ชื่อร้าน : Seorae 喜來稀肉รายการอาหาร : Korean BBQที่ตั้งร้าน : G/F-1/F, Passkon Court, 79-81 Kimberley Road, Tsim Sha Tsui, Hongkongพิกัด GPS : 22° 18' 4.03" N 114° 10' 29.76" E ภาพในบล็อกนี้อาจเปรียบได้กับกิมจิที่ถูกหมักดองใส่ไหเก็บไว้ในไฟล์มานานหลายเดือนจนลืมไปแล้ว จนเมื่อสองวันก่อน อิชั้นเห็นหนุ่มหนึ่งในก๊วนซึ่งไปร่วมจกบาร์บีคิวมื้อนี้ด้วยกัน เธอโพสต์ภาพลง facebook ว่ากลับถึงบ้านที่ญี่ปุ่นโดยสวัสดิภาพ เลยทำให้นึกถึงมื้อนี้ขึ้นมาค่ะ หุ้นส่วนคนหนึ่งของร้าน Seorae 喜來稀肉 นี้คือเพื่อนสาวของ Limi (เพื่อนสาวเกาหลีของอิชั้นเอง) ซึ่งตัวอิชั้นเองก็เคยเจอเพื่อนของ Limi คนนี้และเคยไปแฮงก์เอาต์กันมาแล้ว Limi ออกปากชวนอิชั้นไปร้านนี้หลายครั้งแล้ว (เธอรู้ว่าอิชั้นชอบอาหารเกาหลี และชอบกินเนื้อเป็นชีวิตจิตใจ) ตั้งแต่ร้านยังเพิ่งจะเปิดใหม่ จนบัดนี้ร้านเปิดมาได้ครึ่งปีกว่าและได้รับความนิยมขายดิบขายดีเป็นอย่างมาก หากคุณไปร้านนี้ในช่วงมื้อเที่ยงหรือมื้อเย็น ทำใจไว้เลยว่าจะต้องรอไม่ต่ำกว่า 1 ชั่วโมงค่ะ เขาขายดิบขายดีกันขนาดนั้น แถมลูกค้าในร้านยังเป็นหนุ่มสาววัยรุ่นถึงวัยทำงาน เรียกว่านอกจากจะมีอาหารปากแล้ว ยังมีอาหารตาให้ชมกันเพลิน ๆอย่างหนึ่งที่อิชั้นติดใจมาก ๆ คือกิมจิของที่นี่ซึ่งเป็นกิมจิสด หมักแค่ 1 คืนเท่านั้น คุณจะได้รสชาติเปรี้ยวอมเค็มอมเผ็ดหวานนิด ๆ แถมยังจะได้เท็กซ์เจอร์ของผักที่ยังกรุบกรอบด้วย เป็นกิมจิที่อร่อยที่สุดเท่าที่เคยกินมาเลยทีเดียวค่ะ กิมจิอีกอย่างคือถั่วงอกหัวโต ซึ่งก็เป็นกิมจิสดเหมือนกัน อร่อยกรอบถูกใจค่ะ สวรรค์ของคนรักเนื้ออย่างอิชั้นมาปรากฎอยู่ตรงหน้า Beef Bulgogi เนื้อหมักเหนียวนุ่มรสชาติกลมกล่อมสไตล์เกาหลี ไม่แน่ใจว่าเป็นเนื้อชนิดเดียวกันไหม เพราะเพื่อนสาวเกาหลีเป็นคนย่างเสิร์ฟให้เพื่อน ๆ ตลอด เราแค่นั่งคุยกับกินสองอย่างเท่านั้นเนื้อสไลซ์ชั้นดี ซึ่งเพื่อนสาวกระซิบว่าที่นี่ใช้แต่เนื้อนอกราคาแพง สาวสวยไม่ยอมให้เพื่อน ๆ หยิบจับอะไรเลย เธอลงมือเองทั้งสิ้น พร้อมบ่นว่าอยู่บ้านยังไม่เคยต้องทำเลยนะเนี่ย นอกจากจะสวยแล้วยังน้ำใจงามอีกด้วย ฮ่าฮ่าหากคุณสังเกตจะเห็นว่ากระทะที่ใช้ย่างมีหลุมโดยรอบ ซึ่งอิชั้นไม่เคยเห็นมาก่อนเลยนะ สาวสวยบอกว่าเอาไว้ย่างกระเทียมและไข่ค่ะ (ลองดูมุมขวาสิคะ) ชิมกันแล้วมันก็ไข่ย่างอ่ะนะ รสชาติไม่ได้อร่อยเลิศเลอแต่อย่างใดค่ะหมดไปหนึ่งเซ็ต ก็เริ่มเอาเนื้อสไลซ์เซ็ตใหม่ลง ไข่ย่างของเราก็เริ่มสุกฟูเชียวหลายคนเริ่มอยากกินข้าว สาวสวยเธอก็สั่งมาให้ เป็นข้าวโรยไข่กุ้ง สาหร่าย และงาวันนี้อิชั้นพกเลนส์ฟิกซ์มา มีความจำกัดในการซูมอยู่ค่ะ ได้มาแค่นี้เนื่องจากพวกเราไม่ได้ดูเมนูเลยล่ะค่ะ สาวสวยเธอรับหน้าที่ในการสั่งและเสิร์ฟตลอดงาน อะไรเป็นอะไรก็ไม่รู้เลยหนุ่มหนึ่งช่วยสาวเส้นขึ้นมาให้ถ่ายรูปอิชั้นอยากกินซุปกิมจิ สาวสวยก็สั่งมาให้ปิดท้ายรูปอาหารกันด้วยต็อกโบกิ Tteokbokki ที่มีไข่ต้มโปะมาด้านหน้า เห็นว่าเป็นอาหารโปรดของใครหลายคนนะ แต่สำหรับพวกเราไม่มีใครโปรดเท่าไหร่ (อิชั้นก็ไม่ชอบนะ) สาวญี่ปุ่น-หนุ่มฮ่องกงสาวเกาหลี แซร่าห์-เพื่อนสาวคนนี้เป็นสาวจีนฮ่องกงแท้ ๆ ที่ย้ายตามครอบครัวไปอยู่โรมมาตั้งแต่เล็ก ๆ เธอพูดคล่องทั้งจีนกวางตุ้ง อิตาเลียน และอังกฤษ แถมหน้าตายังออกเป็นฝรั่งลูกครึ่งเสียด้วย ทั้ง ๆ ที่พ่อกับแม่เป็นจีนทั้งคู่โซเฟีย-สาวเซอร์ประจำกลุ่ม หนุ่ม "ทาเคชิ" ที่อิชั้นเล่าให้ฟังในตอนแรก เธอเป็นหนุ่มญี่ปุ่นที่บริษัทแม่ส่งตัวมาทำงานที่ฮ่องกง แล้วเพิ่งจะหมดวาระครบสองปี กลับบ้านไปเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา มื้อนี้พวกเราเลยถือเป็นมื้อเลี้ยงส่งหนุ่มทาเคชินี่เองเพื่อนสาวญี่ปุ่นและเกาหลีเม้ามอยให้เธอฟังว่า อิชั้นไปญี่ปุ่นมาแล้วหลายครั้ง เธอก็ถามนั่นถามนี่ว่าไปไหนมาบ้าง อิชั้นเล่าสั้น ๆ ว่าไปโตเกียวมาครั้งนึง โอซากะกับเกียวโตสองครั้ง ล่าสุดไปฟุกุโอกะมา เธอตาโต "Fukuoka, where about?" อิชั้นตอบไปว่า "Hakata" คราวนี้เธอตื่นเต้นเสียงดัง "ห่า-ก้า-ต๊า" (กรุณาลากเสียงยาว ๆ จะได้อรรถรสมาก) พร้อมเฉลยว่าบ้านเธออยู่ห่าก๊าต๊า จากจุดนั้น เธอผูกขาดเม้ามอยกับอิชั้น เรียกอิชั้น Kay San, Kay San ตลอด ขำ ๆ ดีอิชั้นชอบร้านนี้มากนะคะ เพราะบรรยากาศและการตกแต่งร้านที่ทันสมัย บริการดีมาก (เกินมาตรฐานการบริการของฮ่องกงไปหลายขุมอยู่ค่ะ) อาหารอร่อยและราคาก็ไม่ได้แพงมากมาย อย่างมื้อนี้กินกันจนอืด อาหารอื่นนอกจากบาร์บีคิว เหลือจมค่ะ จ่ายกันไปประมาณคนละ 200 เหรียญ นับว่าไม่แพงเลยสำหรับร้านอาหารระดับนี้ ใครผ่านไปผ่านมาแถวนี้ เชิญไปลองกันได้ ขอย้ำเตือนกันไว้ก่อนว่า หากไปในช่วงมื้อเที่ยงหรือมื้อเย็น จะต้องรอโต๊ะประมาณ 1-2 ชั่วโมงนะคะ พบกันใหม่บล็อกหน้า สวัสดีค่ะ