YOKOHAMA ท้าพิสูจน์ยางรถยนต์ “BluEarth-A (บลูเอิร์ธเอส)” ชูจุดขายรักษ์สิ่งแวดล้อม สมรรถนะยึดเกาะถนน เน้นประสิทธิภาพดอกยางรีดน้ำ พาสื่อบินลัดฟ้าทดสอบที่ จ.เชียงใหม่....

YOKOHAMA เชิญสื่อมวลชนร่วมทดสอบสมรรถนะยางรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุด “BluEarth-A (บลูเอิร์ธ-เอส)” ยางรถบ้านประสิทธิภาพดีที่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ชูจุดเด่นยางรถยนต์เพื่อสิ่งแวดล้อมช่วยประหยัดเชื้อเพลิงให้สมรรถนะการยึดเกาะถนนที่ดีเยี่ยมและให้ระยะเบรกที่สั้นกว่าบนถนนเปียกใช้งานได้อย่างมั่นใจปลอดภัยในการยึดเกาะถนนแม้วันฝนตก ณ บริเวณอุทยานหลวงราชพฤกษ์

BluEarth-A AE-50 ยางรถบ้านที่มีประสิทธิภาพด้านการยึดเกาะ ลดเสียงดังและมีดอกยางรีดน้ำแบบพิเศษมีให้เลือกตั้งแต่ขอบ 14-17 นิ้ว หน้ากว้าง 175-245 และซีรี่ส์หลากหลายโดยมีให้เลือกตั้งแต่ 40-65 รวม 30 ขนาด ราคาขายตั้งแต่ 2,125-6,500 บาท ครอบคลุมรถยนต์ที่ใช้งานทั่วไป เริ่มจากกลุ่มรถซับคอมแพ็คคาร์ไปจนถึงกลุ่มรถขนาดมิดไซซ์ซีดาน วางจำหน่ายตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคมนี้เป็นต้นไป

มร.ซาโตชิ ฟูจิตสึ (Mr.Satoshi Fujitsu) กรรมการผู้จัดการ บริษัท โยโกฮามา ไทร์เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยต่อนักทดสอบยางและสื่อมวลชนว่า“BluEarth-A (บลูเอิร์ธ-เอส)” ยางรถยนต์ที่ถูกคิดค้นและพัฒนาขึ้นภายใต้เทคโนโลยี BluEarth อันเป็นแนวคิดเพื่อสิ่งแวดล้อมของโลก ด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยในการประหยัดเชื้อเพลิงซึ่ง YOKOHAMA นำมาใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทั่วโลก โดยยาง“BluEarth-A (บลูเอิร์ธ-เอส)” ถูกพัฒนาเพื่อให้การขับขี่ที่นิ่มนวลภายใต้นวัตกรรม “Noise Controlled Pitch” ที่ให้ความมั่นใจในความเงียบและความคงทน การพัฒนาบล็อกดอกยางให้มีระยะของบล็อกที่มีขนาดเล็กลง นอกจากจะช่วยลดเสียงได้ดีแล้วยังป้องกันการสึกหรอแบบไม่เรียบ โดยบล็อกดอกยางมีความละเอียดมากถึง 84 บล็อกช่วยให้ผู้ขับขี่บังคับควบคุมรถได้อย่างแม่นยำ ช่วยประหยัดพลังงานเชื้อเพลิงให้สมรรถนะการยึดเกาะถนนที่ดีและให้ระยะเบรกที่สั้นกว่าบนถนนที่เปียกลื่น

จากผลการทดสอบเปรียบเทียบระยะเบรกระหว่างยาง BluEarth-A (บลูเอิร์ธ-เอส) กับยาง Earth-1 จากความเร็ว 120 กม.ต่อชม. จนลดลงเหลือ 0 กม.ต่อชม. บนพื้นผิวถนนเปียกยาง BluEarth-A (บลูเอิร์ธ-เอส)ให้ระยะเบรกที่สั้นกว่าถึง 20% สะท้อนถึงประสิทธิภาพการใช้งานได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยในการยึดเกาะถนนแม้วันฝนตก ยาง BluEarth-A (บูลเอิร์ธ-เอส) เป็นยางที่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น สามารถตอบเทรนด์การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่ผู้คนทั่วโลกให้ความใส่ใจ ในปัจจุบันมีให้เลือกตั้งแต่ขอบ 14-17 นิ้วหน้ากว้าง 175-245 และซีรี่ส์มีให้เลือกตั้งแต่ 40-65 รวม 30 ขนาดราคาจำหน่าย 2,125-6,500 บาท ครอบคลุมรถยนต์ที่ใช้งานทั่วไป ตั้งแต่กลุ่มรถซับคอมแพ็คคาร์ถึงกลุ่มรถขนาดมิดไซล์ซีดานเช่น Toyota Yaris, Toyota Vios, Toyota New Altis, Toyota Prius, ToyotaCamry, Honda City, Honda Jazz, Honda Civic, Honda Accord, Nissan Slyphy, NissanTeana, Mazda 2 และ Mazda 3

BluEarth-A AE-50 เริ่มวางจำหน่ายณร้านค้าผู้แทนจำหน่ายของ YOKOHAMAกว่า 300 แห่งและศูนย์บริการยางมาตรฐาน YOKOHAMACLUB NET WORK (YCN) 20 แห่งทั่วประเทศไทย ตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคมนี้เป็นต้นไป พร้อมกันนี้ได้จัดแคมเปญมอบให้แก่ผู้ใช้ในช่วงเปิดตัวแนะนำเมื่อซื้อยาง BluEarth-A(บลูเอิร์ธ-เอส) จำนวน 4 เส้นรับ SportBags (กระเป๋ากีฬาพรีเมียม) ที่จัดทำขึ้นมาเป็นการเฉพาะจำนวน 1 ใบ”

สำหรับการทดสอบสมรรถนะยางรุ่นใหม่ Yokohama BluEarth-A (บลูเอิร์ธ-เอส) ในครั้งนี้ YOKOHAMA มุ่งหวังให้ผู้ร่วมทดสอบได้สัมผัสถึงสมรรถนะของยาง BluEarth-A (บลูเอิร์ธ-เอส) อย่างครบถ้วนในทุกรูปแบบและทุกสภาพพื้นผิวที่ใช้งานจริง โดยเฉพาะจุดเด่นในเรื่องของ Wet Handling รวมถึงการได้สัมผัสธรรมชาติในรูปแบบของ BluEarth-A (บลูเอิร์ธ-เอส) ด้วยการแบ่งกิจกรรมการทดสอบออกเป็น 3 สถานี

สถานีแรก BluEarth-A (บลูเอิร์ธ-เอส) Performance TestStation
บนเนื้อที่กว่า 10,000 ตารางเมตร ณ บริเวณลานจอดรถอุทยานหลวงฯ โดยทีมทดสอบจาก YOKOHAMA ได้ทำการปรับเปลี่ยนให้เป็นพื้นที่ทดสอบสมรรถนะ BluEarth-A (บลูเอิร์ธ-เอส) ในด้านต่างๆ เพื่อเปรียบเทียบกับยาง YOKOHAMAEarth-1 ในพื้นผิวเปียก และ Wet Brake ในการทดสอบแบบ Twin Tracks การทดสอบในสถานีดังกล่าวแม้จะมีรูปแบบการขับขี่ที่เหมือนกันแต่จะมีความแตกต่างกันตรงที่สภาพพื้นผิวของถนนซึ่งมีทั้งแบบเปียก (Wet) และแบบแห้ง (Dry) ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ทดสอบได้เห็นถึงสมรรถนะของยางที่สามารถขับขี่บนพื้นผิวเปียกได้ดีและมีประสิทธิภาพสูงสุดหรือเทียบเท่าพื้นผิวแห้งในความเร็วของการใช้งานแบบปกติด้วยการขับทดสอบผ่านจุดต่างๆ เช่น Slalom-Figure 8-Lane Change ร่วมถึงการเบรกหรือหยุดรถอย่างกะทันหัน บนพื้นผิวเปียก ด้วยความเร็ว 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเพื่อเปรียบเทียบระยะเบรกที่สั้นกว่ายางรุ่นเดิม จากการทดสอบ การยึดเกาะทั้งผิวถนนแบบเปียกและแห้ง ยาง AE-50 ให้ความรู้สึกถึงการยึดเกาะกับผิวถนนได้ดี ยางที่มีการออกแบบด้วยการใช้เทคโนโลยีลดแรงต้านช่วยทำให้ประหยัดเชื้อเพลิงตามค่ามาตรฐานของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์และมีเสียงการทำงานขณะบดไปกับผิวถนนต่ำ

สถานีที่สอง BluEarth-A (บลูเอิร์ธ-เอส) Experience DriveStation
เป็นการขับขี่ทดสอบบนสภาพถนนที่ใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน ด้วยพื้นที่การทดสอบอยู่บริเวณชายเขาต่อเนื่องจากดอยสุเทพและเป็นเส้นทางธรรมชาติ โดยขับขี่จากตัวเมืองเชียงใหม่ มุ่งหน้าสู่ อำเภอสะเมิง นอกจากจะทำให้ผู้ทดสอบรับรู้ถึงสมรรถนะของยางภายใต้การใช้งานจริงในชีวิตประจำวันแล้วผู้ร่วมทดสอบยังได้สัมผัสถึงสมรรถนะยาง BluEarth-A (บลูเอิร์ธ-เอส)ในด้านการยึดเกาะถนน ให้ความนุ่มนวลผ่านโค้งขึ้นลงเขาหลากหลายรูปแบบก่อนที่จะถึงเส้นทางลัด ซึ่งเป็นถนนแบบคอนกรีตอัดแรงที่จะทำให้ผู้ร่วมทดสอบได้สัมผัสถึงความนุ่มของแก้มยางในขณะขับขี่ผ่านข้อต่อของถนนที่โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ ระยะทางรวมกว่า 20 กิโลเมตรพร้อมสนุกกับกิจกรรมพิเศษภายในไร่สตรอเบอรี่ ริมขุนเขา ที่ทาง YOKOHAMA จัดเตรียมไว้เป็นพิเศษสำหรับผู้ร่วมทดสอบทุกท่านนอกจากนี้ YOKOHAMA ยังมอบความสุขท่ามกลางธรรมชาติ เพื่อสะท้อนถึงแนวคิดการคิดค้นวิจัยและพัฒนายางรถยนต์ภายใต้เทคโนโลยี BluEarth ซึ่งเป็นแนวคิดเพื่อสิ่งแวดล้อมของโลกด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยในการประหยัดเชื้อเพลิงซึ่ง YOKOHAMA นำมาใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทั่วโลกของบริษัท

สถานีที่สาม BluEarth-A(บลูเอิร์ธ-เอส) Royal Park Tour
เพื่อให้ผู้ทดสอบทุกท่านร่วมเดินทางท่องเที่ยวโดยรถราง BluEarth พร้อมร่วมทำกิจกรรม สัมผัสบรรยากาศธรรมชาติและได้พักผ่อนผ่านสวนที่ตกแต่งอย่างสวยงามและสร้างชื่อเสียงให้จังหวัดเชียงใหม่ จากประเทศต่างๆ ภายในบริเวณอุทยานหลวงราชพฤกษ์

มร.ซาโตชิฟูจิตสึ (Mr.Satoshi Fujitsu) กรรมการผู้จัดการ บริษัทโยโกฮามา ไทร์ เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัดเปิดเผยว่า การเปิดตัวแนะนำยางรถยนต์รุ่นใหม่ “BluEarth-A (บลูเอิร์ธเอส)” ยางรถยนต์ที่ถูกคิดค้นและพัฒนาขึ้นภายใต้เทคโนโลยี BluEarth อันเป็นแนวคิดเพื่อสิ่งแวดล้อมของโลกด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยในการประหยัดเชื้อเพลิง ซึ่ง YOKOHAMA นำมาใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทั่วโลกโดยยาง “BluEarth-A (บลูเอิร์ธ เอส)” ถูกพัฒนาเพื่อให้การขับขี่ที่นิ่มนวลภายใต้นวัตกรรม “Noise Controlled Pitch” ที่ให้ความมั่นใจในความเงียบได้ยาวนานด้วยการพัฒนาบล็อกดอกยางให้มีระยะของบล็อกที่มีขนาดเล็กลงนอกจากจะช่วยลดเสียงได้ดีแล้ว ยังป้องกันการสึกหรอแบบไม่เรียบ โดยบล็อกดอกยางมีความละเอียดมากถึง 84 บล็อกช่วยให้ผู้ขับขี่บังคับควบคุมรถได้อย่างแม่นยำ ช่วยประหยัดเชื้อเพลิง ให้สมรรถนะการยึดเกาะถนนที่ดีและให้ระยะเบรกที่สั้นกว่าบนถนนเปียก โดยตั้งเป้าจำหน่ายยาง BluEarth-A(บลูเอิร์ธ เอส) ไว้ที่ 65,000 เส้น ภายในสิ้นปีนี้ ขณะที่ยอดขายรวมของ YOKOHAMA ในปีนี้ตั้งไว้ที่ 350,000 เส้น แบ่งเป็นยางกลุ่มรถยนต์นั่ง 45% กลุ่มยางรถยนต์ SUV รวมกับยางกลุ่มรถปิกอัพและ SUV45% และรถบัสรถบรรทุกอีก 10% แม้เป้ายอดจำหน่ายในปีนี้จะน้อยกว่าปีที่ผ่านมา 30,000 เส้นก็ตาม แต่เมื่อวิเคราะห์จากปัจจัยลบและผลกระทบรอบด้านถือว่าสมเหตุสมผล หากภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยปรับตัวดีขึ้น สถานการณ์การเมืองคลี่คลายลงโดยเร็วความต้องการของตลาดอาจมีทิศทางการเติบโตดีขึ้นได้เราอาจจะปรับเป้ายอดขายเพิ่มขึ้น”

มร.ซาโตชิ ฟูจิตสึ กล่าวถึงภาพรวมตลาดยางรถยนต์เมืองไทยในปีนี้ว่าไตรมาสแรกและไตรมาสสองของปีนี้ คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากปัญหาทางการเมืองโดยตรงขณะที่ค่าเงินบาทภาวะเศรษฐกิจที่ยังตกต่ำในปัจจุบันรวมถึงราคาพืชผลทางการเกษตรกรรม ไม่ว่าจะเป็นราคาข้าว และราคายางพาราทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลงจากภาวะดังกล่าวนี้ส่งผลให้ภาคธุรกิจต่างได้รับผลกระทบด้วยกันทั้งสิ้น “ช่วงที่ผ่านมาผู้บริโภคจะยืดระยะเวลาในการเปลี่ยนยางแต่ตราบใดที่รถยนต์ยังเป็นสิ่งจำเป็น ที่สุดแล้วความต้องการของตลาดจะกลับคืนมานอกจากนี้ยังมีสิ่งที่น่าสนใจคือ กลุ่มรถอีโคคาร์ที่วางตลาดช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งมีปริมาณการขายที่สูงมาก รถกลุ่มนี้ถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนยางจะมีส่วนทำให้ตลาดยางทดแทนมีโอกาสทางการขายสูงในปีนี้ เบื้องต้นคาดว่าตลาดยางรถยนต์เมืองไทยจะมีปริมาณจำหน่ายรวมกันที่ 10 ล้านเส้นซึ่งใกล้เคียงกับปีที่แล้ว”

ส่วนสถานการณ์ราคายางพาราที่ตกต่ำทำให้ค่ายผู้ผลิตยางรถยนต์ต่างได้รับประโยชน์กันถ้วนหน้าจะทำให้ตลาดยางรถยนต์เกิดการแข่งขันรุนแรง โดย YOKOHAMA จะนำประโยชน์จากต้นทุนที่ต่ำนี้ส่งคืนกลับไปให้กับผู้บริโภคโดยตรงด้วยการจัดแคมเปญพิเศษเพื่อให้ลูกค้าได้รับความคุ้มค่าในการเลือกใช้ยาง YOKOHAMA อย่างสูงสุด นอกเหนือไปจากคุณภาพและสมรรถนะของผลิตภัณฑ์ สำหรับนโยบายการทำการตลาดในปี 2557 นอกจากจะขับเคลื่อนกลยุทธ์ทางการตลาดแบบ 360 องศาที่มีทั้งในรูปแบบ Push, Pull และ Motor Sport Marketing ผ่านการสนับสนุนการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบรายการสำคัญระดับประเทศอาทิ ไทยแลนด์ ซูเปอร์ ซีรี่ส์ 2014, โปร.เรซซิ่ง ซีรี่ส์ ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนชิพ 2014, รายการ D1 Grand Prix Thailand Series 2014 และสนับสนุนนักขับในรายการ Off Road Trophy เพื่อร่วมกันต่อยอดความสำเร็จการดำเนินธุรกิจของเครือข่ายและให้สามารถตอบทุกโจทย์ความต้องการของลูกค้า ที่จะดำเนินงานอย่างเข้มข้นตลอดปี 2557 แล้ว YOKOHAMA จะเพิ่มความเข้มข้นในการทำตลาด OEM ร่วมกับค่ายผู้ผลิตรถยนต์ในประเทศไทยอีกด้วย

“เราจะเพิ่มความเข้มข้นในการทำตลาดทุกภาคส่วนแบบคู่ขนาน อย่างกลยุทธ์ “MotorSport Marketing” ยังคงเน้นหนักเช่นเคย โดยสนับสนุนงบประมาณในการทำทีมพร้อมทั้งสนับสนุนยางรถยนต์ให้กับทีมแข่งและนักขับระดับประเทศ ด้วยงบประมาณราว 10 ล้านบาท ขณะที่ตลาด OEM ตามแผนธุรกิจของบริษัทแม่ประเทศญี่ปุ่นที่เล็งเห็นความความสำคัญของภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะประเทศไทยซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง จึงตั้งเป้าการรุกขยายตลาดนี้กับค่ายผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นที่มีฐานการผลิตรถยนต์ในประเทศไทย ให้ครอบคลุมทุกแบรนด์ ขณะนี้เริ่มทำตลาด OEM กับค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นในประเทศไทยมากขึ้นส่วนค่ายรถยนต์อื่นๆ กำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณา”