ททท.นำทัพนักธุรกิจไทยลุยเปิดบูธโชว์ศักยภาพสินค้าไทยในงาน China International Travel Mart (CITM) 2013 ที่เมืองคุนหมิง ประเทศจีน หวังดึงนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาเที่ยวไทยเพิ่มขึ้น 4 ล้านคน จากปีก่อนเข้ามาเที่ยวไทยเพียง 2.7 ล้านคน พร้อมดันแหล่งท่องเที่ยวอันซีน ทะเลตรังให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น
นายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า การนำกลุ่มผู้ประกอบการจากประเทศไทยรวม 57 ราย ไปร่วมเปิดบูธในงาน China International Travel Mart (CITM) 2013 ระหว่างวันที่ 23-28 ต.ค.ที่ผ่านมา ที่ Kunming International Convention and Exhibition Center เมืองคุนหมิง มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน เพราะจีนเป็นตลาดใหญ่ที่มีโอกาสสร้างรายได้เข้าประเทศได้มหาศาล
จีนเป็นลูกค้าสำคัญของไทย เพราะฉะนั้นการส่งเสริมเรื่องการท่องเที่ยวระหว่างไทย-จีน เป็นสิ่งที่รัฐบาลไทยให้ความสำคัญมาก โดยยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวต้องสอดคล้องกัน ในด้านทิศทางพัฒนาการท่องเที่ยว สิ่งที่กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ดำเนินการอยู่ในขณะนี้ คือ สร้างความมั่นใจในเรื่องท่องเที่ยว โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เพราะนักท่องเที่ยวชาวจีนชื่นชอบแหล่งท่องเที่ยวไทย ใน จ.เชียงใหม่ พัทยา เกาะสมุย และภูเก็ตมาก
นายสมศักย์กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องวีซ่าที่จะออกให้กับนักท่องเที่ยวจีนเพื่อมาไทยนั้น ช่วงแรกได้นำเสนอรัฐบาลไปแล้วว่า จะอนุญาตให้เป็น Multiple Visa ไปก่อน จนกว่าไทยจะพร้อมในเรื่องการให้บริการต่างๆ และจะรีบดำเนินการ Non Visa ตามนโยบายนายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน ขณะเดียวกัน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศพัฒนาระบบอีวีซ่าให้เสร็จโดยเร็ว เพื่อให้บริการนักท่องเที่ยวจีนและต่างชาติ
ในเรื่องขอวีซ่าเข้าประเทศไทย ส่วนระยะยาวหากจะมี Non Visa ต้องขอให้ไทยมีความพร้อมกว่านี้เพื่อเตรียมรองรับนักท่องเที่ยวชาวจีนจำนวนมหาศาลนอกจากนี้ ยังมีการเสนอแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมพ่วงกับแหล่งท่องเที่ยวระดับรองที่เป็นอันซีนของเมืองไทย แก่นักท่องเที่ยวชาวจีนที่นิยมไปเที่ยว กรุงเทพฯ พัทยา ภูเก็ต ให้มีเส้นทางรองเพิ่มเติม เช่น ท้องทะเล จ.ตรัง ไปพ่วงกับ จ.ภูเก็ต ราคาก็จะประหยัดกว่าไปค้างที่ภูเก็ตหลายคืน และเชื่อมั่นว่าแหล่งท่องเที่ยวอันซีนเหล่านี้ จะกลายเป็นจุดหมายปลายทางแห่งใหม่ของนักท่องเที่ยวชาวจีน
ด้านนายสุรพล เศวตเศรณี ผู้ว่าการ ททท.กล่าวถึงสถานการณ์ท่องเที่ยวไทย-จีนขณะนี้ว่า ในส่วนของจำนวนนักท่องเที่ยวจีนมาไทย 9 เดือนแรกพบว่ามีปริมาณนักท่องเที่ยวจีนสูงกว่า 3.7 ล้านคน ถือว่าเติบโต 90% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา เนื่องจากปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวจีนมาไทยเพียง 2.7 ล้านคน/ปีเท่านั้น อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่านักท่องเที่ยวจีนจะเดินทางเข้าไทย ถึงสิ้นปีนี้ไม่ต่ำกว่า 4 ล้านคน/ปี ซึ่งถือว่าเติบโตอย่างก้าวกระโดด เกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ ถึงแม้ในไตรมาสสุดท้ายจะมีการชะลอตัวบ้าง ก็เป็นจำนวนที่ไม่กระทบต่อเป้าหมายรวม ในขณะเดียวกัน ปริมาณนักท่องเที่ยวไทยที่เดินทางไปท่องเที่ยวยังต่างประเทศ พบว่าคนไทยนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวยังจีนมากที่สุดในทุกเส้นทาง โดยพบว่ามีปริมาณถึง 600,000 คน/ปี และยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนั้น ยังได้กล่าวถึงกรณีที่สาธารณรัฐประชาชนจีน ได้มีมาตรการออกบังคับใช้กฎหมาย การท่องเที่ยวที่สั่งห้ามขายโปรแกรมท่องเที่ยวให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีนในราคาที่ต่ำกว่าทุนว่า ในเรื่องนี้ได้ส่งผลกระทบต่อราคาขายโปรแกรมการท่องเที่ยวในประเทศต่างๆทั่วโลกทันที รวมทั้งประเทศไทยด้วย เพราะจะทำให้ราคาทัวร์เพิ่มขึ้นกว่าที่มีการขายในปัจจุบันกว่าเท่าตัว อย่างไรก็ตาม ก็เป็นผลกระทบระยะสั้น แต่เมื่อนักท่องเที่ยวจีนได้มีการปรับตัว ก็คาดว่าจะเป็นผลดีต่อการท่องเที่ยวในระยะยาว
นายสุรพลกล่าวเสริมว่า สำหรับบรรยากาศการเข้าร่วมงาน CITM ครั้งนี้ได้มีผู้ประกอบการของไทยเข้าร่วม 57 ราย ประกอบด้วย โรงแรม รีสอร์ต บริษัทนำเที่ยว สปา โดยภายในงานได้มีนักท่องเที่ยวชาวจีนสนใจแวะเข้าเยี่ยมชมบูธจากประเทศไทยไม่ขาดสาย เนื่องจากมีการนำศิลปะแม่ไม้มวยไทยไปโชว์ และบริการนวดแผนโบราณฟรีภายในงาน ปรากฏว่าได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวชาวจีนขี้เมื่อยเข้าคิวรอนวดกันเนืองแน่น.