็จริง แต่บังคับจิตใจตัวเองยากยิ่งกว่าค่ะ

เวลารักใครสักคน เราเองก็มักจะคาดหวัง
ว่าต้องการไปในแนวทางที่เราต้องการให้เป็น
ทั้งที่ก็รับรู้ว่ายิ่งคาดหวังกับคน ๆ นั้นมากเท่าใด
ยิ่งตอกย้ำความเจ็บมากเท่านั้น เราเองที่เป็นคนรับความเจ็บช้ำนั้นเอง

เฮ่อ.... คงต้องปลง ๆ ลงบ้าง และถือเอาทางสายกลางเป็นแนวทางปฏิบัติ
ความเจ็บจะได้เบาบางลง


ปล. ขอบคุณมากค่ะ ที่แวะไปเยี่ยมบล็อก



โดย: มารูมิจัง วันที่: 20 พฤศจิกายน 2550 เวลา:10:29:26 น.  

 
ทางสายกลางของทุกๆอย่างในชีวิต...

ของพี่กางออกตลอด

ไม่บรรจบไปไหนมาไหนซักที

ยิ่งความรัก


โดย: พี่แหม๋ว (ฟ้าคงสั่งมา ) วันที่: 20 พฤศจิกายน 2550 เวลา:11:13:37 น.  

 

บางทีการอยู่ในทางสายกลางมาตลอด
ก็มีวันเป๋ตกถนนได้เหมือนกัน
ถ้าเผลอไปกับกิเลสและความคาดหวัง

เลิกเดินบนสะพานไม้ไผ่ข้ามหน้าผา
กลับมาเดินบนทางเดินเรียบๆตามเดิมแล้วค่ะ
แต่นานๆเดินทีก็สนุกดีเหมือนกัน


โดย: HoneyLemonSoda วันที่: 20 พฤศจิกายน 2550 เวลา:11:33:09 น.  

 
"ทางสายกลาง" ...มันบางเท่ากับเส้นลวดหรือเปล่าคะ?




โดย: Q.NUH วันที่: 20 พฤศจิกายน 2550 เวลา:19:08:05 น.  

 
ทางสายกลางของความรักหรือ
มินว่า มันขึ้นอยู่กับวัย ของเรา
ด้วยเหมือนกันนะคะ
ตอนวัยรุ่น ก็ให้รู้สึกว่าจะเป็นจะตายให้ได้
พอผ่านมาถึงวันนี้ ไอ้ที่เคยรู้สึกว่า
จะเป็นจะตาย ตอนนั้น
แต่วันนี้ กลับคิดว่า ทำไมฉันถึงเป็นไปได้
ถึงขนาดนั้น..หากย้อนเวลากลับไปที่จุดเดิม
ฉันจะไม่มีวันทำแบบนั้น เป็นอันขาด...
ของมินเดินสายกลางในทุก ๆ เรื่อง ค่ะ
ไม่ว่าเรื่องงาน เพื่อนฝูง หรืออะไรก็ตามแต่
พบว่าไม่สุดโต่งไปข้างใด ข้างนึงนี่ ดีที่สุดค่ะ


โดย: มิน (มินทิวา ) วันที่: 20 พฤศจิกายน 2550 เวลา:21:30:09 น.  

 
แวะมาเยี่ยมเยียน และแอบเก็บภาพสวย ๆ ของบล็อกนี้ไปด้วย ไม่ว่ากันเนอะ ก็อยากถ่ายภาพได้สวย ใส สะอาด สงบดีนี่นา


โดย: สาวิกา IP: 124.120.113.54 วันที่: 20 พฤศจิกายน 2550 เวลา:21:57:58 น.  

 
..
ความรักเป็นเพียงความรู้สึกที่ไม่มีคำอธิบาย
..
เป็นจุดเริ่มต้นของความปรารถนาดีต่อกัน
..
รู้แค่นั้นค่ะ
..


โดย: azamiya2404 IP: 203.113.39.13 วันที่: 20 พฤศจิกายน 2550 เวลา:23:22:21 น.  

 
อ้อ ..

"ผ่านมาได้ก็บุญแล้ว .. เหลือแต่ตัวเปล่าๆ"
..

..
ดันไปนึกถึงเพลงนี้ค่ะพี่


โดย: azamiya6861^^ IP: 203.113.39.13 วันที่: 20 พฤศจิกายน 2550 เวลา:23:29:56 น.  

 
อืม...คุณนี่ชอบเขียนเรื่องมากระแทกจิตใจคนอ่านดีจริงๆ

อ่านไปแรกๆ ก็ ok...

อ่านตอนหลังๆ เริ่มน้ำตาซึมอีกแล้ว

แต่ก็ขอบคุณ สำหรับข้อคิดที่ทำให้กระจ่างมากขึ้น

"ถ้าคุณเดินบนทางสายกลางของความรัก คุณจะรู้ว่า..
..ความรักที่พอดี คือความสมดุลย์ระหว่างการรักตัวเอง กับผู้อื่น
ทางสายกลางของความรัก อยู่บนพื้นฐานของการปรารถนาดีต่อตนเอง และผู้อื่น"

"สิ่งที่เรียนรู้จากตรงนี้ จะทำให้ผมค้นพบว่า หนทางสายกลางของความรัก
ไม่มีอะไรพิสดารมากไปกว่า ความรักและความปรารถนาดีเท่านั้นแหละ

ถ้าคุณกำลังรู้สึกว่า คุณรักใครสักคนด้วยความอยากเป็นเจ้าของเขา ถึงจะแสดงความปรารถนาดี
แต่ก็โกรธเคืองเมื่อเขาไม่ยอมรับ เคียดแค้น เมื่อเขาไปรักคนอื่น ฟูมฟายเมื่อเขาไม่รักตอบ
อันนั้นแปลว่า คุณกำลังสุดโต่งไปข้างหนึ่งอยู่ ไม่ใช่ทางสายกลาง"

เพราะส่วนใหญ่คนเราก็เป็นอย่างนี้ ยึดติด เหนี่ยวรั้ง มันจึงอยู่ในวังวนของความสุข ความทุกข์

...ขอให้มีความสุขกับวันกลางสัปดาห์ค่ะ

emo


โดย: myouzhny วันที่: 21 พฤศจิกายน 2550 เวลา:9:07:03 น.  

 
อ่า เหมือนวิธีนี้ของพี่เอ๊ด ผมจะจำไปใช้บ่อยๆครับ
คล้ายๆคนนี้เคยเป็นแฟนพ้ม และพ้มก็ไม่ใช่แฟนเค้าอีกแล้ว
แต่เนื้อเพลงตอนจบ ผมดันแผลงไปนึกถึงเพลงของอาต้อยอิมฯแฮะ ร้องไงหว่า
ประมาณ คุณมีแฟนช่างคุณ ผมไม่เกี่ยวกะคุณ อะไรเทือกนี้ครับ


โดย: getterTu วันที่: 21 พฤศจิกายน 2550 เวลา:9:24:14 น.  

 
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมครับ ทุกท่าน ^^

บล็อคนี้ กลายเป็นบล็อคที่เลือกเพลงยากจัง
ตอนแรกใช้เพลงสดใส แล้วมันดูไม่เข้ายังไงบอกไม่ถูก

เลยเปลี่ยนใหม่ เป็นเพลงนี้ ให้มันเกี่ยวกับเรื่องถนนหน่อย
จะเอา long and winding road ก็เคยใช้แล้ว

ผมชอบเพลงนี้ยังไงบอกไม่ถูกแฮะ


โดย: aston27 วันที่: 21 พฤศจิกายน 2550 เวลา:22:25:19 น.  

 
i like this song 2


โดย: still IP: 58.8.204.251 วันที่: 21 พฤศจิกายน 2550 เวลา:22:45:04 น.  

 
ขอบคุณสำหรับบทความดีๆนะคะ
อ่านแล้วโดนจังเลยค่ะ
emo


โดย: a r i t s u m e m o o n IP: 203.131.212.68 วันที่: 22 พฤศจิกายน 2550 เวลา:15:45:27 น.  

