อรุณสว่างยามเช้า กับ พุทธพจน์เตือนใจ ตอนที่ 569
"ผู้ฉลาดนั้น เป็นผู้เพ่งพินิจ มีความเพียรติดต่อกัน มีความบากบั่นมั่นคงเป็นนิตย์ ย่อมถูกต้องพระนิพพาน อันเป็นแดนเกษมจากโยคะ หาธรรมอื่นยิ่งกว่าไม่ได้"ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท
บุคคลผู้มีปัญญา หากปรารถนาจะหลุดพ้นจากทุกข์ในสังสารวัฏ ต้องแสวงหาหนทางพระนิพพาน อันเป็นทางแห่งความบริสุทธิ์ อีกทั้งต้องมีความพากเพียรพยายามไม่ลดละ เพื่อทำความปรารถนานั้นให้สำเร็จ จนได้บรรลุมรรคผลนิพพาน ประสบความสำเร็จในชีวิต ทั้งยังสามารถเป็นกัลยาณมิตรชี้ทางสว่าง และเป็นแบบอย่างให้กับชาวโลกได้อีกด้วย
"จากส่วนหนึ่ง ของรายการธรรมะเพื่อประชาชน โดย พระเทพญาณมหามุนี"
อรุณสว่างยามเช้า กับ พุทธพจน์เตือนใจ ตอนที่ 205
โดยอัธยาศัยทั่วไปมนุษย์จะมีความประพฤติดี หรือมีความกระด้าง หรือประณีตแตกต่างกันออกไป พอจะแบ่งย่อๆ เป็น 4 ประเภทด้วยกัน คือ
ประเภทแรก ชอบใจในการบำเพ็ญบุญกิริยาวัตถุ หมั่นทำทาน รักษาศีลและเจริญสมาธิภาวนาอยู่ไม่ขาด เพราะฉะนั้น ขณะใกล้ตายจะสามารถระลึกนึกถึงเรื่องบุญกุศลที่ตนเคยทำเอาไว้ได้ เพราะมีใจชุ่มอยู่ในบุญ ใจผ่องใสเป็นปกติ บุญกุศลอะไรที่ได้ทำเอาไว้ ก็จะมาปรากฏให้เห็นชัดเจน ละโลกไปแล้วก็ไปดีไปสู่สุคติโลกสวรรค์ ตามกำลังบุญที่ได้สั่งสมมา ไม่ต้องไปเกิดในอบายภูมิทั้ง 4
อรุณสว่างยามเช้า กับ พุทธพจน์เตือนใจ ตอนที่ 206
อัธยาศัยของมนุษย์ ประเภทที่ 2 ชอบทำทั้งกุศลและอกุศลปะปนกันไป เมื่อถึงคราวใกล้ตาย ถ้าหากพยายามระลึกถึงบุญกุศลเอาไว้ให้มาก หรือมีผู้อยู่ใกล้ชิดช่วยเตือนสติให้ระลึกถึงกุศลกรรมที่ทำเอาไว้ ก็สามารถช่วยให้พ้นจากอบายได้เหมือนกัน เว้นแต่มีทุกขเวทนามาก เลยนึกไม่ออก และไม่มีญาติพี่น้องคอยเตือนสติ จิตใจจึงมีแต่ความหมอง กลุ้มใจเสียใจ อย่างนี้อาจต้องไปเจอพญายมราชในอบายภูมิเพื่อตัดสินบุญบาปที่ทำมาทั้งหมด
อรุณสว่างยามเช้า กับ พุทธพจน์เตือนใจ ตอนที่ 207
อัธยาศัยของมนุษย์ ประเภทที่ 3 ชอบทำบาปอกุศลมากกว่าทำบุญ ไม่มีอารมณ์อยากทำความดี หรือเป็นประเภทกินบุญเก่า มีความเชื่อมั่นในตัวว่า ที่ประสบความสำเร็จมาได้จนถึงทุกวันนี้ เพราะหนึ่งสมองสองมือ และตนเองก็ไม่ได้ไปรบกวนใครให้ลำบาก การประพฤติตนก็ไม่เป็นภาระสังคม ไม่เคยทำให้ใครเดือดร้อน แค่นี้ก็น่าจะพอแล้วสำหรับชีวิตนี้ ฉะนั้น พอใกล้จะละโลกก็นึกถึงบุญไม่ออก คนเรานั้นถ้าไม่ทำบุญ บาปก็เข้าแทรก เพราะฉะนั้น ก่อนตายแม้จะมีญาติพี่น้องมาช่วยให้นึกถึงบุญ ก็นึกไม่ออก ต้องช่วยเหลือกันอย่างเต็มที่เป็นพิเศษทีเดียว จึงพอจะช่วยได้บ้างแต่ก็ยาก
อรุณสว่างยามเช้า กับ พุทธพจน์เตือนใจ ตอนที่ 208
อัธยาศัยของมนุษย์ ประเภทสุดท้าย คือทำอกุศลอย่างเดียว เป็นพวกมิจฉาทิฏฐิ ไม่เชื่อเรื่องบุญเรื่องบาป ไม่เชื่อเรื่องโลกนี้โลกหน้า ไม่เชื่อเรื่องนรกสวรรค์ จึงไม่ทำบุญอะไรสักอย่าง พวกนี้ตายไปแล้ว ไม่พ้นจากการไปสู่อบายภูมิได้เลย
สรุปว่า เราควรเป็นแบบประเภทแรกดีกว่า ที่ชอบใจในการบำเพ็ญบุญกิริยาวัตถุ หมั่นทำทาน รักษาศีลและเจริญสมาธิภาวนาอยู่เป็นประจำไม่ขาดเลยดีกว่า เราต้องออกแบบชีวิตในภพชาตินี้และในภพชาติต่อไปให้สมบูรณ์พร้อมทั้งรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ คุณสมบัติ บริวารสมบัติ ลาภ ยส สรรเสริญ สุข และมรรคผลนิพพาน
***
Cr: https://goo.gl/Gs1tiR
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เตยจ๋า Dharma Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น