นวน เจีย และ เขียว สัมพัน

ศาลกัมพูชาเสร็จสิ้นการพิจารณาคดี ผู้นำเขมรแดง 2 คนสุดท้ายที่เหลืออยู่ เมื่อวันพฤหัสบดี และคาดว่าจะมีการพิพากษาความผิดในช่วงต้นปีหน้า...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 31 ต.ค. ว่า ศาลพิเศษประเทศกัมพูชา เสร็จสิ้นการพิจารณาคดีนาย นวน เจีย และนาย เขียว สัมพัน ผู้นำกลุ่มเขมรแดง 2 คนสุดท้ายที่ยังมีชีวิตอยู่แล้ว เมื่อวันพฤหัสบดี โดยที่จำเลยทั้ง 2 คนต่างปฏิเสธขอหาก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ ที่พวกเขาได้รับ ส่วนการพิพากษาโทษคาดว่าจะมีขึ้นในช่วงต้นปีหน้า

ทั้งนี้ เขมรแดง หรือ กองทัพแห่งชาติกัมพูชาประชาธิปไตย เป็นรัฐบาลที่กุมอำนาจช่วงปีพ.ศ. 2518-2522 ในยุค “ทุ่งสังหาร” ซึ่งมีผู้เสียชีวิตจากการเข่นฆ่า ทรมาน และอดอยากกว่า 2 ล้านคน ก่อนถูกกองทัพเวียดนามบุกขับไล่จากอำนาจ แต่ยังคงมีการเคลื่อนไหวต่อต้านอยู่ จนกระทั่งนาย พล พต 'พี่ใหญ่หมายเลข 1' ผู้นำขบวนารในขณะนั้น ลงนามในข้อตกลงสันติภาพ ยุติบทบาทของเขมรแดงอย่างเป็นทางการ

นาย นวน เจีย อายุ 87 ปี เป็นอดีตผู้นำการโฆษณาชวนเชื่อส่วนนาย เขียว สัมพัน อายุ 82 ปี เป็นอดีตประธานาธิบดีเขมรแดง พวกเขากล่าวปกป้องตนเองจากข้อกล่าวหาในชั้นศาล โดยยืนยันความเชื่อมั่นของพวกเขาว่า การกระทำที่เกิดขึ้นในอดีตล้วนเป็นการทำเพื่อประโยชน์ของชาติ และไม่รู้เรื่องการสังหารหมู่ขนานใหญ่ที่เกิดขึ้นด้วย

"มันเป็นเรื่องง่ายที่จะบอกว่า ผมควรจะรู้เห็นทุกอย่าง เข้าใจในทุกเรื่อง และสามารถแทรกแทรงหรือแก้ไขสถานการณ์ในขณะนั้นให้ถูกต้องได้ คุณคิดจริงๆหรือว่า นั่นคือสิ่งที่ผมอยากให้เกิดขึ้นกับประชาชนของผม? แต่ความเป็นจริงก็คือ ผมไม่มีอำนาจอะไรเลย" เขียว สัมพัน ที่กล่าวในชั้นศาล และเปิดเผยโดยสำนักงานเอพี

ชาวกัมพูชา ที่มาร่วมฟังการพิจารณคดีของ 2 ผู้นำเขมรแดง

ขณะเดียวกัน นวน เจีย หรือ 'พี่ใหญ่หมายเลข 2' กล่าวว่า เขาไม่เคนออกคำสั่งให้นักรบเขมรแดง ข่มเหงรังเก หรือเข่นฆ่าประชาชนเพื่อปล้นสะดมอาหาร หรือฆ่าล้างเผ่าพันธ์ุใดๆทิ้งสิ้น แต่เขายอมรับว่าต้องรับผิดชอบทางศิลธรรมต่อการตายของประชาชน และว่า เขาต้องการขอโทษอย่างจริงใจต่อสังคม, ผู้เสียชีวิต, ครอบครัวของพวกเขา และชาวกัมพูชาทุกคน

อนึ่ง หลังจากเขมรแดงล่มสลายผู้นำอย่าง พล พต ก็เสียชีวิตในป่าในปี 2541 ส่วน นวน เจีย, เขียว สัมพัน รวมถึง เอียง ซารี พี่ใหญ่หมายเลข 2 ถูกศาลพิเศษฯ จับดำเนินคดีร่วมกับแกนนำเขมรแดงอื่นๆในปี 2550 แต่มีเพียงนายเกียง เก็ก เอียฟ หรือ “สหายดึ๊ก” อดีตผู้คุมเรือนจำโตล สเลง ซึ่งคุมขังและสังหารศัตรูเขมรแดงกว่า 13,000 ศพเท่านั้นที่ถูกศาลพิพากษาโทษจำคุกตลอดชีวิต และในวันที่ 14 มี.ค. ที่ผ่านมา เอียง สารี ก็เสียชีวิตขณะอายุ 87 ปี หลังจากป่วยมาหลายเดือน โดยที่การพิจารณาคดียังไม่เสร็จสิ้น

ส่วนนางเอียง ธิริธ ภรรยาของเอียง ซารี อดีต รมว.กิจการสังคม ศาลสั่งระงับการพิจารณาคดีปีที่แล้วเพราะสภาพจิตไม่พร้อม ป่วยด้วยโรคอัลไซเมอร์.