 
แค่นี้ก็ฟังดูเก๋ก๋าฮาเฮอาเดบายอร์แล้ว >>>อ่านประโยคนี้สามครั้งแล้วหันไปถามคนข้างๆ ว่าอาเดบายอร์ แปลว่าไร 55555


โดย: L IP: 125.24.26.35 วันที่: 22 พฤศจิกายน 2550 เวลา:22:21:02 น.  

 
อ่านแล้ว
กระจ่างใจ .. แจ่มฮับพี่



โดย: ใครกัน...นั่งอยู่ตรงนี้ วันที่: 23 พฤศจิกายน 2550 เวลา:8:57:48 น.  

 
ถ้า"ความรัก" คือที่คุณเขียนมาทั้งหมด
ฉันว่า ฉันกำลังมีความรักค่ะ




โดย: เช้านี้ยังมีเธอ วันที่: 23 พฤศจิกายน 2550 เวลา:12:36:19 น.  

 
ทางสายกลางกับความรัก รู้สึกว่าเข้ากันได้เป็นอย่างดีเลย ไม่รู้เหมือนกัน รู้สึกอย่างนั้นเหมือนกันว่าความรักไม่จำเป็นต้องสมหวังทุกครั้งไปอาจจะมีผิดหวังบ้างหรืออาจจะบ่อยด้วยซ้ำไป แต่มันก็อยู่ที่เราเองว่าเราจะเศร้าได้มากขนาดไหน ถ้าเราคิดว่าไม่เป็นไร เราก็สบายใจ ไม่ยึดมั่นถือมั่นกับสิ่งที่มันเกิดขึ้น รักก็คือรัก แค่นั้นเอง ชอบมาเลยที่บอกว่า ถ้าคุณเดินบนทางสายกลางของความรัก คุณจะรู้ว่า..
..ความรักที่พอดี คือความสมดุลย์ระหว่างการรักตัวเอง กับผู้อื่น
ทางสายกลางของความรัก อยู่บนพื้นฐานของการปรารถนาดีต่อตนเอง และผู้อื่น เศร้าไปหรือเปล่าเนี่ย



โดย: jah IP: 203.149.16.42 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2550 เวลา:14:08:01 น.  

 
ย่องมาฟังเพลงจ้า...


โดย: มิน (มินทิวา ) วันที่: 23 พฤศจิกายน 2550 เวลา:16:31:23 น.  

 
พูดง่าย แต่ ทำยาก รักแบบไม่อยากเป็นเจ้าของ ไม่ต้องการครอบครอง แค่ได้เห็นคนที่เรารักมีความสุขก็เพียงพอ ถ้าทำได้จริงๆก็ดีน่ะสิ

แต่ ของเรา นะ รักแบบทางสายกลาง รักษาระยะห่างที่พอดี ไม่ใกล้จนอึดอัด ไม่ห่างจนโหวงเหวง ต่างคนต่างมีชีวิตของตัวเอง แต่มีความสุขเวลาที่ได้เจอกัน รู้สึกดีที่มีอีกคนเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต อิอิ เลี่ยน มะ


โดย: Xiao Maomi วันที่: 24 พฤศจิกายน 2550 เวลา:11:45:33 น.  

 
ชอบบล็อคกับเพลงวันนี้มากเลยค่ะ
(ถึงกับต้องมาเม้นท์อีกรอบ 555+)

ตอนนี้กำลังสุดโต่งกับความรัก (หรือความหลง ?) ข้างหนึ่งอยู่ค่ะ แต่กำลังพยายามทำให้มันสมดุลย์อยู่


โดย: a r i t s u m e m o o n IP: 124.120.206.80 วันที่: 25 พฤศจิกายน 2550 เวลา:18:31:21 น.  

 
เจ้าของบล็อคก็ชอบเหมือนกัน อริท

ขอบคุณท่านอื่นๆ ที่แวะมานะครับ

ว่าแต่ คุณ L ทราบหรือยังว่า อาเดบายอร์ คืออะไร

มันเป็นชื่อนักฟุตบอลของ อาร์เซนอลน่ะครับ
ผมชอบชื่อเขา มันเก๋ดี


โดย: aston27 วันที่: 26 พฤศจิกายน 2550 เวลา:8:43:12 น.  

