“อันตรายจากเครื่องจักรกล” เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นคู่ไปกับการขยายตัวของงานภาคอุตสาหกรรม การก่อสร้าง และอื่น ๆ

ทั้งนี้ไม่ว่างานประเภทใดก็ตามย่อมจะเกี่ยวข้องและนําเอาเครื่องกล เครื่องจักรกล มาใช้ให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผล
อย่างสูงสุด ซึ่งเป็นการทุ่นเวลาและแรงงานของทรัพยากรมนุษย์อย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เครื่องจักรกลที่มี
วิทยาการสมัยใหม่ปรับปรุงให้มีความเร็วสูงขึ้นและประสิทธิภาพดีเยี่ยมนั้น ย่อมจะมีโอกาสที่จะทําให้เกิดอันตรายขึ้น
ซึ่งอันตรายนั้นย่อมทวีความรุนแรงมากขึ้นตามความรู้และเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น
สาเหตุของอุบัติเหตุจากเครื่องจักร
๑. เครื่องจักรไม่มีเซฟการ์ดที่เหมาะสม ( เซฟการ์ดคือ อุปกรณ์ที่ออกแบบและติดตั้งเพื่อป้องกันอุบัติเหตุและ
อันตรายในการใช้เครื่องมือ เครื่องจักรกลนั้น)
๒. การถอดเซฟการ์ดออกเพื่อซ่อมบํารุง เมื่อเสร็จแล้วมิได้ใส่เซฟการ์ดเข้าที่เดิมทําให้เกิดปัญหาและอุบัติเหตุบ่อยครั้ง
๓. มีการปล่อยปละละเลย ไม่ปฏิบัติตามคําแนะนําหรือทํางานแบบลองผิดลองถูก
จุดอันตรายของเครื่องมือ เครื่องจักร
เครื่องจักรที่มีการหมุน จัดเป็นเครื่องจักรกลที่อันตรายมากประเภทหนึ่ง ดังนั้นจึงควรจําเป็นต้องมีเซฟการ์ดเพื่อให้
เกิดความปลอดภัยแก่ผู้ใช้เครื่องจักรกลนั้น ๆ
เครื่องจักรที่มีการหมุนที่ก่อให้เกิดอันตรายได้เช่น เพลา ปุลเล่ เกียร์สายพาน คลัชท์ฯลฯสิ่งเหล่านี้ควรมีการติดตั้ง
เซฟการ์ดเสียก่อน จึงจะสามารถปฏิบัติได้อย่างปลอดภัย
เครื่องจักรกล จัดเป็นครื่องทุ่นแรงสามารถช่วยให้ทํางานได้ตามความต้องการได้มากมายหลายอย่าง ในขณะเดียวกัน
ถ้าไม่รู้จักใช้อันตรายจากเครื่องจักรกลก็มีมากพอ ๆ กับประโยชน์ของเครื่องจักรและในการใช้เครื่องมือ เครื่องจักรกล สิ่งที่ควร
พึงระมัดระวังในการปฏิบัติงานควรปฏิบัติดังต่อไปนี้
๑. การถือเครื่องมือที่มีคมควรให้ปลายชี้ลงด้านล่าง หรือหาของหุ้มปิดเสีย เช่น วงเวียน เหล็กขีด อย่าเก็บ หรือ
พกไว้ในกระเป๋าเสื้อหรือกางเกง
๒. ไม่ควรใช้เครื่องมือที่ชํารุด เช่น ค้อนที่บิ่นหรือแตกเพราะจะทําให้เกิดความผิดพลาดขณะทุบหรือตีชิ้นงานได้
๓. การทํางานบนที่สูงต้องผูกมัดหรือเก็บเครื่องมือให้ปลอดภัย เพื่อป้องกันไม่ให้หล่นลงมาโดนคนที่อยู่ข้างล่างได้
๔. เมื่อจะเดินเครื่องจักร ผู้ใช้ต้องรู้เสียก่อนว่าจะหยุดเครื่องอย่างไร
๕. การเปลี่ยนความเร็วรอบของเครื่องจักรหรือเปลี่ยนสายพาน เฟืองจะต้องหยุดเครื่องและตัดสวิตช์ออกก่อนทุกครั้ง
๖. อย่าพยายามหยุดเครื่องด้วยมือหรือร่างกายส่วนใดส่วนหนึ่ง
๗. พึงระวังส่วนประกอบของเครื่องจักรกลที่อาจจะเป็นอันตรายได้เช่น เฟืองสายพาน มีดกัดต่างๆจะต้องมีฝาครอบ
หรือเครื่องป้องกันเอาไว้
๘. ต้องตรวจดูชิ้นงานหรือใบมีดกัดต่าง ๆ จะต้องยึดแน่นและถกตู ้องก่อนทํางานเสมอ
๙. ในการซ่อมเปลี่ยน ติดตั้งเครื่องจักรใดๆจะต้องใช้ระบบการล็อคกุญแจ-แขวนป้ายห้าม (Lock Out – Tag Out) ทุกครั้ง
