Group Blog
All Blog
|
◄ Chapter 15 : ทำงานที่นี่คุณต้องทน ถ้าคุณไม่ทนเราก็ไม่มีงานให้คุณทำ ... คุณถูกไล่ออก (แก้ไข ณ วันที่ 9 ธันวาคม 2555) Chapter 15 : ทำงานที่นี่คุณต้องทน ถ้าคุณไม่ทนเราก็ไม่มีงานให้คุณทำ...คุณถูกไล่ออก (ขอบคุณรูปภาพจาก : //www.habitformingsuccess.com/leadership/day-10-youre-fired/) สวัสดียามบ่ายท่ามกลางอากาศร้อนจนอยากจะควักไส้ตัวเองออกมารับลมข้างนอก วันนี้ก็ได้ฤกษ์ดี ที่ nakoze จะมาอัพบล็อกต่อ จากคราวที่แล้ว nakoze ได้บ่นเรื่องงานคร่าวๆ ให้ท่านผู้อ่านรำคาญไปแล้วรอบนึง วันนี้ก็ถึงทีเม้าท์มอย เผาขนเพื่อน[อดีต]เพื่อนร่วมโครงการอย่างบักกล้ามโต อย่าได้ช้าไปตั้งวงเม้าท์เผาขนกันเลยดีกว่า หลังจากทำงานร้าน Shake Shack ไปได้เกือบอาทิตย์ nakoze ก็เกิดสำรวจเห็นความผิดปกติที่ท้องแขนตัวเอง อยู่ดีๆ มันก็เป็นผื่นแดงขึ้นมาทั้งๆที่ปกติผิวหนัง nakoze หนายังกับอุ้งตีนหมีควาย แค่ผื่นแดงยังไม่พอมันยังคันๆๆๆๆ คันมากจนทนไม่ไหว กลายเป็นผื่นจ้ำๆแบบในรูป ปล.ดิฉันสาบานค่ะว่านั่นแขน มิใช่ขาหมูแต่อย่างใด ว่าแล้วก็เริ่มย้อนอดีตชาติว่าไปทำอะไรมา[วะ] แล้วก็ระลึกชาติได้ว่าไอ้ผื่นแดงๆที่เกิดขึ้น มันมาจากการที่ nakoze ต้องเอาท้องแขนไปต่อสู้กับน้ำมันที่มันกระเด็นขึ้นมา เห็นมั๊ยคะท่านผู้ชม ทำงานร้านนี้สวยอย่างเดียวไม่พอ ต้องถึกและบึกบึน ตอนนั้นแบบ โอ้ยกรูไม่อยากทำงานแล้ว มาทำแค่แป๊ปเดียวได้แผลซะแล้วเนี่ย nakoze ก็ไปบ่นๆๆๆให้คนรอบข้างฟัง พี่จากที่เอเจนซี่ก็ขอร้องว่าอย่าลาออก จริงๆไม่คิดจะลาออกหรอก เพราะมั่นใจว่าหางานใหม่ไม่ได้แน่ๆ 55 ประกอบกับถ้าลาออก น้องๆ WAT รุ่นต่อๆไป ที่เค้าตั้งใจจะทำงานจริงๆก็คงหมดโอกาสเพราะรุ่นพี่อย่าง nakoze ไปสร้างชื่อเสียไว้ ว่าแล้ว nakoze ก็ทนทำงานที่ Shake Shack ต่อไป จนกระทั่งวันนึง เป็นวันที่ดวงอาทิตย์โคจรไปบังดาวพลูโต จนเกิดปรากฏการณ์ เอลนินโย่ ลานินย่า ปาปาย่า ป๊อก ป๊อก [ใครสอนวิทยาศาสตร์มันฟะ] เป็นวันที่ nakoze และ บักกล้ามโตได้มาทำงานร่วมกะกันพอดี [ปกติไม่เจอกันค่ะ] nakoze ได้รับหน้าที่ยืนปิ้งขนมปังอยู่ ก็เห็นบักกล้ามโตเดินเข้างานมา แล้วซักพักเค้าก็เดินออกไปคุยกับแมเนเจอร์ใหญ่แล้วกลับเข้ามาใหม่ แปปนึงแมเนเจอร์ใหญ่ก็เดินตามออกมา แล้วก็เริ่มพูดเสียงดังอย่างไม่พอใจ สรุปเรื่องได้ว่า บักกล้ามโตไม่สามารถทำงานในตำแหน่งใดๆได้ ถ้าตำแหน่งนั้นต้องโดนควัน ว่าแล้วแมเนเจอร์ชายใจสาว ก็ตวาดขึ้นมาว่าแล้วยูจะไปทำตรงไหน ยูเป็นแคชเชียร์ได้รึไง ? บักกล้ามโตผู้แสนซื่อก็เสือกพยักหน้าว่าทำได้ [ห่า .... เค้าประชดมึง] แมเนเจอร์ใหญ่ก็ยิ่งโกรธเข้าไปใหญ่ บอกว่าทำงานที่นี่ต้องเปลี่ยนหน้าที่กันไม่มีใครเลือกได้ แล้วเค้าก็หันมาพูดกับ nakoze ว่าช่วยไปพูดกับบักกล้ามโตให้มาปิ้งขนมปังได้ไหม nakoze ก็ถามบักกล้ามโตว่าให้มาปิ้งขนมปัง แต่มันก็ทำหน้านิ่งไม่ตอบอะไร พอเห็นอย่างนั้นแมเนเจอร์ใหญ่ที่กำลังโกรธจัด แกก็ตวาดว่าที่นี่เป็นร้านฟาสฟู้ด ไม่มีตรงไหนที่ไม่มีควัน ถ้าคุณจะทำงานตรงที่ไม่มีควันที่นี่ไม่มีงานให้คุณทำ เลือกเอาว่าจะทำหรือจะออกไป!!! สุดท้ายแล้วบักกล้ามโตก็เลยเลือกทางเดินชีวิตตัวเองโดยการถูกไล่ออก จริงๆแล้วเรื่องนี้บักกล้ามโตผิดเต็มประตู ถามว่าก่อนมาได้ Job offer หรือเปล่า ตอบเลยว่าบักกล้ามโตน่ะได้ แต่อ่านไหมอันนี้ไม่รู้ ใน Job offer ก็บอกแล้วว่าคุณสมบัติต้องมีอะไรๆบ้าง ลักษณะงานเป็นอย่างไร อีกทั้งก่อนมา nakoze เคยเตือนมันแล้วว่างานฟาสฟู้ดมันไม่เหมือนกับงานที่บักกล้ามโตเคยทำมานะ ตอนเตือนมันไปแบบนี้ มันก็ตอบกลับมาว่า โห nakoze ไมรู้หรอก ตอนเราทำงานนะต้องยกโน่นยกนี่ [งานที่มันเคยทำก็คือบริษัทย้ายของ แบบเวลาคนย้ายบ้าน หน้าที่มันก็คือการนั่งรถไปรัฐต่างๆ ช่วยยกของขึ้น ลง รถ ขนเข้าบ้าน] แต่มันต่างกันที่ว่าไอ้งานของมันนั้น ไม่ได้ทำตลอดทุกลมหายใจ มันจะเหนื่อยก็ตรงที่ต้องลงมือยกข้าวของ แต่งานฟาสฟู้ดคุณต้องทำตลอดเวลา เพราะว่าลูกค้าเข้ามาซื้ออยู่ตลอด คุณนั่งพักไม่ได้ คุณอู้ไม่ได้ ถึงแม้ไม่มีลูกค้าคุณก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะนั่ง และจริงๆแล้วบักกล้ามโตก็คงไม่ได้อยากมาทำงานตั้งแต่แรก เพราะพอมันทำงานได้ 2 วัน มันก็บอกจะไปขอลดวันทำงานซะอย่างนั้น หลังจากบักกล้ามโตถูกไล่ออก[ที่เจ้าตัวเค้าพูดว่าเป็นคนลาออกเอง ] nakoze ก็โดนคนในร้านเข้ามาแวะเวียนถามว่ารู้ไหมว่าทำไม a Thai guy ถึงถูกไล่ออก ... คำตอบเดียวที่ nakoze จะมีให้ก็คือยักไหล่แล้วส่ายหน้า [อันมาจากกรูเรียบเรียงประโยคภาษาอังกฤษจะเม้าท์ให้เมิงฟังไม่ถูกนี่เอง ไม่ได้อยากทำเท่อะไรหรอก ] ในตอนค่ำๆของวันนึงหลังจากบักกล้ามโตโดนไล่ออกแล้วก็ได้คุยกับพี่เอเจนซี่ เค้าเล่าให้ฟังว่าตอนนี้บักกล้ามโต ถูก US sponsor ขู่ว่าจะ terminate visa เพราะก่อนหน้านั้น He ก็ไปทำเรื่องไว้ โครงการเค้ามีกำหนดเลิกงานประมาณ ต้นเดือน มิ.ย แต่ด้วยความที่ He ไม่อยากทำแล้ว [เหตุผลที่คุณๆรู้กัน] He ก็เลยไปขอเมเนเจอร์ว่าจะเลิกงานปลายเดือน เม.ย นายจ้างก็ไม่พอใจ ส่งเรื่องไปให้องค์กร องค์กรก็เลยแจ้งเตือน ว่าถ้าเลิกงานก่อนกำหนด จะถูก terminate visa บลาๆ และตอนนั้นเอง บักกล้ามโตก็มั่นมาก he ส่งเมล์กลับไปด่าองค์กรประมาณว่า ไม่มีสิทธิ์จะมาตัดวีซ่า He บลาๆ เอากับเขาสิท่านผู้ชม ยิ่งพอเกิดเรื่องครั้งนี้องค์กรที่คงจะหมั่นไส้ He พอสมควร ก็ยิ่งตัดสินใจง่ายมาก He ถูก terminate visa อย่างรวดเร็วปานสายฟ้าแลบ พี่เอเจนซี่จาก Itworks ก็ดีใจหาย พยายามหาทางติดต่อจะช่วยมัน ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เรียกเค้าด้วยคำที่ไม่ให้เกียรติบ่อยเหลือเกิน ด้วยที่บักกล้ามโต เป็นแมนแท้ 1000% ซึ่งคุณๆก็รู้ว่าไอ้พวกแมนแท้ มันเกลียดเพศที่ 3 มาก [nakoze ก็ไม่เข้าใจว่าทำไม] ตอนที่คุยโทรศัพท์มันยังไม่รู้ แต่พอมาเจอ มาคุย ตั้งแต่นั้นมันเรียกเค้าว่า "ตุ๊ดxxx" บางทีก็แรงขนาดเรียกว่า "อ๋อ อีตุ๊ด อ่ะนะ" เรียกแบบนี้หลายรอบมาก จนเราซึ่งเป็นคนฟังรู้สึกแย่อ่ะ แบบว่า เอ๊ะทำไมวะ เค้าจะเป็นอะไร มันก็เรื่องของเค้า เค้าไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้มึงเลย แล้วตอนแรกๆก็ดีๆ พอรู้ว่าเค้าเป็น มาพูดแบบนี้ nakoze เลยเกลียดมาก ถามมันกลับไป ทำไมถึงไปเรียกพี่เค้าแบบนั้น ? มันก็เงียบ แล้วสุดท้าย จากที่เกลียดตุ๊ด เกลียดกระเทยนักหนา He ก็ต้องกลืนน้ำลายตัวเอง ต้องไปแชร์บ้านกับกระเทย ..... อาเมน บล็อกนี้ไม่มีอะไรเลยระบายอารมณ์ล้วนๆ แต่นั่นแหละอยากจะฝากถึงคุณๆทั้งหลายที่กำลังจะตัดสินใจเข้าร่วมโครงการ Work and Travel นะคะ ดิฉันอยากจะบอกกับคุณว่า ก่อนที่จะตัดสินใจมา คุณกรุณาทำความเข้าใจจุดประสงค์ของโครงการนิดนึง คือโครงการนี้หน้าที่หลักของเรา คือการ "ทำงาน" ถ้าคุณหวังจะมาเที่ยวมาหาญาติ กรุณาขอวีซ่าท่องเที่ยวมาค่ะ ถ้าจะเข้าร่วมโครงการนี้แล้ว คุณต้อง "ทำงาน" ให้ได้เท่ากับที่คนอเมริกันเค้าทำ ถ้าคุณทำโน่นทำนี่ไม่ได้ โดนควันไม่ได้ อยู่ในที่ๆร้อนไม่ได้ จับมีดไม่ได้ กลัวแป้งสาลี ล้างจานไม่เป็น โรคดัดจริตกำเริบอย่ามาค่ะ เพราะนอกจากคุณจะเสียแล้วมันทำให้คำว่า Thai มันเสียด้วย เพราะเวลาเขาด่า เขานินทา เค้าไม่ได้แค่เรียกชื่อคุณ แต่เค้าจะเรียกคุณว่า "a Thai boy, a Thai girl" แล้วคุณไม่ละอายใจกันบ้างหรอ อีกเหตุผลนึงคือการที่มาทำชื่อเสียไว้แบบนี้ รุ่นต่อๆไป ที่จะมาทำงานที่นี่ ก็อาจจะยาก เพราะแมเนเจอร์เค้ารู้สึกไม่พอใจ กับเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว (และเป็นจริงตามที่ nakoze เขียนไว้ค่ะ รุ่น