 
ก่อนอ่าน จิตตก ก็รู้ว่าจิตตก
หลังอ่าน จิตขึ้น ก็รู้ว่าจิตขึ้น

ขอบคุณนะคะ สำหรับบทความดีๆ ตามอ่านอยู่เสมอค่ะ


โดย: behind the scene IP: 203.147.51.62 วันที่: 26 พฤศจิกายน 2550 เวลา:11:27:21 น.  

 
แวะมายิ้มค่ะ


โดย: รัตน์นะ IP: 61.91.211.186 วันที่: 27 พฤศจิกายน 2550 เวลา:14:25:58 น.  

 
ความรักมีสุขหรือทุกข์มากกว่ากัน แต่การที่เราไม่ยอมปรับตัวปรับใจให้อยู่บนเส้นทางที่พอดีหรือทางสายกลางทำให้เราทุกข์มากกว่าปล่อยวาง เหนื่อยนักก้อหยุดพัก หนักนักก้อต้องรู้จักที่จะวางมันลง ชีวิตก้อเป็นเช่นนี้ ทุกข์สุขอยู่ที่ใจของเราเองนี้แหละ ถ้าเราสามารถที่จะกำหนดชีวิต ยืนอยู่ด้วยตัวเราเองได้เราก้อเจ็บน้อยลง


โดย: อนันตา IP: 125.26.50.59 วันที่: 14 มกราคม 2551 เวลา:7:25:03 น.  

 
สวัสดีค่ะ ขอขอบคุณสำหรับความรู้สึกดีดีที่มีให้กัน ขอขอบคุณความทุกข์ที่ทำให้เรามีโอกาศมีเวลาหยุดมองจิตของตนเอง ดิ้นรนทุ่มเททำงานเพื่อครอบครัวคิดว่านี้คือสิ่งที่มั่นคงและเป็นอนาคตของตนเองไม่เคยคิดที่จะเตรียมตัวเตรียมใจไว้รองรับความผิดหวังจนวันหนึ่งสิ่งที่คิดว่ามั่นคงและดีที่สุดก็จากไป ลืมรักตัวเอง ลืมมองคนที่รักเราจริง ฟูมฟายทุรนทุรายกับคนที่ไม่เห็นคุณค่าของเรา ในวันนี้กำลังลุกขึ้นยืนอีกพยายามประคองใจและเดินไปในทางสายกลางได้รับหนังสือเล่มหนึ่งจากเพื่อนคนหนึ่งอยากแนะนำให้เพื่อนๆได้อ่านชื่อเข็มทิศชีวิตอ่านแล้วมีข้อคิดมากมาย ขอขอบคุณค่ะ


โดย: นกน้อย IP: 125.26.50.59 วันที่: 14 มกราคม 2551 เวลา:19:39:46 น.  

 
ทุกข์เพราะรัก รักจึงทุกข์
ได้อ่านบทความนี้ รู้สึกได้ว่า
รักแบบทุกข์น้อยๆก็ได้
ถ้ารักแบบกลางๆ ไม่มากเกินไป
ก็จะทุกข์แบบกลางๆ
ไม่มากจนไม่อยากจะทนแบบที่ผ่านมา

ขอบคุณสำหรับข้อคิดดีๆที่กระตุกสามัญสำนึกที่ลืมเลือนนะคะ


โดย: nana IP: 222.123.28.127 วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:5:44:38 น.  

