สารบัญ | ตอนที่แล้ว | ตอนถัดไป
จอมจักรพรรดิ์ ฮั่นอู่ตี้ ภาค 1 - ตอนที่ 28
ตีพิมพ์ครั้งแรก : 3 สิงหาคม 2550 / ปรับปรุงแก้ไข :
28-1
ก่วนเถากงจู่กำลังนั่งถอดเครื่องประดับอยู่ที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง เฉินอาเจียวเห็นว่าแม่ของตนเองกลับมาแล้วจึงเดินเข้าไปทัก “ท่านแม่ ท่านกลับมาแล้วเหรอ” “รีบมาช่วยแม่หน่อยเร็ว แม่เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว” เฉินอาเจียวก้มลงไปดูที่ใบหน้าแม่ของตนเองแล้วกล่าว “ท่านแม่ เล่นทาแป้งซะหนาเตอะเชียว” “ก็แม่ออกไปพบคนมานี่นา” “จริงสิท่านแม่ ท่านได้เข้าเฝ้าหวงตี้แล้วหรือยัง” “เข้าเฝ้าไม่ได้ แม้แต่หวงโห้วเองก็ยังถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าเฝ้า(闭门羹)เลย” “แล้ว...แล้วเรื่องของไท่จื่อล่ะ ท่านแม่ได้บอกกับหวงตี้หรือเปล่า” “ได้บอกซะที่ไหนกันล่ะ หวงตี้ทรงบรรทมหลับอยู่” “ทรงบรรทมหลับอยู่ ท่านแม่ก็ส่งเสียงปลุกสิ ฮึ ข้าคิดเอาไว้แล้วเชียว ว่าเรื่องใหญ่ขนาดนี้ไหว้วานท่านแม่ให้ไปจัดการ ต้องไม่ได้เรื่อง(白托)แน่ๆ” เฉินอาเจียวรู้สึกหงุดหงิดขึ้นทันที “ลูกเจียว เจ้าไม่ต้องกังวลใจไปหรอกนะ ไท่จื่อก็เหมือนเด็กเล็กๆที่ชอบเล่นซุกซน แค่หนีออกไปเที่ยวเล่นไม่กี่วันเอง คงไม่เป็นอะไรหรอกน่า อีกอย่างคนติดตามที่อยู่ข้างกายของไท่จื่อก็มีตั้งหลายคน อ๋องเหลียงก็ทรงอยู่ด้วย คงยากที่จะไปเกาะแกะข้องแวะกับสาวอื่นได้หรอกน่า เจ้าสบายใจเถอะ” เฉินอาเจียวยิ่งหงุดหงิด “ท่านแม่อ่ะ ไม่ใช่เรื่องนี้สักหน่อย ท่านไม่รู้จริงๆหรือว่า ที่นายพลหลีก่านต้องถูกจับขังคุกมาจนทุกวันนี้ก็เป็นเพราะปล่อยให้พวกเค้าหนีออกจากวังไปเที่ยวกันน่ะ” “เอ๊ะ แต่ว่าแม่ก็ถามไท่โห้วแล้วนะ ทรงบอกว่านายพลหลีก่านทำผิดในเรื่องอื่นต่างหาก ไม่เกี่ยวกับไท่จื่อเลยด้วยซ้ำ” “ท่านแม่ก็ ไม่รู้ไปหลงเชื่อคำพูดของท่านยายได้อย่างไรกัน ลูกชักไม่แน่ใจแล้วสิว่า เป็นเพราะท่านยายฉลาดหรือว่าเป็นเพราะท่านแม่ซื่อบื้อกันแน่” ก่วนเถากงจู่เหนื่อยใจกับความเอาแต่ใจของลูกสาว “เจ้าลูกคนนี้นี่ ดูพูดเข้า เจ้าพูดจาอย่างนี้ได้ยังไงกัน แม่กับท่านยายเป็นผู้ใหญ่(长辈)กว่าเจ้านะ” “ผู้ใหญ่นะเหรอ ที่ทำให้เรื่องของข้าเสียก็เพราะผู้ใหญ่อย่างพวกท่านนี่แหละ ฮึ” พูดจบเฉินอาเจียวก็ลุกเดินหนี ก่วนเถากงจู่เข้าไปรั้งตัวเฉินอาเจียว “ลูกเจียว แล้วลูกจะออกไปไหนอีกล่ะนั่น ใกล้จะมืดค่ำแล้วนะลูก” “แม่ไม่ต้องมายุ่งเลย” พูดเสร็จก็เดินตัวปลิวออกไป
28-2
ไท่จื่อถูกชิวฉานไล่ตะเพิดออกมาจากห้อง เดินบ่นลงบันไดมาอย่างหัวเสียว่า “ไม่ช้าก็เร็ว เจ้ากับข้าจะต้องได้แต่งงานกัน ฮึ” “จิ่วเกอ ดูรุกรี้รุกรนขนาดนี้จะแต่งงานกับใครเหรอ” ก้วนฟูที่ยืนดักรออยู่ด้านล่างเอ่ยถามจนไท่จื่อรู้สึกหงุดหงิด แถมยังมีหลี่หลิงเข้ามาพูดเร่งเข้าให้อีก “จิ่วเกอ รีบกลับกันเถอะ อ๋องเหลียงคอยท่านตั้งนานแล้วล่ะ” ไท่จื่อซึ่งกำลังอยู่ในอารมณ์ที่ไม่ค่อยดีและหงุดหงิดจึงเอ่ยออกไปอย่างพาลๆว่า “ใครให้เค้ารอ ใครเชิญเค้าให้รอ เค้าอยากรอก็ปล่อยให้รอไปสิ” พูดเสร็จก็ทำท่าจะเดินหนีไป ก้วนฟูรีบเอ่ยถาม “นี่ก็ดึกมากแล้ว ที่พักท่านก็ไม่กลับ ท่านยังจะไปที่ไหนอีก” “ข้าจะไปหาตงฟางซั่ว” หลี่หลิงพูดขัดขึ้น “ไม่ได้นะ จิ่วเกอ พี่สามบอกข้าหมดแล้วล่ะว่า พวกท่านนัดกันพรุ่งนี้นี่” “แต่ข้ารอไม่ไหวแล้ว” พูดเสร็จก็เดินหนีไปทันที
28-3
“เห็นทีข้าคงจะต้องกลับแล้ว” เนี่ยนหนูเจียวเอ่ยบอกตงฟางซั่ว “นำยานี่ติดตัวไปด้วยสิ” ตงฟางซั่วเอ่ยพร้อมกับยื่นยาให้ “แต่ข้าไม่ได้พกเงินติดตัวมา” “ค่อยให้ข้าคราวหน้าก็ได้” “ทำไมคำพูดของท่าน ถึงได้ดูเป็นการเป็นงาน(公事公办)เสมอนะ ท่านคิดว่าที่ท่านทำทีว่าเป็นคนเห็นแก่ผลประโยชน์(唯利是图的面孔) คนอื่นจะดูท่านไม่ออกหรืออย่างไร” “เสื้อผ้าของข้าก็ขาดๆวิ่นๆ มีตรงไหนให้ดูออกอย่างงั้นเหรอ” “ท่านอย่าพูดแบบนี้กับข้าได้หรือไม่” “งั้นจะให้ข้าพูดกับเจ้ายังไงล่ะ” “ท่านก็รู้อยู่แล้ว” “นี่แม่นาง เจ้าดูจะมีอารมณ์จนเกินไปแล้ว” “ข้าเกลียดชังท่าน