เที่ยว "กระบี่" กับ ทริปลองของ เที่ยวกระบี่หน้าฝน ผลจะเป็นอย่างไร
ก่อนอื่นขอกล่าวสวัสดี เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกท่านครับ วันนี้ผมจะมารีวิวทริปที่ผมไปเที่ยวกระบี่ เมื่อวันที่ 20 - 22 มิถุนายน 2557 ที่ผ่านมา ซึ่งการไปทริปครั้งนี้ ก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมาก ด้วยเนื่องจากเป็นหน้าฝน คิดว่าทะเลอาจจะไม่สวยเท่าที่ควร แต่ในเมื่อเรายังไม่รู้ว่าข้างหน้าเป็นอย่างไร เลยอยากลองออกไปดูด้วยตาตัวเองซักครั้ง กับทริปแรกของการเดินทางเที่ยวทะเล ฝั่งอันดามัน มาตามดูการเที่ยวกระบี่ หน้าฝนไปพร้อมๆกันนะครับทริปนี้ผมเดินทางโดยสายการบิน บางกอกแอร์เวย์ เพราะเห็นช่วงก่อนหน้านี้มีโปร พันต้นๆ เลยรีบจับจองอย่างไวด้วยทั้งมีห้องรับรองระหว่างรอเครื่อง และบนเครื่อง แถม service หลายๆอย่างฟรีอีกด้วย มาเริ่มเช็คอินไปพร้อมๆกันครับและในครั้งนี้ผมก็ไม่พลาดข้าวต้มมัดในตำนาน คราวที่แล้วใช้บริการ แต่ไม่ได้ชิม ครั้งนี้จึงกะว่าต้องมาโดนแน่ๆ และก็ไม่ผิดหวัง กับรสชาติที่เค้าล่ำลือกันจริงๆแต่ด้วยอยู่ระหว่างปรับปรุงห้องรับรอง จึงทำให้ไม่มีห้องรับรองให้นั่งรอขึ้นเครื่อง แต่ทางสายการบินก็ได้จัดอาหารว่างไว้รองรับที่ Gate ทางออกและอีกอย่างที่พึ่งได้ความรู้ใหม่คือ สามารถเลือกอาหารประเภทอื่นได้ (คนอื่นเค้ารู้งานแล้ว ไปอยู่ไหนมา )เลยจัด Sea Food ดูซักหน่อยระหว่างบนเครื่องและแล้วก็ถึงกระบี่ โดยสวัสดิรูป เอ้ย!! สวัสดิภาพ ทริปนี้ผมได้พักที่ กระบี่ ทิพา รีสอร์ท อ่าวนาง โดยจากสนามบิน สามารถเดินทางไปอ่าวนางได้โดยรถ Shuter Bus ราคาคนล่ะ 150 บาท โดยรถจะวิ่งเป็นรอบๆ ผมรออยู่ประมาณ 15 นาที รถถึงออกจากสนามบิน และใช้เวลาประมาณ 30 - 40 นาที ในการเดินทางมาถึงที่พัก อ่าวนาง และแล้วก็ถึงที่พักจนได้ วันที่ไปแดดค่อนข้างร้อนเอาการ เลยแวะเข้ามาเช็คอินก่อน และเมื่อมาถึงก็ได้รับ Welcome Drink ต้อนรับแต่เนื่องจากไปถึงไวไปนิด จนท.โรงแรมแจ้งว่า ห้องพักยังไม่เรียบร้อย เลยถือโอกาสนี้ เดินสำรวจบริเวณโรงแรมซักนิดเพื่อรอห้องพัก ระหว่างเดินเข้ามามองเห็นที่บริเวณด้านหน้าของที่พัก คิดในใจ มันเหมือน วังจุฑาเทพ มากๆ ได้บรรยากาศคุณชายเข้ามาทันทีบริเวณหน้า Lobby Check in ตกแต่งด้วยสี ขาว ฟ้า ดูแล้วสบายตาดี และรายล้อมด้วยต้นไม้สีเขียว รอบบริเวณ ทำให้รู้สึกสดชื่นเมื่อได้เห็น เหมือนมาพักผ่อน บ้านพักตากอากาศ บรรยากาศชิวๆบริเวณนี้ค่อนข้างกว้าง มี sofa ให้นั่งเยอะพอสมควร และเป็นมุมให้ถ่ายรูปสวยๆ เป็นที่ระทึก เอ้ย!! ที่ระลึกด้วย เดินเข้ามาด้านหลัง Lobby จะเห็นมีห้องย่อยๆแยกอยู่ ประกอบไปด้วย บาร์ ห้อง Internet cafe และด้านบนจะเป็นที่นวดสปา ซึ่งทางโรงแรมมีบริการนวดสปาด้วยหลังจากเดินเก็บบรรยากาศรอบๆ รีสอร์ทได้ซักพัก จนท.แจ้งว่าห้องพักเรียบร้อยแล้ว สามารถเข้าพักได้ ระหว่างทางเดินเข้าห้องพัก พบสระว่ายน้ำอยู่ด้านหลัง เลยแวะแชะภาพซักนิดมองจากด้านนี้จะเห็นภูเขา ที่ตั้งอยู่ด้านหน้าของโรงแรม เหมาะแก่การนอนอาบแดด เล่นน้ำท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติ มองเห็นภูเขาไกลๆ คราวนี้ก็มาถึงห้องพักกันบ้าง ผมพักในห้อง Deluxe Room โดยอยู่ถัดจากริมสระน้ำมาไม่ไกล บรรยากาศร่มรื่น ทางเดินประดับด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ ร่มรื่น บริเวณภายในห้องพักบริเวณภายในห้องน้ำ ถือว่าไม่เล็กครับ มีแยกอ่างอาบน้ำไว้อีกฝั่งหลังจากถึงห้องพัก ผมก็ทำการเก็บข้าว เก็บของออกจากกระเป๋า และดื่มน้ำปัสสาวะ ตามอัธยาศัย ก่อนที่จะออกทัวร์ในตัวเมืองกระบี่กันต่อไป หลังจากพักจนหายเหนื่อยแล้ว ที่แรกที่ออกทัวร์ในทริปนี้คือ หาดนพรัตน์ธารา อยู่บริเวณไม่ไกลจากที่พักแต่ด้วย อากาศร้อนและแดดแรง เลยไม่ได้เดินเล่นนาน ไปเที่ยวต่อที่อื่นกันดีกว่า แค่แวะสูดอากาศทะเลให้ชุ่มปลอดก็พอ ที่ต่อไปที่จะไปในทริปนี้ คือ วัดถ้ำเสือ ครับ มาถึงแล้ว แวะทำบุญกันซักหน่อยมีจนท.บอกว่า บริเวณด้านบนของวัดถ้ำเสือ มีวิวที่สวยงามมากๆ จะมองเห็นรอบตัวเมืองกระบี่ ผมฟังดังนั้น จึงรีบสอบถามทางขึ้นจุดชมวิวนั้นเมื่อมาถึงทางขึ้น มีป้ายแจ้งขั้นที่จะขึ้นไปยังจุดสูงสุด 1,237 ขั้น คิดในใจ หุหุ แค่นี้สบายจิ๊บๆ ไม่คณามือผมหลอก ขึ้นมาได้ซักประมาณ 100 ขั้นแรก ยังชิวๆ แค่นี้จิ๊บๆ ระหว่างทางเดินชมวิวข้างทาง และตลอดทางจะมีลิงเต็มสองข้างทาง เมื่อเดินทางต่อมาได้ซักประมาณ 200 กว่าขั้น จึงได้แวะถ่ายรูปบริเวณนั้นไปด้วย ประกอบกับเริ่มเหนื่อยพอตัว ถือโอกาสหยุดพักไปด้วยและในที่สุดผมก็ได้เป็นผู้พิชิทความสูงของขั้นบันได....... ที่ 250 ขั้น เพราะด้วยช่วงนั้นเป็นช่วงเย็นแล้ว กลัวกว่าจะขึ้นจะลง จะลำบาก