 
อ่านแล้วรู้สึกดีขึ้นค่ะ

ตอนนี้ชีวิตกำลังประสบปัญหาอย่างที่คุณว่า รักเค้า เราทุกข์ แต่ก้อยังจะรัก ลืมรักตัวเอง ลืมสงสารตัวเอง คิดแต่เพียงว่า ทำไม-ทำไม?? มันต้องเป็นอย่างนี้ จิตใจคนเรายากแท้หยั่งถึง อยากจะปลงๆ ให้มากกว่านี้ แล้วก้ออยากจะฝากถึงคนที่มีความรักทุกท่าน หากท่านพบคนที่ท่านรักแล้ว จงพยายามรักษามันไว้อย่างดีที่สุด คนเราไม่ใช่จะพบกันง่ายๆ คนบางคนโชคร้ายที่มีความสุขเพียงชั่วครู่ แต่กลับมีความทุกข์ไปอีกเนิ่นนาน ซึ่งมันก้อขึ้นอยู่กับตัวเองนั่นแหละ ว่าจะปล่อยวางได้เมื่อไหร่..

เคยฟังเพลง "ก้อนหินก้อนหนึ่ง" ของโรส สิรินทิพย์ ไหมค่ะ ฟังแล้วก้อรู้สึกว่าให้กำลังใจได้ดีเหมือนกันนะ อย่างน้อยก้อทำให้เรารู้ว่า จะสุข หรือทุกข์ มันอยู่ที่ตัวเราเอง ว่าจะยึดมันไว้ หรือจะปล่อยวางมันไป..

ขอบคุณคนเขียนบทความจริงๆ ค่ะ


โดย: พิม IP: 210.213.25.106 วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:9:56:39 น.  

 
ถ้าคุณเดินบนทางสายกลางของความรัก คุณจะรู้ว่า..
สิ่งที่ดีที่สุดของความรัก คือการได้เห็นคนที่เรารักมีความสุข มีชีวิตที่ดี
เพราะความสุขของเรา ก็คือการได้เห็นเขามีความสุข

เป็นหลักเมตตาแท้ๆเลยนะคะ

ขออนุโมทนากับข้อคิดดีๆคะ อ่านแล้วจิ๊ดเลย


โดย: ใจดี (jaidee.jaidee ) วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:11:25:48 น.  

 
รักเนี่ยเป็นอะไรที่ใกล้ตัวมากเลยจนบางอะผมเองมองไม่เห็นเพราะมันใกล้เกินไปพออ่านแล้วทำให้ต้องถอยออกไปแล้วมองกลับเข้ามาอีกทีจึงเห็นตาม ระยะห่างที่พอดีๆจะทำให้ชีวีเป็นสุข อิ๊บๆๆ เฮ้อ..ทามไมผมมาอ่านเจอบทความของคุณช้าไป 2 ปีน้าเศร้าจัง...


โดย: lin IP: 203.113.17.129 วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:9:45:04 น.  

 
"ถ้าวันนึงความสุขของเขา มันจะหมายถึงการเลือกทางเดินชีวิตใหม่ ที่ไม่มีเรา..
มันจะเป็นบทพิสูจน์ที่สำคัญเลยนะ ว่าตกลงที่เราพูดปาวๆว่า เรารักเขาๆ น่ะ
ตกลง.. เรารักตัวเองมากกว่า หรือรักเขามากกว่า"
ตอนที่เค้าทิ้งไปแล้วเราตื้อ เค้าก้อพูกประมาณนี้
เจ็บจังค่ะ ทางสายกลางทำยากมาก ยากพอพอกะทำใจว่าเค้าเลือกที่จะจากไปและทำใจไม่ได้ที่เราต้องทุกข์และเค้าสุข ทั้งทั้งที่เราผิดที่เดินเข้าไปรักคนที่มีเจ้าของแล้ว


โดย: ying IP: 203.121.140.250 วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:16:36:42 น.  

 
คุณ Ying

ทางสายกลาง "ทำ" เอาไม่ได้ครับ
แต่เข้าถึงได้ ด้วยการ "รู้ทัน" ความไม่เป็นกลางทั้งหลาย

เช่น เจ็บรู้ว่าเจ็บ
อยากให้เขาเป็นของเรา รู้ว่าอยาก
โกรธขึ้นมา รู้ว่าโกรธ
เสียใจ รู้ว่า เสียใจ

อยากหายเสียใจ รู้ว่า อยาก

รู้ลงปัจจุบันไปเรื่อยๆ
มันจะค่อยตัดทอนความยึดมั่นถือมั่น ไปทีละนิดๆ

อย่าใจร้อน รู้ลงปัจจุบันไว้อย่างเดียวครับ

ลองไปอ่านเรื่อง "ธนาคารความสุข" ดูนะครับ


โดย: aston27 วันที่: 25 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:16:52:16 น.  

