ยินดีต้องรับเข้าสู้ "ห้องพระ" ห้องที่รวบรวมข้อมูลวัตถุมงคล เพื่อประโยชน์ต่อผู้ที่ต้องการเสริมดวงชะตา ลดเคราะห์กรรม เพิ่มบารมี เพื่อชีวิตที่ดีกว่าเดิม ทุกรุ่น ทุกแบบ ล้วนมีประสบการณ์เป็นที่ประจักษ์ต่อบรรดาลูกศิษย์ทั้งหลาย
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2557
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
4 มีนาคม 2557
 
All Blogs
 
พระบรมรูปของสมเด็จพระพุทธกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้าปางลีลาประทานพร

พระพุทธลีลาประทานพร แกะสลักจากหินเขียวแม่น้ำโขง
พระพุทธลีลาประทานพร แกะสลักจากหินเขียวแม่น้ำโขง ความสูง ๒๘๔ เซนติเมตร 
สร้างเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมายุ ๘๔ พรรษา
พระอาจารย์ เล่าให้ฟังถึงที่มาของการสร้าง พระบรมรูปของสมเด็จพระพุทธกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้าปางลีลาประทานพร ว่า "อาตมาจะสร้างพระพุทธรูปปางลีลาประทานพร เกิดขึ้นมาจากการฝึกมโนมยิทธิครั้งแรก เมื่อขึ้นไปถึงบัณฑุกัมพลศิลาอาสน์แล้ว ครูฝึกท่านแนะนำให้เชิญพ่อแม่ในอดีตทั้งหมดมารวมกัน เพื่อที่เราจะได้กราบขอบพระคุณท่านที่เคยอุ้มชูเลี้ยงดูเรามาในแต่ละชาติแต่ละภพ

ปรากฏว่าพ่อแม่มามากจนนับไม่ถ้วน ครูฝึกจึงแนะนำว่า ให้อธิษฐานขอให้พ่อแม่ที่มีวาสนาบารมีมากที่สุด ให้ออกมายืนข้างหน้า อาตมาก็เห็นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งเสด็จออกมาในลักษณะพุทธลีลา งดงามสุดๆ งามประทับใจ ภาพนั้นติดตามาจนทุกวันนี้

กราบทูลถามพระองค์ท่านว่ามีพระนามใด ? ทรงตรัสว่า "จำพ่อไม่ได้แล้วหรือ ?" กราบทูลว่า "จำไม่ได้จริงๆ พระเจ้าข้า" พระองค์จึงบอกว่า "สมเด็จพ่อพุทธกัสสปของเธออย่างไรเล่า ต่อไปถ้าจะมาหาเธอ พ่อจะมาในลักษณะอย่างนี้ ให้จำไว้" อาตมาก็จำว่าพระองค์จะมาในลักษณะพระพุทธเจ้าปางลีลาประทานพร ภาพนี้ติดตามาโดยตลอด

จนกระทั่งหลังจากบวชแล้ว พรรษาที่สอง..ยังไม่เต็มพรรษาดี บรรดาพระรุ่นพี่ๆ สึกเสีย ๔ - ๕ รูปติดกัน เริ่มตั้งแต่หลวงตามหาแสวง หลวงพี่เกรียงไกร หลวงพี่พรสรรค์ ที่หนักที่สุดคือหลวงพี่ชัยศรี

หลวงพี่ชัยศรี คือ ผู้ที่ใครๆ ก็คิดว่าต้องเป็นองค์แทนถัดไปจาก หลวงพ่อ ตอนนั้น หลวงพี่อนันต์ ยังไม่มีแววโผล่มาเลย แต่หลวงพี่ชัยศรีกลับสึกเสียนี่ ใจหายจนบอกไม่ถูก กลางคืนอาตมาต้องนอนกอดจีวรแน่น รู้สึกหวงจีวรจริงๆ "ใครอย่ามาเอาของกูไปนะ.." รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ว่าจะไม่ยอมให้ใครมาเอาจีวรของเราไป"