เพราะว่าท่านเย็นชา(激动)เกินไป ไม่ว่าเรื่องอะไรท่านล้วนมองด้วยหางตา เก็บซ่อนไว้ในใจ ทำท่าไม่สนใจใยดีต่อโลก(与世无争) แต่ความจริงแล้วในใจก็เต็มไปด้วยความปรารถนาในอำนาจ ท่านก็เหมือนกับเจียงจื่อหยา ที่รอคอยให้โจวเหวินหวังมาหา แล้วเชิญออกจากภูเขา” “แม่นาง เจ้ายกย่องข้าเกินไปแล้ว แต่ข้ารู้สึกดีใจจนเนื้อเต้นที่ได้รับเกียรติเช่นนี้(受宠若惊)” “แค่เผชิญหน้ากับความจริงที่อยู่ในใจ ท่านจะเปิดเผยความจริงในใจออกมาสักครั้งไม่ได้หรืออย่างไร แค่ครั้งเดียวเท่านั้น” เนี่ยนหนูเจียวอ้อนวอนเพราะอยากรู้ว่าตงฟางซั่วคิดอย่างไรกับนาง ตงฟางซั่วรู้ทันจึงพูดเฉไฉไปทางอื่นว่า “ต้องขอโทษด้วย ข้าทำนายเป็นอย่างเดียว อย่างอื่นข้าทำไม่เป็น” “งั้นท่านก็ทำนายอีกสักครั้งสิ” “วันนี้ข้าทำนายครบสามครั้งแล้ว ยังไงก็ไม่ทำนายอีกแล้ว” ทันใดนั้นก็มีเสียงไก่ขันดังแว่วมา เนี่ยนหนูเจียวจึงเอ่ยอย่างผู้มีชัยว่า “นั่นเสียงไก่ขัน แสดงว่าขึ้นวันใหม่แล้วนะ” ตงฟางซั่วยอมจำนน “ก็ได้ ข้าทำนายให้ก็ได้ ว่าแต่จะทำนายให้ตัวเจ้าเองใช่หรือไม่” “ทำนายให้ท่าน” “ทำนายให้ข้าเหรอ แต่หมอรักษาตนเองไม่ได้นะ” “ท่านก็พยายามดูสักครั้งสิ ถือว่าข้าขอร้องท่าน”
28-4
ก้วนฟูกับหลี่หลิงเดินตามไท่จื่อไม่ทันจนต้องตะโกนบอก “จิ่วเกอ รอด้วยสิ” “จิ่วเกอ เมื่อกี้นี้ท่านไปหาเนี่ยนหนูเจียวใช่หรือเปล่า ผู้หญิงคนนั้นก็ไม่เลวนะ ทั้งสวย แถมยังเป็นลูกสาวของนายพลอีกด้วย” ก้วนฟูเอ่ยขึ้น “นางไม่อยู่” ไท่จื่อหันไปบอกอย่างอารมณ์ไม่ค่อยดี หลี่หลิงเอ่ยถาม “แล้วผู้หญิงที่ชื่อชิวฉาน ท่านได้พบกับนางหรือเปล่า” ไท่จื่อหยุดเดินหันมาบอก “นางช่างแก่นแก้วกระโดกกระเดก(野丫头) ดูหยิ่งยโส(狂妄)เสียเหลือเกิน ข้าจะต้องปราบพยศนางให้ได้ พวกเจ้าคอยดูก็แล้วกัน” หลี่หลิงรีบแก้ตัวให้ชิวฉาน “จิ่วเกอ แล้วท่านจะปราบนางยังไงล่ะ ท่านยังไม่คุ้นเคยและก็ไม่เข้าใจนางดีพอนะ จิ่วเกอ ท่านรู้หรือเปล่าว่า นางนะเป็นผู้หญิงที่ดี ท่านคิดดูสิ ในตอนนั้นนางยอมไปเฝ้าศพ(守灵)จางเชียนทั้งๆที่ตัวนางเองก็กลัว