 
ตรงใจมากเลยค่ะพี่


โดย: b2519 IP: 202.28.27.4 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:15:20:32 น.  

 
-ขอบคุณมากๆค่ะ จะนำไปปฏิบัตินะคะ-


โดย: Poison IP: 70.22.209.31 วันที่: 14 เมษายน 2551 เวลา:11:51:38 น.  

 
ขอบสำหรับข้อความดีดีค่ะ จะนำไปใช้กับชีวิตดูนะคะ จะรักอย่างมีสติ รักตัวเองให้มากขึ้น


โดย: ความหวัง IP: 117.47.174.142 วันที่: 4 พฤษภาคม 2551 เวลา:20:59:36 น.  

 
พี่คะ เพลงเพราะจังเลยค่ะ ต้องกลับมาอีกรอบ เพลงนี้ชื่ออะไรคะ ได้อ่านข้อความนี้แล้ว เหมือนได้ detox ที่ใจเลย ฟังเพลงแบบนี้ไปด้วย รู้สึกว่า อิ่มสุขยังไงก็ไม่รู้ ...แม้จะพบว่า เส้นทางใหม่ของเค้าเป็นทางเดินที่มีความสุขที่ไม่มีเรา แต่อย่างน้อยการได้มาอ่านข้อความนี้ ทำให้รู้ว่า ทุกข์น้อยๆ ก็ดีเหมือนกันนะ


โดย: ความหวัง IP: 117.47.174.142 วันที่: 4 พฤษภาคม 2551 เวลา:21:10:05 น.  

 
ตั้งแต่ เมษา 50 ถึงวันนี้พค 51 นับว่าเป็นเวลาที่ไม่นานนักที่ค่อยค่อยวางไปทีละสิ่งทีละอย่างจากที่เคยแบกจนบ่าลู่หนักอึ้งจนก้าวเดินแทบไม่ไหว ในวันนี้เบาสบายทั้งกายและใจไม่เจ็บปวดทุรนทุราย ไม่ต้องพึ่งยานอนหลับขอบคุณความทุกข์ที่ทำให้เรามีโอกาศเจอสิ่งที่ดี เมื่อใดที่จิตสว่างใจก้อสงบ ถ้าสามารถรู้ทันจิตก้อเท่ากับรู้จักใจตัวเอง การที่เรารู้ทันทำให้เราทำผิดน้อยลง ทุกข์น้อยลงและสามารถที่จะดำเนินชีวิตอย่างมีสติ


โดย: อนันตา IP: 125.26.55.51 วันที่: 19 พฤษภาคม 2551 เวลา:21:06:35 น.  

 
ขอตอบแทนคุณaston นะคะ เพลงชื่อ Love on a two way street เวอร์ชั่นนี้คาดว่าเป็นของ Sarah Connor ค่ะ

ณ วันนั้น ที่ยังอยู่ในห้วงแห่งรักที่เต็มไปด้วยทุกข์ เคยอ่านบล๊อกนี้ไปแล้ว เห็นด้วยนะคะ

ณ วันนี้ ที่หลุดออกมาจากห้วงทุกข์นั้น ยิ่งกว่าเห็นด้วยค่ะ รู้เลยว่า เรานั้นสุดโต่งไปทั้งสองข้างมาก่อน กลับมาอ่านอีกครั้ง มีทั้งยิ้มที่มุมปาก ยิ้มที่ฉีกกว้าง และน้ำตาซึมค่ะ


โดย: daisyntulip IP: 75.47.186.181 วันที่: 1 มิถุนายน 2551 เวลา:12:42:51 น.  

