someday we write , someday we wrong









War Zone : ปลอกกระสุนที่แทบเท้ากับรองเท้าในกำมือ

ช่วงนี้เปิดนิตยสารเกมขึ้นมาทีไร ได้รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นนักข่าวภาคสนามรบไปซะทุกที
ก็ต้นปีนี้หลายๆค่ายเกมต่างเล่นพากันพร้อมใจปล่อยเกมสงครามออกมากันให้เต็มแผงไปหมด

มองไปทางไหนก็เห็นแต่เกมที่มีคนถือปืน ถือปืน แล้วก็ถือปืน เห็นจำนวนปืนขนาดนี้แล้ว
พาลให้นึกสงสัยไปว่าขนาดแค่ปืนยังเยอะขนาดนี้ แล้วถ้าจำนวนลูกกระสุนของทุกเกมรวมๆกันนี่มันจะกี่ล้านนัด!!

และด้วยเกมสงครามที่มีอยู่ปริมาณมหาศาลนี้เอง ที่เล่นเอาผมเลือกไม่ถูกเลยว่าจะเขียนรายงานข่าวเกมสงครามไหนดี นี่ขนาดคัดเน้นๆมาก็แล้วก็ยังเลือกไม่ถูก เพราะเอาเฉพาะที่ดังๆน่าจบตามองก็มีทั้ง Call of Duty : World at war เกมสงครามย้อนยุคสุดอลังการที่ทำเอา Svring Private Ryan กลายเป็นสนามเด็กเล่นไปเลย หรืออย่าง Killzone 2 ก็น่าเขียนถึง เพราะทั้งสมจริงขนาดที่คุณจะได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้น ดุดันถึงขั้นถ้าคุณแอบพักหายใจก็จะไม่ได้หายใจอีกต่อไป และภาพสวยถึงขั้นโคตรพ่อโคตรแม่สวย แต่ถ้าไปเลือกเขียนอันอื่น...ก็คงจะพลาดไม่ได้เขียนถึง Gears of War 2 เกมสงครามสุดดิบเถื่อนระหว่างเหล่ามนุษย์พันธุ์ดุกับพวกต่างดาวสายพันธุ์แสบที่งัดเทคโนโลยีนานาชนิดมาถล่มกันแบบไม่กลัวเปลืองงบ พกปืนติดใบเลื้อยมาพร้อมกระซวกลำไส้กันและกัน และโดดเด่นด้วยระบบ Multiplayer ที่เปิดโอกาสให้คุณได้ระเบิดหัวเพื่อนๆอย่างสนุกสนาน


Photobucket
Call of Duty : World at war

Photobucket
Killzone 2

Photobucket
Gears of War 2



ซึ่งเหล่าตัวเลือกที่มากมายนี้แสดงให้เราเห็นว่าตลาดเกมยังคงเปิดกว้างสำหรับเกมแนวสงคราม ด้วยเพราะความรุนแรงในสนามรบนั้นยังมีช่วงว่างให้กับไอเดียและยังเหลือพื้นที่ให้กับจินตนาการอยู่อีกมากมาย ว่าแล้วเหล่าโปรแกรมเมอร์ก็เลยขยันกันผลิตสงครามในแบบของตัวเองออกมากันใหญ่ ซึ่งใครที่ออกแบบสงครามออกมาได้สร้างสรรค์ก็จะได้รับทั้งคำชมและตัวเงิน แต่ถ้าออกแบบมาได้สิ้นคิดและห่วยแตกก็จะได้รับทั้งคำอวยพร(ในแง่ร้าย)และเผลอๆอาจจะต้องเก็บข้าวของย้ายไปทำงานกับค่ายเกมใหม่

พูดถึงคนที่สร้างสงครามได้ห่วยแตก...ไม่รู้ทำไมผมถึงนึกถึงอดีตประธานธิบดีสหรัฐฯ จอร์จ ดับเบิลยู บุช...

เมื่อไม่นานมานี้ผมเพิ่งได้มีโอกาสแวะไปเยี่ยมเว็บไซต์ เครือข่ายต้นไม้ขี้เหงา ของคุณทรงกลด บางยี่ขัน บ.ก.นิตยสาร a day มา ที่นั่น...คุณทรงกลดได้พูดถึงเรื่องราวของนาย มันตาเซอร์ อัล-ไซดี นักข่าววัย 29 ชาวอิรักที่ไปสร้างวีรกรรมด้วยการไปตระโกนด่าบุชว่า “สุนัข” แล้วปารองเท้าใส่จนเกิดเป็นกระแสข่าวโด่งดังอยู่นานสองนาน

จากเหตุการณ์ขว้างรองเท้าในวันนั้นพอมาถึงวันนี้ได้ก่อให้เกิดเป็นเว็บไซต์ //www.thankyouforthrowingyourshoe.com/ (แปลตรงตัวได้น่ารักมากว่า “ขอบคุณที่ขว้างรองเท้าของคุณ”) ซึ่งเปิดพื้นที่ให้คนที่รู้สึกต่อต้านสงครามในอิรักได้เข้ามาโพสต์รูปถ่ายของตัวเองกับรองเท้าภายในเว็บ เพื่อเป็นสัญญาณของการประณามการกระทำของรัฐบาลสหรัฐฯ ว่าแล้วก็มีผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกแสดงตัวกันออกมาพร้อมกับรองเท้าคู่ใจอย่างอุ่นหนาฝาคลั่งจนถึงขั้นอบอุ่นและเหม็นอับไปทั้งเว็บไซต์


Photobucket



คุณทรงกลดได้ตั้งข้อสงสัยว่า อันที่จริงแล้วการปารองเท้าและด่าคนอื่นว่า “สุนัข” แบบที่นายมันตาเซอร์ อัล-ไซดีกระทำนั้น ถือว่าเป็นการกระทำที่ต่ำช้าและผิดกาลเทศะเอามากๆในสังคมอิรัก ซึ่งทำให้เกิดคำถามขึ้นว่า นี่ถือว่าถูกต้องแล้วหรือที่เว็บไซต์นี้ไปยกย่องคนที่ทำแบบนั้นว่าเป็นฮีโร่? แล้วคำถามนี้ก็ได้รับคำตอบกลับมาว่า...