๑๐. เมื่อปฏิบัติสร็จแล้วต้องตัดสวิตช์ไฟฟ้าออกทุกครั้ง
-๒-
สําหรับการทํางานกับเครื่องจักรที่มีส่วนหมุนหรือมีความคม อาจจะนํามาซึ่งอุบัติเหตุจากการ บาด ตัด หนีบ ดึง
ของเครื่องจักรนั้น ๆ เราจําเป็นต้องหาวิธีการป้องกัน เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ปฏิบัติงานจะสามารถทํางานด้วยความปลอดภัย
ซึ่งวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันอันตรายจากเครื่องจักร คือ การแก้ไขที่เครื่องจักรกลเอง ด้วยการจัดให้มีการ์ดปิดกั้นส่วนหมุน
และส่วนที่อาจก่อให้เกิดอันตรายกับผู้ปฏิบัติโดยการปิดกั้นด้วยการ์ดจะทําให้อวัยวะส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย
ผู้ปฏิบัติภารกิจไม่ไปสัมผัสกับส่วนอันตรายของเครื่องจักร สําหรับกรณีการทํางานที่ไม่สามารถป้องกันอันตรายด้วยการ์ดได้
เราก็จะต้องใช้วิธีอื่นๆ เช่น ใช้อุปกรณ์ในการงานอย่างอื่นมาช่วยทําให้การทํางานปลอดภัยควบคู่ไปกับการกําหนด
ขั้นตอนการทํางาน ที่ถูกต้อง เช่น ใช้แปรงปัดเศษวัสดุ ในขณะที่เครื่องจักรกลหยุดทํางาน เป็นต้น การเลือกใช้อุปกรณ์
ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล และการกําหนดมาตรการการลงโทษหากฝ่าฝืน ขั้นตอนการทํางานก็เป็นแนวทางที่ควรทํา
ควบคู่กันทั้งหมด เพื่อใหการท ้ ํางานเป็นไปด้วยความปลอดภัยปราศจากอุบัติเหตุ
การป้องกันอนตรายจากเคร ั ื่องมือ เครื่องจักร
ผู้ที่ปฏิบัติงานกับเครื่องจักรกลควรที่จะเรยนร ี ู้หลักเบื้องต้นในการควบคุมดูแลให้เครองจ ื่ ักรทํางานอย่างมีประสิทธิภาพ
และมีความปลอดภัย ดังต่อไปนี้
๑. อย่าใช้เครื่องจักรกลกอนการเร ่ ียนรู้
อย่าใช้เครื่องจักรกลที่ไม่ได้รับมอบหมายให้ทําโดยเด็ดขาด เพราะการดูจากคนอื่นเท่านั้นไม่เพียงพอที่จะลงมือทํา
เองได้จะต้องศึกษากลไกต่าง ๆ ของเครื่องจักรนั้น จากผู้ชํานาญในการใช้เครื่องจักรกลนั้นให้ดีเสียกอน่ ดังนั้นถ้าเป็นคนงานใหม่
ต้องได้รับการฝึกให้ทํางานกบเคร ั ื่องจักรนั้นโดยมีการควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิดจากผู้ชํานาญงาน
๒. อย่าซ่อมเครื่องจักรก่อนการเรยนร ี ู้
เมื่อเครื่องจักรเกิดชํารุดขึ้นควรหาช่างผู้ชํานาญงานเป็นผู้ซ่อมแซมเครื่องจักรนั้น ไม่ควรทดลองแก้เองเพราะอาจ
ทําให้เครื่องจักรนั้นชํารุดมากขึ้น หรืออาจได้รับอันตรายจากเครื่องจักรกลนั้นได้
๓. อย่าถอดอุปกรณ์ป้องกันอันตราย
อย่านําเครื่องป้องกันหรือเซฟการ์ดซึ่งปิดครอบส่วนที่เคลื่อนที่ได้ของเครื่องจักรออก เว้นแต่ในกรณีที่มีการ
ซ่อมแซมหรือปรับเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ถ้าทกทุ ่านปฏิบัติตามคําแนะนําอยางเคร ่ ่งครัด อุบัติเหตุหรือการสญเส ู ยจะไม ี ่เกิดขึ้นกบตั ัวของท่าน งานที่ได้รับมอบหมาย
จะไม่เกิดการเสียหาย ดังนั้นในการปฏิบัติงานควรเอาใจใส่และปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างเคร่งครัด

Create Date : 25 กันยายน 2559
Last Update : 25 กันยายน 2559 2:48:43 น.		2 comments
Counter : 356 Pageviews.
Share Tweet