nakoze เป็นรุ่นแรกและรุ่นสุดท้าย ที่ได้มาทำงานที่ Shake Shack สาขานี้ แมเนเจอร์ไม่รับเด็กไทยแล้วค่ะ ) เค้าก็จะมองว่า Thai people ไม่สู้งาน ดังนั้นแล้วก่อนมา เตรียมตัวเตรียมใจให้ดี โครงการ Work and Travel มันไม่ได้เป็นเหมือนแรงงานพม่าที่มานั่งปอกกุ้งแบบที่หลายๆคนชอบเรียก มันมีอะไรที่ดีกว่านั้น ถ้าคุณมองมันถูกจุด คาดหวังอย่างเป็นไปได้ คุณก็จะได้รับประสบการณ์ที่ดี แต่่ถ้าคุณเป็นคนประเภทที่แบบว่า ไม่หาข้อมูล , พึ่งเพื่อน , มาเพราะเพื่อน มาเพราอยากได้เงินล้วนๆ ดิฉันอยากบอกว่าอย่ามาเลยอยู่บ้านน่ะดีแล้ว เพราะถ้าคุณมา คุณน่ะจะไม่มีความสุข พอคุณไม่มีความสุขคุณก็ไม่อยากทำ พอคุณไม่อยากทำทุกอย่างมันก็จะแสดงออกทางสีหน้า ทางการกระทำ แล้วพอคนอื่นสังเกตเห็น มันไม่ได้เสียแค่คุณ ทำอะไรนึงถึงคนรุ่นหลังบ้าง ... อย่าเอาตัวรอดแค่คนเดียว วันนี้ราตรีสวัสดิ์ค่ะ คลิกเพื่ออ่านต่อ Chapter 16 : second job ที่ร้านไทย ร้ายกว่าที่คิด คลิกเพื่อย้อนกลับไป Chapter 14 : ทิ้งชีวิตคุณหนูที่เมืองไทย เริ่มต้นใหม่กับร้านแฮมเบอร์เกอร์ มันก็จริงอ่ะค่ะที่พี่แนะนำมา คิดไปคิดมา เหมือน WAT มันใช้ความอดทนสูง ขยัน ใจจริงไม่รู้ว่าหากตัว หนูไปเองจะรอดมั้ยเพราะภาษาไม่แน่นฟังรู้เรื่องบ้างไม่รู้บ้าง แต่พอตอบกลับ ตอบไม่เป็นไม่รู้จะเรียบเรียงคำยังไง (ตกงานแน่ๆ - -")แต่ความอดทนขยันอ่ะมีค่ะ สู้ตายอยู่แล้ว
สงสัยคงได้แค่ไปเรียนเฉยๆ อ่ะค่ะ ^^ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดีๆนะคะ จะคอยติดตามและอ่านเรื่อยๆค่ะ โดย: NokJbz วันที่: 17 กรกฎาคม 2554 เวลา:15:41:58 น.
WAT นี่เค้ากำหนอายุมั้ยครับบ ว่า ตั้งแต่อายุกี่ปี ถึงกี่ปี
โดย: โรแนน IP: 178.182.163.199 วันที่: 12 ตุลาคม 2554 เวลา:1:42:15 น.
ตอบคุณ โรแนน นอกจากสถานภาพเป็นนักศึกษาแล้ว
ต้องอายุไม่เำกิน 28 ปีด้วยค่ะ โดย: nakoze วันที่: 12 ตุลาคม 2554 เวลา:11:00:33 น.
อยากปรึกษากับพี่ nakoze มากค่ะ
เพราะตอนนี้กังวลมาก วางเพลนจะไปปีหน้า2014นี้ค่ะ ฝากเฟสไว้นะคะ corn-ne_08@hotmail.com รบกวนพี่ nakoze แอดมาได้รึเปล่าค่ะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ โดย: bittersugar IP: 113.53.183.66 วันที่: 12 พฤษภาคม 2556 เวลา:23:45:34 น.
|
nakoze
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 60 คน [?]
Link |
ทัศนคติคุณก็น่าปลื้มมาก มาทำงาน ก็ทำอย่าให้เสียชื่อคนไทย ^^
สู้ต่อไป ขอให้สนุก มีเรื่องฮาๆ มาเล่าอีกนะครับ :)