เพราะมันต้องใช้เวลากลัวจะค่ำแล้วไม่ได้ไปที่อื่นต่อจึงตัดสินใจลงดีกว่า (แหม!! พูดดูดีมาก จริงๆไปต่อไม่ไหวครับ เหนื่อย ขาสั่น ทางค่อนข้างชัน ลงดีกว่า 555) ระหว่างเดินทางต่อไปยังจุดหมายต่อไป ไม่รู้ผมมโนไปเองหรือเปล่าว่าผมเห็นก้อนเมฆกลุ่มนี้เป็นรูป หัวใจเหมือนเค้าดีใจที่ผมมาเที่ยวที่นี่ 555มายังจุดหมายต่อไปกันเลยดีกว่าครับ ผมจำชื่อไม่ได้ว่า อุทยานอะไรซํกอย่าง ต้องขออภัย ใครรู้ช่วยบอกผมที เป็นทางที่จะออกไปยังเขา ขนาบน้ำ และที่พลาดไม่ได้เลย เมื่อมาถึงกระบี่ จะต้องมาชักภาพที่นี่กลับไป ไม่ยั้งงั้นเค้าบอกว่า มาไม่ถึงกระบี่ (อยากรู้จริงๆ ว่าเค้าอ่ะ คือใคร ) ลานปูดำนั่นเองครับมองไปด้านหลังจะเห็น เขาขนาบน้ำ อยู่ไกลๆวิวตรงนี้สวยอีกเช่นกัน ดูแล้วสบายตา บรรยากาศที่เต็มไปด้วยสายน้ำ ต้นไม้ และภูเขา ธรรมชาติจัดสรรค์จริงๆและอีกฝั่งจะมี เหยี่ยวให้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกอีกเช่นกัน ซึ่งเค้าก็บอกว่า เค้าอีกและ 555 เป็นสัญลักษณ์ของเมืองกระบี่อีกอย่าง เสร็จจากจุดนี้ ผมเดินทางต่อไปที่ วัดแก้วโกรวาราม โบสถ์ที่นี่ตกแต่งด้วยโทน ขาว น้ำเงิน ดูยิ่งใหญ่ อลังการดีครับ มีพญานาคด้วยเดินเที่ยวมาก็หลายที่แล้ว ไม่รู้เพื่อนๆเหนื่อยกันหรือยัง แต่ผมเหนื่อยแล้ว และหิวด้วย ไปเดินหาอะไรกินกันที่ ถนนคนเดิน จ.กระบี่กันดีกว่าผมเก็บภาพที่นี่มาไม่เยอะครับ เนื่องด้วยอาการหิว และเหนื่อยจากการเดินทางมาทั้งวัน แต่ที่ได้เจอคือ ถนนคนเดิน จ.กระบี่ เค้าไม่ใช้โฟมกัน เพื่อลดขยะและช่วยรักษาธรรมชาติอีกด้วย น่านำไปใช้กันในทุกๆที่เนอะ หนังท้องตึง หนังตาเริ่มหย่อน กลับที่พักกันดีกว่า โดยก่อนนอนไม่ลืมเก็บบรรยากาศ บริเวณที่พักยามค่ำคืนมาฝากกันด้วยครับทิ้งท้ายในคืนนี้กันไว้ด้วย ภาพห้องนอนครับ คืนนี้นอนหลับฝันดี ราตรีสวัสดิ์ ครับพี่น้องอรุณสวัสดิ์เช้าวันใหม่ วันที่ 2 ของการเดินทางครับ ตื่นเช้ามาผมเดินมายังสระว่ายน้ำ เพื่อมาเก็บภาพบริเวณริมสระน้ำ พร้อมสูดอากาศสดชื่นไปหาอาหารให้กับท้องดีกว่า เดินมาไม่ไกลจากสระว่ายน้ำจะพบตึกด้านข้าง ที่เห็นห้องอาหารอยู่ชั้นล่างอาหารของรีสอร์ทเป็นแบบ บุฟเฟ่ต์ครับ โดยจะไม่มีคูปองให้ ใช้กุญแจห้องในการแจ้งพนักงานด้านหน้า มื้อเช้าจัดไปเบาๆ เดี๋ยวไปเกาะไม่มีที่เข้าห้องน้ำ ถึงเวลาที่หลายๆท่านรอคอยครับ รวมทั้งผมด้วย ไม่รู้ว่าจะออกไปเกาะได้ไหม อากาศจะเป็นใจไหม สุดท้ายได้ออกครับ อากาศเป็นใจ โดยผมเลือกไปทัวร์เกาะพีพี เพราะได้สอบถามกับ จนท.