'แท็บเล็ต' อุปกรณ์คู่ใจขาช็อป ชี้ โตเร็วกว่าสมาร์ทโฟน 4เท่า

ราคูเท็น เผยผลสำรวจจาก 14 ตลาดล่าสุด "อีคอมเมิร์ซ อินเด็กซ์" ระบุ ไทยมียอดผู้ใช้งานแท็บเล็ตโตขึ้นถึง 4 เท่า ไวกว่ายอดการใช้งานสมาร์ทโฟน โดยมียอดใช้งานเพิ่มขึ้น 41.9% ขณะที่สมาร์ทโฟนยอดการใช้งานแค่ 9.7% ในช่วงเวลาเดียวกัน...

ราคูเท็น เผยผลการศึกษาเทรนด์การช็อปปิ้งใน 14 ตลาดทั่วโลก จากผลสำรวจล่าสุด “อีคอมเมิร์ซ อินเด็กซ์” พบว่า ยอดผู้ใช้งานแท็บเล็ตโตขึ้นถึง 4 เท่า ไวกว่ายอดการใช้งานสมารท์โฟน โดยยอดการใช้งานแท็บเล็ตเพิ่มขึ้นถึง 41.9% ในปีที่ผ่านมา ในขณะที่ยอดการใช้งานสมาร์ทโฟนเติบโตเพียงแค่ 9.7% เมื่อเปรียบเทียบในช่วงเวลาเดียวกัน ขณะที่มีผู้พึงพอใจในการใช้แท็บเล็ตในการช็อปปิ้งออนไลน์ถึง 6.1% ในขณะที่ 6.8% ชอบใช้สมาร์ทโฟน

จากผลการสำรวจระบุว่า สหราชอาณาจักรเป็นตลาดที่มีผู้ใช้แท็บเล็ตมากที่สุด แซงแชมป์เก่าอย่างสหรัฐอเมริกา ด้วย 12.2% ของชาวอังกฤษผู้ตอบแบบสำรวจบอกว่า ชอบใช้แท็บเล็ตมากกว่า ขณะที่มีชาวอเมริกันเพียง 11.3% เท่านั้น ที่ชอบใช้แท็บเล็ต 
จากข้อมูลการสำรวจอีกด้าน มีเพียง 0.7% ของนักช็อปชาวบราซิลเท่านั้นที่ชอบช็อปและใช้ประโยชน์จากแท็บเล็ต และนักช็อปชาวไทยก็เช่นกันที่ชอบใช้สมาร์ทโฟนในการช็อปถึง 13.3% ขณะที่ชาวไทยเพียงแค่ 8.5% นิยมการใช้งานแท็บเล็ตคอมพิวเตอร์ เท่านั้น แม้ว่าจะมีการเติบโตของเอ็มคอมเมิร์ซ (M-Commerce) 

ทั้งนี้ คอมพิวเตอร์ก็ยังคงเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยม เพื่อใช้ในการเข้าถึงเว็บไซต์ต่างๆ อย่างไรก็ตาม ยุคสมัยได้เปลี่ยนไปแล้ว โดยผู้ใช้คอมพิวเตอร์ในการช็อปปิ้งทั่วโลกมีจำนวน 81.8% เมื่อเทียบกับ ปี 2556 ที่มี 83.2% ซึ่งหมายความว่า ยอดการใช้งานผ่านโมบายเพิ่มขึ้น 13.8% จาก 12% ของเมื่อปีที่แล้ว สำหรับในประเทศไทย มีผู้ช็อปออนไลน์ผ่านคอมพิวเตอร์ 57.3% และ 25.3% ที่ช็อปผ่านโมบายดีไวซ์