 
ขอบคุณค่ะ คุณ daisyntulip ที่บอกชื่อเพลงนี้ให้


โดย: ความหวัง IP: 117.47.169.8 วันที่: 3 มิถุนายน 2551 เวลา:21:14:30 น.  

 
แบบนี้เรียกว่า
สมดุลของความรักเหรอเปล่า? คุณaston

ความรัก..ก้อเป็นรูปแบบนึงของความทุกข์
เหมือนกันเน๊อะ..


โดย: myover วันที่: 11 มิถุนายน 2551 เวลา:19:34:03 น.  

 
ชอบบทความนี้มากๆค่ะ ดีใจที่ได้มีโอกาสเข้ามาอ่าน(โดยบังเอิญ) เพราะเพิ่งได้ไปปฏิบ้ติธรรมมา และเรื่องนี้ติดเข้าไปฟุ้งในช่วงนั้นตลอดเวลา ใจคนอื่นเราห้ามเค้าไม่ได้ เพราะฉะนั้นก็ต้องหันกลับมามองใจตัวเอง ทางสายกลาง สามารถนำไปใช้ได้หลายสถานะการณ์ในชีวิตจริงนะคะ อนุโมธนาสาธุด้วยค่ะ


โดย: unpung IP: 124.157.213.169 วันที่: 16 สิงหาคม 2551 เวลา:17:14:36 น.  

 
แค่รัก ก็ไม่กลางแล้ว
พอรักแล้ว ความกลัวก็จะตามมา
เพราะรักมันเป็นทุกข์
ต้องไม่รักและก็ไม่เกลียดไง
กลางๆ เป็นเพื่อนร่วมโลกกัน
ไม่คิดเข้าข้างตัวเอง
แบบว่ากลางๆแบบรักแล้วไม่รับผิดชอบก็ไม่ใช่อีก
หรือกลางๆ เป็นเกย์ เป็นเบี้ยน ไปนู่น
ประเทดไทย.... เซ็ง

คือมันจะไม่ติดไปด้านกาม ไม่ติดไปด้านอัตตา เข้าใจเธออย่างที่เธอเป็น แต่ส่วนใหญ่ความรักที่คนเข้าใจมันจะเป็น การแสดงความเป็นเจ้าของ การเข้าไปครอบงำความคิด การรุกล้ำความเป็นมนุษย์ของกันและกันซะมากกว่านะ

ยังไงก็แล้วแต่ใครจะเลือกเส้นทาง แต่อย่างเรา เลือกทางสายกลาง....ชัวร์











โดย: Middle Path walker IP: 118.175.133.144 วันที่: 18 สิงหาคม 2551 เวลา:18:51:35 น.  

 
อธิบายได้เข้าใจง่ายมากเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ
ขอเอาไปพูดถึงในบลอกหน่อยนะคะ //lokkongchan.blogspot.com


โดย: Kae IP: 208.252.207.88 วันที่: 3 ตุลาคม 2551 เวลา:23:06:02 น.  

 
ชอบบล๊อกนี้ที่สุดเลยค่ะ เข้ามาอ่านบ่อยๆ เวลาที่รู้สึกว่าตัวเองจะสุดโต่ง...มันโดนมากๆ ดดยเฉพาะประโยคนี้ค่ะ

"ถ้าคุณเดินบนทางสายกลางของความรัก คุณจะรู้ว่า..ถ้าปรารถนาดีกับคนอื่นแล้วเขาไม่พร้อมจะรับ เขาไม่ยินดีจะรับ ก็อย่าไปพยายามยัดเยียดให้เขาให้ลำบากใจ เก็บความปรารถนาดีนั้นไว้ในใจดีกว่า...."

ครั้งหนึ่งเคยคิดว่า "รักแท้" คือความปรารถนาที่จะอยู่ครองคู่กับใครสักคนจนแก่เฒ่า พอเราเจอใครสักคนที่คิดว่า "ใช่" สำหรับเรา เราจึงพยายามยัดเยียดความรัก ความปรารถนาดีทั้งหมดให้เค้า...สุดท้ายพอไม่ได้ดั่งใจปรารถนาของเราก็เก็บมาทุกข์ เบียดเบียนตัวเอง...