รีสอร์ทและได้รับคำแนะนำให้ไปที่นี่ครับ เพราะเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว ไปเที่ยวด้วยกันเลยครับ โดยทัวร์ที่ไปเป็นเรือ speed boatนั่งเรือมาประมาณ 10 - 15 นาที ก็มาถึงเกาะแรกของทัวร์นี้ครับ คือ เกาะไม้ไผ่ มาชมความงามและความอุดมสมบูรณ์ของเกาะนี้ไปพร้อมๆกันครับผมชอบเรือหัวโทง ของ จ.กระบี่ มาก มันดูคลาสสิคและมีมนต์เสน่ห์ ความงดงามในตัวเกาะนี้ทางทัวร์จะจอดให้นักท่องเที่ยวได้เล่นน้ำและถ่ายรูปประมาณ 45 นาที ผมจึงเดินเล่นไปตามชายหาด เพื่อเก็บภาพบรรยากาศมาฝากเพื่อนๆกันและด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติที่เกาะไม้ไผ่ ทำให้ผมได้พบกับอะไรบางอย่าง ที่ไม่ได้เจอมานานร่วมๆ 10 ปีได้ เจอครั้งล่าสุดจำไม่ได้ว่าเมื่อไหร่ปูเสฉวนนั่นเองครับ ประทับใจกับเกาะไม้ไผ่เป็นการส่วนตัว ทั้งน้ำทะเล หาดทราย สีขาว เม็ดทราบละเอียด นุ่ม จากเกาะไม้ไผ่ ขึ้นเรือตามกันมาต่อเลยครับ ที่ต่อไปที่เรือแวะให้ถ่ายรูป คือ ถ้ำไวกิ้ง หรือ ถ้ำรังนกเก็บภาพเรียบร้อย แบบทุลักทุเล เพราะผมนั่งอยู่อีกฟากของเรือ ต้องเบียดแย่งชิง เพื่อให้ได้ภาพเหล่านั้นมา 555 เดินทางกันต่อเลยครับ สถานที่ต่อไป ปิเละลากูน(Pihleh Lagoon) ชมน้ำทะเลสีเขียวมรกตตัดกับภูเขาหินปูนที่โอบล้อม กันครับที่นี่น้ำเขียว ใส สวยมากจริงๆครับ อยากจะกระโดดลงจากเรือเพื่อลงเล่นน้ำ เหมือนมีสระว่ายน้ำ อยู่ท่ามกลางทะเลที่ห้อมล้อมไปด้วย ภูเขา เหมือนอยู่ในห้องกลางทะเล ยังไงยังงั้นเลย แต่ด้วยติดต้องไปต่อเลยเก็บฝากความประทับใจได้อย่างเดียว เที่ยวชมกันพอหอมปากหอมคอ ได้เวลาออกเดินทางกันต่อแล้วครับ นั่งเรือต่อมาอีกซักพัก ก็ถึง อ่าวมาหยา ไกด์แจ้งว่า คนมาเที่ยวที่นี่เยอะมาก เพราะดูหนังจากเรื่อง The Beach ที่มาถ่ายทำที่ อ่าวมาหยา แห่งนี้หลังจากลงจากเรือเพื่อเดินขึ้นฝั่ง ไกด์ให้เดินไปยังท้ายอ่าวเพื่อชมความงามของ อ่าวมาหยาเราก็เดินตามเค้าไปไม่รู้เค้าไปดูอะไรกัน คนเค้าต่อแถวกันยาว เพื่อขึ้นไปบนนั้น ไม่รู้ว่าบนนั้นมันมีอะไร และเมื่อขึ้นมาถึงก็ได้พบกับ บรรยากาศดังภาพครับความรู้สึกของผม ณ ตอนนั้น เหมือนกับทุกท่านที่ได้เห็นภาพเหล่านี้ครับ และเข้าใจแล้วว่าทำไมที่นี่คนถึงเยอะจัง เก็บภาพและบรรยากาศเสร็จเตรียมตัวขึ้นเรือไปยัง