◄ Chapter 8 : เอกสาร Packet 4 และการตรวจสุขภาพ K1 visa
My 2015 K1 Visa Journey ♥ เมื่อฉันจะไปอเมริกาในฐานะคู่หมั้น!


Chapter 8 : เอกสาร Packet 4 และการตรวจสุขภาพ K1 visa



ต่อจากการเตรียมPacket 3 เมื่อตอนที่แล้วนะคะ

ใครยังไม่ได้อ่านให้ย้อนกลับไปอ่านที่

Chapter 7 : เอกสาร Packet 3 มีอะไรบ้าง มาเตรียมเอกสารกัน!


เมื่อส่งเอกสาร Packet 3 ไปภายใน 7 วันคุณน่าจะได้รับอีเมล์ Packet 4 ค่ะ

สำหรับPacket 4 นี้ เราจะได้รับอีเมล์แบบนี้ค่ะ


ในอีเมล์จะบอกวันและเวลานัดสัมภาษณ์วีซ่าของคุณค่ะ

อย่างกรณีข้างต้นเป็นวันที่ 18 พฤศจิกายน 2558 เวลา 8.00 น. ค่ะ

นอกจากนี้ทางสถานทูตจะส่งลิงค์มาให้

ซึ่งภายในลิงค์จะพูดถึงการเตรียมตัวเตรียมเอกสารที่ต้องใช้ในวันสัมภาษณ์

ซึ่งได้แก่ เอกสารส่วนที่เหลือที่ขาดส่ง , เอกสารแสดงความสัมพันธ์ของเราและคู่หมั้น

และเอกสารการตรวจร่างกายค่ะ


ทีนี้อาจเกิดคำถามว่าการตรวจร่างกายสามารถทำตั้งแต่สมัครวีซ่าเลยได้หรือไม่?

ตอบไว้ตรงนี้เลยนะคะว่า ไม่ได้ เหตุผลเพราะว่า

1. การตรวจร่างกายจำเป็นต้องทำหลังจากที่ได้รับ Case number และวันนัดสัมภาษณ์แล้ว

เนื่องจากทางโรงพยาบาลจำเป็นต้องใช้ข้อมูลและหลักฐานดังกล่าว

2. เอกสารการตรวจร่างกายมีอายุเพียง 6 เดือน และมีผลต่อวันหมดอายุในวีซ่า

พูดง่ายๆคือเราจะต้องเดินทางเข้าประเทศอเมริกาก่อนที่เอกสารตรวจร่างกายจะหมดอายุนั่นเอง

เพราะงั้นถ้ารีบไปตรวจร่างกายเร็วผลที่อาจเกิดขึ้นถ้าคุณแพลนจะเดินทางช่วงท้ายๆก็คือวีซ่ามันจะ

หมดอายุก่อนค่ะ



เอาล่ะค่ะทีนี้พอคลิกลิงค์ที่แนบมากับอีเมล์

เราก็จะเจอกับเอกสาร Packet4 และข้อมูลการไปตรวจร่างกายค่ะ

ช่วงต้นของเอกสารก็จะมีเช็คลิสเอกสาร ซึ่งก็เป็นตัวเดียวกับ Packet3

เพียงแค่ว่าใครขาดส่งอะไรก็ให้เตรียมไปวันสัมภาษณ์

ซึ่งตรงนี้ Nakoze จะยกการเตรียมเอกสารขั้นตอนสุดท้ายเอาไว้บล็อกหน้าค่ะ

ในที่นี้รวมถึงเอกสารแสดงความสัมพันธ์ระหว่างเราและคู่หมั้นด้วยค่ะ

ทีนี้เรื่องการตรวจร่างกาย

ตามเอกสารแนบจะมีรายละเอียดดังนี้ค่ะ



ณ ปัจจุบัน ปี2015 สถานทูตให้ไปตรวจได้เพียง 3 แห่ง

คือโรงพยาบาลกรุงเทพ, โรงพยาบาลบำรุงราษฎ์ และโรงพยาบาลแมคคอร์มิค

ราคาก็เป็นตามด้านล่าง (บางท่านบอกว่าราคาอัพเดทแล้วเป็น 3,xxx บาท)