ที่นางยอมทำทุกอย่างก็เพื่อท่านนะจิ่วเกอ” “เรื่องนี้ข้ารู้” หลี่หลิงเอ่ยต่อ “จิ่วเกอ ท่านจะตอบแทนบุญคุณของนางด้วยความแค้น(恩将仇报)ไม่ได้นะ” “เจ้าคิดว่า ข้าจะทำเหรอ ข้ามีเจตนาอย่างนั้นนะเหรอ ที่ข้าบอกว่าจะปราบพยศนาง ไม่ใช่อย่างที่เจ้าคิดหรอก ข้าเพียงแต่จะให้แก้วแหวนเงินทองยศถาบรรดาศักดิ์(荣华富贵)แก่นางต่างหากล่ะ” “จิ่วเกอ ผู้หญิงตัวคนเดียวจะเอาเงินเอาทองเอายศเอาตำแหน่งไปทำไมกัน ข้าว่าท่านจัดงานแต่งให้กับนาง หาบ้านดีๆสักหลังให้นางไว้ใช้ชีวิตจนแก่จนเฒ่าจะดีกว่าอีกนะ” “ที่เจ้าคิดไว้นะ ข้าก็คิดเอาไว้อยู่ก่อนแล้วล่ะ” “จริงหรือเปล่าจิ่วเกอ สมกับเป็นจิ่วเกอที่แสนดีของข้าจริงๆเลย” หลี่หลิงดีใจจนออกนอกหน้ากระโดดโลดเต้นไปมา จนไท่จื่อต้องเอ่ยถาม “เจ้าดีใจอะไร แล้วมันเกี่ยวอะไรกับตัวเจ้าด้วยเหรอ” ได้ยินที่ไท่จื่อเอ่ยถามหลี่หลิงถึงกับเสียหลักล้มลงทันที “อ้าว ท่านไม่ได้ตกลงที่จะมอบนางให้แต่งกับข้าหรอกหรือ” “เจ้านะหรือ” ไท่จื่อแปลกใจ ก้วนฟูเข้าไปพยุงตัวหลี่หลิงแล้วพูดจาเหน็บแนม “อะไรกัน คนไม่เป็นโล้ไม่เป็นพายลอยไปลอยมาอย่างเจ้าเนี่ยนะ คิดมาร้องขออยากมีเมีย” “จิ่วเกอ คนที่ท่านคิดเอาไว้ไม่ใช่ข้าใช่ไหมเนี่ย” “นี่ นางมีอะไรดีเหรอ ทั้งซุกซนทั้งแข็งกระด้าง(又调皮又野)ไร้เหตุผลออกปานนั้น ตัดใจซะเถอะ เอาไว้กลับถึงฉางอันเมื่อไหร่ ข้าจะหาคนที่เพียบพร้อมทั้งความรู้มีเหตุมีผลให้กับเจ้าเอง รับรองว่าสวยกว่านางสิบเท่าเลยทีเดียว” “จิ่วเกอ ถึงท่านจะหาคนที่สวยกว่านางยี่สิบเท่าข้าก็ไม่เอา ข้าต้องการแต่ชิวฉาน จะใครคนไหนข้าก็ไม่ต้องการทั้งนั้น จิ่วเกอท่านไม่รู้หรอกว่า พวกเราสองคนมีโชคชะตาวาสนาต่อกัน แค่พบกันครั้งแรกเราสองคนก็รู้สึกเหมือนกับรู้จักกันมานานแสนนาน ไม่สิ เป็นพรหมลิขิตที่กำหนดเอาไว้แล้วต่างหากถึงอยู่ไกลแค่ไหนก็ได้มาพบกัน จิ่วเกอ ข้าขอร้องท่านล่ะนะ ช่วยพวกเราให้สมปรารถนา(成全)ด้วยเถอะนะ” ก้วนฟูพูดตัดบท “นี่จิ่วเกอยังมีเรื่องต้องทำอีกนะ ไปกันเถอะ” พูดจบก็ลากมือไท่จื่อออกเดินพร้อมบอกไท่จื่อว่าไม่ต้องไปสนใจคำพูดของหลี่หลิง หลี่หลิงลงทุนคุกเข่าเอ่ยขอร้อง “จิ่วเกอ” ไท่จื่อหันกลับไปมองแล้วเอ่ย “ไม่นะ..