เกาะพีพี เพื่อรับประทานอาหารเที่ยงกันครับเมื่อมาถึงเกาะพีพี จะมีการจัดเลี้ยงอาหารแบบบุฟเฟต์ทานอาหารกลางวันเรียบร้อย เตรียมตัวออกไปดำน้ำกันต่อหลังจากออกจาก เกาะพีพี ทัวร์จะพาไปดำน้ำ สองที่แถบๆ เกาะนี้ครับ มัวแต่ดำน้ำเพลิน เลยไม่ได้ถ่ายรูปตอนดำน้ำมาฝากกัน และก่อนกลับไกด์ลงไปจับ หอยเม่น มาให้ดูและอธิบายเกี่ยวกับ หอยเม่น เรื่องต่างๆ แต่ผมจำไม่ได้และ 555จบแล้ว ทริปทัวร์เกาะพีพี ของผมวันนี้ เดือนทางกลับเข้าฝั่งกันดีกว่าบ๊าย...บาย ทะเลอันดามัน สัญญาว่าจะกลับมาเยือนอีก สวยไม่ลืมเลยจริงๆ หลังจากกลับถึงฝั่งจะมีรถสองแถวตะเวนส่งผู้ร่วมทริปกันจนหมด กลับห้องอาบน้ำเปลี่ยนชุด เพื่อเตรียมตัวออกไปหาของอร่อยๆกินกันครับ วันนี้ผมออกมาหากินด้านนอกรีสอร์ทครับ เลือกร้านไม่ไกลจากรีสอร์ทเท่าไหร่ ร้านพจวรรณสั่งกันเต็มเหนี่ยวหลังจากทัวร์เกาะกันมาทั้งเหนื่อยและเพลีย ได้เวลาเติมพลังกันแล้ว เมนูแรก มาทะเลทั้งทีก็ต้องมากินปลากันครับ ตำถั่วปูปลาร้า 555 ปลาทะเลน้ำลึกจากอีสานบ้านเฮานี่เอง สั่งกันเพลิน จนหันมาอีกที อาหารมาเต็มโต๊ะแล้ว จะกินหมดไหมเนี่ยมื้อนี้ทานกัน 3 คน สุดท้ายก็หมดจนได้ ค่าเสียหายทั้งหมดนี้ ราคา 910 บาท กินกันจนจุกไปข้าง ทานอาหารเสร็จเรียบร้อย ตาเริ่มปิดกลับห้องนอนดีกว่า พรุ่งนี้ได้เวลาเดินทางกลับแล้ว เช้าวันสุดท้ายของทริปนี้ยังพอมีเวลาเหลือ เนื่องจากไฟท์บินช่วงบ่าย เลยอยากเที่ยวต่อ ไหนๆก็มาทั้งทีต้องเที่ยวให้คุ้ม เห็นในเน็ทเค้ารีวิวกันไว้เยอะเกี่ยวกับสระมรกต เลยอยากไปและก็ไม่พลาด ไปเที่ยวก่อนกลับด้วยกันครับ ระยะทางจาก กระบี่ ทิพา รีสอร์ท อ่าวนาง ไปยัง สระมรกต ประมาณ 60 โล ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม. และแล้วก็มาถึงจนได้ สระมรกต แต่เมื่อมาถึงต้องเดินต่อเข้าไปยัง สระมรกต โดยมีทางแยกให้เลือกระหว่าง 800 เมตร กับ 1.4 กิโล เป็นเส้นทางทัศนศึกษา พันธ์ไม้ต่างๆ ผมจึงเลือกเส้นทางนี้ โดยระหว่างทางเต็มไปด้วยพรรณไม้นานาชนิดเดินเข้ามาลึกเหมือนกัน เล่นเอาเหนื่อยไปเหมือนกัน และสุดท้ายก็มาถึงจนได้ สระมรกต คนเล่นน้ำเยอะมาก น้ำใส สีเขียวมรกต สมชื่อจริงๆ แต่จุดหมายของผมยังไม่จบแค่นี้ครับ ผมเห็นเส้นทางให้เดินต่อ จึงตัดสินใจเดินตามเส้นทางต่อไป โดยไม่รู้ว่าปลายทางคืออะไร เดินเข้าป่าไปอีกประมาณ 300 - 400 เมตร เห็นจะได้ และสุดท้ายก็มาถึงปลายทางของเส้นทางเดินนี้ อาการเหนื่อยล้าจากการเดินเท้าเข้ามาร่วมกว่า 2 กิโล หายเป็นปิดทิ้งเมื่อเห็นภาพต่อไปนี้อยู่เบื้องหน้ามันช่างเป็นอะไรที่งดงามและ Unseen Thailand เหนือคำบรรยายจริงๆ เมื่อได้มาเห็นด้วยตาตัวเอง ผมเดินชมความงามอยู่พักใหญ่ เพื่อเก็บภาพบรรยากาศและซึมซับธรรมชาติที่สวยงามอย่างเต็มที่ ไม่ผิดหวังจริงๆ ที่เลือกมาที่นี่ก่อนเดินทางกลับ การเดินทางในทริปนี้สิ้นสุดลง ท่ามกลางความประทับใจมากมาย ได้เวลาเดินทางกลับแล้ว เดินทางกลับอย่างสวัสดิภาพ ปลอดภัยถึงที่หมายเรียบร้อย แต่ก่อนถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ฝนก็ตกต้อนรับการกลับบ้านอย่างหนัก เหมือนรู้งาน สุดท้ายขอสรุปรายละเอียดการเที่ยว กระบี่ หน้าฝน และให้คะแนนดังนี้ คะแนน : 8.5 / 10 เที่ยวหน้าฝนใครว่าเที่ยวทะเลไม่ได้ ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในช่วงนั้นๆครับ และถึงแม้ทริปเที่ยว กระบี่ หน้าฝน ท้องฟ้าจะไม่สวยเท่ากับหน้าร้อน แต่ด้วยความสวย ใส ของน้ำทะเล เกาะน้อยใหญ่ รวมไปถึงหาดทราย ของ จ.กระบี่ ทำให้ลืมเรื่องท้องฟ้าไปเลย อีกทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวที่น้อยกว่าช่วงหน้าร้อนมาก ทำให้การเที่ยวทริปนี้ ไม่วุ่นวาย สงบ ซึ่งชอบตรงจุดนี้มาก ที่ไม่ต้องไปแย่งกินแย่งเที่ยวกับคนจำนวนมาก รวมไปถึงราคาที่พักและ ราคาทัวร์ต่างๆ ก็ถูกลงไปกว่าครึ่ง เที่ยวสนุกชิวๆ สบายกระเป๋า เข้าทางใครหลายๆคน รวมถึงตัวผมเองด้วย ต้องยกให้ทริปนี้เป็นทริปสุดประทับใจอีกทริปหนึ่งของการเดินทางของผม และจะอยู่ในความทรงจำไปอีกนานแสนนาน และปีหน้าจะต้องกลับมาเยือนทะเล อันดามัน อีกครั้ง ไม่พลาดแน่นอน สุดท้ายนี้ขอขอบคุณเพื่อนร่วมเดินทาง พนักงานทุกท่าน ที่มอบสิ่งดีๆให้ตลอดทริปนี้ และขอขอบคุณทุกท่าน ที่ติดตามอ่านรีวิวนี้มาจนจบ ผิดพลาดประการใดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ หากมีข้อเสนอแนะ หรือ ติ ชม ขอน้อมรับไว้เพื่อปรับปรุงในทริปถัดไป แล้วพบกันใหม่ทริปหน้าครับ สวัสดี
Create Date : 26 สิงหาคม 2557 |
Last Update : 26 สิงหาคม 2557 13:00:37 น. |
|
3 comments
|
Counter : 3732 Pageviews. |
|
|
|
โดย: Kavanich96 วันที่: 27 สิงหาคม 2557 เวลา:4:44:08 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|