www.facebook.com/ibehindyou

ทุก comment ที่คุณให้มา ทำให้เรารู้ว่า เราไม่ได้สนุกกับการเขียน blog แล้วอ่านอยู่คนเดียว

Gran Torino , เก๋าแค่ไหนก็เจ็บเป็น



... ปีก่อน เป็นปีทองของหนังที่นำเสนอ ชีวิตผู้สูงอายุ เพราะแต่ละเรื่องล้วนได้รับการยอมรับจากนักวิจารณ์และเป็นที่รักของคนดู

อาทิเช่น หนังไทยอย่าง ความจำสั้นแต่รักฉันยาว ที่เล่าชีวิตรักสองคู่สองวัย และ คู่หลักของเรื่องเป็น ความรักของตัวละครรุ่นคุณปู่คุณย่า ที่มาพร้อมกับโรคสมองเสื่อม นับได้ว่าเป็นหนังไทยเรื่องแรกในรอบหลายปี ที่ให้ตัวละครคู่พระ-นางเป็นตัวละครช่วงวัยชรา



ตัวหนังสามารถทำให้เราเห็นภาพของโรคสมองเสื่อมหรืออัลไซเมอร์ได้ดี ช่วยให้เราเข้าใจกระบวนการเสื่อมของสมองอย่างค่อยเป็นค่อยไป ตั้งแต่หลงลืมเรื่องเล็กๆน้อยๆในชีวิต ก่อนจะเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ ควบคู่กับช่วยให้เราเข้าใจ ความคิดความรู้สึกของคนสูงอายุ ทำให้เห็นว่า ความรักนั้นเกิดขึ้นได้ทุกช่วงวัย หาใช่ว่า จะจำกัดไว้ที่รุ่นหนุ่มสาว



ยังมีสารคดีอีกเรื่องที่ตามติดกลุ่มผู้สูงอายุที่ใช้เวลาว่างมาจับกลุ่มร้องเพลงร็อค ในหนังชื่อ Young at heart ซึ่งถ้า ความจำสั้นแต่รักฉันยาว ทำให้เห็นว่า ความรักไม่ได้ถูกจำกัดไว้ที่อายุ Young at heart ก็ทำให้เห็นว่า คุณสามารถทำตัวให้มีคุณค่าได้เสมอ ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ เป็นสารคดีที่เชื้อเชิญให้คนหนุ่มสาวย้อนกลับมาดูตัวเองว่า ในตอนที่ยังมีโอกาส เราได้ใช้ชีวิตคุ้มค่า เหมือนที่คุณปู่คุณย่ากล้าทำแล้วหรือยัง

การที่ตัวละครรุ่นคุณลุงคุณปู่ยังสามารถเป็น พระเอกในหนังได้ คือ ข้อดีของวงการหนังเมืองฝรั่งมังค่าที่มีมาช้านาน ที่ต่อให้นักแสดงอายุอานามเข้าขั้น ปู่ย่า แต่ถ้าเขาหรือเธอมีฝีมือ ก็ย่อมมีโอกาสยืนหยัดเป็นดาราแถวหน้าในหนังได้ เฉกเช่น ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน ในวัน หกสิบกว่า ยังเบ่งกล้ามตะลุยป่าใน Rambo ภาคล่าสุด หรือ รุ่นปู่ที่ทุกคนเคารพนับถือในวงการมากที่สุดคนหนึ่งอย่าง คลิ้นต์ อีสต์วู๊ด ก็ยังมีผลงานอยู่ต่อเนื่อง



... คลินต์ อีสต์วู๊ด ในวัย 79 ปี ไม่เพียงแค่มอบผลงานให้กับแฟนๆอย่างต่อเนื่อง แต่ปู่คลินต์ยังขยันเพิ่มเป็น 2 เท่า เมื่อสองปีที่ผ่านมา ปู่คลินต์สร้างหนังปีละสองเรื่อง แถมทุกเรื่องก็ประสบความสำเร็จ

