คกก.ความปลอดภัยการบินรัสเซีย สั่งสอบข้อเท็จจริงกรณีเครื่องบินโบอิ้ง 737 ของสายการบินท้องถิ่น ตกที่เมืองคาซานเมื่อวันอาทิตย์ จนมีผู้เสียชีวิต 50 ราย คาดเพราะเครื่องบินอายุมาก...
เมื่อ 18 พ.ย. คณะกรรมการความปลอดภัยการบินแห่งชาติรัสเซีย สั่งสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีเครื่องบินโบอิ้ง 737 ของสายการบินท้องถิ่นตาตาร์สถาน แอร์ไลน์ส เดินทางจากกรุงมอสโกไปยังสนามบินในเมืองคาซาน เมืองเอกเขตปกครองสาธารณรัฐตาตาร์สถาน ภาคกลางของรัสเซีย ช่วงค่ำวันที่ 17 พ.ย. แต่เครื่องบินกระแทกพื้นขณะที่พยายามแล่นลงจอด ทำให้เครื่องระเบิดไฟลุกท่วม มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 50 ราย ได้แก่ ผู้โดยสาร 44 ราย และลูกเรือ 6 ราย รวมถึงนายอิเรค มินนิคานอฟ บุตรชายประธานาธิบดีตาตาร์สถาน, นายอเล็กซานเดอร์ อันโตนอฟ หัวหน้าหน่วยข่าวกรองด้านความมั่นคงแห่งตาตาร์สถาน รวมถึงนางดอนนา คาโรไลนา บูล ชาวอังกฤษ อายุ 53 ปี
ด้านประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย และนายดมิทรี เมดเวเดฟ นายกรัฐมนตรี แถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมสั่งตรวจสอบความปลอดภัยสายการบินเพิ่มเติม ส่วนเจ้าหน้าที่ควบคุมการบินประจำสนามบินเมืองคาซาน ระบุว่านักบินพยายามนำเครื่องแล่นลงจอดครั้งที่ 2 หลังแล่นลงจอดครั้งแรกไม่สำเร็จ คาดว่าเกิดจากปัญหาเครื่องยนต์ขัดข้อง ขณะที่สื่อต่างชาติรายงานข้อมูลประวัติเครื่องบินลำดังกล่าวว่ามีอายุเก่าแก่ราว 23 ปี โดยใช้งานมาตั้งแต่ปี 2533 และเป็นเครื่องที่สายการบินตาตาร์สถาน แอร์ไลน์ส ขอซื้อต่อมาจากสายการบินบัลแกเรียแอร์ และถือเป็นบริษัทที่ 7 ที่ซื้อเครื่องบินลำดังกล่าวมาให้บริการต่อ.