พระฝางเป็นพระพุทธรูปประทับนั่งปางมารวิชัย ทรงเครื่องจักพรรดิราชาธิราช พระพักตร์ค่อนข้างยาว นิ้วพระหัตถ์ทั้ง 4 ยาวเท่ากัน ทรงราชาภรณ์ ประกอบด้วยชฎายอดเเหลม กรรเจียก ทองกร ธำมรงค์ กุณฑล กรองศอ สังวาล ทับทรวง พาหุรัด และทองกร ประทับเหนือฐานปัทม์เท้าสิงห์ หย่อนท้องสำเภา จกแต่งด้วยลวดลายสมัยอยุธยาตอนปลาย ประดิษฐาน ณ บุษบกหน้าพระวิหารสมเด็จ วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม
พระพุทธรูปองค์นี้สันนิษฐานว่าสร้างโดยเจ้าพระฝางในสมัยที่เป็นสังฆราชาเมืองฝางและเคยเป็นพระประธานในอุโบสถวัดพระฝางสวางคบุรีมุนีนาถ จนในปี พ.ศ. 2444 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว(รัชกาลที่ 5) โปรดให้อัญเชิญองค์พระฝางมาประดิษฐานที่มุขเด็จพระวิหารสมเด็จ ส.ผ. วัดเบญจมบพิตรฯ กรุงเทพมหานคร จนถึงปัจจุบัน
พระฝางสร้างขึ้นในรัชสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศแห่งกรุงศรีอยุธยา ประมาณ พ.ศ. 2280มีพุทธลักษณะที่งดงาม เป็นพระพุทธรูปที่สำคัญของแผ่นดินไทยอีกองค์หนึ่งสันนิษฐานว่าผู้สร้างคือพระพากุลเถระ พระสังฆราชแห่งเมืองฝาง (เจ้าพระฝาง)ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดพระฝางในขณะนั้นเดิมพระฝางเป็นพระพุทธรูปประธานในพระอุโบสถวัดพระฝางหรือวัดสว่างคบุรีมุนีนาถ
พ.ศ. 2313 สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชยกทัพหลวงมาตีชุมนุมพระฝางได้ และโปรดเกล้าฯ ให้รับละครขึ้นมาสมโภชที่วัดพระฝางถึง 7 วัน เท่ากันกับการสมโภชพระพุทธชินราช พระพุทธชินสีห์ซึ่งนับว่าเป็นพระพุทธรูปสำคัญคู่บ้านคู่เมืองไทยองค์หนึ่งในรัชสมัยของสมเด็จพระปิยมหาราช (รัชกาลที่5) ได้โปรดเกล้าฯให้อัญเชิญพระฝางไปประดิษฐานที่วัดเบญจมบพิตรฯจนถึงปัจจุบัน
พ.ศ. 2451 ปรากฏพระราชหัตถเลขาถึงสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ความว่า ให้จำลองรูปพระฝางได้สั่งให้ช่างรีบปั้นหุ่นถ่ายรูปไว้แล้วให้กระทรวงมหาดไทยคิดจัดพระฝางกลับคืนไปไว้ที่เมืองฝางตามเดิมให้ทันฤดูน้ำ นี้
ลวดลายประดับมงกุฎ แต่ในปัจจุบันนี้ เกินเวลาหนึ่งร้อยปีแล้วองค์พระฝางก็ยังประดิษฐานอยู่วัดเบญจมบพิตร มิได้กลับคืนไปอุตรดิตถ์ตามพระราชดำริแต่ประการใด กรองศอ ทับทรวง และสังวาลย์
กรองศอส่วนที่อยู่ด้านหลังขององค์พระพุทธรูป
ด้านหลังองค์พระพุทธรูป
ขอบคุณข้อมูลจาก //www.wikipedia.com
Create Date : 08 กุมภาพันธ์ 2560 |
Last Update : 8 กุมภาพันธ์ 2560 20:20:45 น. |
|
0 comments
|
Counter : 7839 Pageviews. |
|
|