ชื่อร้าน : Wooloomooloo Prime (Causeway Bay)
รายการอาหาร : Western
ที่ตั้งร้าน : Level 27 & 28 Soundwill Plaza II - Midtown, Hong Kong
พิกัด GPS : 22° 16' 44.06" N 114° 10' 56.23" E

เมาท์มอยเรื่องอากาศกันหน่อยค่ะ วันนี้เป็นวันที่สองแล้วที่ฮ่องกงอากาศเย็นขึ้นนิดนึงแบบไม่ต้องพึ่งแอร์ฯ อิชั้นนอนห่มผ้าเปิดพัดลมจนถึงประมาณตี 4 ตี 5 ก็ต้องลุกมาปิดพัดลม เย็นเกิ๊นค่ะ ชอบมากเลยอากาศแบบนี้

อ่ะ กลับมาพูดถึงบล็อกนี้กันดีกว่า ภาพชุดนี้ถ่ายมาเมื่อตอนที่มีการจัดงานสัปดาห์ร้านอาหารฮ่องกง (Summer 2015) ประมาณ 2 เดือนกว่ามาแล้วค่ะ โพสต์ลงในเพจ facebook แล้ว ว่าจะ ..ว่าจะ .. อัปโหลดลงบล็อก เพราะถูกใจร้านนี้มาก ๆ ต้องแนะนำกันสักนิด แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้เอามาลงสักที จนถึงวันนี้ ที่พอจะมีเวลาช่วงเช้าวันอาทิตย์ ก่อนที่จะไปทำธุระปะปังกันต่อไป

สุดสัปดาห์หนึ่งในช่วง Summer อิชั้นไปงานสัปดาห์ร้านอาหารฮ่องกงทั้งวันเสาร์และวันอาทิตย์สองวันติดกัน โดยที่วันเสาร์นั้นอิชั้นไปที่ Wooloomooloo Steakhouse ซึ่งตั้งอยู่ในย่าน Wanchai กับเพื่อนสาวเกาหลีและจีน

ส่วนวันอาทิตย์ (ในโพสต์นี้) อิชั้นไปกับคุณพ่อบ้าน โดยเลือกร้านอาหารในเครือเดียวกัน และระดับดีกว่านิดนึง นั่นคือร้าน #WooloomoolooPrimeCausewayBay ค่ะ

ร้านนี้ก็จะเพิ่มความพิถีพิถันในการให้บริการและการเลือกวัตถุดิบในการประกอบอาหาร โดยที่ชุดอาหารกลางวัน (อย่างน้อย 3 คอร์ส) ซึ่งทาง #DiningCityHongKong ตั้งราคาบังคับไว้ที่ HKD 198 นั้น ไม่สามารถเลือกได้ทุกอย่างในเมนู หากต้องการอาหารพิเศษจะต้องจ่ายเงินเพิ่มค่ะ

ตอนที่ได้รับอีเมลเชิญชวนให้จองที่นั่งในงานนี้ อิชั้นพยายามเลือกร้านอาหารที่ยังไม่เคยไป (และอยู่ฝั่งฮ่องกง) หลังจากนั้นก็จะดูเมนูว่าเหมาะกับคุณพ่อบ้านมั้ย เพราะช่วงหลังเธอดูแลเรื่องอาหารนิดนึง เมนูเขาน่าสนใจดีค่ะ เลยตัดสินใจทำจองเสียเลย

ไปถึงร้าน สังเกตเห็นว่าคนค่อนข้างเยอะ ที่นั่งริมหน้าต่างมองเห็นวิว (จากชั้น 27) เต็มแล้ว พนักงานพาไปนั่งมุมอับซึ่งเขาคงเตรียมพื้นที่ตรงนี้ไว้สำหรับนักกินที่จองมากับงานสัปดาห์ร้านอาหารโดยเฉพาะ ดีตรงที่ถ่ายรูปสะดวกดีไม่มีใครมอง แต่ก็อยากได้โต๊ะที่มองเห็นวิวกับเขาบ้างเหมือนกันนะ 555





ขนมปังร้อน ๆ ทั้งขนมปังขาวและโฮลเกรน กรอบนอกข้างในเหนียวนุ่ม แถมกินหมดแล้วพนักงานยังเอามาเสิร์ฟเพิ่มให้อีก ยิ่งจะลดคาร์บอยู่นะ 555






เครื่องดื่มทางร้านให้เลือกระหว่างไวน์แดง Merlot ไวน์ขาว และแชมเปญ คนละแก้ว แต่คุณพ่อบ้านไม่ได้ดื่ม อิชั้นเลยสะเดิ้บเองทั้ง 2 แก้ว






สตาร์ตเตอร์ของอิชั้นเป็นเนื้อปูห่อแซลมอนรมควันประดับด้วยคาร์เวีย หั่นลงไปนี่เนื้อปูล้วนเต็มคำ เอามาถูไถกับซอสสีสวยที่ประดับตกแต่งมาข้างจานนิดนึง อร่อยมาก

อิชั้นพยายามสั่งอาหารให้ต่างไปจากของคุณพ่อบ้าน จะได้มีรูปหลากหลายหน่อยนะคะ แต่ความจริงคือชอบที่คุณพ่อบ้านสั่งไปทั้งหมดเลย อย่างที่ฝรั่งเขาว่า The grass is always greener on the other side of the fence หรือในกรณีการสั่งอาหารแล้ว อาหารที่คนอื่นสั่งมักดูน่ากินกว่าของเราเสมอ ใครรู้สึกเหมือนอิชั้นบ้าง ยกมือขึ้นเร้ว!!