พอกันทีค่ะ กับความหลงผิดเรื่อง "รักแท้"แบบเดิมๆ มาเดินทางบนถนนสายกลางของความรักดีกว่าค่ะ

ขอบคุณคุณแอสตันมากๆเลยค่ะ...โดนมากๆ


โดย: กะทะทองคำ IP: 88.123.132.121 วันที่: 5 พฤศจิกายน 2551 เวลา:3:13:12 น.  

 
ขออนุญาตนำไปให้เพื่อนๆอ่านครับ
ที่ //creative.pinionteam.net/piniongreen/2008/12/13/the-middle-way-of-love/

ขอบคุณครับ


โดย: พีเนียนตัวเขียว IP: 125.24.76.87 วันที่: 13 ธันวาคม 2551 เวลา:21:55:34 น.  

 
ดีใจมากๆๆเลยที่ได้อ่านบทความนี้แล้วก็ความเห็นต่างๆๆที่ทุกคนโพสกัน ตอนแรกเรานึกว่าเราเป็นบ้าอยู่คนเดียว เกือบไปหาจิตแพทย์แล้ว ตอนนี้รู้ว่าไม่ใช่เราคนเดียวที่ต่อสู้กับความรัก ทางสายกลางของความรัก จะพยายามดูนะ ขอบคุณมากๆเลย


โดย: หยาดฝน IP: 66.27.203.126 วันที่: 26 มิถุนายน 2552 เวลา:13:21:25 น.  

 
ขอบคุณสำหรับบทความดีดีนะค่ะ


โดย: kitty IP: 58.8.69.115 วันที่: 8 พฤศจิกายน 2552 เวลา:9:47:02 น.  

 
วันนี้ย้อนมาอ่านบล็อกเก่าๆ ของพี่เอ๊ด
เหมือนมีคนมาสะกิดตอนกำลังมึนๆ ง่วงๆ
ดึงสติสตังค์กลับมา
ขอบคุณนะคะ
^^


โดย: I am just fine^^ วันที่: 6 มกราคม 2553 เวลา:13:23:59 น.  

 
ขอนำไปเผยแพร่เป็นวิทยาทานหน่อยได้ป่าวคับ เผื่อจะเป็นประโยชน์กับใครอีกหลายๆคน


โดย: fatboykik IP: 172.16.7.17, 203.146.85.142 วันที่: 24 มีนาคม 2553 เวลา:11:37:43 น.  

 
คุณ fatboykik ยินดีครับ

ถ้าเพื่อนๆอ่านแล้วสนใจ ฝากแนะนำเขาว่า มีหนังสือที่มีบทนี้รวมอยู่ ชื่อ "ธนาคารความสุข" นะครับ

มี 2 เล่ม เล่มที่มีบทนี้อยู่เป็นเล่มสอง ชื่อธนาคารความสุข สาขา 2 ครับ

^^


โดย: aston27 วันที่: 28 มีนาคม 2553 เวลา:19:30:22 น.  

 
ขอรบกวนถามชื่อเพลงที่อยู่ในหน้าเพจนี้หน่อยได้รึป่าวครับ ผมอยากรู้ว่าเป็นเพลงของใคร และเพลงชื่ออะไร นะครับ ขอรับกวนตอบให้หน่อยนะครับ ขอบคุณครับ...^^


โดย: ae IP: 119.42.64.137 วันที่: 31 ตุลาคม 2554 เวลา:10:45:57 น.  

 
@คุณ Ae ครับ ผมว่าผมเอาเพลงออกไปจากหน้านี้แล้ว แต่คุณ Ae อาจจะเปิดจากหน้ารวม เลยได้ยินอยู่ ผมไม่แน่ใจว่าคือเพลงไหนน่ะสิครับ ^^"


โดย: aston27 วันที่: 2 พฤศจิกายน 2554 เวลา:17:40:15 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

aston27
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ให้ทิปเจ้าของ Blog [?]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 215 คน [?]




คนรู้ไม่คิด คนคิดไม่รู้
New Comments
Friends' blogs
[Add aston27's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.