"GROWING OLD IS MANDATORY,
GROWING UP...OPTIONAL" By Henri-Frédéric Amiel
|
||||
ซองใส่ซัมซุงกาแล็กซี่ เอส3 - Case for Samsung Galaxy S3 คุณทอมและคุณเบฟ เพื่อนที่เราไปพักบ้านเขาที่นิวแฮมเชียร์, อเมริกา... เมื่อตุลาคมปีก่อน มาพักผ่อนที่เชียงใหม่. วันอาทิตย์ที่แล้วไปทานอาหารกลางวันด้วยกันที่ร้าน 9 หมู่ 9 อยู่หนองควาย, หางดง... เราไปทานที่นี่ประจำทุกวันอาทิตย์ อาหารอร่อยมาก... นอกเรื่องไปไกล... พอดีเคสมือถือที่เคยซ่อมให้คุณทอมเมื่อสองปีก่อนยางยืดด้านข้างมันยืดจนใช้ไม่ได้เลยเอามาให้ซ่อมอีกครั้ง แต่ครั้งนี้คิดว่าทำใหม่จะง่ายกว่าซ่อม แต่คุณทอมอยากได้ตัวหนีบเข็มขัดจากเคสเดิม เลยต้องเลาะออกจากตัวเก่าแล้วเอามาโมดิไฟใหม่... เริ่มเลยแล้วกัน... ก่อนอื่นก็ตัดแพทเทิร์นกระดาษ ตามขนาดของมือถือ... ที่จริงซัมซุงกาแล็กซี่ เอส3 มีขนาด 136.6x70.6x8.6 mm. (อันนี้ได้ข้อมูลจากเวปไซด์ซัมซุม) แต่เครื่องของคุณทอมมีเคสยางกันกระแทก ขนาดเลยเพิ่มขึ้นเป็น 147.5x87.5x14 mm. ทั้งหลายทั้งปวงนี้เราต้องคิดภาพเอาเองเพราะมือถือไม่ได้อยู่ที่เรา มีแต่เคสเก่า เพราะเราต้องตัดเอาที่หนีบเข็มขัดมาใส่เคสใหม่นึกภาพไม่ออกเลยต้องมโนว่ามันน่าจะเป็นอย่างไรเลยติ๊ต่างกล่องไอพอดทัช เป็นซัมซุงเอส3 แต่มันสั้นไปเลยต้องเอาขวดฟูโอคาริล (สเปรย์พ่นปากหอม) มายัดใส่ก็พอเป็นตัวอย่างให้นึกภาพออกได้ว่าขนาดมือถือของจริงบวกเคสยางขนาดประมาณเท่านี้เท่านั้นนะ... หลังจากตัดกระดาษแพทเทิร์นเสร็จก็มามาตัดหนังและเอาแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองมาเพิ่มอีกนิดหน่อยไม่ให้มันดูเรียบเกินไป จากนั้นตัดหนังชิ้นเล็กเพิ่มเพื่อเป็นตัวยึดที่หนีบเข็มขัด อันนี้ทั้งวัดและกะด้วยสายตาให้ดูพองาม... หนังชิ้นเล็กเป็นตัวยึดที่หนีบเข็มขัดต้องสอยส่วนโค้งหลอกให้ดูสวยงาม แล้วติดกาวยางและตอกนำส่วนที่ยึดขาที่หนีบและรอบชิ้นงานทั้งหมดแต่ยังสอยไม่ได้ เพราะต้องเอาที่หนีบเข็มขัดยัดเข้าไปหลังตอกนำ เราลอกหนังชิ้นเล็กซึ่งเป็นตัวยึดที่หนีบเข็มขัดออก แต่ไม่ทั้งหมดและใส่ตัวยึดเข็มขัดเข้าไปแล้วติดหนังชิ้นเล็กกลับไปเหมือนเดิม จากนั้นเย็บส่วนที่เป็นขายึดทั้งสองข้าง... ดีที่ขายึดอันนี้มันปรับหมุนได้ 360 องศา ไม่งั้นคงเย็บลำบาก... พอเย็บเสร็จ... อาจเป็นเพราะเย็บตึง, ดึงด้ายเทียนแรงเกินไปเพราะกลัวว่าใช้ไปแล้วมันจะหลุด...