อย่างปีนี้ Changeling หนังที่ว่าด้วยแม่ผู้ใจสลายหลังลูกหายตัวไป ก็ส่ง แองเจลิน่า โจลี่ ขึ้นเวทีออสการ์ ส่วน Gran Torino ก็เป็นการกลับมาที่สร้างความประทับใจให้กับแฟนๆของปู่คลินต์ เพราะใน Gran Torino เขาไม่ใช่แค่ทำหน้าที่ผู้กำกับ แต่ยังเป็นการกลับมารับบทพระเอกอีกครั้งหลังจาก Million dollar baby และที่พิเศษคือ บทตัวเอกในหนังเรื่องนี้ทำให้แฟนรุ่นเก่าๆได้ชื่นใจที่เห็นคุณปู่มารับบทแอคชั่นห้าวๆที่คนดูคุ้นเคย

Gran Torino เปิดฉากที่งานศพ ซึ่งโดยส่วนใหญ่ญาติของผู้เสียชีวิตมักอยู่ในภาวะเศร้าโศกเสียใจไม่สนใจคนอื่นเท่าใดนัก แต่ ปู่วอลต์ที่เพิ่งสูญเสียภรรยา กลับมีสีหน้าเหยเกบอกบุญไม่รับใส่แขกที่มาร่วมงาน หันไปเห็นญาติที่แต่งตัวไม่สุภาพก็เบะปากต่อหน้าแขกเหรื่อนับสิบ ราวกับว่า โลกใบนี้สุดแสนบิดเบี้ยว

หลังงานศพ จากการสำรวจชีวิตของปู่วอลต์ ทำให้เรามองเห็น ‘ความโดดเดี่ยว’ ของ คนชราที่ไม่เหลือใครในชีวิต เพราะ ลูกชายของเขาก็มีทีท่าระอาพ่อ , ลูกสะใภ้นินทา , หลานจ้องแต่จะเอาสมบัติ ฯลฯ

จากนั้นไปทำความรู้จักเพื่อนบ้านของปู่วอลต์ที่เป็นชาวม้ง ที่ดูมีไมตรีจิต แต่ ปู่วอลต์ก็ออกท่าทางเหม็นเบื่อเพื่อนบ้านพร้อมปล่อยคำพูดที่ยียวนกวนประสาทเป็นประจำ เช่นเดียวกับ ท่าทีที่ต่อต้านการมีส่วนร่วมกับกิจกรรมทางศาสนาตามที่บาทหลวงมาเชิญชวน ปู่วอลต์แสดงออกชัดเจนว่าไม่อยากยุ่งกับสิ่งมีชีวิตใดๆในโลกนอกจาก สุนัขข้างกาย



ถึงปู่วอลต์จะไม่อยากสุงสิงกับใคร แต่ ก็เกิดเหตุให้ต้องไปข้องเกี่ยวกับคนอื่น เมื่อ เต๋า ลูกชายของเพื่อนบ้านชาวม้ง ถูกรุ่นพี่บีบบังคับให้ขโมยรถ gran torino ของปู่วอลต์เพื่อพิสูจน์ความเป็นลูกผู้ชาย ครั้นขโมยไม่สำเร็จก็ถูกก๊วนรุ่นพี่มาอาละวาดถึงบ้านกลางดึก เมื่อได้ยินเสียงดัง ปู่วอลต์ก็คว้าปืนคู่ใจเข้ามาขู่จนอันธพาลเตลิดไป

ครอบครัวชาวม้งกล่าวคำขอบคุณที่ปู่วอลต์เข้ามาช่วยคุ้มครอง แต่ สิ่งที่ปู่วอลต์ตอบกลับไป คือใบหน้าเหยเกเช่นเคยกับคำตอบว่า “แค่อย่ามาย่ำสนามหญ้าหน้าบ้านชั้นก็พอ”

ถัดจากนั้นไม่กี่วัน ขณะปู่วอลต์ขับรถกลับบ้าน เหลือบไปเห็น ซู พี่สาวของเต๋า ถูกจิ๊กโก๋ล้อมวงตั้งท่าจะลวนลาม แม้จะเริ่มต้นด้วยทีท่าลังเลใจว่าจะเข้าไปยุ่งดีหรือเปล่า แต่สุดท้ายก็ จบลงด้วยการตรงไปที่เกิดเหตุ แล้วใช้ความเก๋าไล่จิ๊กโก๋กลุ่มนั้นไปไกลและรับซูกลับบ้าน