“ทางเว็บไซต์ได้ประกาศไว้ชัดเจนว่า
พวกเขาเห็นว่าการขว้างรองเท้าเป็นความผิดที่ควรได้รับการลงโทษ
แต่พวกเขาก็ยังรู้สึกดีกับการปารองเท้า มากกว่าการทำสงคราม”

อ่านจบแล้วชักนึกสนุก...ซึ่งถ้าหากวันนี้ไม่มีใครว่าอะไร
จะเป็นอะไรไหมถ้าผมจะของดหยิบเกมสงครามมาเขียนถึง...แล้วหันไปหยิบรองเท้าขึ้นมาแทน?



Create Date : 22 มีนาคม 2552
Last Update : 15 เมษายน 2553 15:22:36 น. 4 comments
Counter : 842 Pageviews.

 
เลิศ เว็บนี้ เดี๋ยวว่างๆถ่ายรองเท้าไปแปะมั่งล่ะ (แต่รอให้กล้องซ่อมเสร็จก่อน ซักสามชาติครึ่ง)
เกมภาพแรกก็สวยเวอร์ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อยากเล่นจริงๆ (แต่เอาจริงก็ตาย เพราะแพ้เกมสงคราม ปวดเฮด)




โดย: nanoguy IP: 125.24.122.92 วันที่: 25 มีนาคม 2552 เวลา:7:25:25 น.  

 
โห หายไปนานจังครับ ^^ (ขอมาพูดคุยถึงเรื่องที่แปะไว้ก่อน)

จริงแล้วผมรู้สึกไม่ชอบทั้ง Seven Pounds และ Pursuit เลยนะครับ ก็อย่างที่บอกว่า มันชอบล่วงล้ำเข้ามาบังคับจิตใจเราเหลือเกิน ซึ่งมันเป็นวิธีการที่ละครน้ำเน่าทางโทรทัศน์ใช้กันอย่างเชี่ยวชาญ ผมจึงคิดว่า "นี้หลบจากจอแก้วยังมาเจอที่จอเงินอีกเหรอเนี่ย -*-"... ว่าแล้วเดี๋ยวขอตัวไปดูสาบภูษาก่อนนะครับ 555+

ทราน 3 ผมไม่อยากคิดถึงเรื่องความสมเหตุสมผลเลยครับ เพราะมันจะยิ่งทำให้ตัวเองรู้สึกแย่เข้าไปอีก ว่าแต่มันก็ทำให้ผมรู้จักตัวเองเพิ่มขึ้นข้อนึง ว่าเราเองก็พบว่าหลงไหลกระ บนผิวหนังผู้หญิงเหมือนกันแฮ่ะ ฮ่าๆๆ

ส่วนเรื่อง Forgetting Sarah Marshall ยินดีครับที่เป็นคนแนะนำให้รู้จัก ผมชอบคุณนางเอกมาตั้งแต่ซีรี่ย์ Veronica Mars แล้ว ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าเธอฉีกลุคเธอสุดๆไปเลย (ซึ่งก็เปลี่ยนไปในทางที่ดี 55+) แต่ที่จำได้ติดตา นั้นก็คือเครื่องเคราของพระเอก ที่โผล่มาเต็มจอถึงสองครั้งสองครา (เอ๊ะ มันเป็นเรื่องดีรึเปล่าหว่า...)

ปอลอ. ส่วนเรื่องคะแนนของผม ถ้าได้ 2.5 อัพ ผมถือว่าตัวเองชอบนะครับ ^^ (แต่ก็มีต่ำกว่านั้นตั้งหลายเรื่องเลยนี่หว่า 55+)


โดย: BloodyMonday วันที่: 27 มีนาคม 2552 เวลา:19:39:13 น.  

 
ชอบเข้าไปอ่านเวบ lonelytrees เหมือนกันครับ

ได้แง่คิดดีๆ มากมาย


โดย: ฟ้าดิน วันที่: 29 มีนาคม 2552 เวลา:4:37:30 น.  

 
สวัสดีครับ


เข้ามาอ่านแล้ว รู้สึกได้ว่า......
เรื่องราวของนาย มันตาเซอร์ อัล-ไซดี นักข่าววัย 29 ปีผู้นี้ได้สร้างกระแส

ซึ่งก็ทำให้เกิดความคิดว่าการถอดรองเท้าที่เหม็นอับแล้วยกโชว์ขึ้นมา

นอกจากจะเป็นการแสดงออกทางความคิดแล้ว

ก็ถือว่าเป็นการปล่ดปล่อยความอึดอัดไม่สบายใจของคนเราออกมาได้เหมือนกัน.....


โดย: เพกร วันที่: 30 มีนาคม 2552 เวลา:21:32:15 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ขอรบกวนทั้งชุดนอน
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 25 คน [?]




Group Blog
 
<<
มีนาคม 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
22 มีนาคม 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ขอรบกวนทั้งชุดนอน's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.