BlogGang.com : : amulet108 : จับตาเส้นทางกกต.ชุดใหม่ (รายงานพิเศษ)

จับตาเส้นทางกกต.ชุดใหม่ (รายงานพิเศษ)

จับตาเส้นทางกกต.ชุดใหม่

รายงานพิเศษ

กกต.ชุดใหม่ก็เริ่มปรากฏโฉมหน้าให้เห็นกันเกือบครบแล้ว

หลังจากที่ "5 เสือ" ชุดนายอภิชาต สุขัคคานนท์ พ้นวาระทั้งยวงตั้งแต่ 19 ก.ย. ที่ผ่านมา แต่ระหว่างนี้อยู่รักษาการจนกว่าจะได้ 5 เสือชุดใหม่เข้ามาทำหน้าที่โดยสมบูรณ์ตามกฎหมายก่อนแล้วจึงจะจากไป

ขั้นตอนการเลือก กกต.ใหม่ถือว่าเดินหน้าไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งรูปแบบวิธีการจะแบ่งโควตาออกเป็น 2 สาย คือ กกต.สายนอก 3 คน และกกต.สายในอีก 2 คน

โดยสายนอก เลือกโดยคณะกรรมการสรรหา 7 คน ประกอบด้วย ประธานศาลฎีกา ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประธานศาลปกครองสูงสุด ประธานสภาผู้แทนราษฎร ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร บุคคลซึ่งที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาคัดเลือก 1 คน และบุคคลซึ่งที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุดคัดเลือก 1 คน

เพื่อคัดเลือกผู้สมัคร กกต.ให้เหลือ 3 คน

ขณะที่สายใน เลือกโดยที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาอีก 2 คน

เมื่อได้ผู้เข้าวินครบทั้ง 5 คนแล้ว จะนำรายชื่อเสนอต่อประธานวุฒิสภา จากนั้นจะมีการตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมาตรวจสอบประวัติ ก่อนนำเข้าสู่ที่ประชุมใหญ่วุฒิสภา เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ

หากที่ประชุมใหญ่วุฒิสภาเห็นชอบก็จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ต่อไป

เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการสรรหา

ล่าสุดเมื่อวันที่ 15 ต.ค. กกต.สายนอกก็ประชุมกันที่รัฐสภา เคาะ 3 ชื่อ ที่ผ่านรอบไฟนอลออกมาเรียบร้อยแล้ว จากจำนวนผู้สมัครทั้งสิ้น 42 คน ประกอบด้วย

นายบุญส่ง น้อยโสภณ อดีตผู้พิพากษาอาวุโสในศาลอุทธรณ์ภาค 7

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายวางแผนพัฒนาและเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเลขาธิการมูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย (พีเน็ต)

และ นายประวิช รัตนเพียร อดีตผู้ตรวจการแผ่นดิน

ทั้งนี้ บรรยากาศการคัดเลือกถือว่าเป็นไปด้วยดี โดยคณะกรรมการสรรหา ได้แก่ นายดิเรก อิงคนินันท์ ประธานศาลฎีกา, นายหัสวุฒิ วิฑิตวิริยกุล ประธานศาลปกครองสูงสุด,

นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร, นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร, นาย กู้เกียรติ์ สุนทรบุระ บุคคลซึ่งที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาคัดเลือก และนายอัครวิทย์ สุมาวงศ์ บุคคลซึ่งที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุดคัดเลือก

ยกเว้นนายจรูญ อินทจาร ว่าที่ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งยังไม่ได้รับการโปรดเกล้าฯ จึงไม่สามารถเข้ามาทำหน้าที่ได้

แม้การประชุมต้องลงคะแนนกันถึง 12 ครั้ง แต่ใช้เวลาแค่ 2 ชั่วโมงจึงเสร็จสิ้น ได้ 3 ชื่อออกมาจนครบโควตา

โดยเฉพาะชื่อของ นายประวิช ที่เจ้าตัวอุตส่าห์ลงทุนลาออกจากผู้ตรวจการแผ่นดิน ก่อนหน้านี้ก็เพิ่งจะผิดหวังเล็กๆ ตกรอบคัดเลือกจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกามาหมาดๆ

แต่สุดท้ายก็ลุ้นขึ้น ได้รับเลือกจากคณะกรรมการสรรหา โดยคะแนนเฉือนเอาชนะนายคมสัน โพธิ์คง อดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ปี 2550 ด้วยสกอร์ 4 ต่อ 2

ฉลุยนั่งแท่นหนึ่งใน 5 เสือได้สำเร็จสมใจนึก

จะว่าไปแล้ว "กกต.สายนอก" ทั้ง 3 ชื่อที่ผ่านเข้าวิน ถือว่าอยู่นอกเหนือความคาดหมาย จัดเป็นประเภทม้ามืดที่สุดท้ายแล้วก็สามารถเบียดขึ้นแซงตัวเต็งในช่วงโค้งสุดท้ายได้

ยัดเยียดความอกหักปราชัยให้กับบรรดามวยดังอย่าง นายคมสัน โพธิ์คง พล.ต.ท.ทวีศักดิ์ ตู้จินดา กกต.กทม. นายวรินทร์ เทียมจรัส อดีต ส.ว. หรือแม้แต่ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม

ต้องกระดกน้ำใบบัวบกกินแก้ช้ำในไปตามๆ กัน

ขณะที่การสรรหา "กกต.สายใน" ก็มีความเข้มข้นไม่แพ้กัน โดยที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกานั้น มีผู้พิพากษาและผู้มีสิทธิ์ออกเสียงลงคะแนนถึง 156 คน

การสรรหาจะใช้วิธีลงคะแนนลับ แบ่งออกเป็น 2 รอบ รอบแรกที่ประชุมจะคัดเลือกผู้เหมาะสมเป็น กกต. 4 คนก่อน จากนั้นจะลงคะแนนอีกครั้งในรอบที่ 2 เพื่อคัดเลือกให้เหลือ 2 คน ตามโควตาที่กฎหมายกำหนด

แต่ปรากฏว่าในการลงคะแนนเมื่อวันที่ 30 ก.ย. ที่ผ่านมา กลับมีผู้ผ่านการคัดเลือกเพียง 1 คน คือ นายศุภชัย สมเจริญ ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา

แม้ว่านายดิเรก อิงคนินันท์ ประธานศาลฎีกา จะเรียกประชุมผู้พิพากษาศาลฎีกาทั้งหมดในวันที่ 9 ต.ค. เพื่อคัดเลือกบุคคลที่เหลืออีก 1 ตำแหน่ง

แต่สุดท้ายก็ยังไม่มีผู้ใดที่ผ่านการคัดเลือก หรือได้คะแนนเกินกึ่งหนึ่งจากผู้ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งหมด

เป็นเหตุให้นายดิเรกต้องนัดลงคะแนนอีกครั้งในวันที่ 18 ต.ค.นี้

โดยผู้แข่งขันรอบนี้ยังคงเหลืออีก 4 คน ได้แก่ นางเปรมใจ กิติคุณไพโรจน์ ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลอุทธรณ์, นายพิชิต คำแฝง อดีตรองประธานศาลฎีกา,

ม.ล.ฤทธิเทพ เทวกุล อดีตรองประธานศาลฎีกา, และนาย ธีรวัฒน์ ธีรโรจน์วิทย์ ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลอุทธรณ์

สำหรับตัวเต็งที่ถูกจับตามองมากที่สุดคือ นางเปรมใจ ภรรยาของนายกิติศักดิ์ กิติคุณไพโรจน์ อดีตตุลาการรัฐธรรมนูญ ที่เคยพิจารณาคดียุบพรรคไทยรักไทย

ซึ่งเจ้าตัวประกาศยืนยันเองว่า จะลงสมัครอีกในครั้งที่ 3 เพราะเชื่อว่าจากการปฏิบัติหน้าที่เป็นตุลาการด้วยความซื่อสัตย์สุจริตและไม่เคยมีเรื่องเสื่อมเสีย จะทำให้ผลงานเข้าตากรรมการ และผ่านการคัดเลือกในที่สุด

เจ้าของเก้าอี้ที่เหลืออีก 1 จะเป็นตัวเต็งหรือม้ามืด อีกไม่นานคงรู้

แต่ที่แน่ๆ หากดูที่มาของ กกต.ชุดใหม่แล้ว แม้จะขาดอีก 1 คน แต่ก็ชัดเจนแล้วว่าโฉมหน้ากกต.ชุดใหม่จะมีอดีตผู้พิพากษาเข้ามาถึง 3 คน

โดย 2 คนแรกมาจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ขณะที่อีกคนคือ นายบุญส่ง น้อยโสภณ อดีตผู้พิพากษาอาวุโสในศาลอุทธรณ์ภาค 7 ซึ่งผ่านการสรรหาในระบบ "กกต.สายนอก"

แนวทางการทำงานคงไม่ต่างจากเดิม น่าจะมีเรื่องให้คนซีกรัฐบาลได้ลุ้นเสียวกันต่อไปอีก

กล่าวสำหรับภาพรวมของผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็น กกต.ชุดใหม่ รุ่นพี่อย่าง นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านกิจการบริหารการเลือกตั้ง ให้ความเห็นไว้ว่า

รายชื่อที่ปรากฏออกมาทั้ง 4 คน เป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านกฎหมาย น่าจะเคยผ่านงานเลือกตั้งมาบ้างแล้ว

แต่เมื่อมาเป็นกกต. อาจต้องศึกษากฎหมายเลือกตั้งเพิ่มเติมด้วย

"ผมไม่มีอะไรต้องกังวลอีกต่อไป เรื่องปัญหาภารกิจต่างๆ เชื่อว่ากกต.ชุดใหม่จะสามารถแก้ไขให้ผ่านไปได้"

"เพียงแค่ปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ อยู่ในกรอบกฎหมายด้วยความสุจริตและเที่ยงธรรม"

เป็นของฝากคำแนะนำ "ว่าที่ 5 เสือ" ได้อย่างดีเยี่ยม

Create Date : 18 ตุลาคม 2556

Last Update : 18 ตุลาคม 2556 0:54:48 น.

0 comments

Counter : 850 Pageviews.