Group Blog
 
 
สิงหาคม 2558
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
8 สิงหาคม 2558
 
All Blogs
 
เมื่อฉันถูกจับในฐานะผู้จัดทำบัญชี

 เมื่อฉันถูกจับในฐานะผู้จัดทำบัญชี

เรื่องราวที่จะเล่าต่อไปนี้ เป็นเรื่องของตัวฉันเอง
วัตถุประสงค์ของการเขียน คือ
1) เพื่อเป็นการเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ไว้เตือนสติตัวเอง
2) เพื่อเตือนสติของผู้จัดทำบัญชีมือใหม่ ที่คิดว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องเล็ก ๆ
3) เพื่อเป็นแนวทางสำหรับผู้ที่กำลังประสบปัญหาเดียวกันกับฉัน

เรื่องราวเกิดขึ้นในวันที่ 5 เมษายน 2557 เวลา 10.00 น. โดยประมาณ
มีเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 5 คนเข้ามาหาฉันที่ร้าน พร้อมยื่นหมายจับให้กับฉัน
ในข้อหา "ร่วมกันปลอมแปลงเอกสารทางการบัญชี" กับห้างหุ้นส่วนจำกัด 3 ห้าง
เหตุเกิดในปี พ.ศ. 2549  ฉันพิมพ์ไม่ผิดค่ะ คุณอ่านถูกแล้วในปี พ.ศ. 2549
เวลา 9 ปีที่ผ่านมา ฉันไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าตัวเองมีหมายจับ มีคดี

ย้อนไปในปี พ.ศ. 2548 ฉันเป็นนักบัญชีที่เพิ่งจบใหม่
มีลูกน้องที่บริษัทฯ เก่าที่เคยทำงานด้วยกันมาขอให้ทำบัญชี "ห้างหุ้นส่วนจำกัด"
โดยกิจการของห้าง เปิดเพื่อดำเนินการ "ผลิตและจำหน่ายสุรากลั่นชุมชน"
ในยุคที่สุราเถื่อนผันตัวเป็นสุราที่ถูกกฏหมาย ติดอาการสแตมป์และวางจำหน่ายแข่งขัน
ช่วงนั้นเป็นช่วงยกเว้นภาษี 5 ปี ทำให้มีการเปิดตัวและผลิตสุรากลั่นจำหน่ายกันอย่างมากมาย
แต่การเปิดห้าง จำเป็นต้องมีผู้จัดทำบัญชี และมีการรวมกลุ่มจากห้างหุ้นส่วนที่ผลิตสุรา
มาจ้างให้ฉันจัดทำบัญชีให้ โดยมีการจัดส่งเอกสารทางการบัญชีผ่านไปรษณีย์
เนื่องจากอยู่คนละอำเภอกัน โดยฉันจะเข้าไปตรวจสอบยังพื้นที่ของห้างหุ้นส่วนทุก ๆ 3 เดือน
ส่วนค่าจ้างในการจัดทำบัญชีของฉัน อยู่ที่ห้างหุ้นส่วนละ 350 บาท/เดือน
ถูกใช่มั้ยค่ะ!!! ไม่หรอกค่ะ สำหรับห้างต่าง ๆ เค๊าถือว่าแพง
เพราะในแต่ละเดือนเค๊าผลิตสุรากลั่นกันไม่กี่ร้อยขวด ไหนจะค่าอาการสแตมป์ซึ่งแพงมหาโหด
ไหนจะต้นทุนการผลิตอีกหลาย ๆ อย่าง
ทำให้ห้างต่าง ๆ ทยอยปิดตัวลงภายในปีแรกของการดำเนินการ