ทำให้ทั้งหนังยึดและตัวเคสเบี้ยว... เราพยายามดึงและจัดหนังให้เรียบแต่มันก็ยังย้วยไปมา แต่ตอนติดกระดาษแข็งก็จะทำให้ตัวเคสเรียบได้ แต่ตัวยึดที่หนีบเข็มขัดก็แก้ไม่ได้แล้ว เบี้ยวนิดหน่อยไม่เป็นไรเพราะเป็นงานทำมือล้วนๆ (ข้ออ้างอ่ะ..อิ..อิ..) ติดตีนตุ๊กแกส่วนที่เป็นตัวเกี่ยวเข้ากับส่วนที่เป็นหน้าเคส (ด้านขวามือในรูป) แล้ววัดและทำเครื่องหมายเพื่อติดกระดาษแข็งสำหรับดามให้เคสอยู่ตัว (ลืมถ่ายรูปไว้ เลยเอารูปหลังจากติดหนังหมูและตอกนำมาให้ดู...) ส่วนหนังต่อที่เราตอกหมุดตกแต่งเราใช้ฟองน้ำดามเพื่อให้ฝาเปิดปิดเคสอยู่ตัว, นอกจากนั้นยังทำให้หนังส่วนนี้นูนเล็กน้อย ดูอวบอิ่ม (ฮ่ะ..ฮะ..ฮะ..) จากนั้นตัดกระดาษแข็ง ดามหนัง ซึ่งแบ่งเป็นสามส่วน คือส่วนฝาเปิดปิดเคส (ด้านซ้ายมือของภาพ), ส่วนตัวเคสด้านหลัง (ชินใหญ่สุดอยู่ตรงกลาง) และส่วนหน้าของเคส (ด้านขวามือของภาพ) ในรูปเราตัดหนังเพื่อทำด้านข้างเคสสองชิ้นเตรียมไว้ด้วย นำชิ้นงานมาทาบหนังหมูแล้ววาดโดยรอบชิ้นงาน เพื่อตอนติดกาวจะได้รู้ว่าต้องแปะตรงไหน ทั้งนี้เพราะเราต้องติดตีนตุ๊กแกอีกฝั่ง ซึ่งเราจะวาดแบบอีกด้านของหนังหมูไม่ได้... อันนี้เราแก้ปัญหาโดยการเอาตีนตุ๊กแกมาวางฝั่งที่วาดแบบไว้ แล้วใช้เข็มจิ้มลงไปสี่มุมของตีนตุ๊กแก และทำเครื่องหมายไว้ จากนั้นติดกาวยางแล้วก็เอาไปแปะอีกด้านแล้วจึงตอกนำและสอย... ถ้างงกับคำอธิบาย ก็ดูที่รูปถัดไป รูปนี้พลิกให้ดูหนังหมูอีกด้านที่ทำการติดตีนตุ๊กแก ด้านนี้ของหนังจะเป็นด้านที่ต้องโชว์เลยเขียนแบบด้านนี้ไม่ได้ แม้จะมาร์คจุดติดตีนตุ๊กแกเป็นอย่างดีแต่ก็ยังเบี้ยวไปด้านซ้ายนิดหน่อย แต่ก็แทบมองไม่เห็น.. จากนั้นทากาวยางทั้งชิ้นงานและหนังหมู แล้วเอาชิ้นงานติดหนังหมูตามแบบที่เขียนไว้บนหนังหมู.. เนื่องจากเราติดตีนตุ๊กแกอีกด้านของหนังหมู, ดังนั้นตอนติดชิ้นงานต้องระวังอย่าให้เบี้ยว รูปนี้เป็นชิ้นงานด้านในที่ติดหนังหมูแล้ว