บรูไนจะเริ่มบังคับใช้ประมวลกฎหมายอาญามุสลิม หรือ ชาริอะ ฉบับใหม่ ซึ่งมีบทลงโทษรุนแรงภายใน 6 เดือนข้างหน้า...

เมื่อ 22 ต.ค. สุลต่านหรือสมเด็จพระราชาธิบดีฮัสซานัล โบลเกียห์ แห่งบรูไน ทรงประกาศว่า ประมวลกฎหมายอาญามุสลิมหรือ “ชาริอะ” ฉบับใหม่ของบรูไน จะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นขั้นตอนภายใน 6 เดือนนับจากนี้ ซึ่งบทลงโทษรวมทั้งให้ประหารชีวิตผู้ทำผิดประเวณีด้วยการขว้างปาก้อนหินใส่ ตัดแขนขาผู้ลักขโมยทรัพย์สิน เฆี่ยนตีผู้ทำแท้งหรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

กฎหมายดังกล่าวจะบังคับใช้กับผู้นับถือศาสนาอิสลามเท่านั้น โดยราชวงศ์สุลต่านบรูไนปกครองประเทศมายาวนานกว่า 60 ปี ในพักหลังๆสุลต่านโบลเกียห์ทรงฝักใฝ่แนวทางมุสลิมแบบอนุรักษนิยมมากขึ้นจนเข้มงวดยิ่งกว่าประเทศเพื่อนบ้านมุสลิมอื่นๆในอาเซียน อย่างอินโดนีเซียและมาเลเซีย และในปี 2539 พระองค์ทรงเรียกร้องให้มีการใช้บทลงโทษตามกฎหมายอาญามุสลิม และเริ่มร่างกฎหมายนี้มาตั้งแต่นั้น

บรูไนมีประชากรราว 420,000 คน ส่วนใหญ่เกือบ 70% มีเชื้อสายมาเลย์นับถือศาสนาอิสลาม อีก 15% มีเชื้อสายจีนซึ่งไม่ใช่ชาวมุสลิม ที่เหลือเป็นคนพื้นเมืองและเชื้อสายอื่นๆ บรูไนได้ชื่อว่ามีมาตรฐานการดำรงชีพสูงที่สุดชาติหนึ่งในเอเชีย สุลต่านโบลเกียห์เป็นหนึ่งในบุคคลผู้ร่ำรวยที่สุดในโลก ทรงให้บริการด้านการแพทย์และการศึกษาแก่ประชาชนฟรีๆ จนจบชั้นมหาวิทยาลัย ปัจจุบันบรูไนมีทั้งศาลแพ่งตามแบบอังกฤษและศาลอิสลามซึ่งปกติมีอำนาจจำกัดที่เรื่องส่วนบุคคลและครอบครัว.