"ชลอ เกิดเทศ" ผู้ต้องโทษคดีอุ้มฆ่าสองแม่ลูกตระกูล "ศรีธนะขัณฑ์" เป็นอิสระแล้ว หลังกรมราชทัณฑ์พิจารณาพักโทษ ลูกสาวมารอรับหน้าเรือนจำวานนี้...
เมื่อวันที่ 26 ต.ค. นายวสันต์ สิงคเสลิต ผู้บัญชาการเรือนจำกลางบางขวาง เปิดเผยว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 25 ต.ค.ที่ผ่านมา เรือนจำได้ปล่อยตัว นายชลอ เกิดเทศ หรือ ป๋าลอ ผู้ต้องขังในคดีจ้างวานฆ่าสองแม่ลูกตระกูลศรีธนะขัณฑ์เมื่อปี 2537 ในระหว่างการทำคดีเพชรซาอุ โดยมีบุตรสาวมารอรับที่หน้าเรือนจำ
ทั้งนี้ การปล่อยตัวนายชลอในครั้งนี้ เนื่องจากผู้ต้องขังเข้าเงื่อนไขการพักโทษ โดยคณะกรรมการพักโทษในเรือนจำได้ทำเรื่องว่า นายชลอเข้าเงื่อนไขเป็นนักโทษกลุ่มที่ 2 ที่มีอายุ 70 ปีขึ้นไป อีกทั้งยังมีอาการป่วย เนื่องจากหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท และได้เข้ารับการผ่าตัดมาแล้วเมื่อประมาณ 1 ปีที่ผ่านมา แต่อาการก็ไม่หาย ดังนั้น จึงได้รับการพิจารณาจากคณะกรรมการพักโทษ และเสนอไปยังคณะกรรมการพักโทษระดับกรมราชทัณฑ์ เพื่อพิจารณากลั่นกรอง ซึ่งทางคณะกรรมการได้พิจารณาและนายชลอก็เข้าหลักการ จึงได้รับอนุมัติปล่อยตัว อย่างไรก็ตาม นายชลอจะต้องเข้ามารายงานตัวต่อสำนักงานคุมประพฤติเป็นประจำทุกเดือน ซึ่งหากผิดเงื่อนไข ทางเจ้าพนักงานคุมประพฤติ ก็จะรายงานมาให้คณะกรรมการพักโทษระดับกรมทราบ เพื่อทำการเพิกถอน และเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จะไปคุมตัวนายชลอมาคุมขังอีกครั้ง
"การพักโทษมี 2 กลุ่มใหญ่ คือ 1.นักโทษที่ถูกคุมขังแล้ว 2 ใน 3 และมีพฤติกรรมดี ส่วนกลุ่มที่ 2 คือ กลุ่มผู้ต้องขังที่มีอายุ 70 ปีขึ้นไป และมีอาการเจ็บป่วย ซึ่งนายชลอเข้าเงื่อนไขและได้รับการพิจารณา แต่นายชลอจะต้องเข้ารายงานตัวต่อสำนักงานคุมประพฤติทุก 1 เดือน ถ้าผิดเงื่อนไข ทางเจ้าพนักงานคุมประพฤติจะแจ้งมายังคณะกรรมการพักโทษระดับกรม เพื่อออกคำสั่งเพิกถอน และเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ก็จะไปจับกุมตัวมา ตอนเขาออกไปก็ต้องอยู่ในกฎหมาย และยังถือว่าถูกควบคุมอยู่ ซึ่งเมื่อวานก็ไม่ได้ไปดูว่าเขามีอาการเป็นอย่างไร หลังได้รับการพักโทษ เพราะถือว่าเขาเป็นนักโทษคนหนึ่ง ซึ่งเรื่องระเบียบการพักโทษนี้ เรือนจำทุกแห่งจะต้องเป็นผู้สำรวจนักโทษของตัวเอง แล้วเสนอไปยังคณะกรรมการพักโทษ ถือเป็นเรื่องปกติ ซึ่งเราก็ได้แจ้งให้นักโทษทุกคนทราบ ตั้งแต่มีนโยบายนี้ออกมาแล้ว" ผบ.เรือนจำกลางบางขวาง กล่าว
สำหรับ นายชลอ เกิดเทศ ตกเป็นผู้ต้องขังในคดีจ้างวานฆ่าสองแม่ลูกตระกูลศรีธนะขัณฑ์ เมื่อปี 2537 ในระหว่างการทำคดีเพชรซาอุ เคยดำรงตำแหน่ง พล.ต.ท. โดยศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ประหารชีวิต และศาลฎีกาพิพากษาให้ประหารชีวิต เมื่อวันที่ 16 ต.ค. 2552 จากนั้น ได้รับพระราชทานอภัยโทษลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต และได้รับพระราชทานลดโทษเหลือโทษจำคุก 50 ปีในเวลาต่อมา และถูกถอดยศ ซึ่งรับโทษจำคุกมาแล้วประมาณ 19 ปี