พระเครื่อง : แหล่งข้อมูลบทความพระเครื่อง เครื่องรางของขลัง และวัตถุมงคล
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2556
 
29 ตุลาคม 2556
 
All Blogs
 
ประยุทธ์ ศิริพานิชย์ เปิดใจดันนิรโทษสุดซอย (สัมภาษณ์พิเศษ)

ประยุทธ์ ศิริพานิชย์ เปิดใจดันนิรโทษสุดซอย

สัมภาษณ์พิเศษ



มีเสียงสะท้อนจากเพื่อนๆ สมาชิก ว่า ถ้างานนี้จบ ผมได้ตำแหน่ง เป็นรางวัลแน่... ให้ เรียกผมว่า "หมา" นำหน้า ถ้ายอมรับตำแหน่ง





สร้างหน้าประวัติศาสตร์การเมืองอีกครั้ง สำหรับ ประยุทธ์ ศิริพานิชย์ ผู้เสนอร่างนิรโทษกรรมฉบับสุดซอย



รู้ทั้งรู้เป็นปมร้อนและเสี่ยงจะบานปลาย แล้วมีเหตุผลอะไรที่เสนอเข้าในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของบ้านเมือง



นายประยุทธ์มีคำชี้แจงดังนี้



ข้อเสนอนิรโทษกรรมฉบับสุดซอย มีที่มาที่ไปอย่างไร



ได้แจ้งความประสงค์ไปยังพรรคเพื่อไทยว่าขอเป็นกรรมาธิการ (กมธ.) ด้วย พรรคก็ให้ความไว้วางใจเนื่องจากมีประสบการณ์



ในอดีตช่วง 6 ต.ค. 2519 ผมถูกขังลืมและได้รับการนิรโทษกรรม 24 ก.ย. 2519 ที่สุด 25 ธ.ค. 2519 ได้มีชีวิตอิสระ นี่คือความเจ็บปวดที่มีต่อการปฏิวัติรัฐประหารมาโดยตลอด



และผมจบสาขากฎหมาย ทำงานด้านกฎหมายมาตลอด เห็นว่าปัญหาบ้านเมืองมันสุกงอมเต็มที่แล้ว จึงไม่อยากเห็นความหายนะของบ้านเมืองจากคนไทยด้วยกัน ก่อนตายจึงอยากเห็นบ้านเมืองสงบเพราะฝีมือเรา



การเสนอร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวตอบได้ง่ายว่าไม่ขัดหลักการ กฎหมายฉบับนี้มีหลักการแบบเปิด พร้อมเหตุผลประกอบ



มาตรา 3 ที่ปรับแก้ ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก

ร่างดังกล่าวได้เติมวรรคสองของมาตรา 3 คือไม่ต้อง การให้นิรโทษกรรมผู้กระทำผิด มาตรา 112 ของประมวลกฎหมายอาญา และถ้าเขียนแบบนี้ โดยไม่แก้ไขวรรคหนึ่งก็จะขัดกันในกฎหมายมาตราเดียวกันเอง



ถามว่าต้องการคืนเงินให้กับพ.ต.ท.ทักษิณใช่หรือไม่ ตอบได้เลยว่าไม่ใช่ หลักกฎหมายนิรโทษกรรมทั่วโลกต้องมีการกระทำเกิดขึ้นก่อน แล้วการกระทำต้องเป็นความผิด และการออกกฎหมายต้องไม่ไปยกเลิกตัวบทกฎหมายอื่น



ขณะที่ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับ นายวรชัย เหมะ ที่ไม่รวมการนิรโทษกรรมแกนนำ ผู้สั่งการนั้น ตัวปัญหายังไม่ได้รับการแก้ไข



ถ้ามีการประกาศใช้ถึงเวลานั้นใครจะยอมรับว่าตัวเองเป็นแกนนำ ต่างก็หวังได้รับผลพวงจากการนิรโทษกรรมทั้งสิ้น ซึ่งไปสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญมาตรา 30 ที่ระบุว่าทุกคนเสมอกันทางกฎหมายและต้องได้รับการคุ้มครองเท่าเทียมกัน



ถ้าร่างของนายวรชัยออกไป เชื่อว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญแน่นอน เท่ากับเป็นโมฆะ



ส่วนที่ฝ่ายค้านนำไปตีความว่าเป็นการคืนเงินพร้อมดอกเบี้ยและโละคดีที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ตรวจสอบพ.ต.ท. ทักษิณ



ผมเอาชีวิตเป็นประกัน ถ้ากฎหมายฉบับนี้ออกไป แปลว่าพ.ต.ท.ทักษิณได้เงินคืน เอาผมไปประหารชีวิต ชีวิตผมก็รักถ้าไม่มั่นใจจะพูดทำไม



การตีความเช่นนั้นคือการจุดไฟในสังคมมากกว่า เพื่อให้กระแสมันจุดติด แต่จุดคนอย่างผมไม่ติด



การเสนอร่างฯ ผมยึดตามหลักทัณฑวิทยาด้วย คือหลักการลงโทษ ผู้กระทำความผิดจะต้องได้รับโทษไม่ว่าในฐานะตัวการ ผู้สนับสนุน ผู้ใช้ ผู้ถูกใช้ ย่อมมีอัตราโทษที่แตกต่างกัน



ยกตัวอย่าง นาย ก. เป็นลูกน้องของผม วันหนึ่งผมพูดกับนาย ก. ว่า นาย ข. สมควรตาย น่าจะยิงหัว บังเอิญนาย ก. เลือดร้อนไปยิงนาย ข. ตาย



กฎหมายฉบับนายวรชัยออกบังคับใช้ ตัวการร่วมอย่าง นาย ก. เป็นคนยิง ได้รับประโยชน์จากกฎหมาย แต่ผมเป็นตัวการร่วมที่พูด พูดแค่นี้แต่ดันไปติดคุก คนยิงกลับไม่ติดคุก อย่างนี้หลักการลงโทษก็ไม่ถูก ทั่วโลกไม่มีใครทำกัน



ดังนั้น ไม่ได้ต้องการรวมนิรโทษกรรมคดีคอร์รัปชั่น แต่เป็นลักษณะคดีกึ่งการเมือง ประกอบคดีแพ่ง คดีอาญา ก็แล้วแต่ความเหมาะสม คดีหมิ่นประมาทส่วนบุคคลถ้าไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองก็ไม่ได้รับการนิรโทษกรรมเช่นกัน



หลายฝ่ายยังเชื่อว่ามีใบสั่งจากพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

ผมกล้าสาบาน ไม่เคยรู้เลย พ.ต.ท.ทักษิณโดนคดีความกี่เรื่อง เพราะไม่ได้ไปเกี่ยวกับอรรถคดี ถ้าเรื่องไหนเข้าข่ายควรได้รับผลก็มีสิทธิ์



ยอมรับว่าไปเมืองนอกบ่อย เจอพ.ต.ท.ทักษิณบ้าง ไม่เจอบ้าง แต่ยืนยันพ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้ช่วยร่างพ.ร.บ. ดังกล่าวเลย และไม่เคยเห็นร่างฉบับนี้ แม้แต่นายกฯ ปู



ก่อนเสนอหารือกับใคร หรือมีใครช่วยร่าง

ร่างโดยฝีมือผมคนเดียว มีพรรคพวกเพื่อนฝูงคอยให้คำปรึกษา แลกเปลี่ยนความคิดเห็นบ้าง ไม่ใช่แค่เฉพาะส.ส. อีสาน อย่าง นายประเสริฐ บุญเรือง นายเจริญ จรรย์โกมล ส.ส.ภาคอื่นๆ ก็มีปรึกษาบ้าง อาทิ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย นายชวลิต วิชยสุทธิ์ นายสุชาติ ลายน้ำเงิน



ร่างนี้เกิดขึ้นเมื่อหลายเดือน เขียนให้ครอบคลุมก่อนเหตุการณ์รัฐประหาร ที่อาศัยความคิดเห็นจากเพื่อน กมธ.เป็นหลัก และจบลงวันที่สภารับหลักการ 8 ส.ค. 2556



ถ้านั่งเขียนกฎหมายให้พ.ต.ท.ทักษิณคนเดียว ชั่วชีวิตนักกฎหมายของผมจะถูกต้องหรือไม่ ผมเขียนเพื่อประชาชน ทุกฝ่าย ช่วยทุกคน



ถามว่า เสธ.อ้าย (พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์) ได้ผลพวงหรือไม่ ผมเจตนา ถึงแม้จะไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว ขณะที่ม็อบแยกอุรุพงษ์คงได้บางส่วน



กว่าจะร่างเสร็จก็ประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา ตอนร่างได้นำฉบับของนายวรชัย มาประยุกต์ด้วย รวมถึงร่างของร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง และร่างอื่นๆ ที่ค้างอยู่ในสภา



ถ้าไม่รวมร่างเดิมของนายวรชัย ในชั้น กมธ.มีผู้เสนอร่างมาตรา 3 นี้ถึง 7 ร่าง ผมเสนอเป็นร่างแรก บังเอิญที่ประชุมเห็นด้วยกับร่างของผม



ถ้าจะถามว่าเพื่อนๆ รู้ล่วงหน้าหรือไม่ ได้ประสานกับเพื่อนใน กมธ.บางคนไว้เหมือนกัน ซึ่งมีความเห็นให้ผมเป็นคนเสนอ ไม่มีอะไรสลับซับซ้อน



ตั้งแต่แรกก็ได้ปรึกษากับ นายขวัญชัย ไพรพนา ไว้แล้ว ส่วนจะมีการประสานแกนนำภาคอีสานด้วยหรือไม่นั้น ไม่ทราบจริงๆ ขณะที่กลุ่ม นปช.เองก็มี นายก่อแก้ว พิกุลทอง ที่เคยปรึกษาหารือบ้าง ส่วนนายวรชัยไม่ได้รู้เรื่องนี้ตั้งแต่ต้น เคยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเวลาพบปะกันบ้างเท่านั้น



ประเมินไว้หรือไม่เรื่องนี้จะเป็นชนวนร้อน

การเสนอร่างนี้กดดันตัวเองเหมือนกัน เพราะผมเคารพถึงหลักนิติธรรมแต่ร่างดังกล่าวเป็นการยกเว้นในหลักนิติธรรม เป็นกฎหมายที่มีเจตนาพิเศษที่จะแก้ไขปัญหา แต่ก็ไม่ได้ถือว่าขัดหลักนิติธรรมขนาดนั้น



เพื่อนข้างเดียวกันมาว่าผมก็รู้และเจ็บ แต่ไม่ตอบโต้เพราะต้องทน ทนมามากแล้วก็ทนเจ็บเอาหน่อย



ช่วงที่ร่างก็เครียดจนตาช้ำ นอนไม่หลับหลายวัน แต่คิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องวินวินกับสังคมที่มีความขัดแย้ง 8-9 ปีที่ผ่านมา และก็เข้าใจได้ถึงการสูญเสีย



ขณะเดียวกันก็ไม่เคยมองข้ามการ "เรียกแขก" แต่เชื่อว่าสามารถทำความเข้าใจได้



เสนอเรื่องนี้เพราะกลัวพรรคลืมเรา

ไม่เคยคิดอย่างนั้น ผมไม่ต้องการรางวัล มีเสียงสะท้อนจากเพื่อนๆ สมาชิกว่าถ้างานนี้จบผมได้ตำแหน่งเป็นรางวัลแน่ ฟังแล้วก็รู้สึกไม่ดี



ผมพูดกลางวงชัดเจนเลยว่าถ้ามีตำแหน่งผมเป็นหมาทันที และให้เรียกผมว่า "หมา" นำหน้าถ้ายอมรับตำแหน่ง นามสกุลผมก็จะเสียทันที



ผมเป็นรัฐมนตรีมา 5 ปี ไม่เคยถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ดังนั้นฟันธงได้เลย ใครบอกว่าผมจะได้ตำแหน่งในการปรับ ครม.ครั้งต่อไป นั่นคือจินตนาการ ไม่ใช่ข้อเท็จจริงที่ผมจะทำ



พรรคเพื่อไทยนัดประชุมเรื่องนี้ 29 ต.ค.

ต้องขึ้นอยู่กับที่ประชุม ผมคงไม่ได้เข้าร่วม เพราะติดธุระและลาไว้ล่วงหน้าก่อนแล้ว แม้ผมไม่ได้เข้า ก็มี กมธ.คนอื่นๆ ชี้แจงได้



ผมไม่ยึดติดว่าความคิดของข้าพเจ้าต้องถูกเสมอไป อาจตกกลางสภาก็เป็นได้ แต่เท่าที่ฟังผู้ใหญ่ของพรรคก็ให้การสนับสนุน โทรศัพท์มาก็มี อย่าให้ยกตัวอย่างเลย



ที่สุดหากต้องกลับไปใช้ร่างเดิมรับได้หรือไม่ หรือต้องแก้มาตรา 309

ผมไม่เห็นด้วยกับร่างของนายวรชัย เพราะขัดมาตรา 30 ส่วนการแก้มาตรา 309 เห็นด้วย เพราะหากรัฐธรรมนูญมีบัญญัติการนิรโทษกรรมไว้ เท่ากับว่าหลักนิติธรรมถูกลบล้างไปเช่นกัน



ไม่เห็นด้วยที่จะมีมาตรานี้มาตั้งแต่การทำประชามติ ดังนั้นจึงไม่ใช้การแก้มาตรา 309 แต่เห็นด้วยว่า ให้ยกเลิกเลยทั้งมาตรา และเชื่อว่าโดยความเป็นสากล รัฐธรรมนูญในลักษณะนี้อยู่ไม่ได้นาน ไม่วันใดวันหนึ่งก็ถูกยกเลิกอยู่ดี



ยังเชื่อมั่นนิรโทษฉบับสุดซอยจะไปถึงฝันหรือไม่

คิดว่าเมื่อจบชั้น กมธ.น่าจะผ่านเข้าสู่วาระ 2 ได้ เพราะการแปรญัตติก็มีผู้หลักผู้ใหญ่พรรคประชาธิปัตย์กว่า 7 คน ฝากแปรญัตติไว้เช่นกัน



ส่วนตัวคาดหวังอยากให้เรียบร้อยไปถึงวาระ 3 แต่ฝันจะเป็นจริงหรือไม่ ไม่น่าจะนานเกินรอ



Create Date : 29 ตุลาคม 2556
Last Update : 29 ตุลาคม 2556 2:08:02 น. 0 comments
Counter : 983 Pageviews.

amulet108
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 96 คน [?]








Friends' blogs
[Add amulet108's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.