ภัยแห่งสังสารวัฏนั้น น่ากลัวยิ่งกว่าภัยอื่นใด - อัสติสะ
Group Blog
 
All blogs
 
๔๖๕ - เงาสะท้อนของกล้วยไม้

วันอาทิตย์ที่ผ่านมามีโอกาสไปทำบุญที่วัดเหมือนเช่นทุก ๆ วันหยุด ระหว่างรอตักบาตรสายตาก็มองไปเห็นครอบครัวใหญ่ครอบครัวหนึ่ง ซึ่งมีเด็กเล็กคนหนึ่ง อายุประมาณขวบกว่าๆ มีพ่อ แม่ พี่ รวมทั้งยาย คอยดูแลอยู่ใกล้ ๆ และที่ตรงข้ามกันนั้น ก็มีกอกล้วยไม้อยู่จำนวนหนึ่งซึ่งกำลังแข่งกันออกดอกสะพรั่ง ดูแล้วมีความสวยงามเจริญตาดี แต่เมื่อลองพิจารณาดูให้ลึกสังเกตดูดี ๆ ในบรรดาดอกกล้วยไม้นั้นจะมีดอกตูม ซึ่งกำลังรอที่จะเบ่งบานมีดอกที่กำลังบาน มีดอกที่บานเต็มที่แล้ว มีดอกที่กำลังเหี่ยวเฉาและมีดอกที่ร่วงโรยหล่นอยู่ตามพื้น

ชีวิตของกล้วยไม้กับชีวิตของครอบครัวมนุษย์นี้ดูดี ๆ มันก็มีความคล้ายกันดอกตูมที่กำลังรอวันเบ่งบานก็เปรียบเหมือนชีวิตของเด็กน้อย ดอกที่กำลังบานก็เหมือนคนวัยหนุ่มสาว ดอกที่บานเต็มที่แล้วก็เหมือนกับคนวัยกลางคนดอกที่กำลังเหี่ยวเฉาก็เหมือนกับคนวัยชรา...

มองดูกล้วยไม้และคนในครอบครัวนั้นแล้วก็สะท้อนใจไม่น้อย

ชีวิตของกล้วยไม้ก็สะท้อนความเป็นไปตามธรรมชาติซึ่งไม่มีสิ่งใดจะสามารถลิขิตให้เป็นไปอย่างอื่น และแม้กระทั่งตัวเรา ก็ต้องเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพอย่างนั้น

มันคงคล้ายกับเงาสะท้อนของกระจกธรรมชาติแห่งชีวิตที่ต้องใช้วิธีแห่งการสังเกตด้วยตาเนื้อและตาใน เราจึงจะมองเห็นความคล้ายกันของ ๒ สิ่ง

แต่ถึงอย่างนั้นหากเราไม่ได้มองเห็นคุณค่าแห่งการเปลี่ยนแปลง ไม่รับรู้ถึงความเป็นไปตามธรรมชาติหากยังคงลุ่มหลงมัวเมา ต่อสิ่งปรุงแต่งและปัจจัยภายนอก เราก็จะไม่ได้ประโยชน์อะไรจากการพิจารณาการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้

ธรรมชาตินั้นสร้างเรามาพร้อมกันนั้น ธรรมชาติก็พยายามสอนให้เรารู้จักกฎธรรมดาแห่งความเป็นไปสัตว์ที่มีปัญญาก็พอจะมองเห็นและสั่งสอนกันได้ในกฎพื้นฐานของธรรมชาตินั้นก็จะสามารถเอาชีวิตรอดจากกฎพื้นฐานนั้น

จากบทเรียนของวันนั้นทำให้ข้าพเจ้ามองเห็นเงาสะท้อนบางอย่างของธรรมชาติ ซึ่งมีสิ่งที่ดำเนินไปในทิศทางเดียวกันคือ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป(เป็นธรรมดา) คนที่ยึดถือสิ่งที่ไม่เที่ยงว่าเรา เป็นของเรา ย่อมมีความทุกข์ติดตัวไปเสมอ ๆ




Create Date : 01 เมษายน 2557
Last Update : 1 เมษายน 2557 9:31:56 น. 3 comments
Counter : 565 Pageviews.

 
"ทุกวันนี้ เราทุกคนมัวแต่ไปยึดติด ว่านี่ของเรา นั่นของเรา ทรัพย์สินของเรา เมื่อเรายึดอะไรไว้เราก็จะทุกข์เพราะสิ่งนั้น ทุกข์เพราะเอาใจไปติดกับมัน จนทำให้เราต้องไปหมกมุ่นอยู่กับมันมากเกินไป ถ้าเราไม่อยากทุกข์อย่ายึดติดกับสิ่งใด แล้วความทุกข์จะหายไปเอง"

ทุกสิ่งในโลกย่อม เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป(เป็นธรรมดา)


โดย: แม่ออมบุญ วันที่: 1 เมษายน 2557 เวลา:15:57:12 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog
schnuggy Travel Blog ดู Blog
ฝากเธอ Craft Blog ดู Blog
mambymam Beauty Blog ดู Blog
อัสติสะ Dharma Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

เข้าใจนำกล้วยมาเปรียบกับธรรมชาติของชีวิต...
วันนี้ช่วงกำลังทำงาน ผุดคิด คำสุภาษิต ที่ว่าชีวิตมนุษย์เหมือนฟองน้ำ คือสั้นจริงๆ แต่คนเรายังหลงยินดีกับมันอยู่จนหลงลืมดูธรรมชาติแท้จริง
แม้แต่ตัวของท่านขุน ผู้พูดเองก็ยังมั่วเมา ก็พยายามทำให้มันเบาบางลงเท่าที่ทำได้ขอรับ สักวันมันบางเบาได้ขอรับ


โดย: ขุนเพชรขุนราม วันที่: 3 เมษายน 2557 เวลา:8:12:45 น.  

 
สวัสดีครับ ตามมาอ่าน ข้อคิด ด้านธรรมมะ
ด้วยคนครับ

อ่านแล้วได้แง่คิด ไปด้วยครับ


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 4 เมษายน 2557 เวลา:17:24:33 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

อัสติสะ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ให้ทิปเจ้าของ Blog [?]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




ทุกข์ใดจะทุกข์เท่า การเกิด
ดับทุกข์สิ่งประเสริฐ แน่แท้
ทางสู่นิพพานเลิศ เที่ยงแท้ แน่นา
คือมรรคมีองค์แก้ ดับสิ้นทุกข์ทน






Google



New Comments
Friends' blogs
[Add อัสติสะ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.