ตอกนำโดยรอบ และตอกหนังข้างเคสทั้งสองชิ้น... โดยปกติเวลานำหนังสองชิ้นมาสอยติดกันจะต้องทากาวยางแล้วตอกนำ แต่ครั้งนี้เราแยกตอกนำทั้งหมด เวลาสอยก็นับรู แล้วทำเครื่องหมายว่าจะเริ่มเอาหนังชิ้นข้ามาสอยต่อกันตรงไหน.. ในรูปก็จะเห็นจุดที่เราหมายไว้อย่างชัดเจน งานชิ้นนี้เราเริ่มจากปากเคส เพื่อความสะดวก, ที่จริงอยากเริ่มตรงที่เราสามารถซ่อนจุดจบของด้าย แต่ด้วยความขึ้เกียจและมักง่าย อิ..อิ.. พอสอยจนถึงจุดที่หมายไว้ ก็เอาชิ้นหนังด้านข้างมาทาบแล้วสอยต่อไปเลย โดยย้ำรูแรกที่สอยหนังเชื่อมกันสองชิ้น เพื่อความทนทาน จากนั้นก็สอยต่อจนจบ แล้วตัดด้ายส่วนที่เหลือและใช้ไฟแช็คลนตรงปลาย ขั้นต่อมาก็ทานสีขอบ... เพื่อปิดรอยเชื่อมหนังและซับให้ดูเป็นชิ้นเดียวกันและเพื่อความคงทน ทั้งนี้สีทาขอบหนังมีคุณสมบัติยืดหยุ่นทำให้ช่วยรักษาขอบหนังได้เป็นอย่างดี เสร็จแล้วก็ถ่ายภาพความหล่อซะหน่อย... ด้านหลัง..ไม่บอกไม่รู้ว่ารีไซเคิลนะเนี๊ยะ... ดูดีที่สุด...อิ..อิ... ภาพนี้เปิดให้ดูการติดตีนตุ๊กแก เทียบกับเคสอันเก่า (ด้านหน้า) นี่มันคนละไซส์เลยอ่ะ...หรือว่าเราจะทำใหญ่ไป..เริ่มจะกังวลใจแล้วอ่ะ เพราะงานของเราทำแบบตายตัว แก้ไม่ได้ต้องทำใหม่ไปเลย... หรือถ้าจะแก้ก็คงเป็นเรื่องใหญ่น่าดู... เทียบกับเคสเก่า (ด้านหลัง) เห็นแล้วเศร้า...เคสเก่าโดนแย่งที่หนีบเข็มขัดอ่ะ :( ปกติจะไม่รับทำอะไรให้ใครเพราะขี้เกียจเป็นอย่างมากถึงมากที่สุด... แต่งานชิ้นนี้ตั้งใจทำเพื่อแสดงความขอบคุณ คุณทอมและคุณเบฟ ที่ให้ที่พักและพาไปเลี้ยงอาหาร ตอนไปเที่ยวอเมริกาเมื่อปีก่อน (2013) กลับจากทริปนั้นก็ไปอีกหลายทริป, ลงมือเขียนบล๊อกท่องเที่ยวได้สถานที่ละตอนสองตอน เอาไว้ว่างๆ จะลงมือเขียนให้เสร็จทุกทริป เอาเก็บไว้อ่านตอนแก่ (กว่านี้ อิ..อิ..) จบแล้วนะ ฮ้าร์ฟฟฟฟ... กราบขอบพระคุณที่เข้ามาฟังเราโม้... |
annopwichai
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 88 คน [?] ชีวิตอิสระ, ชอบความเรียบง่าย, เป็นโรคภูมิแพ้ IT
Group Blog
All Blog
Link MY VIP Friend |
|||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |