Group Blog
 
All blogs
 
มันหวานญี่ปุ่น



พอพูดถึงมันหวานญี่ปุ่น แรกเริ่มหลายคนคงนึกไปถึง "มันเทศหัวแดง ๆ ที่เอามาเผากินตอนหน้าหนาวของบ้านเราส่วนรสชาดก็คงไม่ต่างกันเท่าไหร่" ใช่ไหม ? แน่นอนว่าผมเองก็เช่นกัน ครั้งที่เดินทางไปประเทศญี่ปุ่นแรก ๆ ขณะอยู่ในอาคารของตึกแห่งหนึ่งท่ามกลางฤดูใบไม้ร่วงก็มีเสียงที่คล้ายแตรดังลากยาวขึ้น พร้อมกับเสียงของชาวญี่ปุ่นทุ้ม ๆ ตะโกนลากเสียงยาวว่า ยาาากิโม ยากิโม้ มาเป็นจังหวะ ด้วยความแปลกใจว่าต้นเสียงคืออะไรจึงได้วิ่งออกไปยังหน้าอาคารและพบกับรถลากหน้าตาละม้ายคล้ายกับรถไอศกรีมป่าตันบ้านเราแต่เปลี่ยนจากทีตักไอติมเป็นเตาถ่านร้อนพร้อมหัวมันเทศญี่ปุ่น



ทันทีทีรถจอดเหล่านักเรียนแลกเปลี่ยนที่อาคารตรงข้ามก็กรู่เข้าหารถมันเผา คุณลุงคนขายชาวญี่ปุ่นหน้าตาใจดีใบหน้ายิ้มปรี่ใช้มือหยิบหัวมันขึ้นมาทีละชิ้นใส่ถุงกระดาษที่พับไว้ให้กับผู้คนที่อุดหนุน ผมเองเห็นแล้วก็อดใจไม่ได้จึงเดินรี่เข้าไปขอซื้อกับเขาบ้าง พอเดินไปถึงหน้ารถกลิ่นหอมคลุ้งก็โชยมา ราคาทีคุณลุงสนนให้ก็ไม่แพง มีตั้งแต่ 500 - 1000 เยน คละตามน้ำหนัก แต่ด้วยความคิดที่ว่ามันไม่น่าจะต่างกับมันเทศของไทยนะจึงได้คว้าชิ้นเล็กสุดในราคา 500 เยน มาชิม แต่พอคำแรกเข้าปากเท่านั้นแหละความคิดเกี่ยวกับมันเทศไทยก็ถูกลบไปหมด ด้วยรสที่หวานอร่อยและเนื้อเหนียวนุ่ม มีกลิ่นหอมไม่เหม็นเขียวและไม่มีเสี้ยนแบบมันเทศสีส้มของไทยทำให้รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นที่แฝงในฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึงเลยทีเดียว ผมจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมมันเทศญี่ปุ่นถึงถูกเรียกว่ามันหวานญี่ปุ่น

หลังจากได้ลองกินมันเผาไปแล้วก็รู้สึกติดใจในรสชาดมากและได้อุดหนุนคุณลุงเกือบทุกวันที่ผ่านหน้าตึกที่ผมพัก และมีโอกาสพูดคุยกับคุณลุงญี่ปุ่นที่เผามันขาย คุณลุงเล่าว่ามันเทศญี่ปุ่นที่คุณลุงนำมาขายนั้นชื่อว่า BENIHARUKA เป็นมันหวานญี่ปุ่นทีมีเนื้อเหนียวรสหวานนุ่มลิ้นจนแทบละลายในปาก คุณลุงบอกคุณลุงปลูกและขยายพันธุ์มันเทศญี่ปุ่นเองที่บ้าน แล้วก็แวะเวียนมาขายในโตเกียวบ่อย ๆ แถมยังบอกด้วยว่าพันธุ์นี้ขายดีสุด ๆ ไปเลย เพราะคนญี่ปุ่นชอบมาก แล้วคุณลุงก็บอกอีกว่า วันนี้มีอีกแบบอีกด้วย พูดจบคุณลุงก็คว้ามันเทศหัวเล็กออกสีแดงสด ๆ หน้าตาคล้ายมันเทศบ้านเรามากมาและจับโยนลงเตาแล้วบอกให้ผมรอสักพัก หลายนาทีผ่านไปคุณลุงก็หยิบหัวมันที่เพิ่งโยนไปมาหักครึ่งและยื่นให้ผม ทีนี้เนื้อมันเป็นสีส้มเหมือนของแถวบ้านนอกที่ผมอยู่เป๊ะ แต่พอลองกัดดูเนื้อสัมผัสกลับต่างกันลิบลับ รสหวานอ่อนกว่าเบนิฮารุกะเล็กน้อยแต่ไม่มีเสี้ยนไม่นุ่มมากแต่อร่อยลงตัว ผมถึงกับต้องถามกลับว่ามันเทศสีส้มญี่ปุ่นนี่คนละแบบกับมันเทศสีเหลืองที่ชื่อเบนิฮารุกะงั้นเหรอ ? 
คุณลุงพยักหน้าเบา ๆ และบอกว่าใช่ ถ้าจำไม่ผิดคุณลุงบอกว่ามันชนิดนี้ชื้อ ANOU IMO BENI เป็นมันเทศอีกชนิดที่นิยมนำมาเผากัน แถมยังมีมันเทศสีม่วงอีกด้วยนะ เป็นชนิดที่นำไปหมักเหล้าและทำขนม พอได้ฟังเรื่องมันเทศญี่ปุ่นหรือมันหวานญี่ปุ่นเข้าไปก็ทำให้ความคิดเกี่ยวกับมันเทศเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงทันที



หลังจากได้กลับมาที่ไทยหลายปีก็กลับไปคิดถึงมันเทศญี่ปุ่น แต่หาซื้อยากมากจนกระทั่งวันหนึ่งขณะเดินเล่นใน TOP ก็เห็นหัวมันเทศมาจำหน่ายและเขียนติดว่า มันเทศญี่ปุ่น แต่ที่แปลกกว่านั้นคือตราที่ติดหน้าตามันพิลึก ๆ มันทำให้ผมนึกไปถึงกล่องขนมที่ถูกก้อปปี้จากจีน แต่ก็ได้ลองซื้อมาเผาทานเล่นดู แม้รสชาดจะไม่หวานเท่าเบนิฮารุกะ แต่ก็ถือว่าอร่อยกว่ามันเทศไทยพอสมควร และเพิ่งมารู้คราวหลังว่าเป็นมันเทศจากเวียดนาม เดา ๆ ว่าน่าจะเป็นมันเทศญี่ปุ่นบางสายพันธุ์แต่นำไปปลูกในเวียดนามหรือเปล่า แต่พอมีโอกาสได้เดินทางไปญี่ปุ่นทีไรกลายเป็นต้องตามหาร้านมันเผาทุกที



Create Date : 07 กันยายน 2559
Last Update : 7 กันยายน 2559 16:24:17 น. 0 comments
Counter : 1474 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

staminia
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ให้ทิปเจ้าของ Blog [?]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add staminia's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.