"พอตกเย็น ต้องไปทำกรรมฐานทุกวันที่ ตึกธัมมวิโมกข์ ทำวัตรเย็นเสร็จก็เจริญกรรมฐาน ถึงทุ่มครึ่งจึงกลับกุฏิ เวลากลับอาตมาที่เคยชินกับการเดิน ก็เดินออกจากตึกธัมมวิโมกข์เลาะมาผ่าน ตึกกลางน้ำ (ตึกสงวนจิตรและเพื่อน)

ตอนนั้น หลวงพ่อ พักอยู่ที่ตึกกลางน้ำ ก็ยกมือไหว้ที่ตึกหลวงพ่อ นึกในใจว่า "หลวงพ่อครับ..ขนาดพี่ๆ เขาอยู่กันมานานอย่างนั้น ยังไปกันหมด แล้วน้ำหน้าอย่างผมจะอยู่ได้หรือครับ ?" พอคิดอย่างนั้น รู้สึกเหมือนกับพื้นที่ทั้งหมดว่างโล่ง แผ่นดินแผ่นฟ้าหายไปหมด เหลือพระพุทธเจ้าในลักษณะปางลีลาองค์ใหญ่ยืนค้ำฟ้า แล้วพระหัตถ์ของพระองค์ท่านก็จูงแขนอาตมาข้างหนึ่ง

พระหัตถ์อีกข้างทรงชี้ไปข้างหน้าไกลลิบโลกเลย เห็นจุดวิบๆ ๆ เหมือนอย่างกับเพชรสว่างแพรวพราว ทรงตรัสว่า "พระนิพพานอยู่ข้างหน้าโน่น..ไปให้ถึงนะลูก" ภาพนี้ติดตาติดใจอาตมาตลอดมา คิดว่าถ้ามีโอกาสก็จะสร้างพระบรมรูปของพระองค์ในลักษณะอย่างนี้ แต่ก็ไม่มีโอกาสสักที

ตอนแรกที่เห็นเพื่อนพระ คือ พระอาจารย์วันชาติ วํสธมฺโม วัดป่าพระพุทธบาทเขาน้อย ท่านสั่งแกะพระพุทธรูปปางลีลาประทานพร อาตมาเห็นก็บอกกับท่านว่า "นี่แหละ..แบบที่ผมอยากได้เลย" แต่ของท่านองค์เล็ก ทั้งฐานและองค์สูง ๒ เมตรเท่านั้น ถามท่านว่า "ค่าแกะเท่าไร ?" ท่านบอกว่า "อาจารย์ถามค่าหินผมก่อนดีกว่า" จึงถามว่า "ค่าหินของคุณเท่าไร ?" ท่านบอกว่า "สามแสนบาท..!"

"แล้วค่าแกะล่ะ ?" ท่านบอกว่า "หกแสนบาท..!" นี่แค่ ๒ เมตรนะ ก็เลยถามว่าช่างอยู่ที่ไหน ? ท่านบอกว่าอยู่เชียงรายแถวแม่สายโน่น.. "ผมอยากได้อย่างนี้บ้าง" ท่านบอกว่า "ถ้าอย่างนั้นต้องบอกให้ช่างเขาหาหินไว้ให้ก่อน"

ปรากฏว่าเกือบสองปีถึงจะได้หินมา แต่หินของอาตมา ช่างเขาคำนวณพื้นที่แล้ว องค์พระจะแกะได้สูง ๒ เมตร มีฐานพระอีก ๗๐ เซ็นติเมตร ช่างจึงขอคิดค่าแรงเพิ่มขึ้นเป็น ๗๐๐,๐๐๐ บาท ใช้เวลาในการแกะประมาณ ๑๘ เดือน"

"สล่า (ช่าง) ท่านนี้อายุมากแล้ว หลังจากใช้ลูกศิษย์แล้วไม่ได้ดั่งใจ ท่านก็เลยทำเองคนเดียว ท่านบอกว่าเสียดายพระพุทธรูปปางลีลา เราลองนึกดูว่าหินก้อนอย่างนี้ เวลาแกะด้านล่างให้มีขนาดเล็ก จะต้องถากหินออกเยอะมาก อาตมาจึงบอกว่า "ถ้าปาดหินออก ช่างพยายามเก็บไว้ให้ก่อน จะไปดูว่าเผื่อจะทำอะไรได้บ้าง"

พออาตมามาเจริญกรรมฐาน ๑๕ วัน ที่ วัดบางช้างเหนือ อากาศเปลี่ยนเป็นหนาวจัด ทำให้ไม่สบาย ตอนเช้ามืด หลวงพ่อวัดท่าซุง ท่านก็มา แวะมาดูว่าตายหรือยัง..! สมเด็จพระพุทธกัสสป ท่านเสด็จมาทีหลัง มาบอกว่า "ขอบใจมากนะลูก..ที่ตั้งใจจะทำรูปของพ่อขึ้นมาให้เป็นที่เคารพบูชาแก่คนทั้งหลายเขา นับว่าสิ่งที่เจ้าตั้งใจมาตั้งนานแล้ว จะประสบความสำเร็จตามที่หวัง"

แล้วพระองค์ท่านทรงอธิบายว่า พระพุทธรูปปางลีลาประทานพร โดยความหมายก็คือ ความเจริญก้าวหน้าและความสำเร็จในทุกด้านถ้ามีโอกาสจะหล่อเป็นพระบรมรูปยืนองค์เล็กของพระองค์ท่าน เผื่อไว้พวกเราได้มีโอกาสบูชาไว้ประจำบ้านด้วย

อาตมาเพิ่งจะเข้าใจเหมือนกันว่า ลีลา ก็คือ การเดินไปข้างหน้า ความก้าวหน้า การประทานพร ก็คือ การให้ในสิ่งที่เราต้องการ"

"พระองค์ท่านอธิบายว่า หมายถึง ความก้าวหน้าและความสำเร็จทุกอย่าง พระองค์ท่านเป็นพ่อที่อาตมาอาศัยพึ่งบารมีมาตลอด

หลวงพ่อฤๅษี ท่านบอกว่า พระพุทธเจ้าสองพระองค์ คือ พระพุทธเจ้าพระนามว่าพระพุทธทีปังกร และพระพุทธเจ้าพระนามว่าพระพุทธกัสสป เป็นพระพุทธเจ้าที่เลิศด้วยลาภกว่าทุกพระองค์ เพราะทั้งสองพระองค์เริ่มการบำเพ็ญบารมีเพื่อพระโพธิญาณมาจากทานบารมี

แต่ทั้งสองพระองค์นี้ไม่เหมือนกันนะ องค์หนึ่งมาทีฟ้าถล่มดินทลาย เหมือนกับคลื่นทะเล อีกองค์มาแบบเรื่อยๆ เหมือนน้ำที่ไหลไม่รู้จักขาดสายเสียที แต่เป็นผู้ที่เลิศด้วยลาภเหมือนกัน

อาตมาก็ไม่ได้นึกว่า ในชีวิตจะเกิดมามีพระพุทธเจ้าเป็นพ่อเหมือนกัน เกิดนานเท่าไรก็จำไม่ได้หรอก แต่อย่างหลวงพ่อวัดท่าซุง ท่านบอกว่า ท่านสร้างบารมีมา ๑๖ อสงไขยกับแสนกัป ท่านพบพระพุทธเจ้ามาจนกระทั่งขี้เกียจนับ ท่านบอกว่าเฉพาะที่เกิดเป็นลูกท่านก็ ๘๔ พระองค์ นั่นหลวงพ่อของเรานะ"

สนทนากับพระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เก็บตกบ้านอนุสาวรีย์ ต้นเดือนมกราคม ๒๕๕๔

ที่มา : //www.watthakhanun.com/webboard...?t=2399&page=5



Create Date : 04 มีนาคม 2557
Last Update : 4 มีนาคม 2557 13:38:20 น. 0 comments
Counter : 1391 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 1274472
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




Friends' blogs
[Add สมาชิกหมายเลข 1274472's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.