นายภาวุธ พงษ์วิทยภานุ กรรมการผู้จัดการและผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ Rakuten TARAD.com กล่าวว่า ราคูเท็น ตลาดดอทคอม กำลังเฝ้าสังเกตดูการเปลี่ยนแปลงของวิธีการที่ผู้บริโภคใช้ในการปฏิสัมพันธ์กับผู้ค้าปลีกผ่านช่องทางดิจิตอล หลังจากที่มีการเปิดตัว iPad จากค่ายแอปเปิล ส่งผลให้แท็บเล็ตกลายเป็นอุปกรณ์ที่ฮอตฮิตขึ้นมาทันที ด้วยหน้าจอที่ใหญ่กว่าสมาร์ทโฟน ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้สะดวกสบายขึ้น แน่นอนว่า ใหญ่กว่า ย่อมดีกว่า แต่อย่างไรก็ดี มีร้านค้าจำนวนมากที่ไม่สามารถวัดประสิทธิภาพทางการค้าของเขาผ่านการใช้แอพพลิเคชั่นได้ ร้านค้าอาจจะพลาดการใช้ประโยชน์จากจุดนี้ ซึ่งเราอาจจะใช้วิธีการเปิดประสบการณ์การใช้แท็บเล็ตให้กับนักช็อปเพื่อสร้างความประทับใจก็ได้เช่นกัน

"ช่วงปีที่ผ่านมาบางตลาดได้เล็งเห็น “ความเบื่อหน่ายทางสังคม” จากจำนวนการแนะนำสินค้าผ่านทางโซเชียลเน็ตเวิร์กที่ลดลง โดยจากผลสำรวจล่าสุดพบว่า เหลือเพียง 41.9% ซึ่งลดจำนวนลงจาก 44% เมื่อปี 2556 ส่วนในประเทศไทยพบว่า มีชาวไทยจำนวน 65% ที่ตอบแบบสอบถามมักจะค้นหาข้อมูลหรือรีวิวสินค้าก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ" กก.ผจก.และผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ Rakuten TARAD.com กล่าว

นายภาวุธ กล่าวอีกว่า สังคมยังคงเป็นช่องทางที่สำคัญสำหรับร้านค้า ที่จะดึงดูดนักช็อป และ 'crowdsource' กลุ่มคนที่คอยสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ จากแง่มุมของผู้ที่มีโอกาสใช้งานจริง แนะนำผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย ยังคงเป็นช่องทางที่ดึงดูดใจให้ช็อปได้เป็นอย่างดี เช่น ขณะนี้ นักช็อปต่างใช้ Pinterest หรือ Twitter ในการค้นหาสินค้าที่เขาต้องการซื้อและดูความคิดเห็นประกอบการตัดสินใจ แน่นอนร้านค้าสามารถใช้ประโยชน์จากช่องทางนี้ในการปฏิสัมพันธ์กับนักช็อป และแนะนำสินค้าได้เช่นกัน สำหรับเสื้อผ้าและเครื่องประดับ เป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมที่สุดในโลกออนไลน์ทั่วโลก แต่นักช็อปจากบราซิลและญี่ปุ่นกลับสวนทาง เพราะที่บราซิลนั้น สินค้าประเภทอิเล็กทรอนิกส์ได้รับความนิยมสูงสุด ด้วยจำนวนเกินครึ่งของสินค้าอื่น (55.1%) ขณะที่ญี่ปุ่น สิ่งที่นักช็อปนิยมมากที่สุดก็คือ การดาวน์โหลด หนังสือ หรือนิตยสาร โดยนิยมสูงสุดถึง 59.7% จากสินค้าทั้งหมดที่ผู้คนจับจ่าย 

"สำหรับประเทศไทยของเรานั้น สินค้าที่ฮอตฮิตที่สุด ก็คือ สินค้าประเภทเสื้อผ้าและเครื่องประดับ 51.9% นอกจากนี้ สินค้าประเภทที่ได้รับความนิยมตามมาก็คือ สินค้าจำพวกสุขภาพและความงาม สินค้าจำพวกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และรองเท้า โดยคนไทยมีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้าพวกเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ออนไลน์น้อยที่สุด โดย 96.2% มีความพึงพอใจที่จะซื้อกับผู้ขายโดยตรงมากกว่า" กก.ผจก.และผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ Rakuten TARAD.com กล่าว