หลังจากที่ปู่วอลต์เข้าช่วยเด็กสาวกับเด็กหนุ่ม ดูเหมือนความสัมพันธ์ของเขากับเด็กสองคนนี้จะเปลี่ยนไป เพราะ มิตรภาพของคนรุ่นหลานที่ไม่หวังสิ่งตอบแทนและเชื้อเชิญเขาเข้ามาเสมือนเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน ค่อยๆละลายความเกรี้ยวกราดของปู่วอลต์

บทบาทของเขาไม่ได้เป็นแค่ ผู้พิทักษ์ แต่กลายมาเป็นเหมือนญาติผู้ใหญ่ของสองหนุ่มสาว ช่วยหางานให้กับเต๋า พาเต๋าไปเรียนรู้ ความเป็นลูกผู้ชาย ในทางที่ถูกที่ควร ไม่ใช่การจี้ปล้นหรือข่มเหงใครเหมือนที่รุ่นพี่สั่งสอน และ ลงมือป้องกันเมื่อเหล่าวายร้ายยังตามรังควานไม่จบไม่สิ้น

แต่ เมื่อก๊วนรุ่นพี่ชาวม้งไม่ยอมเลิกราและซ้อมซูจนบาดเจ็บสาหัส จนปู่วอลต์เห็นว่า หากปล่อยทิ้งไว้ มีแต่จะยิ่งเลวร้ายกว่านี้ เขาจึงตัดสินใจว่าต้องลงมือทำอะไรซักอย่าง

เหตุการณ์ที่เข้าไปมีส่วนช่วยเหลือครอบครัวม้ง ทำให้เราเห็น เนื้อแท้ของปู่วอลต์ ที่ถูกภาพของ คนแก่อารมณ์ร้ายเคลือบฉาบไว้



... วิกฤติวัยชรา ตามทฤษฎีทางจิตวิทยา คือ ภาวะ Despair อันหมายถึง การเหลียวซ้ายแลขวาแล้วไม่เห็นใคร ครั้นมองย้อนหลังกลับไปดูชีวิตที่ผ่านมา ก็รู้สึกสิ้นหวัง กับการที่ไม่เคยประสบความสำเร็จหรือสร้างผลงานใดๆไว้เลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการงาน , การเงิน , ครอบครัว ฯลฯ

ปู่วอลต์ก็น่าจะตกอยู่ในกลุ่มของคนชราที่กำลังประสบภาวะวิกฤติ คือ คนที่สูญเสียภรรยาและอัดแน่นด้วยความผิดหวังที่มีต่อลูกหลานที่หวังแต่ผลประโยชน์ แถมยังสูญสิ้นศรัทธาต่อศาสนา เมื่อต้องโดดเดี่ยวในชีวิตบั้นปลายที่ไม่เหลือคนใกล้ชิดที่รักจริง บางคนที่ผ่านชีวิตเช่นนี้อาจท้อแท้จนซึมเศร้า

แต่คนอย่างปู่วอลต์ปกปิดความเจ็บปวดด้วยความเกรี้ยวกราด และ กันตัวเองออกจากโลกภายนอก ที่อาจมาทำให้ตัวเองต้องเจ็บเพิ่มได้

เราสามารถเข้าใจ บาดแผลในใจปู่วอลต์ มากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อหนังเข้าสู่ช่วงกลางเรื่อง เช่น ตอนที่แกรู้ว่าตัวเองป่วยเป็นโรคร้าย เราสามารถสัมผัสความหวั่นวิตกหวาดกลัวที่ไม่เคยพบเห็นจากท่าทีก่อนหน้านั้น

ปู่วอลต์ตัดสินใจโทรศัพท์ไปหาลูกชาย คงหวังระบายหรือได้รับกำลังใจกลับมา แต่ วอลต์ โคลวอสกี้ ก็ยังคงเป็น วอลต์ โคลวอลสกี้ ที่ในที่สุดแล้วก็ไม่ยอมเปิดเผย บาดแผลหรือความอ่อนแอให้คนอื่นรู้

