ที่มาจาก //forum.travelbestforyou.com/index.php?topic=57.0
ใครที่เคยไปเยือนลาว กัมพูชา หรือเวียดนาม อดีตอาณานิคมของฝรั่งเศสในอินโดจีน คงจะเคยได้ลองชิมแซนวิชที่ทำจากขนมปังบาแกตต์ก้อนยาว มรดกที่ฝรั่งเศสทิ้งเอาไว้ แต่ที่ลาว ดูเหมือนว่าวัฒนธรรมการทำบาแกตต์จะได้รับการอนุรักษ์ไว้ดียิ่งกว่าที่ฝรั่งเศสเองเสียอีก
พูดไปอาจจะไม่มีใครเชื่อ ว่าเพิงไม้เก่าๆแห่งนี้ เป็นต้นกำเนิดของขนมปังฝรั่งเศสทั้งหลวงพระบาง ที่นี่คือโรงข้าวจี่บ้านปองคำ เป็นโรงอบขนมปังบาแกตต์แห่งเดียวของหลวงพระบาง เรียกว่าถ้าคุณได้ลองชิมข้าวจี่หรือแซนวิชลาวตามท้องถนนในหลวงพระบาง ก็แสดงว่าได้เคยชิมผลิตภัณฑ์ของโรงงานเบเกอรี่พื้นบ้านแห่งนี้แล้ว
โรงข้าวจี่ที่นี่ ไม่ได้แค่พิเศษตรงที่มีหนึ่งเดียวในหลวงพระบางเท่านั้น แต่ยังเป็นโรงอบขนมปังฝรั่งเศสแห่งเดียวในลาว และอาจจะแห่งสุดท้ายในโลก ที่ยังคงกรรมวิธีการผลิตแบบดั้งเดิมทุกขั้นตอน นั่นก็คือการนวดแป้งด้วยมือล้วนๆ ไม่ใช้เครื่องนวด และอบขนมปังด้วยเตาอิฐ ใช้ความร้อนจากฟืน เพื่อให้ได้ขนมปังเนื้อแน่น นุ่มนวล ไม่เป็นโพรงและหยาบแข็งเหมือนขนมปังฝรั่งเศสทั่วไป แถมเจ้าของโรงงานยังบอกว่า อีกหนึ่งเคล็ดลับความอร่อยของขนมปังที่นี่ ก็คือต้องใช้แป้งสาลีจากไทยเท่านั้น ถ้าเป็นแป้งจีนหรือของลาว แม้จะราคาถูกกว่า แต่เนื้อขนมปังจะไม่อร่อยเท่า
ทุกๆวัน คนงานกว่า 20 ชีวิตจะเริ่มทำงานแต่เช้า ตั้งแต่การ ผสมแป้ง หมัก นวด และขึ้นรูป ก่อนนำไปอบ ไล่เรื่อยไปจนถึงเที่ยงคืนหรือตีหนึ่ง ใช้แป้งเฉลี่ยถึงวันละ 1 ตัน อบออกมาเป็นขนมปังหลายพันก้อน
แต่ไฮไลท์สำคัญก็คือการอบขนมปัง ก่อนจะอบต้องเอาฟืนเข้าไปเผาในเตาอิฐนาน 5 ชั่วโมง ก่อนจะเอาฟืนออก เกลี่ยขี้เถ้า แล้วจึงพายยาวถึง 3 เมตร ลำเลียงแป้งเข้าเตา อบเพียง 10 นาทีก็ได้ที่ และยังอบได้ทั้งวันโดยไม่ต้องสุมฟืนใหม่ ใช้เพียงความร้อนที่อบอยู่ในเตาเท่านั้น เรียกว่าประหยัดพลังงานสุดๆ
โรงข้าวจี่บ้านปองคำขายขนมปังทั้งแบบปลีกและขายส่ง โดยทั่วไปที่นี่จะมีรถขนมปังบริการส่งโรงแรมและร้านค้าเจ้าประจำถึงที่ แต่ก็มีชาวบ้านแถบนี้แวะเวียนกันมาขอซื้อไม่ขาดสายตลอดทั้งวัน ด้วยสนนราคาไม่ถูกไม่แพง ก้อนละ 3,000-7,000 กีบ หรือ12-30 บาท แล้วแต่ขนาดเล็กใหญ่
นอกจากขนมปังบาแกตต์หรือข้าวจี่ ที่นี่ยังมีขนมปังชนิดอื่น เช่นบันลูกเกด ที่ขายดิบขายดีไม่แพ้กัน แต่ถ้าเป็นบัน จะไม่สามารถวางตากลมได้เหมือนข้าวจี่ ต้องมีการห่อพลาสติก กรรมวิธีการห่อก็เป็นภูมิปัญญาชาวบ้านแบบดั้งเดิม ใช้เทียนลนถุงพลาสติก แล้วมีสาวพนักงานมือเหล็ก คอยเอานิ้วลูบให้พลาสติกติดกัน เป็นแพ็กเกจแบบลาวๆที่ไม่เหมือนที่ไหนในโลก
เจ้าของโรงข้าวจี่บอกกับเราว่า กรรมวิธีการผลิตข้าวจี่แบบดั้งเดิมนี้ ทำมาหลายสิบปีแล้ว และจะยังคงทำต่อไปไม่ปรับปรุงเปลี่ยนแปลง เพราะนี่ไม่ใช่แค่ธุรกิจของครอบครัวเท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของหลวงพระบาง เมืองมรดกโลก เป็นวัฒนธรรมที่ต้องรักษาไว้ไม่ให้สูญหายไปตามกาลเวลา