Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2558
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
23 พฤษภาคม 2558
 
All Blogs
 
หยาดน้ำค้างพันปี


23 พฤษภาคม 2558



 







หนังสือเล่มที่ผมอ่านในวันนี้เป็นนวนิยายเล่มล่าสุดของศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ประจำปี 2557 ท่านเป็นศิลปินแห่งชาติคนล่าสุดของเมืองไทยในขณะนี้ ซึ่งก็คือผลงานเขียนของอาจารย์ชมัยภร แสงกระจ่าง โดยนวนิยายเรื่องนี้มีชื่อว่า “หยาดน้ำค้างพันปี” ที่ผู้เขียนระบุไว้ว่า “เขียนด้วยชีวิต เรียนรู้ทุกข์ด้วยธรรม” เป็นงานวรรณกรรมที่ผู้เขียนได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องราวเกี่ยวกับคดีความที่ได้ประสบมา เป็นคดีความที่มีการสืบพยานและไต่สวนกันยาวนานกว่า 22 ปี ผู้เขียนเคยทุกข์ทรมานจากการที่ต้องเป็นจำเลยในคดีความดังกล่าว ความรู้สึกเหมือนถูกตราหน้าว่าเป็นคนผิดได้ตกค้างอยู่ในใจมาตลอด ผู้เขียนยืนหยัดต่อสู้ให้ได้มาซึ่งความบริสุทธิ์แก่ตัวเองด้วยหัวใจที่เกือบจะบอบสลาย แล้วในท้ายที่สุดศาลได้ตัดสินยกฟ้องทำให้ผู้เขียนพ้นจากข้อครหาและปราศจากมลทินใด ๆ ทั้งสิ้น

สำหรับเนื้อเรื่องในนวนิยายเรื่อง “หยาดน้ำค้างพันปี” นี้ เป็นนวนิยายแนวกฎหมายที่ไม่ค่อยจะมีนักเขียนไทยเขียนกันสักเท่าไหร่นัก ด้วยผู้เขียนมีประสบการณ์ตรงเกี่ยวกับเรื่องคดีความทางกฎหมาย จึงทำให้ผู้เขียนจินตนาการสร้างพล็อตเรื่องและตัวละครขึ้นมาสอดคล้องเทียบเคียงกับความเป็นจริงได้มากที่สุด โดยเป็นเรื่องราวของ นางสายน้ำ นานขวัญใจ ที่ต้องคดีปลอมแปลงสมบัติของแผ่นดินจำนวนเจ็ดชิ้น ซึ่งเป็นคดีอาญาต่อแผ่นดินที่ร้ายแรงมาก คดีความดังกล่าวอยู่ในความสนใจของคนทั่วไปเนื่องจากเป็นคดีประวัติศาสตร์ระดับชาติ นางสายน้ำ ที่เป็นตัวละครเอกของเรื่องต้องต่อสู้คดียาวนาน เรื่องราวการต่อสู้คดีนั้นผู้เขียนจงใจเขียนให้นางสายน้ำต้องสู้กับจิตใจของตัวเองด้วย จิตใจที่เป็นทุกข์จากการที่ถูกตราหน้าว่าเป็นคนผิดประพฤติชั่ว กว่าที่จะผ่านพ้นคดีความนี้ไปได้หัวใจของเธอแทบจะแตกสลายไปเป็นเสี่ยง ๆ เพียงแต่มีสิ่งที่มาช่วยกล่อมเกลาจิตใจให้สงบลงได้บ้างซึ่งก็คือธรรมะนั้นเอง

นวนิยายเรื่องนี้ผู้เขียนเล่าผ่านมุมมองของนางสายน้ำที่เป็นตัวละครหลัก ทำให้อ่านเรื่องราวของเธอแล้วมีความรู้สึกเหมือนว่ากำลังฟังเธอปรับทุกข์อยู่ ผู้อ่านจึงต้องคอยเอาใจช่วยให้เธอผ่านพ้นวิกฤติในชีวิตนี้ไปให้ได้ โชคดีที่นางสายน้ำมีเพื่อนเป็นกัลยามิตรอันประเสริฐที่ชื่อ นางลีลา ต้นประจำ เธอได้ชักจูงผู้ที่กำลังมีทุกข์ให้ก้าวเข้าสู่ประตูธรรม นางลีลาชวนนางสายน้ำไปฟังธรรมที่คุณหมอดวงตาบรรยายให้แก่ผู้สนใจ ซึ่งในครั้งแรกนั้นนางสายน้ำผู้จมอยู่ในทุกข์ยังไม่เข้าใจความหมายทางธรรมอย่างแท้แจ้ง ต้องรอให้เวลาผ่านพ้นไปสักระยะหนึ่งเธอจึงเริ่มเข้าใจได้ แต่เชื่อไหมว่าแค่คำบรรยายธรรมของคุณหมอดวงตาในประเด็นแรก ตัวผมที่เป็นผู้อ่านก็กลายเป็น “ผู้ตื่นรู้ทางธรรม” ได้ทันที ผมขออนุญาตยกตัวอย่างมาดังนี้



“เคยนึกไหมคะว่า สิ่งที่เกิดกับเราในยามวิกฤตินั้นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเรา ...

จริง ๆ นะคะ ท่านลองนึกดูสิว่าจะมีใครที่ไหนมาให้โอกาสแก่เราเช่นนี้ โอกาสที่จะได้เรียนรู้ชีวิต โอกาสที่จะได้เรียนรู้น้ำใจของเพื่อน โอกาสที่จะได้ทำความเข้าใจมนุษย์ โอกาสที่จะเปลี่ยนชีวิต โอกาสที่จะพลิกชีวิตเป็นโอกาส และเหนืออื่นใด ได้โอกาสที่จะได้สนใจเรียนรู้จักตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งใจของเรา ... ใจที่ตลอดมาเราไม่เคยรู้จักเลย”
(หน้า 168)


ในชีวิตจริงของทุกคนผมเชื่อว่าต้องมีความทุกข์อยู่บ้างแน่ ๆ ตัวผมเองก็เคยมีทุกข์อยู่เหมือนกัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นทุกข์ทางใจมากกว่าทุกข์ทางกาย ทั้ง ๆ ที่เหตุการณ์เลวร้ายนั้นได้ผ่านพ้นไปนานแล้วแต่ใจกลับยึดติดมันอยู่โดยไม่ยอมปล่อยวาง คุณหมอดวงตาบอกนางสายน้ำว่า “สิ่งที่เกิดขึ้นกับเราดีที่สุดสำหรับเราเสมอ” (หน้า 173) ผมอ่านประโยคนี้ผมก็ตาสว่างและตื่นขึ้นในทางธรรมได้ในทันทีเลย ใช่จริง ๆ ครับ สิ่งที่เกิดขึ้นกับเรามันดีที่สุดสำหรับเราจริง ๆ ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นสิ่งที่ร้ายแรงหรือเป็นสิ่งที่ทำลายจิตใจและตัวเรามากแค่ไหนก็ตาม ถ้าเราลองค่อย ๆ นึกทบทวนดู พยายามวิเคราะห์ถึงสาเหตุและผลกระทบต่าง ๆ แล้ว เราจะได้รู้ถึงสิ่งดี ๆ ที่ตามมาได้เสมอ ในกรณีนี้ผมจะไม่ขอยกตัวอย่าง เพราะอยากจะให้ท่านเห็นและเข้าใจได้เอง ท่านจะได้มองสัจจะธรรมในประเด็นนี้ได้ด้วยตัวของท่านเอง

ในเรื่อง “หยาดน้ำค้างพันปี” นี้ ผู้แต่งมีการใช้หลักคำสอนในพุทธศาสนามาแทรกใส่ไว้ในเนื้อเรื่องด้วย ทำให้ผมได้อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวกับกฎหมายคดีความแต่ตอนจบได้รู้ซึ้งถึงธรรมะมากกว่า ได้รู้ว่าศาสนาพุทธก็เป็นศาสนาที่อิงกับหลักความเป็นจริงเป็นอย่างมาก เหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นย่อมส่งผลกระทบต่อเหตุการณ์อื่น ๆ ต่อ ๆ ไปด้วย


“พุทธศาสนาสอนว่า การที่เราแต่ละคนมีสภาพแวดล้อมที่กำลังเป็นอยู่นี้ไม่ใช่เหตุบังเอิญ สิ่งเหล่านี้คือหนี้สินที่เราจะต้องจัดการชะรำให้เสร็จสิ้นไป ถ้าเรายังไม่ชำระให้เสร็จสิ้นไป จิตใจของคนรอบข้างที่ทั้งรักทั้งแค้นเรานี้จะเป็นกำลังที่เกื้อหนุนและกำลังที่คอยฉุดรั้งเราไว้ ทำให้เราไปไหนก็ทุลักทุเลไปหมด”
(หน้า 175)


มีนักวิจารณ์วรรณกรรมเคยบอกไว้ว่า ...

“ในบางครั้งการอ่านหนังสือก็ได้มากกว่าความบันเทิง การอ่านเพื่อค้นหาสิ่งที่ซ่อนอยู่ในเรื่องราวนั้นอาจจะทำให้เราได้ความรู้ต่าง ๆ เพิ่มขึ้นอีกมากมาย”

ผมอ่านนวนิยายเรื่อง “หยาดน้ำค้างพันปี” นี้แล้วได้รู้อะไรอีกมากมายเช่นกัน แต่ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าท่านอื่นอ่านแล้วจะได้หรือค้นพบอะไรอย่างที่ผมพบหรือไม่? เพียงแต่อยากบอกท่านว่า ถ้าในใจของท่านกำลังมีความทุกข์อยู่ ขออย่าได้เก็บความทุกข์นั้นเอาไว้ในใจแต่เพียงผู้เดียวเลย อย่าปล่อยให้หยดน้ำตาค้างเติ่งอยู่บนใบหน้าเป็นเวลานาน จนเป็นเหมือนหยดน้ำที่ค้างเปียกปอนบนใบหน้าคนอมทุกข์อยู่พันปี ขอให้ท่านลองหาหนังสือเล่มนี้มา อ่านเพื่อที่จะได้ลองเปรียบเทียบความทุกข์ของท่านดูกับความทุกข์ของนางสายน้ำ ตัวละครเอกในเรื่องนี้ เอาทุกข์มาเทียบกับทุกข์แล้วผมเชื่อว่าทุกข์ของท่านอาจจะเบาบางลงได้บ้าง ถึงแม้ว่าเรื่องราวของนางสายน้ำในเรื่องนี้จะเป็นเรื่องที่ถูกแต่งขึ้นก็ตาม แต่ผมเชื่อว่าผู้เขียน “ใช้ชีวิต” ของท่านเขียนเพื่อแต่งเรื่องนี้ขึ้นมา อย่างน้อยที่สุดสิ่งที่ผู้เขียนพยายามจะบอกผู้อ่านก็คือ การเรียนรู้ความทุกข์ด้วยธรรม การเรียนรู้จิตใจตัวเองเพื่อที่จะต่อสู้กับปัญหาต่าง ๆ ในชีวิต ซึ่งเป็นสิ่งที่ถูกซ่อนเร้นอยู่ในเรื่อง ใครที่สามารถหาเจอก็จะพบวิธีการคลายทุกข์ด้วย บางครั้งในระหว่างที่หยาดน้ำตาของท่านไหลหล่นลงมาที่แก้ม ในช่วงเวลาสั้น ๆ เพียงไม่กี่อึดใจก่อนที่มันจะหยดหล่นลงพื้นนั้น ท่านอาจจะค้นพบทางสว่างก็เป็นได้ ถ้าท่านค้นพบสัจจะธรรมแล้วน้ำตาแห่งความทุกข์ของท่านก็จะไม่ไหลออกมาอีกเลย

และสำหรับคนที่ไม่มีความทุกข์อยู่ในใจเลย ผมเชื่อว่าเมื่อท่านได้อ่านหนังสือเล่มนี้ผมเชื่อว่าท่านจะได้รู้ซึ้งถึงจิตใจของตัวท่านเอง เรียนรู้เพื่อพร้อมรับมือกับวิกฤติการณ์ที่ท่านอาจจะเจอในอนาคต ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นแล้วท่านอาจจะแก้ปัญหาและเยียวยาจิตใจของท่านได้ด้วยตัวท่านเองอย่างรวดเร็ว จนพร้อมที่จะยืนหยัดต่อสู้กับปัญหาอื่น ๆ ที่จะตามมาได้

ถ้าถามผมว่า ... อ่านนวนิยายเรื่อง “หยาดน้ำค้างพันปี” นี้แล้วสนุกไหม? อ่านแล้วเศร้าไหม? ผมต้องตอบว่าก็แล้วแต่ประสบการณ์ชีวิตของแต่ละคนมากกว่า บางคนอาจจะเคยทุกข์มาบ้างเมื่อมาอ่านเรื่องนี้ก็อาจจะเศร้าใจไปกับเนื้อเรื่อง หรือบางคนอาจจะไม่เคยทุกข์เลยเมื่อได้อ่านแล้วก็อาจจะฉุกคิดอะไรขึ้นได้บ้าง แต่บางคนอ่านแล้วอาจจะไม่สนุกหรือไม่ได้อะไรเลยก็เป็นได้ แต่สำหรับตัวผมอ่านแล้วผมรู้สึกเศร้าไปกับชะตาชีวิตของนางสายน้ำที่เป็นตัวละครเอกของเรื่อง แล้วผมก็ปลาบปลื้มใจที่ตัวละครและตัวผมค้นพบวิธีการดับทุกข์ด้วยใจของตัวเอง เมื่อผมอ่านจบและปิดหนังสือลงแล้ว ผมยิ้มด้วยความสุขที่นางสายน้ำพ้นผิดและพ้นทุกข์ และผมก็ตื้นตันใจที่ตัวผมเองค้นพบและรู้จักจิตใจของตัวเองมากขึ้นด้วย

หนังสือนวนิยายเรื่อง “หยาดน้ำค้างพันปี” เล่มที่อยู่ในมือผมนี้เป็นฉบับพิมพ์รวมเล่มเป็นครั้งแรก เมษายน 2557 (ก่อนหน้านี้ตีพิมพ์เป็นตอนในนิตยสารสกุลไทย) โดยสำนักพิมพ์คมบาง ด้วยความหนา 341 หน้า ราคาปก 290 บาท เป็นหนังสือวรรณกรรมอีกเล่มหนึ่งที่ผมอยากจะแนะนำให้ท่านลองอ่านดูครับ

ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการอ่านหนังสือ ขอให้ท่านได้เจอหนังสือที่ดีและถูกใจท่านนะครับ



@@@@@@@@@@

คำชี้แจงท้ายเรื่อง ...

รายละเอียดและเนื้อหาในบล็อกนี้ไม่ใช่บทวิจารณ์วรรณกรรม เนื่องจากข้าพเจ้าไม่ได้ใช้ทฤษฎีทางวรรณกรรมใด ๆ มาวิเคราะห์เลย เนื้อหาในบล็อกนี้จึงถือว่าเป็นการรีวิวแนะนำหนังสือเล่มที่ได้อ่าน โดยเป็นการเขียนถึงหนังสือเล่มนั้น ๆ ด้วยความรู้สึกหลังจากได้อ่านจบลงแล้ว ดังนั้นข้อความทั้งหมดในบล็อกนี้จึงเป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของข้าพเจ้าเท่านั้น






Create Date : 23 พฤษภาคม 2558
Last Update : 23 พฤษภาคม 2558 23:11:15 น. 23 comments
Counter : 2559 Pageviews.

 
ยังตีความไม่ออก ถูกกล่าวหา ปลอม สมบัติของ
แผ่นดิน.. อะไรครับ..

แต่นั่นคงไม่ใช่ เมนหลักของการเขียน.. เป็น
นิยายธรรมมะ ที่มาแปลกเนาะคุณกล่อง

นิยายแบบนี้ผมอ่านของ ร.ศ.สุทัศสา เกี่ยวกับ
ประวัติหลวงพ่อจรัญฯ

การเขียนแนวธรรมมะ.. มันยากอยู่แล้ว แต่นักเขียน
คนนี้เขียนจนได้รับรางวัล..ต้องเก่งแน่..

ในฐานะคุณกล่องนำข่าวมาให้เกิดความสนใจโหวต
ให้ครับ

เขาว่า บันทึกแล้ว ใน book blog""
แต่ผมก๊อปมาแปะไม่ได้.... เป็น งง..ครับคุณกล่อง
ระยะนี้บล๊อกมีอะไรแปลก ๆ

คุณกล่องคงไปดูกิจการ โรงงานผลิตแผ่นพื้นสำเร็จ
อีกแห่ง ไม่ใช่ที่ผม ทำงานให้เขาด้วย

ของผมทำดูแลที่ T.M โรงงานกว้างมาก ร้อน
แล้วอันตรายมาก.
ตอนผมทำ ช่างซ่อมถูกบดตาย คาเครื่องลงไปซ่อม
ติดป้ายห้ามเดินเดรื่อง.. ลงไปทำเงียบๆ คนเดียว

พอได้เวลาทำงาน คนมาใหม่เห็นป้าย ยกออกคิดว่า
เป็นป้ายเก่า.. เดินเครื่อง ชึ่งเดียวเละ...

ผมเคยเล่าไว้นานแล้วครับ...


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 23 พฤษภาคม 2558 เวลา:4:31:28 น.  

 




แวะ .. มา อ่านหนังสือ ดี .. ดี .. ค่ะ ..



...



อยาก รู้จัก พี่ป๋อง เหรอคะ ??

ฮู้ยย .. อย่าไปรู้จักแกเลยค่ะ ..

แว่วๆว่า .. แกยังไม่อยากรู้จักตัวเองเลย ด้วยซ้ำ ..

เพราะ ตัวแก .. แก่ .. น่าเกลียด .. ปากร้าย .. ใจร้อน .. วู่วาม ..



อัปลักษณ์ ไปเสียทุก องศา ..









โดย: foreverlovemom วันที่: 23 พฤษภาคม 2558 เวลา:14:22:58 น.  

 
ผมไม่ค่อยได้อ่านนิยายเลยครับพี่อาคุง
ส่วนใหญ่อ่านแบบ non-fiction ซะเป็นส่วนใหญ่ครับ



ชอบประโยคที่บอกว่า

ยิ่งเห็นความรักชัดเจนขึ้น
ความรักจะลดลง

จริงเลยครับพี่



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 23 พฤษภาคม 2558 เวลา:16:54:12 น.  

 
ยามวิกฤติเราจะได้เห็นอะไรหลายๆ อย่าง รวมไปถึงคนรอบๆ ตัวเราด้วยว่าเป็นอย่างไร เรื่องนี้ไม่เคยอ่านครับ ไม่ค่อยได้อ่านแนวนี้เท่าไหร่


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 23 พฤษภาคม 2558 เวลา:18:19:22 น.  

 
ชื่อเรื่องน่าสนใจมากค่ะ ชื่อตัวละครไม่ค่อยเห็นเลยนะคะ สายน้ำ ลีลา
ขอบคุณที่มาเล่าให้ฟังค่ะ


โดย: ออโอ วันที่: 23 พฤษภาคม 2558 เวลา:18:32:00 น.  

 
เคยอ่านผลงานของนักเขียนท่านนี้ แต่ยังไม่เคยอ่านเรื่องนี้ค่ะ
ไว้มีโอกาสจะหามาอ่านบ้างค่ะ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
**mp5** Dharma Blog ดู Blog
AppleWi Travel Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog
อาคุงกล่อง Book Blog ดู Blog


โดย: เนินน้ำ วันที่: 23 พฤษภาคม 2558 เวลา:18:48:19 น.  

 
ถูกต้องจริงๆค่ะ หนังสือที่มีอะไรให้เรียนรู้ได้
จึงจะควรอ่าน

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กาปอมซ่า Dharma Blog ดู Blog
ที่เห็นและเป็นมา Art Blog ดู Blog
ไวน์กับสายน้ำ Diarist ดู Blog
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog
อาคุงกล่อง Book Blog ดู Blog

ขอบคุณกำลังใจที่ให้พี่ด้วยนะคะ





โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) วันที่: 23 พฤษภาคม 2558 เวลา:20:29:06 น.  

 
ตัวหนังสือที่คุณกล่องใช้เล็กไปนิดนึง แล้วเขียนติดกัน ตาลายพอสมควร สำหรับคนอายุเยอะหน่อย

เขียนบล็อกแบบใหม่หรือเปล่าคะ ลองใช้ขนาดฟอนต์ ไซส์ 3 น่าจะกำลังดี

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ไวน์กับสายน้ำ Diarist ดู Blog
อาคุงกล่อง Book Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


*** คิดว่าแพงเหมือนกันค่ะ มีเมนูนั้นพอกินได้อร่อย เมนูเดียวเอง


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 23 พฤษภาคม 2558 เวลา:20:34:30 น.  

 
อ่านรีวิวของคุณกล่อง แล้ว ได้ข้อคิดดีหลาย ๆ อย่างเลยค่ะ
เขียนได้ดีจริง ๆ เรื่องราว พล็อตเรื่องน่าสนใจดี

“สิ่งที่เกิดขึ้นกับเรา ดีที่สุดสำหรับเราเสมอ” ... เห็นด้วย
กับคุณกล่องเลย แม้เรื่องดี หรือ เรื่องร้าย อย่างที่คุณกล่องว่าเนาะ
มีนมีเหตุ และ ผล มาคู่กันเสมอ

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดี ๆ ค่ะ

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
อุ้มสี Travel Blog ดู Blog
อาคุงกล่อง Book Blog ดู Blog


โดย: Tristy วันที่: 23 พฤษภาคม 2558 เวลา:20:46:21 น.  

 
ที่พักนี้ ไม่แน่ใจว่าเค้าเรียกแม่น้ำหรือเปล่าค่ะ อยู่เหนือเขื่อนน่ะค่ะ



โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 23 พฤษภาคม 2558 เวลา:21:04:46 น.  

 
ชอบการรีวิวหนังสือของคุณกล่องครับ
เหมือนเพื่อนสนิทชักชวนไปพบสิ่งที่ดีงาม หรือสบบัติล้ำค่าบางอย่าง หากได้ไปสัมผัสและอ่านจนครบทุกตัวอักษรแล้ว คงจะคุ้มค่ามากๆ
ขอโหวตหมวดรีวิวหนังสือ
และขอบคุณสำหรับคำอวยพรที่บล็อกด้วนครับ


โดย: Insignia_Museum วันที่: 23 พฤษภาคม 2558 เวลา:22:19:37 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
อาคุงกล่อง Book Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

วันนี้แว๊บมาโหวตให้ก่อนนะครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้แว๊บมาใหม่ อิอิ

ปล.ขอบคุณที่โหวตและไปเที่ยวชมวัดโพรงอากาศด้วยกันครับ


โดย: Ariawah Auddy วันที่: 23 พฤษภาคม 2558 เวลา:23:43:39 น.  

 
เรื่องนี้น่าสนใจมากๆครับ
เรื่องความทุกข์นี่ กว่าจะหายนี่ต้องใช้เวลาเลยนะครับ

โหวตครับ

อาคุงกล่อง Book Blog ดู Blog


โดย: PZOBRIAN วันที่: 24 พฤษภาคม 2558 เวลา:0:22:09 น.  

 
แค่ชื่อก็น่าอ่านมากเลยค่ะคุณกล่อง


โดย: sawkitty วันที่: 24 พฤษภาคม 2558 เวลา:14:04:11 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ขุนเพชรขุนราม Sports Blog ดู Blog
Close To Heaven Parenting Blog ดู Blog
อาคุงกล่อง Book Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น



โดย: Opey วันที่: 24 พฤษภาคม 2558 เวลา:20:11:09 น.  

 
ชอบบทที่หยิบยกขึ้นมาจังค่ะ น่าสนใจ น่าอ่านนะคะ


โดย: kunaom วันที่: 24 พฤษภาคม 2558 เวลา:23:33:53 น.  

 
เมื่อก่อน มิลเช่าหนังสืออ่านเยอะมาก ส่วนใหญ่เป็นนิยาย แฮะๆ
แต่เรื่องไหนชอบมากๆ จะหาซื้อมาเก็บไว้ค่ะ เรื่องนี้อ่านคำวิจารณ์ของอาคุงแล้ว ก็น่าสนใจดีเนาะ
โหวตไปก่อนค่ะ



โดย: มิลเม วันที่: 25 พฤษภาคม 2558 เวลา:15:30:03 น.  

 
แวะมาอ่านรีวิวหนังสือดีๆครับ แนวนี้น่าสนใจจริงๆ




โดย: ปีศาจความฝัน วันที่: 25 พฤษภาคม 2558 เวลา:21:01:21 น.  

 
บางคนเค้าก็อ่านได้สบายๆ ค่ะ แต่ตัวเองตาลายไงคะ เราสูงวัยหน่อย ตามสภาพล่ะค่ะ สายตา


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 26 พฤษภาคม 2558 เวลา:18:51:17 น.  

 
ขอบคุณคุณกล่องมากที่แวะไปฟังเพลงเก่าที่บล็อกนะคะ สงสัยรายการที่คุณกล่องดูทางไทยพีบีเอสคงจะเป็นรายการเดียวกับที่เราดู โชคดีเปลี่ยนช่องไปเจอพอดี เปิดเจอก็ดูต่อจนจบเลย

โหวตหมวดหนังสือให้ค่า


โดย: haiku วันที่: 26 พฤษภาคม 2558 เวลา:23:45:48 น.  

 

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ
ส่วนตัวชอบอ่านเพื่อความบันเทิงนะทิดกล่อง
ถ้ามีสาระบ้างก็ขอให้แฝงมากับความบันเทิงหนะ


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
อาคุงกล่อง BOOKBlog ดู Blog





โดย: หอมกร วันที่: 27 พฤษภาคม 2558 เวลา:10:40:47 น.  

 

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
อาคุงกล่อง Book Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


หนังสือน่าอ่านมากเลยคุณกล่อง และเห็นด้วยกับประโยคนี้ค่ะ

“สิ่งที่เกิดขึ้นกับเรา ดีที่สุดสำหรับเราเสมอ”



ขอบคุณมากๆ ที่แวะไปเจิมและโหวตให้เราที่บล็อกเค๊กส้มนะคะ จิบกับชาหรือกาแฟเข้ากันจริงๆค่ะ


โดย: LoveParadise วันที่: 27 พฤษภาคม 2558 เวลา:12:27:35 น.  

 
เข้าหน้าฝนแล้ว ได้เวลาหาหนังสืออ่านแล้วเหมือนกันค่ะ


โดย: sawkitty วันที่: 27 พฤษภาคม 2558 เวลา:17:32:55 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

อาคุงกล่อง
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 62 คน [?]




อาคุงกล่องเป็นชายไทยนิสัยดีมีความฝัน ผู้ผันตัวมาเป็นทาสวรรณกรรมอย่างแท้จริง ใช้ชื่อกำหนดตัวตนว่า “อาคุงกล่อง” เป็นนามปากกาสร้างสรรค์ผลงานในเชิงหัสนิยาย และงานเขียนในรูปแบบต่าง ๆ อาทิเช่น เรื่องสั้น นวนิยาย สารคดี ความเรียง บทกลอน ไดอารี่เพ้อเจ้อละเมอเพ้อฝันต่างๆ ฯลฯ

ปัจจุบัน “อาคุงกล่อง” เป็นนักอ่าน นักคิดและนักเขียน รวมทั้งเป็นนักจินตนาการออกมาเป็นตัวอักษรด้วย ผู้มีความฝันอันยิ่งใหญ่คือการเป็นนักเขียนมีคุณภาพที่สรรค์สร้างผลงานอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ คาดว่าในเวลาอันใกล้นี้นาม “อาคุงกล่อง” จะเกิดปรากฎชัดในโลกวรรณกรรม จนเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในหมู่หนอนนักอ่านทั่วไทย



"ในชีวิตจริงของคนเรา มีอะไรอีกมากมายที่จะต้องรับรู้และรับผิดชอบ ในแต่ละวันเรามีโอกาสที่จะหัวเราะได้สักกี่ครั้ง? แต่ถ้าเราได้มีโอกาสหัวเราะเสียบ้างเพื่อเป็นการผ่อนคลายหรือคลายเครียด ก็คงจะเป็นสิ่งที่ดีนะครับ"

ถ้าคุณเข้ามาในบล็อคของผมแล้ว คุณสามารถอมยิ้มหรือหัวเราะได้ ผมก็คงจะดีใจแล้วครับ (กรุณาช่วยทิ้งคอมเม้นท์วิจารณ์ไว้ให้ผมด้วยนะครับ จักขอบพระคุณมากเลยครับ)

akungklong@gmail.com
Friends' blogs
[Add อาคุงกล่อง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.