ฉากที่เปิดเผย ตัวตนของ วอลต์ โคลวอลสกี้ ได้มากที่สุด น่าจะเป็น ฉากสารภาพบาปที่โบสถ์ เมื่อเขาเล่าถึงเหตุการณ์หลายๆเรื่องในวัยหนุ่มเช่น จูบสาวแปลกหน้า , เลี่ยงภาษีตอนขายเรือ แต่ที่กระจ่างชัดที่สุดที่บอกถึงความเจ็บปวด คือ คำสารภาพสุดท้ายที่ว่า การไม่สนิทกับลูกชายตัวเองคือสิ่งที่รบกวนใจให้เขาเป็นทุกข์ตลอดมา

ถัดจากนั้น ยังมีอีกหนึ่งฉาก ที่กึ่งๆจะเป็นการสารภาพบาปเหมือนกัน เพราะเป็นการเปิดเผยความจริงในใจผ่านแผงเหล็กเหมือนที่โบสถ์ ต่างออกไปตรงที่คนที่รับฟังอยู่คือ เต๋า เมื่อปู่วอลต์เล่าให้ฟังเพื่อเตือนสติถึง การฆ่าเด็กบริสุทธิ์ที่กำลังจะยอมแพ้ ในสมัยที่ตัวเองเป็นทหาร และ เหตุการณ์นั้นเป็นเหมือนความรู้สึกผิดที่ตามหลอกหลอนเขามาตลอดชีวิต

เมื่อชีวิตเต็มไปด้วยความเจ็บปวดเช่นนี้ เราก็จะไม่แปลกใจว่า ทำไม การมองโลกและแสดงออกของ วอลต์ โคลวอลสกี้ จึงบิดเบี้ยวและเกรี้ยวกราด ทั้งที่ส่วนลึกในใจเขาคือ ชายชราผู้อ้างว้างใจดี ที่พร้อมช่วยเหลือคนรอบข้างทุกครั้งที่มีโอกาส



... Gran Torino เป็นผลงานที่เข้าข่าย มาสเตอร์พีซ อีกเรื่องหนึ่งของ คลินต์ อีสต์วู๊ด เป็นงานที่ตอบโจทย์คำถามประมาณว่า “ถ้าคลินต์ อีสต์วู๊ดจะเล่นหนังแอคชั่นในวัย 80 หนังเรื่องนั้นควรเป็นเช่นไร ?” เพราะจะให้เขาวิ่งไล่ฟัดตัวร้ายก็คงไม่ได้ดูทะมัดทะแมงเหมือนแต่ก่อน

ฉากแอคชั่นหรือความเท่สะใจในหนังเรื่องนี้ไม่ได้มาจาก การขับรถไล่ล่า หรือ กระโดดชกหน้าเตะก้านคอ แต่เป็นแอคชั่นที่ใช้ความเก๋าเข้าช่วย แสดงให้เห็นถึง พัฒนาการของหนังที่เติบโตไปตามวัยของผู้กำกับ

การตัดสินใจของปู่คลินท์ตอนท้าย อาจทำให้คนดูผิดหวังที่นึกว่าจะเห็นความบ้าระห่ำเหมือนสมัยจ่าแฮรี่ แต่ ในอีกแง่มุมหนึ่งเราก็จะเห็นวุฒิภาวะและการมองโลกที่เปลี่ยนไปของตัวคนทำหนังที่ถ่ายทอดผ่านตัวละคร ด้วยหลักการของฮีโร่ที่ยังยึดความถูกต้อง เพียงแต่เลือกใช้ ความไม่รุนแรง เข้าสยบ ความรุนแรง และมองถึง อนาคตของลูกหลาน มากกว่าจะบ้าบิ่นเข้าลุยแบบไม่แคร์ใครเหมือนหนังสมัยก่อนของปู่คลินต์

หากมองแง่มุมทางสังคม Gran Torino พูดถึงความขัดแย้งและการเหยียดเชื้อชาติในอเมริกา ที่ตัวละครในหนังล้วนหลากหลายในแง่ของเชื้อชาติและช่วงวัย และหากหันมาแง่มุมใกล้ตัวโดยเฉพาะในส่วนของ วอลต์ โคลวอลสกี้ หนังก็เปิดทางให้เราเข้าใจธรรมชาติของผู้สูงอายุ ถึงความคับข้องใจในชีวิตและภาวะวิกฤติที่พวกเขาต้องพบเจอ และ เป็นบทเรียนสอนใจเราทุกคนว่า ทุกสิ่งที่เคยทำในวันนี้ ล้วนแต่ออกดอกออกผลรอในวันข้างหน้า วัยชราจะมีชีวิตเช่นไร ก็ขึ้นอยู่วัยหนุ่มสาวทำตัวอย่างไร



