The journey of a thousand miles begins with one step

<<
ธันวาคม 2550
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
19 ธันวาคม 2550
 

จะไปกินกิมจิกับเนื้อย่าง ที่ร้าน Korean Resturant

วันก่อนเรารู้สึกอยากกินกิมจิกับเนื้อย่าง มากๆ ก็ต้องสรรหามาแก้อยากเสียหน่อย ในเชียงใหม่มีร้านอาหารเกาหลีอยู่หลายร้าน ตามกระแสเกาหลีฟีเวอร์น่ะแหละ มีทั้งร้านเก่าแก่ที่เปิดมานานแล้วบนถนนช้างคลานและที่เปิดใหม่อยู่บนห้างสรรพสินค้า เราขับรถผ่านไปผ่านมาหลายทีแล้ว เห็นอยู่สองร้านบนถนนช้างคลานคือ Korean Resturant และร้าน Jimi Resturant ความพยายามครั้งแรกคือร้า Jimi ด้วยความที่ร้านดูใหญ่และโปร่งดี (เพราะไม่อยากกินอาหารเกาหลีแล้วได้หมูรมควันกับบ้านอ่ะ )

แต่ความพยายามก็ล้มเหลวด้วยว่า Jimi เป็นร้านที่นักท่องเที่ยวเกาหลีจองเต็มตลอดเดือน ยิ่งช่วงหน้าท่องเที่ยว (ไม่เข้าใจจริงๆ เลย อุตสาห์มาถึงเมืองไทย ดันมากินอาหารเกาหลีอีก ) เจ้าของร้านซึ่งน่าจะเป็นคนเกาหลีที่อยู่เชียงใหม่มานานก็ขอให้ไปร้านเก่า นั่นก็คือ Korean Resturant เป็นร้านดั้งเดิมก่อนที่จะแยกมาเปิด Jimi เอ้าไม่เป็นไร ความอยากมันไม่เข้าใครออกใคร ไหนๆ ก็ตั้งใจแล้ว ต้องกินให้ได้

Korean Resutrant เป็นร้านเล็กๆ เพียงคูหาเดียว อยู่ก่อนถึงสี่แยกไฟแดง หน้าโรงแรมบัวระวงศ์ ป้ายก็เล็กๆ แทบมองไม่เห็น ในร้านมีแค่ 7 โต๊ะเท่านั้นเอง เมนูอาหารก็ไม่ได้มีให้เลือกมากมาย แต่ประทับใจตรงชนิดและปริมาณของกิมจินี่แหละ และอีกอย่างคือควันในร้าน



แน่นอนว่าเมนูเด็ดของร้านอาหารเกาหลีทั่วๆ ที่ต้องสั่งคือเนื้อย่างบุลโกกิ แต่วันนี้มากินกิมจิ ไม่เน้นเนื้อย่าง ดังนั้นเราเลยสั่ง barbeque เนื้อติดมัน ซึ่งอุปกรณ์ในการย่างจะต่างกันนิดหน่อยกับบุลโกกิ นอกจากนั้นก็สั่งแกงกิมจิ (kimchi jjigae) มาพร้อมกับข้าวสวยถ้วยนึง และด้วยความอยากลอง เนื้อดิบสับกับเครื่องเทศ (raw beef with korean spice)



นั่งสักแป๊ปอาหารเริ่มมาเสริฟ อุปกรณ์การกินแบบเกาหลี มีตะเกียบเงินและช้อนยาวๆ สำหรับซุป พร้อมน้ำเย็นๆ มาแล้วๆ กิมจินานาชนิดอย่างที่อยากกิน เราเรียกรวมๆ ว่ากิมจินะ เพราะบางจานก็ไม่ใช่ผักดองแบบกิมจิ แต่ก็จัดเป็น side dish ที่อร่อยไม่แพ้กันเลย



จานแรกเป็นกิมจิผักกาดขาว กิมจิมาตรฐานที่ขาดไม่ได้สำหรับอาหารเกาหลี รสชาติเปรี้ยวนำ เผ็ดนิดๆ ไม่มีรสหวานอย่างกิมจิของร้านอาหารบางแห่ง



กิมจิแตงกวา น่าจะไม่ได้ผ่านการหมักนานเท่ากิมจิมาตรฐาน เพราะรสชาติเหมือนทำจากแตงกวาสด ยังคงความกรุบกรอบของแตงกวาเอาไว้ รสชาติค่อนข้างจัดจ้านสำหรับจานนี้ เห็นสีก็คงเดาไม่ยาก



กิมจิหัวไชเท้าหรือ คักดูกิ เค็มๆ เปรี้ยวๆ กรุบๆ กรอบๆ แต่ถ้าเป็นคนไม่ชอบกลิ่นหัวไชเท้า จานนี้ออกจะกลิ่นแรงสักหน่อย



กิมจิผักกวางตุ้ง จานนี้เราชอบมาก เพราะรสชาติกลมกล่อมไม่เปรี้ยวหรือเค็มเกินไป แต่เมื่อเทียบกับอันอื่น จะเผ็ดกว่านิดหน่อย เห็นพริกเป็นชิ้นๆ เลย



ลำดับถัดไปเป็นพวกที่ไม่ใช่ของหมักดอง แต่เป็นผักลวกคลุกน้ำมันงา จานแรกคือถั่วงอกลวกสุก แช่ในน้ำเย็นเพื่อคงความกรอบ แล้วนำมาคลุกน้ำมันงากับเกลือ



อีกจานเป็นผักกวางตุ้ง วิธีการทำคงคล้ายๆ กันคือนำไปลวกก่อน และแช่น้ำเย็นทันที ผักกวางตุ้งถึงได้ยังคงสีเขียวสวย นำมาคลุกกับงา น้ำมันงาและเกลือ เราชอบจานนี้เพราะรสชาติกลางๆ หอมกลิ่นน้ำมันงาอ่อนๆ ส่วนผักก็กรุบกรอบในปากเวลาเคี้ยว
ถ้าเป็นฝรั่งคงใช้คำว่า delicate taste สำหรับจานนี้

ไปทำงานก่อนนะ เดี๋ยวมาเขียนต่อ

กลับมาแล้วจ้า ตายแล้ว มีคนมารอดูเนื้อย่าง จะผิดหวังไม่เนี่ย บอกแล้วว่ามากินกิมจิกับเนื้อย่าง เราก็เลยเน้นแต่กิมจิ มาดูกิมจิต่อแล้วกัน



จานนี้ไม่แน่ใจว่าควรเรียกกิมจิไหม มันเป็นเนื้อปลาบด เหมือนกับปลาเส้นของเรา แต่ว่าเอาไปคลุกเครื่องเทศกับพริก รสชาติเค็มๆ เผ็ดๆ เหนียวหนุบหนับดี



ลำดับถัดไปเป็นหอยแครงคลุกน้ำมันงากับพริก โรยด้วยงาขาวกับต้นหอมหั่นฝอย หอยแครงลวกสุกกำลังดี เนื้อไม่เหนียวเกินไป จานนี้หมดไวมากๆ หมดก่อนอาหารหลักมาอีก ต้องขอเพิ่ม



ปลาเล็กปลาน้อยทอดกรอบ สำหรับคนชอบกินเค็ม เพราะว่ามันเค็มมาก แต่เวลาทานกับกิมจิเปรี้ยวๆ แล้วก็เข้ากันได้ดีแฮะ



และสุดท้าย เมื่อมันมีรสเปรี้ยว รสเผ็ด รสเค็ม ก็ต้องมีเครื่องเคียงที่ออกหวาน นั่นคือถั่วดำทอดคลุกน้ำตาลกับงาขาว ที่คิดว่าทอดเพราะว่าถั่วมันไม่ได้นุ่มเละเหมือนถั่วต้ม มีความกรุบนอก นุ่มใน หวานๆเค็มๆ และหอมงาคั่ว จานนี้ชอบมาก นั่งเอาตะเกียบคีบทีละเม็ดเลย

หลังจากนั่งเพลิดเพลินสักพัก อาหารจานหลักก็มา แต่ถ่ายรูปไม่ทันเพราะว่าพนักงานที่ร้านเป็นคนย่างให้ มาดูอุปกรณ์การย่างก็แล้วกัน ถ้าเป็นพวก Bulgogi เตาย่างจะเป็นแบบด้านล่าง



หน้าตาเหมือนล้อแมกซ์รถยนต์เลย เอหรือว่าจะใช่ ดูสิมี serial no. ด้วยนะ เวลาย่างพวกพุลโกกิ เขาจะใช้ถ่านใส่ไว้ใต้กระทะ ซึ่งตัวกระทะจะฝังไว้กลางโต๊ะ ใช้ตะเกียบเงินยาวๆ นั่นแหละมาคีบเนื้อ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบรสชาติเนื้อ ไม่แนะนำให้สั่งเนื้อบุลโกกิ เพราะที่นี่หมักจนเนื้อนุ่มมาก ไม่ค่อยมีรสชาติเนื้อเหลือเท่าไร เราเคยสั่งมาทานแล้วไม่ค่อยประทับใจ ชำเลืองโต๊ะคนเกาหลีข้างๆ สั่งเนื้ออะไรไม่รู้น่ากิน ก็เลยสั่งตาม นั่นคือบาร์บีคิวเนื้อติดมัน เป็นเนื้อที่ไม่หมัก ทางร้านจะสไลด์บางๆ และแช่แข็งไว้เป็นก้อน เวลาย่างจะมีกระทะอีกแบบ เป็นจานเหล็กวางบนโต๊ะและใช้แก๊ส เอาเนื้อทั้งก้อนลงไปวางแล้วค่อยๆ แกะออกมาทีละชิ้นเวลาสุก



ตัวจานออกแบบให้มีรูตรงกลาง ไขมันที่ได้จากการย่างเนื้อติดมันจะไหลไปรวมกันและลงไปในถ้วยที่รองรับน้ำมัน เนื้อย่างก็เลยไม่มันมาก แต่หอมสุดๆ กลิ่นมันเนื้อย่างเนี่ย



สำหรับน้ำจิ้มมีน้ำจิ้มหลักสำหรับของย่าง ไม่ว่าจะสั่งอะไรย่างก็จะได้น้ำจิ้มอันนี้ พร้อมกระเทียมสไลด์บางๆ กับพริกเขียวหั่น ตัวน้ำจิ้มประกอบด้วยพริก เต้าเจี้ยว น้ำมันงา และกระเทียมเป็นหลัก บดจนละเอียดเป็นครีม



ถ้าเป็นเนื้อบุลโกกิ ได้เนื้อมาก็เอาเนื้อวางบนใบผักกาดหอม ตามด้วยกิมจิผักกาดย่าง (เอากิมจิผักกาดย่างแล้วอร่อยขึ้นเยอะเลย สูตรนี้ได้มาจากตอนไปเกาหลีปีที่แล้ว) ตามด้วยน้ำจิ้ม กระเทียมและพริกก่อนจะอ้าปากกว้างๆ และยัดเข้าไปทั้งหมด ดีนะปากกว้าง ไม่งั้นคงเคี้ยวไม่ได้แหง

แต่ถ้าเป็นเนื้อบาร์บีคิว จะมีน้ำจิ้มงามาให้อีกถ้วย น้ำจิ้มงาจะมีน้ำมันงากับเกลือและพริกไทยดำนิดหน่อย แค่เอาเนื้อย่างติดมันจิ้มลงในน้ำมันงา แล้วก็เอาเข้าปาก ตามด้วยกิมจิรสจัดๆ นิด
โอ้ สุดยอด

อีกจานที่ขอแนะนำ ซึ่งไม่ใช้เนื้อย่างแต่สำหรับคนชอบเนื้อ เน้นว่าต้องชอบเนื้อนะ เพราะว่าเป็นเนื้อดิบๆ สับหยาบๆ คลุกเคล้ากับเครื่องเทศที่หอมมากๆ แน่นอนว่าต้องมีพริกด้วย น่าจะเป็น chili paste แบบเกาหลี กับงาคั่ว รองด้วยผักกาดขาวสไลด์บางๆ และโปะหน้าด้วยไข่แดงดิบ หน้าตาดูดุเดือดแบบนี้แหละ



ตอนสั่งน้องพนักงานก็ถามก่อนแล้วเพื่อความชัวร์ว่าพี่เอาแน่นะคะ เพราะว่ามันเป็นเนื้อดิบ ตอนมาถึงโต๊ะก็ถึงกับอึ้ง เพราะว่ามันเยอะจัง ไม่ใช่เพราะมันดิบหรอก น้องพนักงานแนะนำว่า ให้คลุกทุกอย่างให้เข้ากันก่อนกิน

ไม่ได้คาดหวังว่ารสชาติจะเป็นยังไง แค่คำแรกก็อืมมมมมมมมมมม อร่อยจังเลย ความหวานของเนื้อกับกลิ่นหอมของเครื่องเทศ ความมันของไข่แดงดิบและผักกาดขาวกรอบๆ โอ้สุดยอด นี่ถ้าได้โซจูสักกรึ้บนะ (แต่ไม่มีแอลกอฮอล์จ้า คืนก่อนเลือกตั้งล่วงหน้า อดเลย) ต้องกินตอนมันเย็นๆ ว่าเยอะๆ ตอนแรก เผลอแป๊บเดียว หมดแล้วจ้า วันนี้เรายกให้จานนี้เป็นดาวเด่นเลย

กินเนื้อดิบ และกินเนื้อย่างแล้ว ก็ต้องมีซุบร้อนๆ ล้างปากเสียหน่อย ไล่ความมันและความเลียนด้วยแกงกิมจิ



มาร้อนๆ เลย แกงกิมจิกับหมูสามชั้นและเต้าหู้ เสียดายถ่ายไม่ติดควันฉุยๆ ซดน้ำซุปร้อนๆ คล่องคอ แต่ขอบอกหน่อยเถอะ รสชาติเหมือนแกงส้มผักกาดขาวบ้านเราเลย แค่ไม่เผ็ดแล้วก็ไม่มีผักชีแค่นั้นเอง รวมๆ แล้วใช้ได้จ้า

อิ่มแล้วพอเช็คบิลก็ต้องตกใจ และถามย้ำอีกทีว่าใช่ราคานี้เหรอ เพราะว่า สั่งบาร์บีคิวเนื้อที่นึง เนื้อดิบจานนึงและแกงกิมจิ ค่าเสียหายแค่ 460 บาทสำหรับสองคน อิ่มมากๆ มีแตงโมสองชิ้นแถมให้ด้วยสำหรับล้างปาก ตอนแรกคิดจะไปหาของหวานล้างคาวเนื้อเสียหน่อย เลยไม่ต้องไปเลย

ข้อแนะนำว่าถ้าจะมากินที่ร้านนี้ ให้วางแผนว่าวันนั้นจะต้องสระผมและซักผ้า เพราะเวลากินเสร็จกลับบ้านทีไร เป็นหมูน้อยรมควันทุกทีเลย


Create Date : 19 ธันวาคม 2550
Last Update : 3 มกราคม 2552 17:58:12 น. 12 comments
Counter : 8329 Pageviews.  
 
 
 
 
น่ากินมาเลย รอดูเนื้อย่างนะคะ
 
 

โดย: ใจดี (jaidee.jaidee ) วันที่: 19 ธันวาคม 2550 เวลา:12:04:13 น.  

 
 
 
อ้าว ซะงั้น หลอกให้อยากแล้วจากไป (เฉยเลย) รีบมาต่อนะคะ
 
 

โดย: AmANiYA วันที่: 19 ธันวาคม 2550 เวลา:12:25:44 น.  

 
 
 
ตอนยังอยู่เชียงใหม่ เคยอยากกินอาหารเกาหลีมาก แต่หากินไม่ได้ ทีนี้รู้แล้วสิว่ามีที่ไหน? แต่พอรู้แล้ว ตัวกลับไม่ได้อยู่ที่นั่นน่ะซิ
 
 

โดย: pecochan วันที่: 19 ธันวาคม 2550 เวลา:12:28:32 น.  

 
 
 
กิมจิน่าอร่อยอะค่ะ
 
 

โดย: fahtsuki วันที่: 19 ธันวาคม 2550 เวลา:14:26:09 น.  

 
 
 
น่ากินๆๆๆ รอดูเนื้อย่างงงง
 
 

โดย: eiffel_n วันที่: 19 ธันวาคม 2550 เวลา:14:31:44 น.  

 
 
 
กำลังอยากกินเนื้อย่างอยู่ด้วย กลับมาเขียนต่อเร็วๆนะครับ
แวะผ่านมา...โดยบังเอิญครับ
 
 

โดย: wittaman IP: 202.57.152.86 วันที่: 19 ธันวาคม 2550 เวลา:16:38:10 น.  

 
 
 
ว้าย ยังเขียนไม่เสร็จเลย คนรอดูเนื้อย่างเสียแล้ว

มีรูปเนื้อย่างแค่รูปเดียวหล่ะ เพราะว่าอยากไปกินกิมจิมากกว่า เลยไม่ได้เน้นเนื้อน่ะสิ ขออภัยด้วยเจ้า
 
 

โดย: AjN_O วันที่: 19 ธันวาคม 2550 เวลา:17:32:07 น.  

 
 
 
โอ้โห น่ากินสุดๆเลยค่ะ เครื่องเคียงเต็มโต๊ะเชียว
 
 

โดย: Complicatedgirl วันที่: 19 ธันวาคม 2550 เวลา:19:29:50 น.  

 
 
 
อ่ะโห ขนาดอิ่มแล้ว
ยังเล่นเอาท้องร้องได้อีกรอบเลยนะคะเนี่ย
 
 

โดย: หัวใจสีชมพู วันที่: 19 ธันวาคม 2550 เวลา:19:47:08 น.  

 
 
 
เนื้อย่าง น่าทานมากค่ะ โดยเฉพาะเครื่องเคียงเยอะดี
 
 

โดย: สามสิบเอ็ดธันวา วันที่: 20 ธันวาคม 2550 เวลา:23:58:48 น.  

 
 
 
ดูแล้ว...หิวข้าวเลย....
 
 

โดย: Trit-on-tour IP: 125.24.37.127 วันที่: 6 มกราคม 2551 เวลา:8:35:38 น.  

 
 
 
นี้ใครรู้วิธีคีบตะเกียบแบบเกาหลีมั้ง

มันแบน ๆ อะคีบไม่ถนัด อะ
 
 

โดย: Onieiei IP: 125.27.195.66 วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:20:12:10 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

AjN_O
 
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ยินดีต้อนรับผู้ที่เข้ามาเยี่ยมค่ะ
ถ้าคุณเข้ามาที่นี้ แปลว่าคุณชอบกินและเที่ยวเหมือนกับเรา
ข้อความต่างๆ ที่อยู่บน blog เป็นความเห็นส่วนตัวนะคะ
ไม่ได้ทำเพื่อโปรโมทในเชิงการค้า ส่วนภาพถ่ายก็มาจากฝีมือของเราเอง สวยมั่งไม่สวยมั่ง ชื่นชมกันได้ตามสะดวกนะคะ
[Add AjN_O's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com