แต่ ณ วันที่ 12 Nov 2015

Nakoze ตรวจที่ราคาเดิมคือ 2,755 บาท ที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎ์ค่ะ

คราวนี้ประสบการณ์การตรวจร่างกายของ Nakoze นะคะ

เริ่มแรกก็โทรไปนัดคุณหมอตามรายชื่อด้านบน

สำหรับบำรุงราษฎร์โทรไปที่เบอร์

02-667-1000 ได้เลยค่ะ

จากนั้นแจ้งปลายสายว่าต้องการนัดตรวจร่างกายทำวีซ่าคู่หมั้นประเทศสหรัฐอเมริกา

ระบุชื่อคุณหมอไปได้เลยหรือถ้าหากเอาคุณหมอคนไหนก็ได้

ก็ให้นัดวันไปเลยค่ะว่าสะดวกช่วงไหน วันไหน

เค้าก็จะแจ้งมาให้เองว่ามีคุณหมอท่านไหนว่างตรงกับวัน-เวลาดังกล่าวบ้าง

ณปัจจุบันนี้สามารถตรวจได้ 7 วันต่อสัปดาห์

เพียงแต่ถ้ามาวันเสาร์-อาทิตย์

อาจจะมีคุณหมอมาน้อยหน่อยซึ่งก็ไม่เป็นประเด็นตราบเท่าที่เราสามารถนัดเวลาตรงกันได้


เมื่อได้วันนัดตรวจร่างกายแล้วให้เตรียมเอกสารดังต่อไปนี้


ใบนัดสัมภาษณ์วีซ่าถ้าไม่มีจดหมายก็คือให้ปริ้นท์อีเมล์ออกมาโดยให้เห็นเลข Case number ด้วย