... สำหรับ วอลต์ โคลวอลสกี้ อาจมีวัยหนุ่มที่ทำอะไรผิดที่ผิดทาง แต่อย่างน้อยช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต เขาก็ได้สร้างสิ่งดีๆให้กับตัวเองและคนใกล้ชิด ทิ้งชื่อของเขาให้เป็นที่จดจำ ส่วน รถ Gran torino ก็กลายมาเป็น ตัวแทนของการบอกลาลูกหลานที่เห็นแก่ได้ และ เปลี่ยนจากความสิ้นหวัง(despair)ที่เคยมี กลายมาเป็น ความสุขชิ้นสุดท้ายที่เขามอบให้ตัวเองและส่งต่อให้ ครอบครัวใหม่ ที่เขาสร้างขึ้นมา

นอกจากนี้ หนังยังทำให้เห็นว่า สำนวน ‘เลือดย่อมข้นกว่าน้ำ’ ใช้ไม่ได้เสมอไป เพราะบางที ‘น้ำ’อาจข้นและควรค่าต่อการดูแลมากกว่า‘เลือด’ที่เจือจางและไม่จริงใจ


Link บทความใน Blog ที่อ้างอิงถึง

Changeling + Taken , ลูกฉันอยู่ไหน ?
//www.bloggang.com/mainblog.php?id=aorta&month=14-08-2009&group=14&gblog=173



ขอฝาก หนังสือเล่ม 5 ของ "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" จ้า
(ตามร้านหนังสือทั่วไทย หลังสงกรานต์นี้)










อ่านจบแล้ว ชวนมาคุยกันที่นี่ครับ //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&group=18

และ

ความเห็นของ เพื่อนผู้อ่านที่อ่านจบแล้ว และสละเวลาเขียนถึง

//blogs.lumamagic.com/?p=1957



หนังสือ 4 เล่มก่อนหน้าที่ว่าด้วย 'ภาพยนตร์ - จิตวิทยา - พัฒนาตัวเอง(self - development)' ของ "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"








สำหรับเพื่อนๆที่เล่น FaceBook หรือ Twitter ณ.บัดนาว "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" ขยายสาขาเรียบร้อยแล้วจ้า






Create Date : 21 เมษายน 2553
Last Update : 21 เมษายน 2553 13:33:11 น. 5 comments
Counter : 6017 Pageviews.

 
จบแบบแมนโคตรๆ และ หนังออกโทนเรื่องของคนที่โคตรแมน


โดย: @daydev IP: 58.8.77.168 วันที่: 21 เมษายน 2553 เวลา:19:32:42 น.  

 
อ่านแล้วอยากดูขึ้นมาทันทีเลยครับ


โดย: เจรามี วันที่: 23 เมษายน 2553 เวลา:10:44:42 น.  

 
แกรนทระนง ของปู่คลินท์ ดูไปหลายเดือนละ ชอบมากๆเลย ปู่เจ๋งเสมอ ปู่เก่ง แต่ค่ายหนังไม่รักปู่ เตะหนังปู่ทิ้งเอา ๆ... น่าโมโห

ฉากที่ฮาก๊ากๆ คือตอนต้นเรื่องที่ ทุ๊ยยส์ ในโรงรถอ่ะ... สุดยอดแห่งความน่ารักในวัยชรา


โดย: TulipOnLine วันที่: 23 เมษายน 2553 เวลา:16:00:19 น.  

 
ท่านคะ...ฟอนท์บล็อกท่าน ขาเข้าเมืองนี่เล็กจังอ่ะ


โดย: TulipOnLine วันที่: 23 เมษายน 2553 เวลา:16:01:20 น.  

 
ชอบเรื่องนี้เช่นกันครับ


โดย: top2view IP: 112.142.163.160 วันที่: 23 เมษายน 2553 เวลา:18:10:01 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 72 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
<<
เมษายน 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
21 เมษายน 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.