"ปลอดประสพ" รองนายกรัฐมนตรี ยืนยันปีนี้เอาอยู่น้ำไม่ท่วมกรุงเทพมหานคร ส่วนสถานการณ์แม่น้ำป่าสักคาดว่าจะกลับสู่ภาวะปกติหลังวันที่ 9 ตุลาคมนี้ ย้ำเขื่อนแม่วงก์จะช่วยบริหารจัดการน้ำได้ ...

วันที่ 6 ต.ค. นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเขื่อนป่าสักใต้ บริเวณเขื่อนพระราม6 จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นเขื่อนทดน้ำแม่น้ำป่าสัก ก่อนที่มวลน้ำจะไปสมทบกับแม่น้ำลพบุรี และแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณเกาะเมืองพระนครศรียุธยา ซึ่งได้เพิ่มการระบายน้ำ จากเมื่อวานนี้ประมาณ 750 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็น 840 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

นายปลอดประสพ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้กำหนดอัตราการระบายน้ำไม่ให้เกิน 800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพราะกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อบ้านเรือนประชาชนที่อาศัยริมตลิ่ง หลังเพิ่มการระบายน้ำ ที่เขื่อนพระราม 6 พบว่า ระดับน้ำท้ายเขื่อนไม่ได้สูงขึ้น เพราะได้พร่องน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาไว้รองรับ หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม สถานการณ์น้ำท่วมปีนี้จะไม่ขยายวง และยืนยันจะไม่มีผลต่อกรุงเทพมหานคร

นายปลอดประสพ กล่าวต่อว่า สถานการณ์น้ำที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ที่ปัจจุบันปริมาณเก็บกักน้ำสูงกว่าความจุอ่างเก็บน้ำ คาดว่า การระบายน้ำจะเข้าสู่ภาวะสมดุลในวันที่ 8 ตุลาคมนี้ จากนั้นกรมชลประทานจะพิจารณาลดการระบายน้ำอีกครั้ง จากปัจจุบันระบายน้ำในอัตรา 700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ขณะเดียวกัน กรมชลประทานได้เสนอให้รัฐบาลเร่งขยายคลองระพีพัฒน์ จากสามารถระบายน้ำได้ 160 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็น 300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อช่วยลดการระบายน้ำผ่านเขื่อนพระราม 6 ไปยังแม่น้ำเจ้าพระยา คาดว่า จะสามารถลงนามสัญญาจ้างผู้รับเหมาได้ในต้นปีหน้า และดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 3 ปี

รองนายกรัฐมนตรี ยังย้ำว่า การก่อสร้างเขื่อนแม่วงก์จะช่วยในการบริหารจัดการน้ำได้ แม้จะมีความจุเพียง 250 ล้านลูกบาศก์เมตร เพราะตามหลักวิชาการจะช่วยในการบริหารน้ำได้ถึง 3 เท่าของความจุ โดยยืนยันว่า มีคนบางกลุ่มพยายามให้ข้อมูลที่ผิดพลาดแก่ประชาชน