ไม่ เจ้าลุกขึ้นมาก่อน ถึงแม้ว่าข้าจะรับปากเจ้า แต่ปู่ของเจ้าหลีกว่าง ลุงของเจ้าหลีก่าน พวกเค้าก็ยังอยู่นี่น่า ยังไงเรื่องการแต่งงานก็ควรจะให้พวกเค้าเป็นผู้ตัดสินใจ” “แต่ว่าจิ่วเกอ ท่านเป็นถึงไท่จื่อ วันข้างหน้าท่านก็จะได้เป็นหวงตี้ หากท่านรับปากแล้ว ยังไงซะพวกเค้าก็ไม่มีทางคัดค้านแน่นอน” “จิ่วเกอของเจ้า เพิ่งฉุกคิดขึ้นมาได้ ว่าความฝันของเจ้าจะได้เป็นจริงแล้วล่ะ” “ขอบคุณท่านมาก” หลี่หลิงกล่าวขอบคุณไท่จื่อด้วยความดีใจ “ครั้งหน้าจะรับปากอะไร ไม่ต้องไวเหมือนตอนนี้ก็ได้นะ” ไท่จื่อเอ่ยแซว “ก็แค่ครั้งนี้เท่านั้นแหละ ครั้งหน้าไม่มีอีกแล้วล่ะ” ไท่จื่อออกเดินแล้วอมยิ้มไม่ให้หลี่หลิงเห็น ส่วนก้วนฟูก็เอ่ยกับหลี่หลิงว่า “คงถูกใจเจ้าละสิ” แล้วทั้งสองก็เดินตามไท่จื่อไป
28-5
“จื่อฟู ดึกป่านนี้แล้ว ใครมาส่งเสียงเคาะประตูเรียกเหรอ” ผิงหยางกงจู่พร้อมสามีเดินออกมาถามสาวรับใช้ที่ชื่อว่าเว่ยจื่อฟู “ทูลองค์หญิง คุณหนูเฉินอาเจียวธิดาของก่วนเถากงจู่ มาขอเข้าเฝ้าองค์หญิง เพคะ” “ทำไมนางมาเอาป่านนี้นะ” ผิงหยางกงจู่สงสัย เฉาโซ่วสามีของผิงหยางกงจู่เอ่ย “ในวังเกิดเรื่องขึ้นหรือเปล่า” ผิงหยางกงจู่ดุสามี “อย่าพูดเหลวไหล ไม่ใช่เรื่องของเจ้า เจ้ากลับเข้าไปนอนก่อนเถอะ” “ก็ได้ งั้นข้าไปนอนก่อนนะ” ผิงหยางกงจู่หันไปสั่งเว่ยจื่อฟู “เจ้าไปเชิญนางเข้ามาได้” “เพคะ”
28-6
“ท่านพี่ ท่านพี่ ครั้งนี้มีแต่ท่านเท่านั้นที่จะช่วยน้องได้” เฉินอาเจียวเดินแทบจะวิ่งเข้ามาหาผิงหยางกงจู่ “เจ้านั่งลงก่อนสิ ใจเย็นๆ เกิดอะไรขึ้นเหรอ” “ท่านพี่ ในใจของข้ารู้สึกกลัว กลัวมากเสียด้วย” “เจ้าค่อยๆพูดนะ” หันไปบอกเว่ยจื่อฟู “เจ้ารีบไปปิดประตู และไม่ต้องให้ใครมาคอยรับใช้เราอีกแล้ว” “เพคะ” เว่ยจื่อฟูรับคำเสร็จก็เดินออกไปจากห้องแล้วปิดประตู
|