ในปี พ.ศ. 2549 ฉันและห้างหุ้นส่วนแห่งหนึ่งที่ยังดำเนินการอยู่ ถูกกรมสรรพากรจังหวัดเรียกตัว
เพื่อให้ดำเนินการยื่นภาษีและผลการดำเนินการซึ่งต้องมีผู้ตรวจสอบบัญชีเซ็นต์รับรองงบ
ตัวฉันเองได้แย้งไปว่า อยู่ในระยะยกเว้นภาษี แค่ยื่นรายการภาษีเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอหรือ??
ซึ่งสรรพากรยืนยันต้องให้มีการตรวจสอบบัญชี และได้แนะนำผู้สอบบัญชีให้รายหนึ่ง
ฉันติดต่อกับผู้สอบบัญชี เพื่อให้เค๊าตรวจสอบบัญชีให้
เราตกลงราคาการสอบบัญชีของห้าง 3 ห้างฯ ของปี 2548  ราคา 7,500 บาท
ทางผู้สอบบัญชีได้รับเงินไป พร้อมทำรายงานการสอบบัญชีในปี 2548 ส่งมาให้ก่อน
ส่วนในปี 2549 ต้องรอฉันซึ่งเป็นผู้จัดทำบัญชี เคลียร์เอกสารต่าง ๆ รวมถึงบิลค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น

จริง ๆ จากที่เล่าปัญหาไม่น่าจะมีใช่มั้ยค่ะ
แต่มันก็เกิดปัญหา เมื่อห้างหุ้นส่วนทั้ง 3 ห้าง นำรายงานการสอบบัญชีของผู้สอบบัญชีในปี 2548
ไปแก้ไขปีพ.ศ. 2549 แล้วแนบกับแบบเสียภาษี ให้กรมสรรพากร
**เพิ่มเติม ในปี 2548 ฉันเป็นคนเขียนและคำนวณแบบภงด. ให้กับห้างและเซ็นต์ลายมือชื่อกำกับ
ในปี พ.ศ.2549 ฉันเป็นคนคำนวณแบบ ภงด.ให้กับห้างเช่นเดียวกัน แต่บอ่กกับทางห้างว่าอย่าเพิ่ง
ยื่นเสียภาษีเนื่องจากยังไม่ได้รายงานการตรวจสอบบัญชี หลังจากนั้นทางห้างได้แจ้งมายังฉันว่า
ทางห้างดำเนินการยกเลิกกิจการ เพราะสู้ค่าใช้จ่ายไม่ไหว และให้ฉันทำบัญชีเลิกห้าง ซึ่งฉันคิดว่า
เรื่องมันน่าจะจบลงแค่นี้

จนในปี พ.ศ. 2557 นี่แหล่ะค่ะ ฉันถึงโดนจับ โดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผิดอะไร
แต่ถูกจับในฐานะของผู้จัดทำบัญชี
ส่วนตัวไม่ได้รับงานทางด้านบัญชีอีกเลย เพราะมาเปิดร้านถ่ายเอกสารและรับแปลงาน
ก่อนหน้าไม่มีการแจ้ง หรือหมายศาลมาให้ แต่โผล่มาคือหมายจับ

ฉันโดนจับโดยชุดจับกุมส่วนกลาง เค๊าพาไปยังสถานที่ ที่เรียกว่า save house
เป็นออฟฟิคเล็ก ๆ ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ระหว่างนั้นฉันยังสามารถใช้โทรศัพท์ได้
ฉันโทรแจ้งที่บ้าน ซึ่งทางบ้านไม่สามารถมาดำเนินการประกันตัวให้ในวันนี้ได้แน่นอน
เพราะฉันไม่ได้อยู่สถานีตำรวจ ตกเย็นฉันถูกส่งตัวไปยังสภอ. ท้องที่เกิดเหตุ
ซึ่งเป็นสภอ.ในหุบเขา นั่งรถกันแทบเวียนหัว ตกลงฉันต้องนอนในคุก 1 คืน
รุ่งเช้าถูกส่งตัวไปยังศาลแขวง ในสภาพของการถูกสวมกุญแจมือ น้ำไม่ได้อาบ
ไปถึงศาล ทางครอบครัวของฉันได้ไปรออยู่ที่นั่นเพื่อรอการประกันตัว

