เต่านักล่าแห่งลุ่มน้ำแดนอเมริกาใต้ (Chelus fimbriatus)
วันนี้เป็นวันอากาศดี ผมเลยตื่นเช้าเป็นพิเศษ หลังจากผ่านช่วงสอบที่แสนสาหัส ซุ่มอ่านหนังสือเช้าเย็นเป็นเวลาเกือบเดือน ในที่สุดมันก็จบลงแล้ว ภายในห้องนอน ผมเหลือบไปเห็นเต่าที่แสนรักนอนนิ่งอยู่ในตู้ด้วยความมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของมันเลยคิดที่อยากจะเขียนบทความเพื่อเผยแพร่ข้อมูลเต่าตัวนี้เพื่อให้เพื่อนๆพี่ๆในเวปนี้ได้รู้จักกับเต่าชนิดนี้ให้ลงลึกมากยิ่งขึ้นเต่ามาตามาต้า คืออะไรเป็นเต่าน้ำชนิดหนึ่งที่ถือกำเนิดมานานมากแล้วก่อนมนุษณ์เลยก็ว่าได้ ด้วยลักษณะที่แปลกประหลาดนี้และความสามารถในการล่าเหยื่อ ทำให้เต่าชนิดนี้ถูกตาต้องใจ นักเลี้ยงเต่าน้ำซาดิส (นอกจาก คอมม่อนแสนปปิ่ง และ อัลลิเกเตอร์ จากทวีปอเมริกาเหนือ) แต่ความรู้ความเข้าใจในเต่าชนิดนี้ยังไม่เป็นที่เข้าใจมากนัก งั้นเรามาทำความรู้จักกับเต่าชนิดนี้จากลุ่มน้ำแดนอเมริกาใต้ เลยครับtarget=_blank>เต่ามาตามาต้า (Matamata) มีชื่อวิทยาศาสตร์อย่างถูกต้องว่า Chelus fimbriatus อยู่ในแฟมมิรี่ Chelidae (เต่าคองู) สปีชีส์ Chelus ซึ่งเต่าในสปีชีส์นี้ก็มีแต่มันตัวเดียวนี้ละครับ จากรูปร่างหน้าตาของมันนับว่าเป็นสัประหลาดบนโลกได้เลย ด้วยจมูกที่มีความยาวคล้ายงวง หัวที่มีขนาดใหญ่ แบน คล้ายกับลูกศร ผิวหนังที่มีพู่เนื้อล้อมรอบ และคอยาวคล้ายงู กระดองที่เต็มไปด้วยสาหร่าย ซึ่งใช้ในการซุ่มซ่อนตัวอยู่ใต้บ่อน้ำหรือลำธารในอเมริกาใต้เป็นอย่างดีเป็นอย่างดี พบในแม่น้ำอเมซอนและแม่น้ำสาขาต่างๆ อาทิเช่น บราซิล เปรู เวเนซุเอร่า โคลัมเบีย เป็นต้น ลักษณะของเต่าเนื่องจากแม่น้ำอเมซอนเป็นแม่น้ำที่มีความหลากหลายมาก จึงทำให้ลักษณะชนิดเดียวกันมีความแตกต่างทางด้านสีสัน นี้จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมเต่าชนิดนี้ในตลาดขายสัตว์แปลกมีการตั้งชื่อทางการค้าเพื่อแยกลักษณะของที่มาของเต่า " ท้องแดง,ท้องดำ " ในวัยเด็กเต่าจะมีสีแดงหรือสีชมพู(คล้ายๆเนื้อปลาแซลม่อน) เมื่อเต่าโตขึ้นก็จะมีสีที่คล้ำขึ้น ผิวสีชมพูเปลี่ยนเป็นสีเหลืองหรือน้ำตาล โตเต็มที่มีขนาดประมาณ 20 นิ้ว(ในที่เลี้ยงอาจโตได้เล็กกว่าประมาณ15-16 นิ้ว)ลักษณะนิสัย เต่าชนิดนี้จะนอนซุ่มเพื่อรอเหยื่ออยู่ที่พื้นน้ำ เป็นเต่าน้ำโดยสมบูรณ์(นอกจากตัวเมียจะขึ้นบกเพื่อวางไข่อย่างเดียว) เชื่องช้าเป็นนิสัย อยู่โดดเดียว สามารถไว้น้ำได้นะครับ แต่ออกจะเชื่องช้าไปหน่อย ในธรรมชาติเต่าจำพวกนี้จะอยู่ในน้ำที่มีการทับถมของซากใบไม้ทำให้น้ำมีสีชาหรือน้ำตาลเข้มไปจนอ่อน (Blackwater) จากความรู้ที่มีมาการทับถมของซากใบไม้ในน้ำทำให้เกิดกรดอ่อนในน้ำ ทำให้แบคทีเรียหรือเชื่อโรคบางตัวถูกฆ่าได้อาหาร