สตาร์ตเตอร์ของคุณพ่อบ้านต้องเพิ่มเงินอีก HKD 38 คุณพ่อบ้านเห็นอิชั้นนั่งมองตาแบ๊วน้ำลายหยดแหมะ ๆ เธอเลยกรุณาตัดมาให้อิชั้นชิมด้วย เป็นฟัวกราส์ที่นุ่มละลายในปากสุด ๆ ควงมากับลูกแพร์สไลซ์รสชาติหวานเปรี้ยวตัดกันอย่างลงตัว






จานหลักของอิชั้นเลือกเป็นปลากระพงค่ะ วางมาบน ratatouille อิชั้นชอบจานปลากับมะเขือเทศอยู่แล้วนะคะ พอได้มาลองปลากับ ratatouille ที่เต็มไปด้วยผัก และมีรสชาติมะเขือเทศนำแบบนี้ บอกได้คำเดียวว่าเข้ากันที่สุด






จานหลักของคุณพ่อบ้านต้องจ่ายเงินเพิ่ม HKD 38 อีกเช่นกัน เป็นเนื้อเทนเดอร์ลอยน์นุ่มละลายในปาก ที่รู้พอขอเธอจกมาชิ้นนึงเหมือนเดิม เป็นจานที่อิชั้นอยากสั่งอยู่แล้ว ถ้าไม่ติดว่าอยากมีรูปอาหารที่ต่างกันออกไป






กำจัดจานหลักกันจนจานเกลี้ยงขาวสะอาดเลย พนักงานก็เอาถาดนี้มาวาง ในชุดมีชาและกาแฟให้เลือกด้วยค่ะ ร้อนก็ได้เย็นก็ดี






เราดื่มกาแฟดำกันทั้งคู่ เขามีคุ้กกี้ชิ้นเล็ก ๆ วางมาให้ด้วย อิชั้นก็ฟาดเองอีกแล้วทั้ง 2 ชิ้น เพราะคุณพ่อบ้านไม่กินของหวาน






เมนูอาหารกลางวันของร้านนี้ถูกใจอิชั้นซึ่งต้องการเอาใจคุณสามีเป็นอย่างมาก เพราะเธอไม่กินของหวานอย่างที่บอกไปแล้ว แต่คอร์สสุดท้ายของร้านนี้เขามีให้เลือกทั้งของหวานและชีส ซึ่งคุณสามีชอบกินชีสมาก เธอว่าชีสคุณภาพดีและอร่อย เขามีฟิกและแอปเปิลเขียวสไลซ์ และขนมปังกรอบบาง ๆ เข้ากันมากค่ะ






ปิดท้ายกันด้วยของหวาน ที่มีเพียงอย่างเดียวคือ แครมบูเล่ รสชาติอร่อย เข้มข้นไม่หวานมาก


พนักงานให้บริการดีมาก ๆ ตั้งแต่พนักงานเสิร์ฟ กัปตัน ยันผู้จัดการร้านซึ่งเป็นฝรั่ง คุณฝรั่งแวะเวียนมาที่โต๊ะบ่อยมาก อิชั้นซัดไวน์แก้วของตัวเองหมดแล้ว ก็สลับแก้วเปล่ากับอีกแก้วของคุณสามี (คือดื่มเองทั้งสองแก้วนั่นแหละ)

ผู้จัดการเห็นแก้วไวน์ของคุณสามีหมด ก็ไปหยิบขวดไวน์จะมาเติมให้เลย (เติมฟรีอ่ะนะคะ) คุณสามีตกใจ (และเกรงใจ) รีบบอกว่าไม่เติม ตัวเองไม่ดื่ม หมอสั่งห้าม คุณผู้จัดการก็บอกว่า ให้เปลี่ยนหมอเถอะ มาสั่งห้ามกินห้ามดื่มกันได้อย่างไร น่ารักดี

กัปตันห้องอาหารเห็นอิชั้นพยายามจะถ่ายรูปมุมอื่น ๆ ของร้าน ก็เข้ามาอาสาจะถ่ายให้เอาไหม ต้องบอกว่าไม่ต้อง แล้วก็ขอบคุณไป

เรียกว่าร้านนี้ถูกใจทุกอย่างไปหมด (ยกเว้นโต๊ะมุมอับ ฮ่าฮ่า)

ร้านนี้ให้คะแนน ★★★★ ไปเลยค่ะ เลิฟที่สุด


หากคุณชอบเนื้อหาที่อ่านอยู่นี้และอยากให้กำลังใจเจ้าของบล็อก คุณสามารถคลิก Like หรือแชร์ข้อมูลของบล็อกนี้ผ่าน Social Media ที่คุณใช้งานอยู่ หรือคลิกที่แบนเนอร์ Like us on Facebook ซึ่งอยู่ทางขวามือเพื่อติดตามเพจ facebook ค่ะ ขอบคุณค่ะ