รูปถ่ายถ้าไม่มีขนาด1x1.5 นิ้ว ก็ให้เอารูป 2x2 นิ้วที่ถ่ายสำหรับทำวีซ่าไปแทน

ผลการตรวจอิสุกอิใสอันนี้สำหรับใครที่เคยเป็นแล้ว

และไปฉีดวัคซีนที่สถานเสาวภามาเค้าจะจับตรวจเลือดและให้ใบยืนยันผลมาด้วย


ก่อนวันตรวจร่างกายไม่ต้องอดน้ำหรืออาหารใดๆนะคะ

เคสเรานัด 10 โมงเช้า แต่เสร็จสรรพออกจากโรงพยาบาลก็ราวๆบ่าย 2

เมื่อถึงวันนัดถ้าหากไม่เคยมีประวัติกับโรงพยาบาลมาก่อน

ก็ควรจะมาก่อนเวลาประมาณ30 นาทีเพื่อมากรอกประวัติและอื่นๆค่ะ

ใครไปโรงพยาบาลอื่นNakoze ไม่มีข้อมูลนะคะ

สำหรับบำรุงราษฎร์มาถึงแล้วให้ไปที่ตึกคลินิก

จากนั้นขึ้นลิฟท์ไปที่ชั้น10 เพื่อเริ่มการกรอกประวัติ

เมื่อกรอกประวัติเสร็จเจ้าหน้าที่จะแจ้งให้คุณขึ้นไปที่ชั้น15

เมื่อมาถึงชั้น15 ให้ติดต่อที่เคาเตอร์ลงทะเบียนก่อน

ทางเคาเตอร์จะออกเอกสารให้คุณและส่งคุณไปเคาเตอร์ย่อยๆอีกทีหนึ่ง

เมื่อคุณถึงเคาเตอร์ย่อยแล้วทางเจ้าหน้าที่ก็จะพาคุณไป

ตรวจวัดความดัน,วัดไข้, ตรวจสายตา, ชั่งน้ำหนัก

จากนั้นก็จะเป็นการเจาะเลือดเพื่อหาเชื้อซิฟิลิส

แล้วนำคุณไปเพื่อx-ray ปอด

เสร็จสิ้นจากการx-ray จะต้องรอผลตรวจประมาณ 1 ชั่วโมง

จากนั้นถึงจะได้พบแพทย์

เมื่อถึงขั้นตอนการพบแพทย์ก็ไม่มีอะไรมากค่ะ

ก็จะมีการซักประวัติการแพ้ยาโรคประจำตัว โรคติดต่ออื่นๆ

จากนั้นก็ยื่นสมุประวัติการฉีดวัคซีนให้แพทย์ไปลงบันทึก

จากนั้นก็ขึ้นไปบนเตียงส่องคอ ส่องการตอบสนองม่านตา

จากนั้นแพทย์จะบอกผลว่าปกติหรือไม่ค่ะ

ใช้เวลาพบแพทย์ประมาณ3-5 นาทีก็เสร็จสิ้น

จากนั้นก็ไปจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาล

ของNakoze เสร็จสรรพที่ 2,755 บาทถ้วน

เนื่องจากไม่มีการฉีดวัคซีนเพิ่มเพราะฉีดหมดแล้ว

ถ้าท่านไม่เคยฉีดวัคซีนมาเลยแล้วมาฉีดที่นี่

ราคารวมอาจจะอยู่ราวๆ6,xxx บาทได้เลยทีเดียว

ทีนี้ถ้าบางคนเคยฉีดวัคซีนบางตัวมาแล้วแต่ยังไม่ครบเช่น

MMRฉีด 2 เข็ม ห่างกันเข็มละเดือน

ถ้าคุณฉีดมาเข็มเดียวแล้วครบกำหนดเข็มสองแล้วยังไม่ได้ไปฉีด

ทางโรงพยาบาลก็จะจับฉีดวัคซีนด้วยเลยอย่างนี้เป็นต้น

เมื่อตรวจทุกอย่างเรียบร้อย

ก็จะได้ซองสีน้ำตาลมา1 ซอง อันนี้ห้ามแกะ ย้ำว่าห้ามแกะ

ให้ถือไปให้สถานทูตแกะในวันสัมภาษณ์

นอกเหนือจากนี้ก็จะได้ซองจดหมายอีก1 ซอง

อันนี้โรงพยาบาลแนะนำให้ถือไปตอนผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองที่อเมริกา


เอาล่ะค่ะเมื่อจบการตรวจร่างกายแล้ว

บล็อกหน้าNakoze จะเขียนถึงเรื่องการเตรียมเอกสารชุดสุดท้าย

ก่อนที่จะไปสัมภาษณ์K1 visa กันค่ะ

วันนี้ล่าไปก่อนค่า

Smiley


คลิกเพื่ออ่านบล็อกถัดไป Chapter 9 : หลักฐานแสดงความสัมพันธ์และเอกสารที่ต้องนำไปวันสัมภาษณ์วีซ่า K1
จำขั้นตอนไม่ได้ไม่เป็นไร คลิกย้อนกลับไปอ่านขั้นตอนการทำ Visa K1 ที่นี่





Create Date : 21 พฤศจิกายน 2558
Last Update : 21 พฤศจิกายน 2558 16:39:04 น.
Counter : 11896 Pageviews.

2 comments
  
ช่วงรอ ปรับสถานะหรือกรีนกาดรนี้ทำอะไรรออดีค่ะเพราะไม่ได้รับอนุญาติให้ทำงานค่ะ
โดย: Kuk IP: 73.254.137.166 วันที่: 22 กันยายน 2560 เวลา:6:39:41 น.
  
@ Kuk ทำได้หลายอย่างค่ะ หากิจกรรมยามว่างทำค่ะ เข้ายิม เรียนโยคะ ฝึกทำอาหาร เรียน ESL ส่วนเราอยู่้บานนั่งกินนอนกินค่ะ เบื่อมากแต่ตอนนั้นอยู่บ้านนอกค่ะ ไม่มีกิจกรรมให้ทำ การเดินทางก็ไม่สะดวก หายใจทิ้งไปวันๆ
โดย: nakoze วันที่: 30 กันยายน 2560 เวลา:4:01:21 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

nakoze
Location :
  United States

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 60 คน [?]



New Comments