คอลัมน์ : คิดเหนือข่าว
ผู้เขียน : เรืองยศ จันทรคีรี
เป็นที่ทราบกันดีว่าการ์ด กปปส. ได้ก่อคดีขึ้นหลายครั้ง เช่น การลากคนไปซ้อม การตรวจค้นอย่างไม่มีกฎหมายรองรับ เป็นการใช้อำนาจอย่างป่าเถื่อน แม้กระทั่งนายตำรวจชั้นสัญญาบัตรยังถูกทำร้ายจากการ์ด กปปส.
กรณีการกระทำตัวอภิสิทธิ์อยู่เหนือกฎหมายของมวลชนกลุ่ม กปปส. นั้นพิสูจน์ให้เห็นกันได้ในหลายครั้งๆที่ผ่านมา แม้ฉากหน้าจะพล่ามน้ำลายว่าเป็นการชุมนุมโดยสงบ สันติ และอหิงสา แต่เบื้องลึกกลับมีกลุ่มติดอาวุธคอยให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง เหตุการณ์ความรุนแรงในหลายๆครั้งที่ปรากฏเป็นข่าวและที่ไม่เป็นข่าว ยังไม่มีครั้งไหนเลยที่ตำรวจจะสามารถจับผู้กระทำผิดมาลงโทษได้สักครั้ง และในหลายครั้งยังเป็นผู้ถูกกระทำเสียเอง
เหตุการณ์เหล่านี้ยังไม่นับรวมกรณีการวินิจฉัยของศาลในคดีความต่างๆ ที่บางครั้งอาจจะปรากฏเครื่องหมายคำถามบนใบหน้าของใครหลายคน ทั้งนักวิชาการ นักกฎหมาย ครู-อาจารย์ และอื่นๆอีกหลากหลายสาขาอาชีพที่ไม่อยู่ในการครอบทับของมายาคติแห่งเวทมนตร์ กปปส.
การเกิดขึ้นของปรากฏการณ์แผ่นป้ายขอแยกประเทศ ประเทศนี้ไม่มีความยุติธรรม
จึงเป็นเสมือนเครื่องแสดงความน้อยเนื้อต่ำใจของชนชั้นไพร่ที่ไม่มีอภิสิทธิ์ และรู้สึกไม่ได้รับความยุติธรรมในระบอบกฎหมายปัจจุบัน จนต้องถูกกองทัพโดยนายทหารพระธรรมนูญเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับแกนนำเสื้อแดง จ.พะเยาและ จ.เชียงใหม่ ถึงการตั้งกองกำลัง การพูด รวมถึงการติดป้ายแบ่งแยกประเทศ เพราะเห็นว่าเข้าข่ายผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 113 และ 114 โดยหัวหน้ากองข่าวมณฑลทหารบกที่ 33 ได้เข้าแจ้งความเอาผิดกลุ่มบุคคลเคลื่อนไหวติดป้ายขอแยกประเทศ โดยที่ไม่มีความรุนแรงใดๆปรากฏออกมาให้เห็นเหมือนกับการชุมนุมของม็อบ กปปส. แต่ถูกตั้งข้อหา กบฏ เหมือนกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ และพวก ซึ่งเป็นแกนนำม็อบ กปปส. ที่ก่อความวุ่นวายในกรุงเทพมหานคร
พฤติกรรมที่ปฏิบัติกับกลุ่มก้อนบุคคลเหล่านี้แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับการปฏิบัติของมวลมหาประชาชน กปปส. ของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ทั้งที่ถูกตั้งข้อกล่าวหาเดียวกัน จึงยิ่งตอกย้ำความน้อยเนื้อต่ำใจของชนชั้นไพร่ที่ไม่มีอภิสิทธิ์เหนือกฎหมาย
กรณีล่าสุดนี้ที่จะไม่กล่าวถึงไม่ได้เห็นจะได้แก่ เรื่องราวของนายยืม นิลหล้า รปภ. ของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร ซึ่งได้เข้าไปในสวนลุมพินี บริเวณสถานที่ชุมนุมของม็อบ กปปส. เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ และเขาก็ถูกการ์ด กปปส. ตรวจค้น และพบบัตร นปช. เมื่อหลายปีก่อน
เพียงเหตุเท่านี้ก็ทำให้นายยืมถูกกักตัว และถูกสอบสวนโดยแกนนำ กปปส. คือ นายอิสสระ สมชัย จากการเปิดเผยของผู้เคราะห์ร้ายพบว่า เขาถูกกักตัวตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ จนถึงวันที่ 1 มีนาคม และมัดมือมัดเท้าและปิดตาใส่ท้ายรถไปโยนทิ้งลงแม่น้ำบางประกง แต่ที่นายยืมรอดชีวิตได้อย่างปาฏิหาริย์เพราะได้รับความช่วยเหลือจากผู้ที่ขับเรือผ่านมาพบ และนำตัวส่ง ร.พ.บางปะกง
การรายงานข่าวครั้งนี้มีที่มาจากศูนย์ปลอดภัยคมนาคม กระทรวงคมนาคม รายงานผ่านเฟซบุ๊คเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2557 ผู้เสียหายมีอาการปอดฉีก ร่างกายมีร่องรอยถูกทำร้ายจนสะบักสะบอม และมีสายนกหวีดห้อยคอ ภาพรวมทั้งหมดสรุปได้ว่า เขาคงถูกการ์ด กปปส. ทำร้ายและทรมาน จากนั้นนำไปโยนลงแม่น้ำเพื่อหวังฆาตกรรม แต่บังเอิญไม่เสียชีวิต ซึ่งถ้าหากเสียชีวิตก็อาจจะเป็นข่าวว่านายยืมคือการ์ด กปปส. ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจฆ่าตายแล้วนำมาทิ้งลงแม่น้ำ
กรณีของนายยืมทำให้นึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนหน้าที่มีผู้ชายเสียชีวิตในสภาพมีนกหวีดห้อยคอ แล้วมีการออกข่าวว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสังหารการ์ด กปปส.!!? นายยืมน่าจะเป็นเหยื่อในเรื่องคล้ายกัน แต่บังเอิญที่เขาไม่เสียชีวิต
เรื่องราวนี้สะท้อนมุมมองหลายอย่าง ตั้งแต่มุมมองที่บ่งบอกว่า กปปส. ได้พยายามก่อคดีอำพรางเพื่อหวังโยนความผิดให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และอีกด้านหนึ่งคือ การทำตัวเป็นโจรอภิสิทธิ์เหนือกฎหมาย คิดจะทำอะไรก็ทำได้ตามอำเภอใจ
นี่คงเป็นเพียงเรื่องเดียวที่บังเอิญหลักฐานเปิดเผยขึ้นมา เราไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้โจรอภิสิทธิ์เหนือกฎหมายได้ก่อเรื่องเช่นนี้ขึ้นมาแล้วกี่ครั้ง สิ่งที่เกิดขึ้นยืนยันได้ว่านอกจากม็อบ กปปส. จะไม่ชุมนุมโดยสงบ สันติ และอหิสาแล้ว ยังมีพฤติกรรมของโจรอำมหิตที่ไม่คำนึงถึงกฎหมายหรือความชอบธรรมใดๆ
เป็นความอภิสิทธิ์ที่มีอยู่ในสังคมไทยในทุกๆกรณี ซึ่งคนเสื้อแดงไม่มีสิทธิที่จะได้สัมผัสกับความเหนือชั้นนั้นเลย!?