เต่าชนิดนี้กิน ลูกปลา เป็นหลัก โดยการดูดเอาเหยื่อเข้าไปทั้งตัวแล้วพ่นน้ำออกมา สร้างความตื่นเต้นให้ผู้เลี้ยงที่ครั้งที่ได้เห็น แนะนำเป็นปลาที่ไม่มีกระโดงแข็งๆหรือเงี้ยงที่สามารถทำอันตรายลำคอเต่าได้ เช่น ปลาไน ปลานวลจันทร์ ปลากัด เป็นต้น และควรมีขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กกับเต่าเกินไปนะครับ เคยมีเหตุการณ์ ปลานิลติดคอทำให้เต่าตายมาแล้ว ในที่เลี้ยงผู้เลี้ยงบางคนนำเนื้อหมู เนื้อไก่ มาให้ทำให้เต่าอ้วนเกินไป ทำให้เต่าอายุสั้นได้ (ในธรรมชาติไม่มีหมูในน้ำ 5555 ) สำหรับบางท่านที่ไม่อยากฆ่าสัตว์ตัดชีวิตสามารถฝึกให้กินกุ้งขาวได้ โดยแนะนำให้เกะส่วนหัวออกและล้างมันกุ้งออก ส่วนกระดองกุ้งจะแกะหรือไม่ก็ได้นี้ครับ ที่เรียกว่าท้องดำ รูปที่ 1-2 กระดองจะออกแนวทรงวงรีครับ ใต้ท้องมีสีดำ ป่นด้วยจุดสีแดง ใต้คางมองเห็นสีดำได้ชัดส่วน รูปท้องแดง รูปที่ 3 -4 กระดองทรงกลมๆ หน้าจะแดงๆ ไม่มีเส้นสีดำคาดผ่านที่คาง ใต้ท้องจะออกสีชมพูไปถึงเหลือง ในบางตัวจะแดงไปเลย เมื่อเอามาเทียบกันดูก็จะเห็นความแตกต่างอย่าชัดเจนครับ หน้าตาก็ไม่เหมือนกันนะครับ ลองสังเกตุดู แล้วแต่ความชอบของแต่ละคนครับ ส่วนเรื่องราคา ท้องแดงจะ แพงกว่าหน่อยครับการดูแลในที่เลี้ยง ควรจัดสถานที่ไม่ให้มีสิ่งที่ทำอันตรายต่อตัวเต่าได้ เช่น สิ่งมีคมต่างๆ แนะนำตู้โล่งๆ เนื้อที่ไม่กว้างเกินไปสำหรับเต่า เนื่องจากเต่าจะไม่เดินออกล่าเหยื่อ ทำให้จับปลาได้ลำบาก ระดับน้ำสูงให้เต่าสามารถยืดคอหายใจได้ ควรเปลี่ยนน้ำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการเกิดโรค แสงแดดส่องถึงพอควร(ในที่นี้หมายถึงส่องเข้าจากทางด้านบนโดนไม่ผ่านกระจก) อาจตกแต่งที่เลี้ยงด้วยพืชน้ำ เช่น จอกแหน เพื่อให้เต่าใช้เป็นที่กำบัง และลดความเครียดของตัวเต่าเองด้วย **ทริปเล็กๆ** ถ้าบางท่านอยากเลี้ยงน้ำBlackwater ก็สามารถทำได้โดยการเอาใบหูกวางแห้งๆ ใส่ลงไปในที่เลี้ยงหรือ เอาไปต้มเพื่อเอาน้ำอย่างเดียว อีกวิธีหนึ่งคือ เอาใบชาที่เรานำมาชงกินนี้แหละ สามารถใช้แทนกันได้ดีที่เดียว เท่านี้ท่านก็จะได้น้ำชามาแล้ว ^^ จบแล้วครับสำหรับบทความหวังว่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะครับ และหวังว่าเต่าชนิดนี้จะเข้าไปอยู่ในใจของใครหลายๆคนนะครับ มีข้อผิดพลาดอะไร แนะนำได้นะครับ ไว้โอกาสหน้าจะขอแก้ตัวใหม่ " ขอให้สนุกกับการเลี้ยงเต่านะครับ "อ้างอิงจากหนังสือ turtle of the world//creature.star.md/chelus-f ... known-as-mata-mata/ //en.wikipedia.org/wiki/Chelus//www.google.co.th/images?h ... amp;sa=N&tab=wi//www.flickriver.com/photos/joachim_s_mueller/tags/matamata/