มันน่าทึ่งนะ ..ในฐานะคนธรรมดาที่ต้องเปลี่ยนมาเป็นนักโทษหญิงเพียงชั่วข้ามคืน
ฉันถูกขังรวมกับนักโทษคดีอื่น ๆ ในห้องขังมีม้านั่งยาว 1 ตัว ถังน้ำ 1 ถัง (แก้ว 1 ใบ)
เพดานหลอดไฟมีตะแกรงครอบ มีห้องน้ำอยู่ด้านในสุด อากาศเย็นพอประมาณ
ทางครอบครัวได้ทำเรื่องประกันกัน ทั้ง 3 คดี (3ห้าง) ใช้เงินสดเป็นเงินประกัน 1 แสนบาท
ไม่ผิดค่ะ 1 แสนบาท เงินสด ซึ่งกว่าจะได้มาที่บ้านก็ต้องลำบากมากมายเช่นเดียวกัน
ในคดี "ปลอมแปลงเอกสาร" หลักทรัพย์ที่ใช้ค้ำประกันค่อนข้างต้องใช้มาก

ก่อนออกจากห้องขังมีเจ้าหน้าที่มาอ่านสำนวนและให้เซ็นต์รับทราบข้อกล่าวหา
ซึ่งคดียังไม่ตัดสิน ตอนอยู่ที่สถานีตำรวจฉันสอบถามเจ้าหน้าที่ว่าทำไมถึงไม่มีหมายเรียก
หรือเอกสารใด ๆ ไปหาฉัน ทำไมฉันไม่ทราบมาก่อน ทำไมถึงมาจับ
ท่านเจ้าหน้าที่บอกฉันเพียงว่า "คนทำคดีคนเก่าเสียชีวิต" และคดีให้สารวัตรคนใหม่ทำ
อ่อ!!!! นี่ฉันต้องโดนจับเพียงเพราะเปลี่ยนคนทำคดีเหรอ มันใช่เหรอ

หลังจากนั้น 12 วัน ฉันต้องไปรายงานตัว ครั้งนี้ฉันนำพี่สาวซึ่งเป็นข้าราชการ ซี 5
ไปเปลี่ยนค้ำประกัน เพื่อเอาเงินสดมาคืนให้กับคนที่เรายืมมา เวลารายงานตัว 5 นาที
แต่เวลาในการเปลี่ยนค้ำประกันครึ่งวัน ฉันมารายงานตัวแบบนี้ได้ประมาณ 2 ครั้ง
ในครั้งที่ 3 เมื่อไปรายงานตัว ศาลมีคำสั่งแจ้งว่า "ยกฟ้องในคดีดังกล่าว"
ห๊ะ!!! ยกฟ้อง ..ฉันเดินออกมาจากศาลพร้อมกับพ่อแบบ งง งง
แล้วที่นอนในคุกล่ะ แล้วที่ต้อง่วิ่งเต้นหาเงินประกัน หาคนค้ำประกันล่ะ

คุณคิดว่าจะจบแค่นี้หรือ ??
ยังค่ะ ยังไม่จบ เรื่องนี้มีต่อแน่นอน เพราะเค๊าไม่ฟ้องในคดีนั้น ก็ใช่ว่าเค๊าจะไม่ฟ้อง
เพียงแต่เค๊าเปลี่ยนสำนวนความผิดแค่นั้นเอง

หลังจากนั้นอีกประมาณ 1 เดือน ฉันได้รับการติดต่อจากสำนักงานอัยการ
ให้ไปรับฟังคำตัดสินในคดีใหม่่ค่ะ "ปลอมแปลงเอกสาร" ชื่อมันสั้นลงเน๊าะ
่แต่เนื้อหาภายในมันยาวขึ้น ย่อสั้น ๆ คือ ฉันร่วมกับห้างปลอมแปลงเอกสารของผู้สอบบัญชีค่ะ
ในส่วนของห้างหุ้นส่วน ฉันไม่ทราบนะคะ เพราะห้างได้ยกเลิกการดำเนินการไปแล้ว
ฉันขอพูดในฐานะของผู้จัดทำบัญชีค่ะ

เมื่อฉันไปยังสำนักอัยการ มีเจ้าหน้าที่พาไปยังห้องคุมขังใต้ศาลอีกครั้ง (คุกนั่นแหล่ะค่ะ)
เพื่อรอการขึ้นฟังคำตัดสิน ในครั้งนี้ฉันมากับพ่อ 2 คน เตรียมเงินมาด้วย สำหรับเสียค่าปรับ
ประมาณ 2 หมื่นบาท ฉันไม่คิดจะสู้คดีค่ะ เพราะคิดว่ามันเสียเวลามาก และที่เกิดเหตุ มันไกลมาก
การเดินทางแต่ละครั้งประมาณ 3 ชม. กับการนั่งรถผ่านหุบเขา ฉันหวังจะให้มันจบโดยเร็ว

ฉันขึ้นไปฟังคำตัดสิน จากผู้พิพากษา พร้อมกับนักโทษคดียาเสพติด
พอถึงคดีของฉัน ผู้พิพากษาไม่ตัดสินค่ะ ท่านบอกว่า "ต้องสืบเสาะ"
ฉันต้องทำเรื่องประกันตัวอีกครั้ง งานนี้ซวยค่ะ เพราะเอาเงินมาแค่ 2 หมื่น ไม่ถึงแสนเหมือนเดิม
เรื่องที่น่าแปลกคือเค๊าส่งฟ้องแค่ 2 คดี จาก 3 คดีค่ะ *** อันนี้มีประเด็นต่อเนื่อง
ฉันต้องไปยังสำนักงานคุมประพฤติ เพื่อรายงานตัว และรอการสืบเสาะของทางศาล
ครั้งนี้เค๊าให้ฉันประกันตัวด้วยเงิน 2 หมื่นบาทค่ะ แปลกดี ครั้งก่อนเป็นแสน ครั้งนี้สองหมื่น

ผ่านไป 1 สัปดาห์ ฉันได้รับโทรศัพท์จากสำนักงานคุมประพฤติ
ให้ไปรายงานตัว พร้อมกับนำญาติไปด้วย 1 คน ซึ่งก็คงไม่พ้นพ่อของฉันนี่แหล่ะ
เจ้าหน้าที่สำนักงานคุมประพฤติเรียกพ่อของฉันไปคุยก่อน
จากที่พ่อเล่าเค๊าสอบถามเบื้องต้นถึงสถานะทางครอบครัว และเรื่องทั่ว ๆ ไปของฉัน
เมื่อถึงฉัน เค๊าก็ถามข้อมูลเดียวกันกับที่ถามพ่อนั่นแหล่ะ แต่เค๊าแจ้งฉันว่า
่ยังมีอีก 1 คดีที่สำนวนยังมาไม่ถึง ครั้งนี้เค๊าถามฉันว่าต้องการให้ศาลพิจารณาแบบไหน
ซึ่งฉันตอบไปว่า "แล้วแต่ศาลจะพิจารณา" เรื่องผ่านมาเกือบ 10 ปี ฉันแทบจำอะไรไม่ได้เลย
ให้ฉันไปสู้ ฉันก็ไม่รู้ว่าจะเอาอะไรไปสู้ เอกสารอะไรก็ไม่มี
เมื่อสืบเสาะเสร็จฉันกับพ่อเตรียมตัวจะกลับบ้าน แม่ก็โทรศัพท์มาหาพ่อ
บอกว่ามีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานคุมประพฤติไปที่บ้าน เพื่อตรวจสอบที่บ้านด้วยค่ะ
ค่ะ!!!! ตรวจสอบที่บ้าน แต่สำนักงานที่อีชั้นไปกะพ่อ ยังให้เขียนแผนที่บ้านให้อยู่เลยนะ
เนียนค่ะเนียน สำนักงานคุมประพฤติ หรือสำนักงานคอยจับผิดเนี่ย

วันที่ 7 กรกฏาคม 2558 เวลา 10.00 น. ครั้งนี้ ฉันไปฟังคำตัดสินในคดีของฉัน พร้อมกับที่บ้าน
สรุปแล้ว ฉันโดนปรับคดีละ 12,000 บาท โทษจำคุก 2 ปี แต่เนื่องจากไม่เคยมีความผิดมาก่อน
และศาลเห็นว่าฉันมีความรู้ความสามารถน่าจะนำไปใช้ประโยชน์ต่อสังคมได้ รวมไปถึงการที่ฉัน
ไม่ได้ทำงานเกี่ยวกับด้านการทำบัญชีอีก
เรื่องโทษปรับคดีละ 6,000 บาท โทษจำคุกรอลงอาญา 2 ปี รายงานตัวทุก 3 เดือน
และต้องทำงานบริการด้านสังคม 48 ชม. สรุปคือฉันต้องเสียค่าปรับ 12,000 บาท
และทำงานบริการสังคม 96 ชม. รายงานตัวทุก 3 เดือน ฉันจ่ายค่าปรับโดยใช้เงินประกัน
ซึ่งต้องใช้เวลาค่อนข้างนาน เนื่องจากต้องไปเบิกเงินประกันแล้วมาทำเรื่องจ่ายค่าปรับ
กว่าจะเสร็จสิ้นก็เกือบ 15.00 น. หลังจากนั้นฉันต้องไปยังสำนักงานคุมประพฤติ

การไปยังสำนักงานคุมประพฤติ เพื่อทำเรื่องโอนย้ายสถานที่รายงานตัว ซึ่งคุณสามารถทำได้
โดยอธิบายเหตุผลต่าง ๆ ให้กับทางเจ้าหน้าที่ ต่อจากนั้นฉันได้สมุดพกเล่มเล็ก ๆ สีเหลืองมา 2 เล่ม
สำหรับรายงานตัว และทำงานบริการทางสังคม ซึ่งฉันจะขอเล่าในโอกาสต่อไปนะ

2 คดีแรก จบไปแล้ว แต่อีก 1 คดียังไม่จบ ประมาณปลายเดือนกรกฏาคม
เจ้าหน้าที่สำนักงานอัยการ โทรมาแจ้งให้ไปรับฟังคำตัดสินอีกคดีหนึ่งที่ยังค้าง
ครั้งนี้ฉันเตรียมความพร้อม โดยการให้พี่สาวไปขอใบรับรองตำแหน่ง ในกรณีที่หากไม่ตัดสิน
ฉันจะได้มีคนประกันตัว ฉันเตรียมเงินสดไปอีก 1 หมื่นบาท ได้แต่หวังว่าค่าปรับคงเหมือนกัน
และก็อีกเช่นเคยที่ต้องเข้าคุกใต้ศาล ครั้งนี้ฉันเตรียมอาหารและน้ำดื่มเข้าไปด้วย
เมื่อเจ้าหน้าที่ศาลเอาสำนวนมาให้เซ็นต์ ฉันได้เล่าถึง 2 คดีแรกให้ฟัง ว่ามีการสืบเสาะ
และตัดสินไปแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็รับปากว่าจะนำเรื่องไปเล่าให้ผู้พิพากษาฟัง
ซึ่งผู้พิพากษาซึ่งนั่งบังลังก์วันนี้ไม่ใช่คนเดิม
ฉันไม่ต้องขึ้นไปฟังคำตัดสินค่ะ ในครั้งนี้ มีเจ้าหน้าที่มาอ่านคำตัดสินให้ฟังหน้าห้องขัง
ครั้งนี้ฉันจ่ายเพียงค่าปรับ และโทษจำคุก 6 เดือนรอลงอาญา
ไม่มีรายงานตัว และไม่มีการทำงานบริการทางสังคม
เมื่อฟังคำตัดสินจบ ฉันโทรแจ้งพี่สาวให้ไปเสียค่าปรับ เพื่อเอาใบเสร็จมายื่นพาฉันออกจากห้องขัง
ฉันฟังคำตัดสินตอน 11.24 น. พี่สาวนำเงินไปจ่าย เวลา 11.45 น. ฉันได้รับการปล่อยตัวให้เป็นอิสระ

จบแล้ว 3 คดี ในฐานะผู้จัดทำบัญชีที่ขาดความรอบคอบ
สิ่งที่ควรปฏิบัติเมื่อคุณถูกจับ
1.ตั้งสติ อย่าโวยวาย เพราะยังไง เจ้าหน้าที่ก็ไม่ปล่อยตัวคุณหรอก
2.ติดต่อครอบครัว เรื่องหลักทรัพย์ในการประกันตัว หลักทรัพย์ได้แก่ เงินสด โฉนดที่ดิน สลากออมสิน เป็นต้น หรือใช้ตำแหน่งเจ้าหน้าที่ ซี 3 ขึ้นไปในการประกันตัว

ในวันที่ขึ้นศาล
1.เตรียมของกิน และน้ำดื่มไปด้วย เพราะข้าวแดง ไม่อร่อยอย่างที่คุณคิด
2.เตรียมเงินสำหรับจ่ายค่าปรับ ที่สำคัญคือการศึกษาข้อกฏหมายจากมาตราที่เค๊าฟ้องในสำนวน
ว่าข้อหาดังกล่าวมีค่าปรับสูงสุดเท่าไหร่
3.ในกรณีที่คุณไม่มีเงินจ่ายค่าปรับ คุณสามารถทำงานบริการทางสังคมเพื่อชดใช้ได้
อ่านรายละเอียดได้ตาม //www.thailaws.com/aboutthailaw/general_16.htm

ในฐานะของผู้จัดทำบัญชี
1.คุณอย่ารับงานจัดทำบัญชีกับห้างร้าน ที่มีพื้นที่อยู่ไกลจากคุณ จนไม่สามารถตรวจสอบได้
เพราะคุณไม่มีทางรู้เลยว่า เค๊าจะทำยังไงกับเอกสารต่าง ๆ ทางการบัญชี
2.หลักฐานทางการทำบัญชีทุกอย่าง อย่าลืมทำสำเนาเอาไว้ และเก็บไว้อย่างน้อย 10 ปี
จะได้ไม่เหมือนฉัน ที่นึกอะไรไม่ได้เลย (โง่ นั่นแหล่ะ ยอมรับ)
3. ทำงานด้วยความรอบคอบและรัดกุม จงจำไว้เสมอว่า ในฐานะผู้ทำบัญชี คุณต้องมีส่วนในการ
รับผิดชอบสิ่งต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นจากการกระทำของห้างร้านที่คุณจัดทำ
4. ขอให้ผู้จัดทำบัญชีทุกท่าน โชคดี ไม่เกิดเหตุการณ์แบบฉันค่ะ

ด้วยความขอบพระคุณ

ปล. ส่วนเรื่องงานบริการทางสังคม เอาไว้จะมาเล่าให้ฟังในโอกาสต่อไปนะคะ 









Create Date : 08 สิงหาคม 2558
Last Update : 8 สิงหาคม 2558 14:56:55 น. 1 comments
Counter : 14305 Pageviews.

 
อ่านแล้วอึ้ง..เลยครับ มีเคราะห์ไม่ดีมาก ๆ เลย



โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 8 สิงหาคม 2558 เวลา:18:25:10 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

เบิกบานกลางแสงแดดฝนฟ้าและพายุ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add เบิกบานกลางแสงแดดฝนฟ้าและพายุ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.